Trash of the Count’s family - ตอนที่ 136.1
บทที่ 136 ด้วยกัน 4 (1)
ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!
เสียงฝีเท้าที่วิ่งกรูลงบันไดดังก้องไปทั่วบริเวณแต่ก็ไม่สามารถกลบเสียงกรีดร้องของฮันนาห์ได้เลย เสียงร้องของเธอราวกลับจะหมดลมหายใจได้ทุกเมื่อ
“บิน..เจ้าไม่ได้บอกข้าหรอกรึ?..ว่าอาการของนางเพิ่งเข้าสู่ระยะแรกเท่านั้น”
บินตอบคำถามคาร์ลอย่างรวดเร็ว
“ขอรับ..เมื่อคืนนี้เราเพิ่งได้รับรายงานว่าอาการของนางเพิ่งเข้าสู่ระยะแรก”
ทั้งคาร์ลและลิทาน่าได้ทิ้งยาคุณภาพสูงให้กับฮันนาห์ไว้เป็นจำนวนมากเพื่อประคองอาการของเธอให้อยู่ในระยะแรกให้นานที่สุด คาร์ลได้ยินเสียงของทาช่าดังมาจากด้านหลัง
“อาการของนางกำลังเข้าสู่ระยะกลางแต่มันก็ยังไม่ถึงระยะนั้นโดยสมบูรณ์…อย่างไรก็ตามมันยังอันตรายอยู่ดี”
น้ำเสียงของทาช่าเต็มไปด้วยความร้อนใจ
ขณะที่คาร์ลกำลังวิ่งลงบันไดเขาก็นึกถึงสิ่งที่คุยกับแมรี่ไปด้วย พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อครั้งที่อยู่บนเรือ
‘เจ้าบอกว่า..มีวิธีรักษานางใช่มั้ย?’
‘ใช่..หากนางเป็นนักดาบมันก็พอมีวิธี’
‘…แมรี่..ข้าไม่อยากให้นางตาย’
‘ข้ารู้นายน้อยคาร์ล..ข้าจะทำให้นางหายเป็นปกติให้ได้’
น้ำเสียงของแมรี่เต็มไปด้วยความมั่นใจ
แม้ว่าแมรี่จะดูเหมือนคนหัวช้าจนดูโง่ไปสักหน่อยแต่คาร์ลเชื่อมั่นว่าเธอจะต้องหมายความตามที่เธอพูดจริงๆ
ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!ตึง!
พวกเขามองเห็นประตูที่อยู่ด้านล่างของบันไดซึ่งมันถูกเปิดค้างเอาไว้ นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียงกรีดร้องลอดออกจากห้องจนดังคับไปทั่วพื้นที่
มีข้ารับใช้ยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าห้องอย่างไม่รู้ว่าต้องทำอะไรดี เขาควรจะปิดหรือเปิดประตูเอาไว้ดีนะ?
“เกิดอะไรขึ้น?”
“อ๊ะ!..ท่านบิน”
สีหน้าของข้ารับใช้ดูสดใสขึ้นทันทีหลังจากได้เห็นบินยืนอยู่ตรงหน้า คาร์ลและบินรีบเดินผ่านประตูเข้าไปทันที พวกเขามองเห็นโถงทางเดินและห้องนอนเล็กๆผ่านโถงทางเดินเข้าไป
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!!!!!”
เสียงกรีดร้องดังมาจากห้องนั้น ในขณะที่ข้ารับใช้ก็รีบรายงานบินให้ทราบทันที
“แขกเริ่มมีอาการชักเมื่อประมาณ2ชั่วโมงที่แล้ว..ตอนนี้นักรบคุ้มกันอยู่ในห้องเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ขอรับ..ตอนนี้กระผมไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะรายงานเรื่องนี้ให้ใครทราบดีขอรับ”
แขกที่ข้ารับใช้เอ่ยถึงย่อมเป็นฮันนาห์อย่างไม่ต้องสงสัย เสียงตะโกนของทาช่าดังขึ้น
“…นางชักมาเกือบสองชั่วโมงแล้วงั้นรึ?…ความอดทนของนางช่างน่าทึ่งยิ่งนัก”
คาร์ลพยายามหันไปมองทาช่าแต่สายตากลับสบเข้ากับร่างในชุดคลุมสีดำ
“นางรอต่อไปไม่ได้แล้ว..เราต้องรีบแล้ว!”
คาร์ลไม่ได้ตอบอะไรแต่หันไปมองฝั่งประตูแทน บินและข้ารับใช้กำลังพูดคุยกันตรงประตูห้องนอน
“อาการชักรุนแรงมาก..จนเราไม่สามารถรับมือมันได้ขอรับ..เรา—-”
“พวกเจ้าออกมาก่อน”
“….อะไรนะ?”
มีคนเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงกลางระหว่างบินและข้ารับใช้
ข้ารับใช้หันไปมองด้วยความประหลาดใจ มีชายหนุ่มผู้หนึ่งปล่อยออร่าบางอย่างออกมากดดันเขาแน่นอนว่าชายหนุ่มผู้นี้คือคาร์ล
“นายน้อยคาร์ล”
บินเอ่ยเรียกคาร์ลและพยายามเดินไปดักหน้าคาร์ลเอาไว้ อย่างไรก็ตามร่างกายของเขากลับแข็งไปครู่หนึ่งเมื่อสบตาเข้ากับคาร์ล ซึ่งจังหวะนั้นคาร์ลก็ผลักประตูห้องนอนเข้าไปทันที
แอ๊ดดดดดด!!!! ปั้ง!
ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับส่งเสียงดังออกมา คาร์ลเดินนำหน้าเข้าไปข้างในโดยมีแมรี่,ทาช่า.มังกรทั้งสองตนและรอนเดินตามหลังเขาไปติดๆ
บินสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะออกคำสั่งแก่ข้ารับใช้ทันที
“แจ้งให้ราชินีทราบว่าแขกคนสำคัญมาถึงแล้ว”
“อ๊ะ!.ขอ..ขอรับ!”
บินอยู่คอยจนมั่นใจว่าข้ารับใช้ออกไปรายงานตามสิ่งที่ตนสั่งจึงวิ่งตามหลังคาร์ลเข้าไปอย่างเร่งรีบหลังจากเห็นว่าคาร์ลเข้าไปในห้องนั้นเรียบร้อยแล้ว
คาร์ลหยุดยืนบนพื้นพรมด้านหลังประตูห้อง ภายในห้องมีแสงสว่างเพียงพอที่จะเห็นสภาพด้านในได้ง่าย รอนซึ่งยืนอยู่ด้านหลังคาร์ลชะโงกหน้าออกไปมองสภาพห้องและเริ่มขมวดคิ้วมุ่น
‘…มันแย่ยิ่งนัก’
มันเป็นภาพที่แม้แต่รอนซึ่งเห็นความตายมานักต่อนักยังรับไม่ไหว
“อึ่ก!…อ๊ากกกกกกก!”
พวกเขาทั้งหมดมองเห็นร่างของฮันนาห์บิดงอด้วยความเจ็บปวดบนเตียงนอนกลางห้อง หากจะบอกว่าเป็นร่างของเธอก็อธิบายได้ยากเพราะสิ่งที่อยู่บนเตียงแทบจะไม่เหลือเค้าโครงร่างของเธอด้วยซ้ำ
“อ๊ากกกกกกกกก!!!!”
เส้นเลือดดำผุดขึ้นทั่วร่างกายของเธอ มันพร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะเป็นจมูก ตา หูและส่วนอื่นๆบนใบหน้าเธอต่างมีเลือดไหลโชกออกมา
นอกจากนี้ยังมีควันดำลอยออกจากร่างของเธออีกด้วย
“อึ่ก!…อ๊ากกกกก!”
เธอกรีดร้องด้วยเสียงแหบแห้ง ดูเหมือนเธอจะไม่สามารถร้องได้อีกสักพักเพราะริมฝีปากที่ถูกกัดแน่นเริ่มมีเลือดไหลอออกมาและดวงตาทั้งสองข้างก็แดงก่ำอย่างน่ากลัว
“ฮันนาห์!..ฮันนาห์!..ได้โปรด!..พระเจ้าช่วยลูกด้วย!..ช่วยฮันนาห์ด้วย!ฮืออออออๆๆๆๆๆๆ”
นักบวชนั่งลนลานและร้องไห้อยู่ปลายเตียง เขาไม่สามารถแม้แต่จะสวดมนต์อ้อนวอนใดๆได้เลยเพราะกังวลว่าการสวดอ้อนวอนต่อพระเจ้าแห่งแสงตะวันจะเป็นอันตรายต่อตัวฮันนาห์ที่ถูกพิษจากพลังเวทย์แห่งความตาย
“ได้โปรด..ฮันนาห์เจ้าแข็งใจอีกนิดนะ!..ได้โปรด!!”
นักบวชร้องขอฮันนาห์ในขณะที่สายตาก็ไม่เคลื่อนไปจากร่างของเธอ พวกเขาบอกว่ามีวิธีที่จะช่วยชีวิตเธอถ้าเธออดทนได้นานขึ้นอีกหน่อย ขวดยาคุณภาพสูงที่ถูกใช้งานไปจนหมดหมุนกลิ้งอยู่บนพื้น
ฮันนาห์เริ่มชักมาได้เกือบสองชั่วโมงแล้วแม้แต่ยาคุณภาพสูงพวกนี้ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้
“ฮึกๆๆๆ…ฮืออออออ!!!”
นักบวชร้องไห้สะอึกสะอื้นจนดวงตาแดงระเรื่อ เขารู้สึกว่าตัวเองจะเป็นบ้าไปแล้ว
‘ข้าอยากชำระกายของฮันนาห์ให้สะอาด’
การเห็นร่างของฮันนาห์มีควันสีดำลอยออกมาอย่างต่อเนื่องทำให้ความคิดระหว่างการเป็นพี่ชายและนักบวชตบตีกันอยู่ตลอดเวลา ในฐานะนักบวชเขาต้องการชำระล้างน้องสาวของเขาด้วยพลังการรักษาเพื่อกำจัดเวทย์แห่งความตายออกไปและเพื่อช่วยน้องสาวของเขาให้พ้นจากความโหดร้ายของโลกใบนี้
แต่การทำเช่นนั้นหมายความว่าเขาจะเป็นคนฆ่าน้องสาวด้วยฝีมือตัวเอง นั่นเป็นสาเหตุที่เขาทำได้เพียงพนมมือสวดมนต์อ้อนวอนร้องขอชีวิตฮันนาห์ด้วยน้ำตานองหน้า
“ฮันนาห์อดทนอีกนิด!..เจ้าต้องทำได้!”
“เดี๋ยวนางก็ดีขึ้น”
แปะ!
มีมือข้างหนึ่งวางบนไหล่ของนักบวช เขารู้สึกถึงน้ำหนักมือที่วางอยู่บนไหล่ เขาคิดว่าน้องสาวของตนกำลังจ้องมาที่เขาอยู่แต่เธอกลับมองผ่านไหล่ของเขาไป นักบวชค่อยๆหันหลังกลับไปมองเมื่อได้ยินเสียงอันคุ้นเคย
เสียงที่ดังเมื่อครู่คือเสียงของคาร์ล เฮนิตัส
คาร์ลมองร่างของฮันนาห์เมื่อยังเอ่ยต่อไป
“เจ้าทำงานหนักมากจริงๆ..ทนอีกสักหน่อยเดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้นเอง”
นักบวชถอนหายใจด้วยความโล่งอก อย่างไรก็ตามมีแรงกดดันบางอย่างทำให้ใจของเขารู้สึกอึดอัด ทันใดนั้นเขาก็หันขวับไปมองตรงประตูห้อง
มีคนสวมเสื้อคลุมสีดำสนิทและผู้หญิงอีกคนยืนอยู่ตรงนั้น
มือของเขาเริ่มสั่นจนคุมไม่อยู่เมื่อเห็นคนทั้งสอง
‘..หนึ่งคือมนุษย์ที่ใช้เวทย์แห่งความตายและอีกหนึ่งคือดาร์กเอลฟ์’
สำหรับคนที่โตมาในวิหารพระเจ้าแห่งแสงตะวันในฐานะนักบวช พวกเขาทั้งคู่คือศัตรูตัวฉกาจของเขา แม้ว่าเขาจะเป็นนักบวชที่มีเพียงพลังการรักษาแต่จิตใจของเขาก็ไม่สามารถเอาชนะสัญชาตญาณที่มีได้
‘…ต้องกำจัดพวกเขา..ต้องชำระล้างพวกเขา’
พลังอันศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับมอบจากพระเจ้าแห่งแสงตะวันเริ่มโอบล้อมร่างกายของเขา ดวงตาของนักบวชเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำด้วยสัญชาตญาณ
ตอนนั้นเอง
ปึก!
มือบนไหล่ของเขาออกแรงบีบลงมา นักบวชหันไปมองคนที่บีบไหล่ของตน มันเป็นน้ำหนักมือที่แรงมากจนเขาเผลอครางออกมาด้วยความเจ็บปวด
เขาสบตาเข้ากับคาร์ล
คาร์ลเริ่มพูด
“พวกนางอาสามาช่วยน้องสาวของเจ้าโดยที่รู้ว่ามีอันตรายรอพวกนางอยู่”
นักบวชได้ยินเสียงเด็ดขาดออกจากปากคาร์ล
“เจ้าไม่ให้พวกนางช่วยชีวิตฮันนาห์งั้นหรือ?..เจ้าไม่อยากให้พวกนางช่วยน้องสาวของเจ้าสินะ?”
นักบวชกัดริมฝีปากของตนแน่นขึ้นก่อนจะลุกขึ้นยืนช้าๆ เขาขยับถอยไปด้านหลัง ร่างของเขาสั่นแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อขยับออกไปโดยสายตาพยายามถอยห่างจากร่างของแมรี่และทาช่า
“ข้าสามารถจัดการมันได้!”