Trash of the Count’s family - ตอนที่ 144.1
บทที่ 144 ไม่ใช่เรื่องน่าเสียดาย 3 (1)
ฮาโรนเคยตั้งข้อสงสัยเอาไว้ว่าชั้นใต้ดินถูกใช้ให้เป็นคุกซึ่งใช้คุมขังพวกทาส
ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!
กลุ่มของคาร์ลไม่ได้คุยอะไรกันมากนักเมื่อพวกเขาพากันก้าวลงบันไดหินเพื่อมุ่งหน้าไปยังชั้นใต้ดิน มีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่อยู่ในใจของพวกเขา
‘ระเบิดจากพลังเวทย์เวทย์แห่งความตาย’
โรสลินถอนหายใจยาวออกมา
ตึง!
คาร์ลหยุดเดินเมื่อก้าวลงสู่บันไดขั้นสุดท้ายและเผชิญหน้ากับชั้นใต้ดินในที่สุด
“ท่านโรสลิน..ช่วยใช้เวทย์ส่องแสงนำทางในชั้นใต้ดินที”
“ตกลง”
โรสลินเริ่มร่ายเวทย์ก่อนจะปรากฏวัตถุทรงกลมส่องสว่างขึ้นมาและเริ่มส่องแสงไปทุกพื้นที่ในชั้นใต้ดิน หลังจากใช้เวลาไม่นานแสงสว่างก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณ
“ดูเหมือนคุกเลยนะขอรับ”
คาร์ลพยักหน้าให้กับความเห็นของเชวฮัน
พื้นที่นั้นเต็มไปด้วยกรงเหล็ก แม้จะมีหลายเส้นทางแตกแขนงกออกไปแต่พวกเขากลับพากันมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ที่เต็มไปด้วยกรงเหล็ก เชวฮันจ้องไปยังกรงเหล็กที่ถูกสร้างขึ้นโดยโครงสร้างง่ายๆแต่กลับมีเส้นทางที่ดูซับซ้อนชอบกล เขาจึงเลือกที่จะแสดงความเห็นของตนอีกครั้ง
“ท่านคาร์ล..ดูเหมือนมันจะเป็นเขาวงกต..ถ้าเช่นนั้นให้กระผมเข้าไปสำรวจก่อนเถิด”
“เจ้าอยากตายงั้นหรือ?”
“..อะไรนะขอรับ?”
เชวฮันเห็นว่าคาร์ลกำลังส่งยิ้มให้กับตน
คาร์ลบอกให้เชวฮันอยู่เฉยๆก่อนจะหันไปมองทางด้านข้างของเขาทันที
ฟุดฟิด!ฟุดฟิด!ฟุดฟิด!
ราอนยังคงตั้งหน้าตั้งตาสูดกลิ่นเข้าไป แม้ว่ามันจะดูไม่เหลือมาดมังกรผู้สง่างามเมื่อมันทำกิริยาเช่นนั้นแต่คาร์ลก็ยังคงปล่อยให้มันทำต่อไป
ราอนสบตาเข้ากับคาร์ลหลังจากดมกลิ่นเข้าไปพักใหญ่ ราอนชะงักการดมกลิ่นของมันทันทีเมื่อเงยหน้าขึ้นมามองคาร์ล แววตาของมันเต็มไปด้วยความสับสนเมื่อเห็นสายตาอันอบอุ่นจากคาร์ล ตอนนั้นเองที่คาร์ลชี้ไปทั่วห้องใต้ดินและออกคำสั่งกับราอน
“ไปได้!”
ราอนกระพริบตาปริบๆก่อนจะผงกหัวเข้าใจในที่สุด
“ตกลงมนุษย์!…เพียงแค่ตามข้ามาเท่านั้น!”
ฟุดฟิด!ฟุดฟิด!ฟุดฟิด!
ราอนเริ่มสูดกลิ่นอีกครั้ง เป็นการยากที่จะตรวจหาพลังเวทย์ที่ตายไปแล้วได้เว้นแต่ว่าจะมีคุณสมบัติความมืดติดตัวอยู่ เหตุผลเดียวที่ราอนสามารทำได้เพราะพลังเวทย์ที่ตายไปแล้วเป็นพลังเวทย์ของมังกรที่ราอนคุ้นเคยเป็นอย่างดี
“หืม?”
ราอนหันกลับไปมองทางด้านหลังของตนเพื่อพบว่าคาร์ลไม่ได้เดินตามเขามา คาร์ลยืนพิงราวบันไดพร้อมกับวาดแขนออก
“เอาไว้ข้าค่อยตามเจ้าไปเมื่อเจ้าเจอพวกมันแล้ว”
“อึ้ม!”
ราอนพยักหน้าตอบรับและเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง เชวฮันมองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างอยู่ไม่สุข ตอนนั้นเองที่โรสลินร่ายเวทย์เพื่อให้ตัวเองลอยขึ้นจากพื้นเล็กน้อย
“นายน้อยคาร์ล..ข้าสามารถติดตามท่านราอนไปได้สินะ?”
“ใช่แล้ว..ขอให้สนุกกับการเดินทางล่ะ”
โรสลินยิ้มก่อนจะไล่ตามราอนไปทันที เธอใช้เวทย์ส่องแสงตรวจสอบเส้นทางที่ราอนใช้เพื่อให้แน่ใจว่ามันจะเป็นเส้นทางที่ปลอดภัย
เชวฮันมองสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ครู่หนึ่งและเริ่มพูด
“ท่านคาร์ล..ท่านคงเป็นกังวลว่าระเบิดที่ราอนพูดถึงจะทำอันตรายต่อพวกเราสินะ?..นั่นคงเป็นสาเหตุที่ท่านคาร์ลให้กระผมอยู่รอที่นี่ใช่หรือไม่ขอรับ?”
คาร์ลยังไม่มีปฏิกิริยาตอบรับกับคำถามของเชวฮันเมื่อเขายังคงตั้งใจสังเกตพื้นที่รอบๆที่มีแสงสว่างให้พอได้เห็นจากเวทย์ส่องแสงของโรสลิน เชวฮันเริ่มยิ้มเมื่อก้าวมายืนอยู่ข้างๆคาร์ลด้วยมาดองครักษ์ผู้พิทักษ์
‘ถึงแม้น้ำเสียงของเขาจะดูหยาบคายไปบ้างแต่เขาก็มักจะเป็นห่วงผู้อื่นเสมอ’
ในขณะที่เชวฮันกำลังคิดเช่นนั้น คาร์ลกลับมีความคิดที่ต่างออกไปในหัวของเขา
‘ฉันจะไม่ลงมือทำสิ่งใดในเมื่อมีคนที่สามารถทำได้ดีกว่า’
โรสลินและราอนกำลังทำงานอย่างหนักในขณะที่เขานั่งพักอยู่เฉยๆ อย่างไรก็ตามเวลาแห่งความสะดวกสบายดูเหมือนจะผ่านไปเร็วมาก
“เจอแล้ว!!!”
จุดศูนย์กลางของชั้นใต้ดินถูกออกแบบให้เป็นจุดเชื่อมต่อของเส้นทางคดเคี้ยวทั้งหมดและมันถูกค้นพบในที่สุด ราอนตะโกนออกมาเสียงดังลั่นเพื่อส่งสัญญาณไปให้คาร์ล
“นายน้อยคาร์ล..เชวฮัน..โปรดตามข้ามา!”
โรสลินย้อนกลับมาจากจุดศูนย์กลางของห้องใต้ดินเพื่อพาพวกเขาไปยังจุดที่ราอนรออยู่ คาร์ลมองตามอุ้งมือของราอนที่ชี้ไปยังห้องที่ถูกสร้างให้ดูคล้ายกับโรงงานฝ่ายผลิตในโลกที่เขาอยู่ก่อนจะพากันเข้าไปด้านใน
“มันมาจากตรงนี้!..กลิ่นมันแรงมากเลย!”
คาร์ลก้มลงมองพื้นห้อง
ตรงข้ามกับห้องที่เต็มไปด้วยกรงเหล็กเมื่อพื้นที่อยู่ตรงมุมห้องถูกทำจากหินชนวนขนาดใหญ่ คาร์ลเริ่มพูดขึ้น
“ดูเหมือนว่า…เราจะต้องยกหินชนวนพวกนี้ขึ้นมาก่อน”
คาร์ลหันหน้าไปมองบุคคลผู้หนึ่งทันที เชวฮันเงยหน้าขึ้นมาเพื่อสบตาเข้ากับคาร์ล โรสลินและราอนที่ต่างมองมาที่เขาเช่นกัน
“อะแฮ่ม!”
เชวฮันชักดาบของตนขึ้นมาและยกมันขึ้นเหนือศีรษะ
“ท่านคาร์ล!…กระผมจะยกมันขึ้นเอง”
เชวฮันพูดจบก็มุ่งหน้าไปยังจุดที่มีหินชนวนตั้งอยู่ทันที ในขณะนั้นราอนก็พูดขึ้น
“แต่ข้าสามารถทำให้มันเร็วขึ้น!”
พลังเวทย์สีดำมุ่งหน้าไปยังหินชนวนขนาดใหญ่ทันที
แผ่นหินชนวนทั้งหมดสี่แผ่นถูกปกคลุมไปด้วยพลังเวทย์สีดำ
ครึ๊กกก!!!! ครึ๊กกก!!!!
แผ่นหินชนวนค่อยๆยกสูงขึ้นจนทำให้เชวฮันสะดุ้ง
คาร์ลมองดูแผ่นหินที่ถูกเคลื่อนย้ายออกจากมุมห้องโดยไม่แสดงปฏิกิริยาใดๆก่อนจะเอ่ยชมราอนออกมา
“เจ้ายอดเยี่ยมและยิ่งใหญ่จริงๆ”
ราอนหัวเราะเบาๆด้วยความชอบใจและหันไปมองเชวฮันด้วยสายตาเยาะเย้ย เชวฮันถอนหายใจยาวก่อนจะหันไปเอ่ยกับโรสลินแทน
“โรสลิน..ดูเหมือนเราจะต้องทำความสะอาดมันแล้วล่ะ”
“อ๊ะ!..เดี๋ยวข้าทำเอง”
คาร์ลก้าวไปหยุดยืนตรงหน้าโรสลินและเชวฮันเพื่อขวางทางพวกเขาเอาไว้ เขาเรียกใช้งานพลังศักดิ์สิทธิ์โบราณ ‘เสียงเรียกของวายุ’ทันทีแต่เป็นระดับที่อ่อนแรงที่สุดที่เคยใช้มา
ฟิ้วววว!!!
สายลมอ่อนๆพัดผ่านจุดที่หินชนวนเคยอยู่ ฝุ่นที่เกาะอยู่บริเวณนั้นถูกปัดออกไปทันที
เชวฮันหันไปมองหน้าคาร์ลก่อนที่คาร์ลจะเริ่มขมวดคิ้วเมื่อสบตาเข้ากับเชวฮัน
“ทำไมเจ้าถึงมองข้าเช่นนั้น?”
“…อ่า…ไม่มีอะไรขอรับ”
เชวฮันก้าวเดินช้าๆเพื่อหยิบดาบของตนขึ้นมา โรสลินหัวเราะน้อยๆก่อนจะเริ่มช่วยคาร์ล
แม้ว่ามันจะเป็นการออกแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้นและไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินไปแต่มันก็เป็นสิ่งที่สร้างความน่าเบื่อให้ได้เช่นกัน คาร์ลยังคงปัดฝุ่นและสิ่งสกปรกที่เกาะอยู่ต่อไปเรื่อยๆในขณะที่ในหัวก็เริ่มคิดบางอย่างขึ้นมา
‘ทำไมพลังแห่งศิลาถึงพูดแบบนั้นนะ?’
คาร์ลยังจำได้ดีว่าเจ้าของหินยักษ์พูดอะไรเอาไว้ก่อนที่เขาจะมุ่งหน้ามาที่นี่
‘เจ้าพยายามจะเสียสละตัวเองงั้นหรือ?’
ประโยคนั้นทำให้คาร์ลรู้สึกกังวล
ทำไมนะหรือ?
มันเป็นเพราะเขารู้สึกถึงแรงกระตุ้นบางอย่างจากเสียงทุ้มลึกของอดีตเจ้าของพลังแห่งศิลา คาร์ลไม่ได้รู้สึกวิตกจริตไปเองแต่มันเป็นเช่นนั้นจริงๆเมื่อได้ยินเจ้าของพลังศิลาบอกให้เขาเสียสละตนเอง สิ่งนี้ทำให้เขาอดขนลุกไม่ได้
‘ฉันไม่รู้เลยว่าพลังแห่งศิลาทำงานอย่างไร?’
ตั้งแต่ได้พลังนี้มาครอบครองเขาก็ไม่เคยได้ใช้มันเลย
เขาไม่มีแผนที่จะใช้มัน
แม้แต่หนังสือโบราณที่อธิบายถึงพลังแห่งศิลาเอาไว้ก็ไม่ได้อธิบายวิธีใช้พลังของมัน ทั้งหมดที่ได้กล่าวเอาไว้มีเพียง
‘พลังแห่งศิลาเป็นพลังที่แข็งแกร่ง’
‘เขาใช้ร่างกายของเขาเพื่อปกป้องทุกคน’
ข้อมูลเหล่านี้คือสิ่งที่กล่าวไว้ในหนังสือ มันมีเท่านี้จริงๆ
คาร์ลคิดเรื่องนี้อีกพักใหญ่ก่อนจะตัดสินใจในที่สุด
‘แค่ไม่สนใจมัน!’
เขาเลือกที่จะเพิกเฉยต่อเสียงที่กล่อมประสาทเขาราวกับคนบ้า
‘เสียสละตัวเองงั้นเหรอ?..ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย?!’
คาร์ลไม่มีความคิดที่จะทำแบบนั้น
“มนุษย์!มนุษย์!”
ราอนตะโกนเรียกคาร์ลขึ้นมา
“อ่า…”
คาร์ลหยุดใช้งานเสียงเรียกของวายุทันที
บางสิ่งที่เขารอคอยก็ปรากฏให้เห็นในที่สุด
เขาได้ยินเสียงบางอย่าง
ติ๊กต๊อก!ติ๊กต๊อก!ติ๊กต๊อก!
มันเป็นเสียงนาฬิกา
ราอนตะโกนขึ้นมาอีกครั้ง
“นี่ไง!..กลิ่นมันมาจากสิ่งนี้!”
โรสลินทรุดตัวลงและเริ่มตรวจสอบอุปกรณ์ชิ้นนี้อีกครั้ง
มันเป็นวัตถุทรงกลมที่ทำมาจากเยื่อแก้วบางๆจะบอกว่ามันคือลูกแก้วขนาดใหญ่ก็น่าจะใกล้เคียงมากกว่า เธอเห็นอุปกรณ์แปลกๆมากมายที่ล้อมรอบลูกแก้วทรงกลมเอาไว้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่บรรจุอยู่ในลูกแก้วทรงกลมคือสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเธอเอาไว้
ลูกแก้วทรงกลมบรรจุของเหลวสีดำเอาไว้จนเต็มแต่….
“…มันแปลกยิ่งนัก”
เธอปล่อยเสียงเบาๆผ่านลำคอออกมาก่อนจะตั้งข้อสังเกต
“เจ้าพูดถูก!..มันดูแปลกมากเลย?..ว่าแต่ของเหลวนี้มันคืออะไรกัน?”
ราอนถลาลงสู่พื้นก่อนจะมองไปในหลุมลึกเพื่อมองดูลูกแก้วขนาดใหญ่นี้ มันขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย
มันมองเห็นระเบิดพลังเวทย์ประมาณสิบลูกที่ทำขึ้นจากของเหลวสีดำตั้งอยู่กึ่งกลางของหลุม สิ่งที่ล้อมรอบอยู่ข้างๆคือระเบิดพลังเวทย์ที่มันไม่เคยเห็นมาก่อนพร้อมกับลูกแก้วกลมๆที่บรรจุของเหลวสีม่วงยึดติดเอาไว้
ของเหลวสีดำมันพอรู้จักแต่ของเหลวสีม่วงคืออะไรกัน?
โรสลินและราอนต่างจ้องเขม็งไปยังของเหลวสีม่วงอย่างพิจารณาโดยราอนเป็นคนแรกที่เอ่ยขึ้น
“มันดูไม่เหมือนสิ่งที่ทำมาจากธรรมชาติเลยสักนิด…ข้าจะต้องทำลายลูกแก้วนี้ลงเพื่อตรวจสอบของเหลวที่อยู่ข้างในว่ามันคืออะไรกันแน่?”
“ท่านพูดถูก..เราต้องได้วิจัยสิ่งนี้กันอย่างแน่นอน”
ตรงข้ามกับสิ่งที่พวกเขาทั้งคู่พูดออกมาดูเหมือนคำตอบหนึ่งจะอยู่ในใจของนักเวทย์และมังกรคู่นี้ พวกเขาทั้งสองต่างคิดถึงบางอย่างขึ้นมาก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองคาร์ลหลังจากนั้น คาร์ลสบตากับพวกเขาทั้งสองก่อนจะเริ่มพูด
“มันคือไฟ”
อย่างที่คิดเอาไว้! มันคือสิ่งที่พวกเขาทั้งคู่คิดเอาไว้เช่นกัน โรสลินเป็นฝ่ายพูดขึ้น
“จักรวรรดิอาจสร้างกองเพลิงขึ้นมาเพื่อเผาต้นเสาพวกนั้น..แต่เป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาคือการล่อให้ทูนก้าและคนจากอาณาจักรวิปเปอร์เข้ามาในปราสาทแห่งนี้”
“เจ้าพูดถูก!..แม้แต่ตัวข้าผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คิดเหมือนกันว่าจักรวรรดิกำลังวางแผนที่จะใช้ระเบิดพลังเวทย์และเสาเพลิงพวกนั้นเพื่อระเบิดของเหลวสีม่วงพวกนี้..พวกเขาต้องการฆ่าทุกคน!”
“มันสมเหตุสมผลยิ่งนัก..ไฟจะเผาไหม้ทุกอย่างให้ดำเป็นตอตะโกและมันจะง่ายต่อการซ่อนหลักฐานต่างๆว่าพวกเขาได้ใช้พลังเวทย์ที่ตายไปแล้ว”
“ถูกต้อง!..หลังจากไม่พบสิ่งใดๆในปราสาทแต่ละชั้นแล้ว..ฮาโรนก็จะพาทหารเข้ามายึดปราสาทนี้เป็นฐานทัพและเข้ามาในชั้นใต้ดิน..พอพวกเขาเข้ามามันก็จะบู้ม!!!!”
บู้ม!!!!