Trash of the Count’s family - ตอนที่ 148.2
บทที่ 148 มุ่งร้าย 3 (2)
เขาทันสังเกตเห็นวาฬหนึ่งตัวในกลุ่มวาฬทั้งหมด มันเป็นวาฬหลังค่อมขนาดใหญ่ วาฬตัวนี้มีรอยแผลเป็นรูปตัวXอยู่บนหลังของมัน
“…เผ่าวาฬ!”
ไม่ใช่แค่วาฬธรรมดาๆแต่เป็นสมาชิกของเผ่าวาฬ โอปิทตาเบิกกว้างอย่างตกใจ
เขาได้รับรายงานมาว่าเผ่าวาฬได้เดินทางขึ้นเหนือแล้ว ซึ่งราชาชิกเลอร์เองก็ได้ถูกระบุเอาไว้ว่าจะไม่เคลื่อนย้ายออกไปนอกอาณาเขตของเขา
กองพลทะลวงฟันจึงตัดสินใจเคลื่อนทัพในตอนนี้เมื่อได้รับรายงานจากพันธมิตรทางตอนเหนือ แล้วทำไมว่าที่ราชินีแห่งเผ่าวาฬจึงมาปรากตัวอยู่ที่นี่?
“ท่านหัวหน้า!…นั่นเผ่าวาฬ!..ทำไมพวกเขาถึงอยู่ที่นี่?”
เกรย์เทลเริ่มขมวดคิ้วและเอ่ยถามโอปิทออกไป โอปิทไม่ได้ตอบอะไรเพียงแต่หันไปสั่งการลูกน้องคนสนิทแทน
“เราจะมุ่งหน้าไปยังเกาะฮาอิสที่ใกล้ที่สุด”
การเผชิญหน้ากับเผ่าวาฬในน้ำจะส่งผลให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก ไม่!พวกเขาจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้ พวกเขาจะไม่ยอมตายจนกว่าจะทำภารกิจใหญ่ได้สำเร็จ
“ยกธงดำขึ้นได้!”
หลังจากสั่งให้ยกธงดำซึ่งเป็นสัญญาณว่ามีเหตุฉุกเฉินเสร็จแล้ว โอปิทก็หันไปสั่งเกรย์เทลทันที
“เกรย์เทลไปพาสมาชิกทุกคนมาที่นี่…เดี๋ยวนี้เลย”
“ได้”
โอปิทมองตามร่างของทุกคนที่พากันเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วพลางกัดริมฝีปากของตนแน่นขึ้น
ซ่า!!!!
ตู้มมมมมมม!
วาฬเริ่มเคลื่อนตัวเข้าหาพวกเขาเร็วขึ้นเรื่อยๆ
“ฮึก!”
สีหน้าของโอปิทเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด
“ยกธง!”
ธงดำค่อยๆเคลื่อนตัวไปบนเสากระโดง หลังจากเห็นสิ่งที่ลูกน้องของตนทำ เขาก็หันมาจับดาบที่อยู่ตรงเอวของตนไว้แน่น โอปิทเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ระดับสูงสุดและยังเป็นนักเวทย์ระดับกลางอีกด้วย เขากำลังเร่งฝีเท้าเพื่อไปใส่ชุดเกราะของตน
ทันใดนั้นเอง!
“ห๊ะ!?”
เสียงดังมากจากด้านหน้าของเรือทำให้เขาหันไปมอง
“เมื่อกี้มันคืออะไร?”
ทันใดนั้นก็มีพายุหมุนขนาดใหญ่ลอยขึ้นจากผืนน้ำ มันเกิดขึ้นไม่ห่างจากเรือเขามากนัก
“ท่านผู้นำ!..จู่ๆก็มีพายุหมุนลอยขึ้นจากมหาสมุทร!”
โอปิทร่ายเวทย์ลอยตัวขึ้นกลางอากาศเพื่อสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่ลูกน้องจะรายงานเสร็จด้วยซ้ำ
“ให้ตายเถอะ!..นี่มัน—-”
ถึงแม้ลมหมุนขนาดใหญ่ที่พุ่งตัวขึ้นสู่อากาศจะมีเพียงลูกเดียวเท่านั้นแต่ในน้ำกลับมีวังน้ำวนขนาดเล็กและใหญ่เป็นจำนวนมาก
ซ่า!!!!!!! ซู่!!!!
ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้น
โอปิทเงยหน้ามองท้องฟ้า
มันมืด
ไม่มีหมู่ดาวบนท้องฟ้า มันมืดสนิทโดยปราศจากแสงสว่างใดๆ
กรีซซซซซซซ!!!!
สิ่งเดียวที่เขาได้ยินคือเสียงคำรามของวาฬ โอปิทหันไปสั่งกัปตันเรือทันที
“มุ่งหน้าไปที่เกาะฮาอิสเดี๋ยวนี้!…ไปถึงที่นั่นให้ไวที่สุด”
หนึ่งในกัปตันเรือตะโกนค้านโอปิททันที
“แต่กระแสน้ำวนนั่น!”
“หลบพวกมันให้ได้!..เผ่าวาฬกำลังมุ่งหน้ามาหาเรา!..ถ้าเจ้าไม่อยากตายก็รีบไปถึงเกาะให้เร็วที่สุด”
พวกเขาสามารถต่อสู้ได้ถนัดหากเดินทางไปถึงเกาะ การประจันหน้ากับวาฬในมหาสมุทรในช่วงที่เกิดพายุเช่นนี้ก็ไม่ต่างกับเห็นประตูความตายรออยู่ตรงหน้า
“ท่านหัวหน้า..ข้าพาสมาชิกทั้งหมดของเรามาแล้ว!”
“ท่านโอปิท..เราไม่สามารถทอดสมอเรือทั้งหมดบนเกาะเพียงเกาะเดียวได้!”
โอปิทตรวจสอบความเร็วของวาฬที่กำลังมุ่งหน้ามาจากระยะไกลๆและเริ่มออกคำสั่งอย่างรวดเร็ว
“แยกย้ายกันไปและไปหยุดรอที่เกาะใดก็ได้ที่พวกเจ้าพบ!..เกรย์เทลแบ่งสมาชิกของเราไปกับเรือลำอื่นด้วย!”
สมาชิกในสังกัดกองพลทะลวงฟันของอาร์มจะมีกลุ่มผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นของตัวเอง
ปั้ง!!!
เขามองเห็นเรือลำหนึ่งที่อยู่ด้านหลังจมเข้าไปในวังน้ำวน
อ๊ากกกกกก!!!
เสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือดังระงมไปทั่ว
“เราควรไปช่วยพวกเขาหรือไม่?”
เสียงอื่นลอยเข้ามาเมื่อลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยถามเขา
กรีซซซซซซซ!!
มันเป็นเสียงวาฬ
“ไม่!..เราจะเดินหน้าต่อไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม..เราจะอยู่รอดได้จนถึงวันพรุ่งนี้ถ้าเราไปถึงเกาะแม้ว่าเราจะต้องสูญเสียเรือลำอื่นไปบ้างก็ตาม..ติดต่อส่วนกลางทันทีถ้าเราไปถึงเกาะแล้ว!”
ตู้ม! โครม!!
โอปิทจับเรือเอาไว้มั่นเมื่อเรือโคลงไปข้างหนึ่ง ในขณะที่นักฆ่าระดับสูงและเกรย์เทลรีบเคลื่อนไหวตามคำสั่งของโอปิทอย่างรวดเร็ว
“บ้าชะมัด!”
ทำไมทุกอย่างจึงเกิดขึ้นกะทันหันแบบนี้? โอปิทเพิ่มน้ำหนักมือที่จับราวเอาไว้แน่นขึ้นไปอีกเมื่อเห็นเงาของเกาะจากระยะไกล
เขาไม่มีเวลาคิดว่าเกาะที่เขาเห็นนั้นเป็นเกาะฮาอิสที่เท่าไหร่? เขาต้องไปถึงเกาะให้ได้!
“…มีวังน้ำวนอยู่ข้างหน้า!”
โอปิทสบถออกมาอย่างหัวเสีย มีวังน้ำวนหลากหลายขนาดอยู่ระหว่างเกาะต่างๆมันยากจะมองเห็นวังน้ำวนเหล่านี้ได้จากระยะไกลๆเพราะฝนที่ตกลงมาบดบังวิสัยทัศน์จนหมด
“ดูเหมือนเราต้องแยกกันตรงนี้แล้ว!”
“ทำสิ่งที่สมควรทำเพื่อให้เราสามารถไปถึงเกาะได้อย่างปลอดภัย”
วังน้ำวนขวางทางเอาไว้ทำให้เรือหลายลำไม่สามารถข้ามผ่านไปได้ในครั้งเดียว เรือหลายสิบลำถูกกระจายออกไปเพื่อมุ่งหน้าไปยังเกาะฮาอิสต่างๆ
ปั้ง!!!
โครม!!!
โอปิทหันกลับไปมองทันที จู่ๆเรือขนาดกลางลำหนึ่งก็โค่นลง เขาหันไปมองข้างๆเรือก็เจอวาฬหลังค่อมคำรามอยู่ใกล้ๆเรือลำนั้น
“เร็วเข้า!”
“เ…เราใกล้ถึงแล้ว!”
กัปตันเรือรู้สึกถึงปลายดาบคมที่จี้มาที่หลังของเขาจึงตะโกนตอบออกไป พวกเขาพยายามเลี่ยงวังน้ำวนขนาดใหญ่และแทบมองไม่เห็นสิ่งใดๆอยู่บนเกาะตรงหน้าพวกเขาแม้แต่น้อย
โอปิทสั่งให้จอดเทียบท่าทันทีที่ถึงเกาะ
“ทุกคน!..รีบออกไปได้แล้ว!”
ลูกน้องของโอปิทรีบกรูลงจากเรือทันที โอปิทหันไปดูเรือลำอื่นๆที่พยายามเลี่ยงวังน้ำวนและมุ่งหน้าไปยังเกาะที่อยู่ใกล้ๆก่อนจะหันกลับมามองเกาะที่อยู่ตรงหน้า
มันเป็นเกาะที่มีพื้นที่หาดเป็นดินทราย ด้านหลังเนินทรายพวกนี้มีป่าเล็กๆตั้งอยู่ เขามุ่งหน้าไปยังป่าที่เห็นทันที
นี่คือเกาะที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างทวีปตะวันออกและตะวันตก ไม่มีใครอาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ แม้ว่าจิตใจของเขาจะว้าวุ่นหลังจากได้เห็นเผ่าวาฬแต่เขายังต้องตรวจสอบพื้นที่ป่าและหาที่ตั้งฐานทัพชั่วคราวโดยเร็วที่สุด
‘มันจะเป็นเรื่องยากของพวกวาฬเช่นกันที่จะผ่านวังน้ำวนพวกนั้นมาได้’
โอปิทเร่งฝีเท้าเร็วขึ้นด้วยใจที่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย ในขณะที่เขากำลังจะถึงเขตป่านั้นก็มีเสียงบางอย่างแทรกเข้ามา
ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!
โอปิทหยุดเดินทันที
ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!ตึก!
มันเป็นเสียงฝีเท้าของใครบางคนที่มุ่งหน้าออกมาจากป่า
โอปิทจ้องเขม็งไปที่จุดนั้นทันที
ตอนนั้นเองที่แสงสีทองตัดผ่านออกมา
ชิ้งงงง!!
แสงสีทองตัดผ่านต้นไม้ตนหนึ่งจนโค่นลง
เขาเห็นคนผู้หนึ่งอยู่ตรงกลางแสงสีทองนั่น มันเป็นผู้หญิงที่มีรอยแผลเป็นคล้ายใยแมงมุมบนใบหน้าของเธอ ผู้หญิงคนนี้หัวเราะดังลั่นในขณะที่ส่องแสงสีทองออกมามากขึ้นเรื่อยๆ
“…นักดาบฮันนาห์”
โอปิทกลืนน้ำลายเข้าอึกใหญ่
ในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆที่ตัดสินใจเทียบท่าเข้าไปในอีกเกาะก็เริ่มได้ยินเสียงแปลกๆ
กรรจ์!!!
พวกเขาได้ยินเสียงคำรามของสัตว์และสามารถมองเห็นกลุ่มคนที่มีรูม่านตาเป็นแนวดิ่งซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสัตว์ตระกูลแมวปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ทางฝั่งของรอนที่ดูแลเกาะฮาอิสที่13อยู่ก็เริ่มพูดกับแมรี่
“แมรี่..ข้าจะจัดการนักฆ่าพวกนี้เอง..เจ้าไปพักผ่อนเถิด”
“เจ้าค่ะท่านปู่”
ร่างของรอนค่อยๆหายตัวไปในความมืดเมื่อมองเห็นกลุ่มของเกรย์เทลโผล่เข้ามาในเกาะ
คาร์ลยกมือขึ้นกอดอกและมองลงมาด้านล่างก่อนจะเริ่มพูดออกมาเบาๆ
“อ่า..ช่างน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ”
วิวที่อยู่ด้านล่างเมื่อมองจากด้านบนลงไปค่อนข้างเป็นที่น่าพอใจ
คืนนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นเท่านั้น