Trash of the Count’s family - ตอนที่ 149.1
บทที่ 149 มุ่งร้าย 4 (1)
ฟิ้ววววววว~~~~~~วิ้ววววว~~~~~~
ลมหมุนขนาดพอเหมาะสองลูกกำลังหมุนวนอยู่ในมือคาร์ลอีกครั้ง เขารู้สึกถึงสายตาที่จ้องมาที่เขาจึงหันกลับไปมองก่อนจะพบราอนจ้องเขม็งมาที่ตน
“ข้าบอกเจ้าแล้วไง..ว่าข้าไม่เป็นไร”
แม้ว่าคาร์ลจะบอกราอนไปเช่นนั้นแต่มันก็ยังจ้องเขาด้วยแววตาแหลมคมราวกับประกายไฟจะทะลุออกมาใส่ร่างเขา ราอนเริ่มพูดขึ้น
“ตอนนี้แขนของเจ้าสั่นมากเลยนะ!…อย่าใช้พลังมากเกินไป!..มนุษย์อ่อนแอ..เจ้าต้องรู้จักออกกำลังกายให้ตัวเองแข็งแรงมากกว่านี้แล้ว!”
‘การใช้พลังศักดิ์สิทธิ์โบราณเกี่ยวอะไรกับการออกกำลังกายด้วย?’
คาร์ลนึกสงสัยในกระบวนการคิดของราอนแต่ก็ตัดสินใจที่จะไม่สนใจอีกเมื่อเขาละสายตาไปมองที่เชวฮันแทน
“เจ้าคิดจะทำอะไร?”
เชวฮันและการ์ชานมีปฏิกิริยากับคำถามของคาร์ล ในขณะที่โรสลินก็หันมามองเขาเช่นกัน
นิ้วของคาร์ลเริ่มขยับ เขาชี้ลงไปด้านล่าง
“เจ้าคิดจะลงไปสู้กับพวกเขางั้นรึ?”
หมอผีการ์ชานสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะตระหนักว่าตัวเองจ้องไปที่เกาะฮาอิสด้วยสายตาว่างเปล่า
‘ใช่..ข้าอยากลงไปสู้กับพวกมัน’
เขาเป็นคนรวบรวมเผ่าเสือที่เหลือรอดอยู่และพาพวกเขามาที่นี่ การ์ชานจับไม้เท้าที่ตนถือไว้แน่นขึ้นอย่างเตรียมพร้อม
ตอนนั้นเอง
“ไม่ขอรับ..กระผมจะอยู่ที่นี่เพื่ออารักขาท่านคาร์ล..กระผมไม่รู้ว่าท่านจะรู้สึกเจ็บหรือกระอักเป็นเลือดอีกครั้งเมื่อไร—-”
เชวฮันยังคงร่ายยาวต่อไป ในขณะที่การ์ชานใช้ดวงตาสีขาวจ้องไปยังเชวฮันด้วยความเหลือเชื่อ
‘นายน้อยคาร์ลผู้นี้อ่อนแออย่างนั้นหรือ?’
การ์ชานมองไปที่ลมหมุนซึ่งหมุนวนอยู่ในมือของคาร์ล ใครเป็นคนสร้างวังน้ำวนรอบๆหมู่เกาะฮาอิสขึ้นมาถ้าไม่ใช่นายน้อยคาร์ลผู้นี้ แม้ว่าเขา โรสลินและมังกรจะเป็นคนสร้างพายุแต่วังน้ำวนทั้งหมดก็ถือเป็นสิ่งอันตรายยิ่งนัก การ์ชานไม่เชื่อในสิ่งที่เชวฮันพูดเลยสักนิด
คาร์ลเริ่มเอ่ยขึ้น
“ข้าอาจจะดูเป็นแบบนั้น…แต่ในครั้งนี้ข้าไม่คิดว่าตัวเองจะกระอักเลือดออกมา”
“เชวฮัน..เจ้ามนุษย์พูดถูก!..ราอน มิรุ!..ผู้ยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่อยู่ที่นี่แล้ว!”
“ใช่..ราอน มิรุ..ผู้ยอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่ก็อยู่กับข้าเช่นกัน”
เชวฮันพยักหน้ารับประโยคที่คาร์ลและราอนเอ่ยกับเขา
“อืม..กระผมเข้าใจแล้ว”
การ์ชานยังไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ตนได้ยิน มีมือนุ่มตบมาที่ไหล่เขาเบาๆ มันคือโรสลินนั่นเอง โรสลินเริ่มพูดเมื่อการ์ชานหันมามองเธอแล้ว
“ท่านการ์ชาน..ไปกันเถอะ!”
“..อ่า..อืมม..เข้าใจแล้ว”
การ์ชานรีบตามเชวฮันและโรสลินลงไปที่เกาะทันที เขาได้ยินเสียงของคาร์ลแว่วตามหลังลงมาจากด้านบนก่อนที่พวกเขาจะพากันแยกย้ายไปตามเกาะต่างๆ
“เชวฮัน..เจ้าอย่าคิดทำลายเกาะเป็นอันขาด!..ยั้งมือไว้บ้าง!”
การ์ชานคิดว่าคาร์ลมักพูดแต่เรื่องแปลกๆ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่เชวฮันเงยหน้าตะโกนกลับไป
“ขอรับท่านคาร์ล!..ข้าจะระวัง!”
หมอผีวัยชราเพียงแค่เหาะตามไม้เท้าของตนไป เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาและแยกตัวออกจากโรสลินกับเชวฮันแทนเพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะฮาอิสที่เผ่าเสือปักหลักอยู่ที่นั่น
ฟิ้ววววววว~~~~~~
เสียงหนาวเหน็บดังอยู่ข้างหลังก่อนที่ลมหมุนจะแล่นผ่านร่างเขาไปอย่างรวดเร็ว ลมหมุนขนาดใหญ่ปะทะเข้ากับผืนน้ำในเวลาต่อมา
ปั้ง!!!
มหาสมุทรเริ่มปั่นป่วนจากแรงปะทะของลมหมุน มันเริ่มหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง การ์ชานจับไม้เท้าของตนแน่นขึ้นและรีบเคลื่อนตัวลงสู่เกาะอย่างรวดเร็ว
“โอ้!..ทวยเทพแห่งธรรมชาติ..โปรดทำให้จิตใจของข้าน้อยสงบลงด้วยเถิด”
หมอผีวัยชราเริ่มสวดอธิษฐานสั้นๆเพื่อทำให้ตัวเขาสงบลง
คาร์ลผู้ที่ส่งลมหมุนขนาดใหญ่ลงไปปิดกั้นเส้นทางเดินเรือเมื่อสักครู่เริ่มมองไปรอบๆอย่างผ่อนคลาย ต้องขอบคุณโล่ล่องหนที่ราอนเป็นผู้สร้างขึ้น ทั้งสายฝนและลมไม่สามารถส่งผลกระทบใดๆต่อตัวเขาได้
แม้ว่าเขาจะมองไม่เห็นทุกอย่างเพราะความมืดที่ปกคลุมโดยรอบแต่สายฟ้าที่ส่องแสงเป็นระยะๆของราอนทำให้เขายังพอสังเกตสถานการณ์ได้
“ว้าว!”
คาร์ลอุทานออกมาอย่างชื่นชม
กรีซซซซซซซซซซซซซ!!!!!
ฝูงวาฬขนาดใหญ่คำรามลั่นเมื่อพวกเขากระโดดขึ้นสู่ผิวน้ำ
ปั้งงง!!!!!
เรือขนาดกลางพังลงทันทีหลังโดนวาฬสามตัวบุกโจมตี คาร์ลมองเห็นสิ่งนี้พลางอุทานในใจ
‘น่ากลัวจริงๆ’
วิเทียร์และวาฬอีกจำนวนหนึ่งยังคงบุกเข้าชนเรือในแบบฉบับการโจมตีของวาฬอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่ว่าพวกเขาทำสิ่งนี้ด้วยความสะใจและไม่คำนึงถึงร่างกายของตนเอง
พวกเขาใช้วาฬที่นำมาด้วยเพื่อเขย่าขวัญคนบนเรือและพุ่งชนเรือที่พยายามหลบหนีจากวังน้ำวนเพื่อต้อนให้พวกเขาไปยังหมู่เกาะต่างๆอย่างมีกลยุทธ์
ราอนแบ่งปันความเห็นของมันเมื่อมองสิ่งนี้ ในขณะที่คาร์ลยังคงดูพวกเขาด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
“เจ้ามนุษย์!พวกวาฬเชื่อฟังเจ้าเป็นอย่างดีเลยล่ะ”
“อืม..มันเป็นเช่นนั้น”
แน่นอนว่าการที่เผ่าวาฬทำแบบนั้นคือคำสั่งของคาร์ล
เขาไม่ได้คาดหวังให้พวกวาฬทำได้ดีขนาดนี้
เขาสามารถมองเห็นเรือล่มผ่านสายฟ้าพวกนี้
“ย๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!”
“อ๊ากกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!!”
ผู้คนบนเรือไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้เมื่อร่วงลงทะเล พวกเขาไม่สามารถสงบจิตใจท่ามกลางความมืดมิดนี้ได้เลยสักนิด การเดินทางของพวกเขาราบรื่นมาโดยตลอดจนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน ทุกๆอย่างเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร?
สมาชิกของอาร์มคนหนึ่งดิ้นรนอยู่ในน้ำและพยายามว่ายไปยังแผ่นไม้ที่ลอยอยู่ใกล้ๆ เขาคิดว่าการทำเช่นนั้นจะทำให้เขารอดชีวิตได้
‘อีกนิดเดียวๆ..ใกล้จะถึงแล้ว!’
เขาพยายามดิ้นรนจนปลายนิ้วแตะไปที่แผ่นไม้นั้นได้ เขายื่นมือทั้งสองออกไปพร้อมกับรวบรวมพละกำลังทั้งหมดเพื่อคว้าไม้กระดานแผ่นนี้
ทันใดนั้น!
ตู้ม! ซ่า!!!!!
เสียงบางอย่างเคลื่อนไหวในน้ำ
ซ่า!!!!! ซู่!!!!
สายฝนก็ยังทำหน้าที่ของมันได้เป็นอย่างดีแต่สมาชิกคนนี้กลับไม่สนใจที่จะฟังมัน
ตู้มมมม!
เสียงของบางอย่างที่เคลื่อนไหวใต้น้ำเริ่มปรากฏชัดขึ้น
“ไม่..ไม่นะ!”
มือที่จับไม้กระดานเอาไว้สั่นจนควบคุมไม่อยู่ เขารู้สึกถึงร่างกายที่อยู่ใต้น้ำแข็งค้างขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดสิ่งมีชีวิตที่เคลื่อนไหวในน้ำก็เปิดเผยตัวออกมา
กรีซซซซซซซ!!!!
มันเป็นเสียงร้องของวาฬที่แฝงไปด้วยความเศร้า
วาฬอ้าปากกว้างต่อหน้าสมาชิกจากองค์กรที่ฆ่าเด็กเล็กของพวกมัน
“อ๊ะ…อ่า…ฮึกกก”
เขาไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เมื่อสั่นไปทั้งตัวและต้องเผชิญหน้ากับความโกรธเกรี้ยวของวาฬ
กรีซซซซซซซซซซ!!
วาฬจำนวนมากที่มาพร้อมกับสมาชิกเผ่าวาฬรีบเคลื่อนตัวไปยังเรือที่อับปางลง มันคือนรกสำหรับคนที่ร่วงลงสู่ทะเล
อย่างไรก็ตามนรกไม่ได้อยู่ในมหาสมุทรเพียงเท่านั้น ยังมีกลุ่มคนจำนวนมากที่โกรธแค้นยิ่งกว่าเผ่าวาฬซึ่งอยู่รอบๆเกาะฮาอิส
“เ..เรื่องบ้าอะไรกัน?..ทำไมเผ่าเสือถึงมาอยู่ที่นี่..อ๊ากกกก!”
หนึ่งในสมาชิกของกองพลทะลวงฟันไม่สามารถที่จะพูดจนจบประโยคได้ เกาะแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยก้อนหิน ต้นไม้และพงหญ้าสูง ค่ำคืนอันมืดมิดและภูมิประเทศที่ขรุขระที่สูดในหมู่เกาะฮาอิสไม่ได้เป็นอุปสรรคแก่เผ่าเสือแต่อย่างใด พวกเขาสามารถกระโดดโลดเต้นกันได้ทั้งคืน
ลูกน้องของหนึ่งในสมาชิกจากกองพลทะลวงฟันรีบขยับออกห่างจากหัวหน้าทีมของตนอย่างรวดเร็ว
“กรรจ์!!!!!!!!!”
เสียงคำรามคล้ายกับเสียงหัวเราะดังก้องไปทั่วบริเวณเมื่อพวกเสือฉีกทึ้งร่างของหัวหน้าทีมอย่างเคียดแค้น
ตึก!ตึก!ตึก!
เท้าของเผ่าเสือทั้งสามตัวแตะลงไปบนโคลนหลังจากที่พวกมันฉีกทึ้งร่างของหัวหน้าทีมเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเรียบร้อยแล้ว สายตาของเผ่าเสือที่สูญเสียครอบครัวและสมาชิกเผ่าจ้องเขม็งไปที่กลุ่มลูกน้องทันที ลูกน้องทั้งหมดต่างตกอยู่ในอาการหวาดกลัวเมื่อสูญเสียหัวหน้าทีมไป
ชิ้งงงง!!
เสียงแปลกๆดังมาจากสมาชิกของเผ่าเสือ เสือตัวหนึ่งก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
ว๊าบบบบบบบบบ!!!!
ควันปรากฏขึ้นก่อนที่ร่างเสือจะกลายเป็นร่างมนุษย์ นักรบของเผ่าเสือรูปร่างสูงใหญ่อ้าแขนออกกว้างและเอ่ยขึ้น
“ฮึฮึฮึฮึฮึ!!!..พวกเจ้าต้องการเล่นซ่อนแอบกับเราหรือไม่”
กองพลทะลวงฟันแบ่งออกเป็นห้าทีมเพื่อแยกย้ายนำลูกน้องในสังกัดของตนไปจัดการกับเผ่าเสือที่อาศัยอยู่ในภูเขาแต่ละลูก เผ่าเสือจึงอาศัยหลักการนี้มาคำนวณคู่ต่อสู้ ในเมื่อเรือพวกนี้เป็นของกองพลทะลวงฟันมันก็ต้องแบ่งออกเป็นประมาณห้าทีม จึงจะมีสมาชิกจากเผ่าเสือประมาณ3-4คนที่ต้องต่อสู้กับพวกมันต่อหนึ่งทีม
เลือดไหลออกจากปากของเสือที่ฉีกร่างของหัวหน้าทีม เขาเริ่มตะโกนใส่สมาชิกของอาร์มด้วยความโกรธแค้น
“ข้าจะถลกหนังของพวกเจ้าออกมาให้หมด!”
“เฮ้ยยยย!!!”
ลูกน้องที่เหลืออยู่ของอาร์มรีบวิ่งหนีตายไปหาสมาชิกกลุ่มอื่นทันที นักรบเผ่าเสือจ้องร่างที่กำลังวิ่งหนีตายไปอย่างสงบ เขาเริ่มพูดขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปครู่ใหญ่
“ราตรีแห่งการล่า..ช่างอีกยาวไกล”
ฟึ่บบบ!!
เผ่าเสือตรวจสอบอุปกรณ์เวทย์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อในขณะที่ยืดกล้ามเนื้อต้นคอไปด้วย เสือทุกตัวจะมีอุปกรณ์รบกวนพลังเวทย์เพื่อป้องกันไม่ให้อาร์มส่งข้อความว่าเผ่าวาฬและเผ่าเสือร่วมมือกัน อาณาจักรโรมันและอาณาจักรเบร็คเป็นผู้จัดหาสิ่งนี้ให้กับพวกเขา
เสือทั้งสามตัวค่อยๆหายไปในความมืด แต่ละก้าวที่พวกเขาก้าวเดินเต็มไปด้วยความผ่อนคลายอันเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวในการออกล่าของเผ่าเสือ พวกเขาไม่ได้อำพรางกายแต่อย่างใดและพากันหัวเราะออกมาดังลั่นเมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนของอาร์ม
ในทางกลับกันมีบางคนกำลังเคลื่อนไหวอย่างเงียบๆบนเกาะอื่น
นี่คือเกาะที่มีภูมิประเทศอันหลากหลายที่สุดในหมู่เกาะฮาอิส
มีทั้งหน้าผา ป่า เนินทรายและหนองน้ำ เกาะที่มีภูมิประเทศทั้งหมดนี้กำลังอำพรางการต่อสู้ที่เกิดขึ้นแบบลับๆได้เป็นอย่างดี
“อึ่ก!”