Trash of the Count’s family - ตอนที่ 147.1
บทที่ 147 มุ่งร้าย 2 (1)
วิเทียร์และสมาชิกในกลุ่มของคาร์ลต่างตกตะลึงไปตามๆกันหลังจากเห็นการตอบสนองของคาร์ล วิเทียร์รีบเดินมาหาคาร์ลทั้งๆที่ตกใจอยู่
“นายน้อยคาร์ล..ท่านจะคว่ำเรือพวกมันจริงๆรึ?”
โรสลินดูเหมือนจะถกเถียงกับตนเองเกี่ยวกับแผนการของคาร์ลในขณะที่เชวฮันยังคงยืนนิ่งอ้าปากค้างด้วยความตกใจ
“นายน้อยคาร์ล..ท่านจะทำแบบนั้นจริงๆหรือ?”
นอกเหนือจากราอนที่ยกยิ้มอย่างสดใส ทุกคนดูเหมือนจะตกใจกับสิ่งที่คาร์ลจะทำกันหมด คาร์ลเอ่ยตอบด้วยความเฉยชา
“เปล่า…เฮ้อ!..ตามที่พวกเจ้าเข้าใจนั่นล่ะ”
เสียงเรียบเย็นของเขาดังก้องไปทั่วบริเวณ
“ข้าคิดว่าการที่พวกเราจะไปเขย่าเรือพวกมันน่าจะเป็นวิธีที่ทำให้พวกมันลาโลกใบนี้ไปได้ง่ายขึ้น..มันจะดีกว่ามั้ย?..ถ้าเราจะส่งพวกมันไปปรโลกโดยที่มือของเราไม่สกปรกมากนัก”
แม้แต่นักรบจากเผ่าเสือที่ยืนอยู่ด้านหลังของหมอผีก็ตัวสั่นเล็กน้อยเมื่อได้ยินสิ่งที่คาร์ลพูด วิเทียร์เคยเล่าเรื่องนายน้อยคาร์ลมาบ้างแล้วแต่มังกรที่ยกยิ้มอยู่ด้านหลังคาร์ลยิ่งทำให้พวกเขาตื่นเต้นและตัวสั่นมากกว่าเดิม
คาร์ลค่อยๆฉีกยิ้มส่งไปให้ดวงตาสีขาวของหมอผีและนักรบจากเผ่าเสือที่พุ่งตรงมายังเขา ตอนนั้นเองที่เสียงคุ้นเคยดังมาจากข้างหลัง
“โอ้ววว”
มันเป็นเสียงของรอน
“นายน้อย..ดูท่าหมอผีผู้นี้จะเป็นทั้งร่างทรงและหมอดูจริงด้วยๆนะขอรับ..เขาสามารถเดาความคิดของนายน้อยได้และรู้ด้วยว่านายน้อยเคยทำตัวเป็นขยะมาก่อนแต่มาเปลี่ยนแปลงตัวเองราวกับเป็นคนใหม่เช่นทุกวันนี้”
‘หืม?’
“ทำไมจู่ๆก็พูดเรื่องที่ข้าเคยเป็นขยะขึ้นมาล่ะ?”
คาร์ลหันกลับไปมองรอนด้วยความสับสน รอนดูเหมือนจะพอใจกับคำถามที่ได้ยินเมื่อเขาเริ่มยิ้มกว้าง
“ชายผู้มีชีวิตใหม่..มันไม่ได้หมายถึงเรื่องที่นายน้อยเปลี่ยนแปลงตัวเองจากขยะไร้ค่าเป็นขุนนางผู้สง่างามเช่นในตอนนี้หรือขอรับ?”
คาร์ลชะงัก
อันที่จริงประโยคที่ว่า‘ชายผู้มีชีวิตใหม่’ มันไม่ได้ทำให้เขาคิดถึงเรื่องที่เจ้าของร่างนี้เคยทำตัวเป็นขยะไร้ค่ามาก่อน แน่นอนว่าคิมร็อกโซผู้นี้คิดไปถึงอย่างอื่น อย่างไรก็ตามเขาไม่คิดที่จะค้านคำกล่าวของรอนออกไปเช่นกัน
ตอนนั้นเอง
“นายน้อยคาร์ล..แต่ก่อน..ท่านเคยเป็นขยะไร้ค่า..ด้วยหรือ?”
“ไม่มีทาง…เป็นไปไม่ได้..คนอย่างนายน้อยคาร์ลนี่รึ?..จะเคย..เป็นขยะ..ไร้ค่ามาก่อน”
เสียงราวกับหุ่นยนต์ของวิเทียร์และแมรี่ดังขึ้น พวกเธอเอ่ยถามด้วยความตกใจ แมรี่ยังพูดเสียงยานๆเหมือนกับสิริเช่นเดิมแต่เธอก็สามารถพูดทุกสิ่งที่เธอต้องการได้
ฮันนาห์หันไปมองคาร์ลด้วยสายตาพิจารณามากขึ้น
คาร์ลตอบสนองต่อทุกสายตาที่จ้องมาที่เขา
“ทุกวันนี้ข้าก็ยังเป็นขยะ”
เขาคิดว่าตัวเองยังคนเป็นขยะ แม้ว่ามันจะมีโอกาสเป็นไปได้ที่อนาคตของเขาจะได้อยู่อย่างสงบสุขแต่ดูเหมือนว่าทุกวันนี้เขามักจะสร้างปัญหาและความวุ่นวายให้เกิดขึ้นอยู่ตลอด ที่สำคัญเขายังคงหลอกลวงคนอื่นๆอยู่เสมอ นั่นคือสิ่งที่คาร์ลคิดว่ามันทำให้เขาดูเป็นขยะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
คาร์ลเริ่มแสยะยิ้ม
คาร์ลเห็นวิเทียร์ยิ้มเยาะคำตอบของเขา เธอตอบเขากลับมาด้วยสายตาที่เหมือนจะเข้าใจในตัวเขา
“หากท่านบอกว่าตัวเองเป็นขยะ…ข้าก็จะคิดว่าท่านหมายความตามนั้นจริงๆ”
‘…เธอคิดว่าฉันหมายถึงอะไร?’
คาร์ลไม่รู้ว่าวิเทียร์เข้าใจในสิ่งที่เขาบอกว่าอย่างไร?แต่ถึงจะเป็นแบบนี้แมรี่ก็ยังพยักหน้าตอบรับราวกับเห็นด้วยกับความเห็นของวิเทียร์
ในขณะนั้นเชวฮันก็เริ่มพูดบ้าง
“การกระทำในอดีตของท่านคาร์ลมันก็เป็นเพียงเรื่องในอดีต..ท่านคาร์ลเคยใช้ชีวิตอย่างสงบสุขจนกระทั่งตัดสินใจที่จะออกมาทำสิ่งต่างๆเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น”
‘แล้วหมอนี่พูดอะไรออกมา?’
คาร์ลหันไปมองเชวฮันด้วยสายตาเหลือเชื่อ ส่วนเชวฮันก็ยิ้มอย่างพอใจในขณะที่ปากก็เริ่มพูดต่อ
“พวกเรารู้ความจริงกันดีขอรับว่าตัวตนจริงๆของท่านเป็นเช่นไร..ไม่ต้องพยายามปฏิเสธหรอกนะขอรับกระผมรู้ว่าท่านคาร์ลกำลังเขินอยู่”
‘ให้ตายเถอะ’
คาร์ลตกอยู่ในอาการเหลือเชื่อแบบร้อยเปอร์เซ็นก่อนที่โรสลินซึ่งเงียบมานานจะเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาบ้าง
“อันที่จริงแล้วเรื่องที่ว่านายน้อยคาร์ลเป็นขยะไร้ค่าก็เป็นที่เลื่องลือกันในกลุ่มขุนนาง..ข้าเองก็เคยเชื่อข่าวลือพวกนั้นจนกระทั่งได้มาเจอกับนายน้อยคาร์ล…ข้าถึงรู้ว่าเขาได้ซ่อนตัวตนที่แท้จริงของเขาเอาไว้”
วิเทียร์อ้าปากค้างให้กับคำอธิบายของโรสลินในขณะที่แมรี่เพียงพยักตอบรับอย่างต่อเนื่อง
คาร์ลสูญเสียคำพูดของตนไปทันที เขาอยากจะบอกกับทุกคนว่าตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นเพียงชายหนุ่มผู้ปรารถนาจะใช้ชีวิตแบบคนขี้เกียจเท่านั้น อย่างไรก็ตามมันจะกลายเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันไปใหญ่หากเขาพยายามอธิบายไปมากกว่านี้
เขารู้สึกเหมือนมีคนจ้องเขม็งมาจากทางด้านหลัง เขาจึงหันหลังกลับไปมอง
ฮันนาห์กำลังจ้องมาที่เขา สายตาที่เธอมองมาราวกับเขาเป็นคนเจ้าเล่ห์ การได้เห็นปฏิกิริยาแบบนั้นจากเธอทำให้เขาเริ่มผ่อนคลายขึ้น
จากนั้นเขาก็หันไปมองหมอผีด้วยท่าทางผ่อนคลายกว่าเดิม หมอผียังคงจ้องมาที่เขาด้วยตาสีขาวคู่นั้น
‘พลังจิตของเขาแกร่งแค่ไหนนะ?’
ดูเหมือนหมอผีผู้นี้จะมีพลังจิต เขาดูจะสามารถสื่อสารกับสิ่งลี้ลับได้มากกว่าจะเป็นเพียงหมอผีเท่านั้น
คาร์ลอยากรู้
‘เขาอาจรู้ว่าฉันเป็นใคร?’
เขาเริ่มพูด
“ข้าเป็นใคร?”
คำถามที่ไม่มีใครคาดคิดดังออกจากปากคาร์ล ทำให้ทุกคนต่างหันไปมองคาร์ลเป็นตาเดียว มันจะมีใครที่ไม่รู้ด้วยหรือว่านายน้อยคาร์ลเป็นใคร?
คาร์ลไม่ได้สนใจกับสายตาของทุกคน เขารอเพียงคำตอบจากหมอผีชราผู้นี้คนเดียวเท่านั้น ผ่านไปชั่วอึดใจหมอผีจากเผ่าเสือจึงเริ่มพูด
“สิ่งที่ข้าพูดออกไปคือทุกสิ่งที่ข้าได้ยิน”
“…งั้นหรือ?”
คาร์ลรู้สึกผิดหวังกับคำตอบของหมอผีและพยักหน้ารับ อย่างไรก็ตามหมอผีกับพูดมากกว่านั้น
“ยังมีอีกอย่าง”
“…มีอีกงั้นรึ?”
ความอยากรู้อยากเห็นของคาร์ลพุ่งขึ้นมาอีก เขามองไปที่หมอผีด้วยความคาดหวัง
“ชายผมสีแดงจะมอบบ้านหลังใหม่ให้กับเรา”
“น่าจะผิดแล้วล่ะ”
คาร์ลตอบกลับทันที
‘บ้านหลังใหม่งั้นหรือ?..แม้ว่ามันเป็นเรื่องดีที่จะใช้เผ่าเสือต่อสู้กับพวกอาร์มและอาณาจักรทางตอนเหนือแต่…’
คาร์ลส่ายศีรษะของตนเบาๆ เขาพยายามกำจัดความคิดอันไร้ประโยชน์ออกจากหัวของตนอย่างรวดเร็ว
หมอผีหลับตาลงและพูดขึ้น
“ต้องขออภัยท่านยิ่งนักที่ข้าแนะนำตัวช้าไป…ข้าชื่อการ์ชานเป็นหมอผีประจำเผ่าเสือ..ข้าเดินทางมาที่นี่ในฐานะตัวแทนของเผ่า..ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้พบกับท่านมังกรและกลุ่มคนผู้น่าทึ่งจากทวีปตะวันตก”
หมอผีการ์ชานชี้ไปยังอาคารไม้
“เราเข้าไปคุยรายละเอียดกันข้างในเถิด”
“ตกลง”
คาร์ลมุ่งหน้าเข้าไปในอาคารไม้ทันที ในขณะที่ในหัวก็เริ่มนึกถึงแผนที่ของเกาะฮาอิส
เกาะฮาอิสที่ 9
‘ฮาอิส’ เป็นชื่อที่ใช้เรียกโดยรวมของเกาะทั้ง15เกาะ ซึ่งเกาะฮาอิสที่2และเกาะฮาอิสที่12กำลังถูกใช้งานโดยเผ่าวาฬและเผ่าเสือตามลำดับ
.
.
.