Trash of the Count’s family - ตอนที่ 146.2
บทที่ 146 มุ่งร้าย 1 (2)
คาร์ลเริ่มเปลี่ยนไปถามเรื่องอื่นแต่ก็ยังอยู่ในหัวข้อนี้ต่อ
“ใครเป็นตัวแทนจากเผ่าเสือที่จะเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้?”
“มีท่านหมอผีประจำเผ่าและนักรบระดับสูงทั้งหมด3ท่าน…พวกเขาเดินทางมาถึงที่นี่แล้วส่วนสมาชิกจากเผ่าเสือที่เหลือรอออยู่บนเกาะอื่น”
“อย่างนั้นรึ?”
คาร์ลพยักหน้าตอบรับ เขาไม่ได้วางแผนที่จะพบสมาชิกจากเผ่าเสือทั้งหมดในวันนี้ ตอนนั้นเองที่เสียงวิเทียร์ดังเข้ามาในหูของเขา
“ใช่..ดูเหมือนท่านหมอผีจะตั้งตารอท่านอย่างใจจดใจจ่อเลยล่ะ..นายน้อยคาร์ล”
“…รอข้า?”
“ใช่..เขาไม่ได้บอกข้าว่าเพราะอะไรแต่เขาบอกว่าอยากเจอท่านยิ่งนักนายน้อยคาร์ล”
ทันใดนั้นความหนาวเย็นก็แล่นผ่านร่างคาร์ลไป เขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว คาร์ลชะลอฝีเท้าของตนลงราวกับไม่อยากไปเจอตัวแทนจากเผ่าเสือแต่ก็ไม่สามารถถอยหลังกลับได้เมื่อเดินทางมาถึงใจกลางเกาะฮาอิสที่9แล้ว มีอาคารไม้สามหลังตั้งอยู่ใจกลางเกาะเล็กๆแห่งนี้
“นายน้อยคาร์ล..ท่านจะไม่เข้าไปงั้นหรือ?”
คาร์ลหยุดยืนอยู่หน้าอาคารโดยไม่คิดที่ก้าวเท้าเดินต่อ
“เปล่า..ข้าเพียงหยุดพักชั่วครู่คือข้า–”
เอี๊ยด!!!
คาร์ลเริ่มขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด
‘ฉันแค่ต้องการเวลาคิด!’
ทำไมสิ่งต่างๆจึงเกิดขึ้นรวดเร็วเสมอเมื่อเขาพยายามคิดหาคำตอบอยู่ คาร์ลขมวดคิ้วมุ่นเมื่อมองไปยังตัวอาคาร
“เอ่อ…”
จากนั้นความวิตกกังวลก็จู่โจมเข้ามาหากเขา ไม่สิ! เขาสะดุ้งไปแล้วต่างหาก
พวกเขาตัวสูงใหญ่ยิ่งนัก
พวกเขาตัวใหญ่กว่าทูนก้าเสียอีก แม้จะมีความสูงใกล้เคียงกับทูนก้าซึ่งมีความสูงประมาณ 2 เมตรแต่กล้ามเนื้อที่อยู่ตามตัวของพวกเขามีมากกว่าทูนก้าเป็น2เท่า
‘ถ้าฉันทำอะไรให้พวกเขาไม่พอใจ..เพียงแค่สะกิดฉันเบาๆ..ฉันก็คงตีตั๋วไปพบยมโลกได้เลยล่ะ’
ถึงแม้ประตูจะมีขนาดใหญ่แต่เมื่อเห็นกลุ่มคนร่างกายใหญ่โตเช่นนี้มันก็ดูเล็กแคบไปทันที
“นายน้อยคาร์ล..นี่คือสมาชิกจากเผ่าเสือ”
แม้ไม่ได้รับการแนะนำจากวิเทียร์เขาก็บอกได้ว่านี่คือเผ่าเสือ
ข้าแข็งแกร่งที่สุด
ข้าคือเสือ
นั่นคือสิ่งที่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆตามร่างกายของพวกเขากำลังบอกเขาอยู่
“นายน้อยขอรับ..นี่เป็นครั้งแรกที่กระผมได้เห็นเผ่าเสือ”
“มนุษย์!..พวกเสือตัวใหญ่มากเลย!”
เสียงของรอนและราอนดังก้องเข้าไปในหูของคาร์ล
“แต่ว่ามนุษย์!..เสือตัวนั้นดูแปลกๆ”
คาร์ลรู้ในทันทีว่าเสือแปลกๆที่ราอนพูดถึงคือคนไหน? เขาเป็นชายที่อยู่ตรงกลางกลุ่มซึ่งกำลังสาวเท้ามาหาคาร์ล
เขาเป็นชายชราเครายาวและดูเหมือนจะเป็นคนที่มีร่างกายใหญ่ที่สุดในกลุ่ม ขนาดของเขาทำให้แม้แต่ทูนก้าก็กลายร่างเป็นเด็กน้อยได้ในพริบตา ชายชราผู้นี้มีรอยสักแปลกๆเต็มใบหน้าและถือไม้เท้าเล็กๆในมือ
สิ่งสำคัญที่สุดคือชายชราผู้นี้กำลังเดินตรงมาหาคาร์ลโดยไม่ลังเลใดๆทั้งๆที่ตาของเขาปิดอยู่
‘…ตาเฒ่าคนนี้ต้องเป็นหมอผีแน่นอน’
ลักษณะของเขาดูไม่เหมือนหมอผีเท่าไหร่นัก? เพราะเขาดูเหมือนนักเวทย์มากกว่า จะไม่ให้คนอื่นคิดว่าเขาเป็นนักเวทย์ได้อย่างไรในเมื่อเขาสวมชุดสีขาวซึ่งเป็นชุดยูนิฟอร์มของนักเวทย์เช่นนี้?
หมอผีของเผ่าเสือและนักรบระดับสูงทั้งสามซึ่งเดินตามหลังชายชรามาติดๆได้มาหยุดยืนอยู่ตรงหน้าคาร์ลแล้ว คาร์ลมองดวงตาที่ปิดสนิทของหมอผีชราผู้นี้ก่อนที่รังสีเหนืออำนาจจะแผ่ออกจากร่างเขาโดยไม่รู้ตัว
หมอผีจากเผ่าเสือเริ่มพูดขึ้น
“ข้ารอท่านอยู่”
ดวงตาของหมอผีลืมขึ้นทันทีที่เขาพูดประโยคนี้กับคาร์ล
‘ไออิกู’
คาร์ลสะดุ้งทันทีเมื่อสบตากับชายชราผู้นี้ ดวงตาของหมอผีเป็นสีขาว มันไม่มีความแตกต่างระหว่างตาดำและตาขาวแม้แต่น้อย คาร์ลเริ่มระวังตัวมากขึ้นและแน่นอนว่าต้องรู้สึกกลัวเช่นกัน คาร์ลเริ่มพูดกับชายชราผู้เป็นเจ้าของดวงตาสีขาวน่ากลัวผู้นี้
“…แล้วท่านรู้หรือไม่?..ว่ากำลังรอใครอยู่?”
ความจริงที่เขาได้ตระหนักเมื่อเผ่าเสือเป็นคนออกปากว่ารอเขาแบบเดียวกับที่วิเทียร์เคยบอกก่อนหน้านี้ทำให้คาร์ลรู้สึกไม่มั่นคงนัก คาร์ลยังคงคาใจว่าวิเทียร์เป็นคนบอกเผ่าเสือว่าป่าแห่งความมืดจะเป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมสำหรับพวกเขาหรือไม่? จะว่าไปมันก็เป็นไปได้เช่นกันที่เผ่าเสืออยากเจอเขาเพื่อคุยสิ่งนี้
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้ยินสิ่งนี้จากชายชราหมอผี
“ท่านเชื่อเรื่องร่างทรงหรือไม่?
คาร์ลสะดุ้งขึ้นอีกครั้ง เขามองเข้าไปในตาสีขาวของชายชราผู้นี้จนความกลัวค่อยๆเลือนหายไป เขาไม่ได้รู้สึกกลัวอีกต่อไปแต่มันเป็นความรู้สึกระแวงมากกว่า เขาเริ่มระมัดระวังมากกว่าเดิม
‘..ตาเฒ่าผู้นี้ดูแปลกๆ’
เขารู้สึกไม่ดีกับเรื่องนี้แต่ก็ยังตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
“ไม่!”
คาร์ลพอใจกับน้ำเสียงห้วนๆที่ตนตอบออกไปแต่ชายชราผู้นี้ก็ตอบกลับทันที
“ตั้งแต่จำความได้..ข้าก็ได้ยินเสียงวิญญาณมาโดยตลอด”
‘อ่า..เขาดูเหมือนจะเป็นร่างทรงมากกว่าหมอผีสินะ’
หมอผีจากเผ่าเสือผู้นี้ดูแตกต่างจากหมอผีที่คาร์ลเคยรู้จัก
‘หมอผี’ นี่คือคำเรียกขานนักเวทย์ของทวีปตะวันออก พวกเขาจะใช้วัสดุธรรมชาติเกือบทุกชนิดเพื่อสร้างพลังแห่งธรรมชาติ พวกเขามักจะพกเครื่องรางของขลังหรือวัสดุจากธรรมชาติติดตัวไปด้วยเสมอเพราะธรรมชาติเป็นพลังประจำตัวของเหล่าหมอผี
คาร์ลตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย
“ข้าเข้าใจแล้ว..ดูเหมือนท่านจะรู้เรื่องวิญญาณเป็นอย่างดีสินะ?”
ทันใดนั้น
ปั้ง!
หมอผีชรากระแทกไม้เท้าลงกับพื้นทันที
คาร์ลสะดุ้งโหยงจนเกือบเสียมาด ยังไม่ทันที่คาร์ลจะได้พูดอะไรชายชราก็เริ่มตะโกนใส่คาร์ลทันที
“ธรรมชาติพูดกับข้า!..และข้าได้ยินสิ่งที่ธรรมชาติพูด!”
‘น่ากลัว’
คาร์ลลูบแขนตนเบาๆเพื่อทำให้จิตใจสงบ
‘แล้วเขาได้ยินว่าอะไร?’
คาร์ลมองกลับไปที่ชายชราและต้องตกใจกับสิ่งที่เขาเอ่ย
“ชายผมสีแดงจากทวีปตะวันตก..ชายผู้มีชีวิตใหม่จะเดินทางมาหาเรา!”
‘อะไรนะ?’
คาร์ลเริ่มหวั่นๆเมื่อได้ยินประโยคที่ว่า ‘ชายผู้มีชีวิตใหม่’
‘ดูเหมือนเขาจะเป็นร่างทรงจริงๆ’
คาร์ลมองเข้าไปในดวงตาสีขาวที่จ้องมายังเขา เคราของชายชราสั่นเล็กน้อยเมื่อพยายามรวบรวมสิ่งที่จะพูดออกมา
“มันบอกข้าว่าท่านจะคว่ำพวกมัน”
“หืม?”
คาร์ลลูบแขนที่มีขนลุกชันขึ้นเพราะอาการขนลุก หมอผีจ้องมาที่คาร์ลและเปล่งเสียงออกมาอย่างดัง
“ธรรมชาติบอกข้าว่า..ชายผมสีแดงจะเป็นคนคว่ำเรือของพวกนอกรีตจากองค์กรสารเลวนั่น!”
เสียงตะโกนของเขาดูเหมือนจะทำให้ป่าเล็กๆบนเกาะสั่นสะเทือนเล็กน้อย ทุกคนต่างหันมามองคาร์ลและหมอผีเป็นตาเดียว
“แล้วมันรู้ได้อย่างไร?”
พลังธรรมชาติรู้ความคิดของเขาได้อย่างไร?
นั่นทำให้เขาเริ่มหนาวสั่นไปทั่วร่าง