Trash of the Count’s family - ตอนที่ 143.2
บทที่ 143 ไม่ใช่เรื่องน่าเสียดาย 2 (2)
เชวฮันและโรสลินตอบรับคาร์ลทันทีขณะที่ราอนก็พูดเข้ามาในหัวของคาร์ล
~ข้าจะต้องใช้เวทย์ล่องหนเพื่อพาพวกเจ้าลงไปข้างล่างใช่มั้ย?~
กลุ่มของคาร์ลหลบเข้ามาในปราสาทแห่งนี้อย่างลับๆ พวกเขาใช้เวทย์ลอยตัวเหาะมาหยุดอยู่ที่ยอดปราสาทที่ล้อมรอบไปด้วยเสาเพลิง เวทย์ล่องหนถูกเรียกใช้และกำจัดออกไปทันทีที่พวกเขาลงสู่พื้นด้านล่าง
ทหารที่คอยเฝ้าสังเกตเสาเพลิงพวกนี้ไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งที่กลุ่มของคาร์ลทำแต่อย่างใด เนื่องจากทูนก้าและฮาโรนลดจำนวนทหารที่ยืนเฝ้าให้เหลือไว้ไม่กี่คน
“มันร้อนจริงๆ”
คาร์ลแสดงความคิดเห็นของเขาออกมาเมื่อพวกเขาออกมายืนสังเกตการณ์ตรงระเบียงด้านนอกของปราสาทแห่งนี้
มันร้อนเพราะประกายไฟที่ลุกโชนขึ้นมา
คาร์ลมองกลับมาที่เชวฮันและโรสลิน เชวฮันกำลังใช้มือของเขาปัดไปที่ลวดลายบนชุดของตนเบาๆ
มันเป็นลวดลายที่มีดาวสีแดงหนึ่งดวงและมีดาวสีขาวห้าดวงล้อมรอบเอาไว้ ชุดที่เลียนแบบองค์กรลับได้ถูกยกระดับขึ้นมาเล็กน้อยแต่ก็ยังไม่ใช่ของเลียนแบบที่สมบูรณ์ตามต้นฉบับจริง อย่างไรก็ตามฮันส์และบารอคได้ใช้ทักษะที่พวกเขามีทั้งหมดทำให้มันดูเหมือนของจริงมากขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน
“นายน้อยคาร์ล..แผนคืออะไรงั้นหรือ?”
คาร์ลตอบกลังอย่างไม่ลังเลเมื่อได้ยินคำถามจากโรสลิน
“ก่อนอื่นเลยเราจะเข้าไปในปราสาทพร้อมกับมองหาอุปกรณ์เวทย์ไปด้วย..ศักยภาพของท่านโรสลินและราอนค่อนข้างเหนือจากนักเวทย์ทั่วๆไป..ดังนั้นเราอาจจะสามารถรู้แผนการของจักรวรรดิได้”
เชวฮันและโรสลินพยักหน้าตอบรับ คาร์ลก้มมองแบบแปลนของปราสาทแห่งนี้ที่ฮาโรนเป็นคนมอบให้ เขายังคงพูดต่อไปเมื่อเห็นว่าปราสาทแห่งนี้มีชั้นใต้ดินอีกหนึ่งชั้น
“เราจะมองหาสมบัติหรือไม่ก็ข้าวของมีค่าที่ซ่อนอยู่ในปราสาทแห่งนี้”
ทั้งสองคนสะดุ้งทันทีเมื่อราอนคลายเวทย์ล่องหนออกและเริ่มตะโกนออกมา
“ข้ารู้อยู่แล้ว!..มนุษย์!..ข้ารู้ว่าเจ้าจะต้องพูดแบบนี้!”
ราอนรู้สึกตื่นเต้น ในขณะที่เชวฮันหันไปมองโรสลินราวกับต้องการถามว่าเขาได้ยินผิดไปหรือไม่?แต่ก็เห็นเพียงรอยยิ้มของเธอเท่านั้น
“ไม่ใช่ทั้งเงินหรือเสบียงอาหาร..แต่เป็นสมบัติงั้นรึ?”
“ใช่แล้วท่านโรสลิน..ข้าคิดไว้อยู่แล้วว่าท่านจะเข้าใจมันได้อย่างง่ายดาย”
ถึงอย่างไรพวกเขาก็จะทิ้งเงินและเสบียงไว้ให้กับทหารอยู่แล้วและคาร์ลกำลังมองหาอย่างอื่นที่มีค่ามากขึ้น
“ข้าจะตั้งใจทำงานให้หนัก”
“คงต้องรบกวนท่านแล้ว..ท่านโรสลิน”
“มนุษย์!..แล้วข้าล่ะ?”
“เจ้าก็เช่นกัน”
เชวฮันเฝ้าดูคาร์ล โรสลินและราอนพูดคุยกันด้วยสีหน้าว่างเปล่าก่อนจะเริ่มเดินตามหลังพวกเขาไป คาร์ลเริ่มสำรวจปราสาทเมเปิ้ลไปทีละชั้นๆ
อย่างไรก็ตามมันไม่มีสิ่งใดให้สำรวจมากนัก
“เฮ้อ..ตอนนี้ข้ายังสัมผัสสิ่งใดไม่ได้เลย”
“เป็นอย่างนั้นรึ?”
“ใช่”
กลุ่มของคาร์ลมารวมตัวกันที่ห้องโถงชั้นหนึ่งโดยไม่พบสมบัติใดๆ
“ยังเหลือชั้นใต้ดิน”
โรสลินพยักหน้ารับ ทั้งคาร์ลและโรสลินตัดสินใจลืมเรื่องสมบัติไปก่อน ตอนนี้พวกเขาเพียงแค่ต้องการคิดแผนการของจักรวรรดิให้ออก
จักรวรรดิลงมือก่อไฟพวกนี้แล้วก็หนีไปงั้นหรือ? มันไม่สมเหตุสมผลสักนิดเพราะมันจะเป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองกันไป พวกเขาจะลงทุนทิ้งปราสาทแห่งนี้ไปง่ายๆอย่างนั้นรึ?
โรสลินเอ่ยถามคาร์ล
“เราจะลงไปชั้นใต้ดินตอนนี้หรือเปล่า?”
“ไม่..เราจะสำรวจเสาเพลิงพวกนี้ก่อน”
พวกเขาเห็นเปลวเพลิงได้ชัดเจนขึ้นเมื่อยืนอยู่ชั้นหนึ่ง ไฟได้ลุกท่วมต้นเสาขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 7 เมตร นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ทหารซึ่งเฝ้ายามอยู่ด้านนอกมองไม่เห็นกลุ่มของคาร์ลแม้ว่าพวกเขาจะเปิดประตูออกไปก็ตาม
คาร์ลมุ่งหน้าไปยังทางเข้าห้องโถงชั้นหนึ่งทันที
‘นายน้อยคาร์ล..หากท่านเปิดประตูชั้นหนึ่งออกไปท่านจะมองเห็นเปลวเพลิงได้ทันที’
เขายังจำสิ่งที่ฮาโรนบอกไว้ได้
“นายน้อยคาร์ล…ระวังตัวด้วย”
“ท่านคาร์ล..กระผมจะเป็นคนเปิดประตูเองของรับ”
นอกเหนือไปจากคำเตือนของโรสลิน เชวฮันก็ก้าวออกไปข้างหน้าและมุ่งตรงไปยังประตูทันที เชวฮันหยุดยืนหน้าประตูที่มีขนาดครึ่งหนึ่งของทางเข้าขนาดใหญ่และหันมารอคำสั่งจากคาร์ล
“เปิดประตู!”
เชวฮันเปิดประตูตามคำสั่งของคาร์ลอย่างรวดเร็วและคาร์ลก็เริ่มมองเห็นเปลวไฟผ่านประตูที่ถูกเปิดออก เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่
“อืม….”
ฟรึบบบ!!!! ซู่!!!!
ประกายไฟร้อนแรงไหลเอ่อเข้ามาพร้อมๆกับเสียงปะทุของกองเพลิง
“ท่านคาร์ล..ถอยมาก่อนขอรับ..มันร้อนยิ่งนัก”
คาร์ลส่ายหัวให้กับคำเตือนของเชวฮันและขยับเท้าเข้าใกล้ประตูอีกก้าวหนึ่ง ประกายร้อนโอบรอบร่างเขาไว้แต่พละกำลังแห่งดวงใจยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดีเช่นเคย
ความเครียดเริ่มขยายเต็มใบหน้าของคาร์ล
“มันรุนแรงกว่าครั้งที่เจอในป่าเสียอีก”
เขาคิดว่ามันจะไม่รุนแรงเท่าที่ควรเพราะขนาดของมันกินพื้นที่น้อยกว่าพื้นที่ป่าส่วนที่หนึ่ง อย่างไรก็ตามเขาสามารถบอกได้ว่าเสาพวกนี้แผ่ความร้อนในระดับที่แรงกว่าไฟในป่าเสียอีก
‘ดูท่ามหกรรมแห่งความชุ่มฉ่ำจะยิ่งใหญ่กว่าที่คิดเอาไว้’
คาร์ลไม่ได้วางแผนที่จะใช้มันอีกครั้งเริ่มขมวดคิ้วมุ่น ตอนนั้นเองที่มีลมพัดเบาๆผ่านประตูเข้ามา
ฟิ้ววววว!!! ฟรึบ!!!!
คลื่นความร้อนพัดถูกใบหน้าของคาร์ล มันร้อนมากจนทำให้เขาเริ่มหายใจลำบาก เขาพยายามถอยกลับเพราะถูกไอร้อนปะทะเข้ากับร่างกายแม้ว่าจะมีพละกำลังแห่งดวงใจอยู่ก็ตาม
ทันใดนั้น
-เจ้าพยายามจะเสียสละตัวเองงั้นหรือ?-
‘หืม?’
คาร์ลชะงักฝีเท้าลงเมื่อได้ยินเสียงดังเข้ามาในหัวของเขา
-เจ้ากำลังจะเสียสละตัวเองเพื่อปกป้องพวกเขางั้นรึ?-
มันเป็นเสียงของเจ้าของ‘พลังแห่งศิลา’
‘ทำไมจู่ๆเขาถึงพูดขึ้นมา?’
ตั้งแต่ที่เขาได้ครอบครองพลังแห่งปฐพี เขาก็ไม่ได้ให้ความสนใจกับมันมากนักเป็นเพราะเขาไม่ต้องการมันตั้งแต่แรกและไม่ต้องการใช้พลังของมันด้วย ในขณะที่จิตใจของเขาเริ่มสับสนก็มีคนคว้ามือเขาเอาไว้
“ท่านคาร์ล!”
คาร์ลเอ่ยถามเชวฮันด้วยเสียงเรียบเย็นที่จู่ๆก็ถูกขัดจังหวะจากการคิดเรื่องพลังแห่งศิลาอยู่
“มีอะไร?”
“เอ่อ..นั่น–”
เชวฮันชี้ไปยังทิศตรงข้ามด้วยความสับสน สายตาของคาร์ลมองตามนิ้วของเชวฮันไปยังทิศนั้นในขณะที่เชวฮันยังคงเอ่ยรายงานต่อ
“จู่ๆ..ราอนก็ทำตัวแปลกๆขอรับ”
คาร์ลปัดเรื่องพลังแห่งศิลาออกไปเมื่อกลับมาคิดเรื่องของราอนแทน ราอนไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียวเมื่อเขากำลังจะขยับตัวเข้าใกล้เปลวเพลิง ปกติราอนจะต้องบ่นออกมาเพื่อไม่ให้เขาเข้าไปใกล้แต่นี่ราอนกลับเงียบไปเฉยๆเมื่อพวกเขาพากันมาถึงชั้นหนึ่ง
“…อะไรน่ะ?”
เสียงที่เปี่ยมไปด้วยความสับสนหลุดออกมาจากปากคาร์ล
ฟุดฟิด!!ฟุดฟิด!!ฟุดฟิด!!
ราอนฝังหน้าของมันไปตามพื้นห้องในขณะที่จมูกของมันก็สูดกลิ่นไปด้วย
คาร์ลจ้องไปที่ราอนพร้อมกับสงสัยว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น? ราอนหันหน้ากลับมาก่อนจะสบตาเข้ากับคาร์ลทันที
มังกรดำใช้อุ้งมือของมันทุบไปที่พื้นเบาๆ
“ข้าได้กลิ่น!..ข้าได้กลิ่นของมัน!”
‘กลิ่นอะไร?’
“เป็นกลิ่นเดียวกับที่อยู่หนองน้ำสีดำนั่น”
‘หนองน้ำสีดำ?’
คาร์ลสงสัยในสิ่งที่ราอนพูดก่อนจะนึกคำตอบได้ในเวลาต่อมา
หนองน้ำสีดำคือสถานที่ที่เขาพบกับโครงกระดูกมังกรและรังสีเหนืออำนาจ นอกจากนี้มันยังเป็นแหล่งที่ตั้งที่องค์กรลับมอบพลังเวทย์ที่ตายไปแล้วให้กับเผ่าเงือก
ราอนจ้องมาที่คาร์ลและเริ่มพูดอีกครั้ง
“ข้าได้กลิ่นพลังเวทย์ที่ตายไปแล้วของมังกรตนนั้น!”
คาร์ลเริ่มยิ้ม
นักบวชและนักดาบหญิงได้กล่าวไว้ว่าระเบิดพลังเวทย์แห่งความตายอยู่ในสภาพของเหลว เขาเคยนึกสงสัยเช่นกันว่าจักรวรรดิได้มันมาจากไหน?แต่ดูเหมือนพลังเวทย์ที่ตายไปแล้วจากหนองน้ำสีดำนั่นจะถูกมอบให้กับจักรวรรดิด้วยเช่นกัน
คาร์ลเอ่ยขึ้นกับทุกคน
“ถ้าเช่นนั้น..เราควรไปยังชั้นใต้ดินได้แล้วล่ะ”
มีบางอย่างที่คาร์ลต้องหาให้พบในชั้นใต้ดินของปราสาทแห่งนี้