Trash of the Count’s family - ตอนที่ 147.2
บทที่ 147 มุ่งร้าย 2 (2)
ตอนนี้คาร์ลกำลังเหาะอยู่กลางอากาศ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมองเห็นได้เพราะใช้เวทย์ล่องหนอำพรางกายไว้ดังนั้นเขาจึงเอ่ยถามออกไปโดยไม่คิดกังวล
“นั่นคือพวกมันใช่มั้ย?”
“ใช่แล้ว..นายน้อยคาร์ล”
คาร์ลจ้องไปยังจุดนั้นเมื่อได้รับคำตอบจากวิเทียร์
พวกเขากำลังลอยตัวอยู่เหนืออากาศซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางของมหาสมุทรพอดี มีเรือลำใหญ่และลำเล็กกำลังแล่นผ่านผืนน้ำหลายสิบลำ แม้แต่เรือลำเล็กหากเทียบกับเรือขนาดใหญ่ในตอนนี้ก็ยังมีขนาดเท่าเรือขนาดกลางทั่วๆไป
คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วพลางเอ่ยขึ้น
“มากกว่าที่ข้าคาดเอาไว้”
มีหลายคนที่ตอบสนองคำพูดของคาร์ล
คาร์ลกำลังเหาะอยู่กลางอากาศและอำพรางด้วยเวทย์ล่องหนของราอน ในขณะที่วิเทียร์ก็ทำเช่นเดียวกับคาร์ลเพียงแต่ใช้พลังเวทย์ของโรสลินซึ่งติดตามมาด้วยกัน ส่วนคนสุดท้ายคือหมอผีการ์ชาน
คาร์ลหันไปมองด้านข้างของตน อีกาที่กำลังกระพือปีกบินอยู่ข้างๆตอนนี้เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ไม่ได้ใช้เวทย์ล่องหน การ์ชานยังคงพักอยู่ที่เกาะฮาอิสที่ 9 แต่ได้เสกอีกาเวทย์ตัวนี้มากับพวกเขาแทน
พวกเขาได้ยินเสียงของการ์ชานลอดผ่านอีกาตัวนี้ออกมา
“ถึงแม้จะมีเรือจำนวนหลายลำแต่ดูเหมือนสมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกมันจะอยู่ภายในเรือห้าลำที่ลอยอยู่ตรงกลาง..นี่คือสิ่งที่เราสงสัยว่ากองพลทะลวงฟันของอาร์มอยู่ที่เรือลำใดกันแน่?.ในเมื่อพวกมันมีสมาชิกเพียง20คนเท่านั้น”
‘20คน’ คือจำนวนสมาชิกของกองพลทะลวงฟัน มันไม่ได้มีสมาชิกมากเท่ากับกองพลอื่นๆ
วิเทียร์เริ่มพูด
“สิ่งมีชีวิตในมหาสมุทรจะเฝ้าสังเกตการเคลื่อนไหวของพวกมันต่อไป..พวกมันน่าจะมาถึงเกาะฮาอิสในอีก5วันข้างหน้า”
คาร์ลยังจำสิ่งที่รอนเคยบอกไว้ได้
‘นายน้อยคาร์ล..กระผมเคยสู้กับพวกอาร์มเมื่อครั้งที่อยู่ทวีปตะวันออก..แม้ว่าพวกมันจะเป็นสมาชิกของพวกโลกมืด..แต่พวกมันก็เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้และการปะทะกันซึ่งหน้ามากกว่าการลักพาตัวหรือลอบสังหารเสียอีก’
‘ยังมีคนที่มีความสามารถพิเศษต่างๆในองค์กรของพวกมันอีกด้วย’
‘แม้แต่ลูกน้องของพวกนักรบซึ่งเป็นสมาชิกของกองพลทะลวงฟันก็ยังแข็งแกร่งกว่าทหารอารักขาของนายน้อยเสียอีก’
คาร์ลมองลงไปยังกลุ่มเรือที่กำลังลอยอยู่เหนือมหาสมุทรและเริ่มแสดงความเห็นของตน
“ดูท่าแล้ว..พวกเขาคงจะแข็งแกร่งกันน่าดู”
ศัตรูแข็งแกร่งกว่าที่เขาคาดไว้
“อืม…”
คาร์ลยกมือขึ้นกอดอกพร้อมเริ่มคิดอย่างเคร่งเครียด
พวกเขามีสมาชิกจากเผ่าวาฬประมาณ10คน สมาชิกจากเผ่าเสือประมาณ20คนและก็สมาชิกในกลุ่มของคาร์ลอีกไม่กี่คน
การ์ชานเริ่มพูด
“เรื่องแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าเผ่าเสือของเราทั้งหมดยังมีชีวิตรอด…น่าเจ็บใจยิ่งนัก!”
คาร์ลได้ยินมาว่าเผ่าเสือกำลังตกอยู่ในวิกฤติที่สุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์
‘สมาชิกของเผ่าเสือไม่ได้อาศัยอยู่ด้วยกัน’
เผ่าเสือไม่ได้อาศัยอยู่ร่วมกันเป็นหมู่บ้านเหมือนกับชนเผ่าอื่นๆ ทวีปตะวันออกมีภูเขาอยู่จำนวนมาก เผ่าเสือได้กระจายตัวออกไปทั่วทั้งทวีปโดยมีเพียงหนึ่งครอบครัวเท่านั้นที่อาศัยอยู่แต่ละภูเขา
อาร์มทยอยหาสมาชิกจากเผ่าเสือทีละครอบครัวและจัดการฆ่าพวกเขาทั้งหมด อาร์มเกณฑ์คนจำนวนหลายร้อยคนและแบ่งออกเป็นห้าทีมเพื่อโจมตีเผ่าเสือแต่ละครอบครัว
การ์ชานเป็นคนอธิบายเรื่องนี้ให้เขาฟังรวมถึงสาเหตุที่เผ่าเสือมารวมตัวกันที่นี่
‘มีอยู่วันหนึ่งข้าได้ยินเสียงจากพลังธรรมชาติ..มันบอกให้ข้าเรียกรวมตัวสมาชิกทั้งหมด..ข้าจึงรีบส่งสารที่ได้รับไปให้แต่ละครอบครัวเมื่อพวกเขามาถึงจึงค่อยอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้พวกเขาฟังแต่ก็อย่างที่ท่านเห็นว่าเราเหลือสมาชิกเพียงไม่กี่คนเท่านั้น’
เผ่าเสือดำเนินชีวิตอย่างสันโดษบนภูเขาสูงและไม่ทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆของทวีปมากนัก พวกเขาอยู่ไกลกันจนแทบไม่รู้สถานการณ์ของชนเผ่าเดียวกัน นั่นคือสาเหตุที่ทำให้สมาชิกเผ่าเสือซึ่งมีสมาชิกเกือบ200ร้อยชีวิตเหลือเพียง20ชีวิตเท่านั้น พวกเขาทั้ง20ชีวิตมารวมตัวกันโดยการนำของการ์ชานและมุ่งหน้ามาที่เกาะฮาอิสทันที
จาก20ชีวิตของเผ่าเสือจะมีเพียง15ชีวิตเท่านั้นที่จะร่วมทำศึกกับพวกคาร์ล
“อืมมม..”
คาร์ลซึ่งคิดอะไรมากมายอยู่ในหัวได้ยินเสียงของวิเทียร์ถามขึ้น
“นายน้อยคาร์ล..จากจำนวนสมาชิกของฝ่ายเราดูเหมือนมันจะเสี่ยงต่อการบาดเจ็บยิ่งนัก”
ความคิดที่ว่าพวกเขาจะเสียชีวิตลงไมได้อยู่ในหัวของวิเทียร์เลยสักนิด
แม้ว่าพวกเขาจะมีจำนวนน้อยกว่าอีกฝ่ายแต่พวกเขาก็ยังเป็นสมาชิกจากเผ่าวาฬและเผ่าเสือไม่มีทางที่พวกเขาจะพ่ายแพ้หรือล้มตายได้ อย่างไรก็ตามเธอยังคงกังวลเรื่องการได้รับบาดเจ็บเนื่องจากศัตรูมีจำนวนหลายร้อยคน
วิเทียร์พูดขึ้นอีกครั้งพร้อมความกังวลเต็มใบหน้า
“บางที..เราอาจได้ขอความช่วยเหลือจากอาณาจักรอื่นๆ”
สมาชิกจากเผ่าวาฬทั้งหมดไม่ได้อยู่ที่นี่เช่นกัน ราชาชิกเลอร์และวาฬอีกจำนวนหนึ่งกำลังจับตาดูพันธมิตรทางตอนเหนือเพื่อเตรียมรับมือกับสงครามที่จะเกิดขึ้น
วิเทียร์ยังคงพึมพำต่อไป
“เราไม่ควรเสี่ยงมากเกินไป..มันมีโอกาสสูงที่ฝ่ายเราจะได้รับบาดเจ็บ”
คาร์ลเป็นฝ่ายพูดขึ้นบ้าง
“เจ้าไม่คิดว่าพวกเขาจะกลัวภัยธรรมชาติมากที่สุดหรอกรึ?”
“…อะไรนะ?”
คาร์ลก้มลงมองผืนมหาสมุทรและเรือที่กำลังแหวกว่ายก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบเย็น
“เจ้าว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น?…หากพวกเขากำลังจะข้ามเขตเข้ามาแต่มีวังน้ำวนเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน”
ฟิ้ววววว!!!
ลมหมุนขนาดเท่าฝ่ามือปรากฏตัวขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย แน่นอนว่ามันเกิดจากการเรียกใช้งานเสียงเรียกของวายุโดยฝีมือคาร์ล
เขาพูดต่อด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“พวกมันจะพยายามหลีกเลี่ยงวังน้ำวนจนสุดความสามารถ..และตอนนั้นพวกมันจะเหลือบไปเห็นหมู่เกาะต่างๆ…แน่นอนว่าเกาะฮาอิสทั้ง15เกาะซึ่งตั้งเรียงรายเป็นแถวอยู่นี้จะไม่รอดไปจากสายตาของพวกมัน..ถ้าเป็นเช่นนั้นพวกมันจะไม่มุ่งตรงไปยังเกาะหรอกหรือ?”
คาร์ลกำลังจินตนาการสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอีก5วันข้างหน้าเมื่อเขายังพูดต่อไป
“เรือบางลำที่มีกัปตันไร้ทักษะในการบังคับเรือให้หลีกเลี่ยงจากวังน้ำวนก็จะอับปางลง..เหล่าผู้คนบนเรือก็จะตกลงไปในมหาสมุทร…แน่นอนว่าการต่อสู้ในน้ำคงไม่สามารถทำได้ถนัดนัก”
วิเทียร์ก้มลงมองเรือตามสายตาคาร์ล ในขณะที่หูก็ยังได้ยินคาร์ลพูดต่อไป
“อ่า…และถ้าเราใส่วังน้ำวนไว้รอบๆเกาะฮาอิสทั้ง15เกาะ..เรือทุกลำก็จะรวมตัวกันเพื่อเลือกเกาะใดเกาะหนึ่งซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงเส้นทางที่เต็มไปด้วยวังน้ำวนได้”
โรสลิน วิเทียร์และการ์ซานไม่ได้พูดอะไรออกมาเมื่อฟังสิ่งที่คาร์ลพูดออกมา
“เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”
ปากของวิเทียร์เริ่มขยับเล็กน้อย
เผ่าเสือและกลุ่มของคาร์ลจะรออยู่ที่เกาะซึ่งเรือเหล่านั้นจะตัดสินใจไปรวมตัวกันที่นั่น เผ่าวาฬจะรับหน้าที่โจมตีศัตรูจากเรืองที่อับปางลง
วิเทียร์มองลมหมุนขนาดเล็กซึ่งลอยวนอยู่กลางอากาศ แน่นอนว่าเรือที่อยู่ด้านล่างไม่สามารถมองเห็นมันได้
เธออ้าปากจะพูดในสิ่งที่คิดออกมาแต่มีคนที่เร็วกว่าเธอ
“มนุษย์..มาลองดูกันเถอะ!”
มันเป็นเสียงของราอน
คาร์ลรู้สึกถึงลมซึ่งพัดผ่านใบหน้าของเขาไปจากการกระพือปีกบินของราอน
“ตอนนี้ข้าแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม!.หลังจากได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจากอูฮาเบ็น!..มาคว่ำเรือพวกนั้นกันเถอะ!”
คาร์ลเริ่มคิดในใจ
‘มังกรช่างน่ากลัวจริงๆ’
ราอนสามารถพูดเรื่องน่ากลัวแบบนี้ด้วยสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขได้อย่างไร?
คาร์ลมองไปที่เรืออีกครั้ง
“หลังจากนี้พวกเราก็ไปวางแผนต้อนรับพวกมันกันเถอะ..อีกเพียงห้าวันพวกมันก็เดินทางมาถึงเขตเราแล้ว”
หากเทียบกับมหาสมุทรที่กว้างใหญ่แล้ว หมู่เกาะฮาอิสทั้ง15เกาะก็ถือว่าอยู่ใกล้กันพอสมควร
อาร์มจะได้สัมผัสกับนรกเมื่อพวกเขาเดินทางมาถึงเกาะเหล่านี้
นรกขุมต่างๆกำลังรอต้อนรับพวกเขาอยู่
แม้ว่าพวกเขาสามารถหนีตายออกจากเกาะและมุ่งหน้าไปยังมหาสมุทรได้ พวกเขาก็จะต้องเผชิญหน้ากับเผ่าวาฬและนั่นก็เป็นนรกอีกขุมหนึ่งเช่นกัน
คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วเมื่อจินตนาการภาพนั้นในหัว
‘อ่า…น่ากลัว’
มันไม่มีทางเป็นภาพที่สวยงามได้เลย
ตอนนั้นเองที่เสียงของการ์ชานดังขึ้น
“อีกแค่ห้าวันเท่านั้น!..เราจะได้แก้แค้นกันสักที!”
อีกแค่ห้าวันสำหรับเผ่าวาฬ เผ่าเสือและนักดาบหญิงฮันนาห์จะเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต พวกเขาจะได้แก้แค้นพวกอาร์มและจะได้แสดงให้พวกมันประจักษ์ถึงความหมายที่แท้จริงของนรกสักที
“กลับกันเถอะ!”
คาร์ลละสายตาออกจากเรือและมุ่งหน้ากลับไปยังเกาะฮาอิสที่ 9 อย่างรวดเร็ว
‘แค่คิดก็เหนื่อยแล้วสิ’
เขาต้องการแรงสนับสนุนอย่างเต็มกำลังจาก‘พละกำลังแห่งดวงใจ’เพื่อให้สมารถใช้พลังศักดิ์สิทธิ์โบราณชนิดอื่นๆได้อย่างเต็มที่
‘ถ้าเรื่องนี้จัดการเรียบร้อยแล้ว..ฉันจะพักผ่อนให้เต็มที่ให้มันลากยาวไปถึงฤดูใบไมไม้ผลิเลย!’
นั่นคือแผนที่คาร์ลคิดเอาไว้