Trash of the Count’s family - ตอนที่ 135-2
บทที่ 135 ด้วยกัน 3 (2)
“ที่ดินแถบนี้เป็นของท่านอย่างนั้นหรือ?นายน้อยคาร์ล”
“ใช่”
ทาช่าในร่างมนุษย์อ้าปากค้างกับสิ่งที่เห็นเมื่อพวกเขาก้าวเข้าสู่ชายฝั่งส่วนที่หนึ่ง ทาช่ายังคงจ้องไปรอบๆด้วยสายตาว่างเปล่าคล้ายคนสติหลุดก่อนจะก้าวลงจากเรือช้าๆ
ครั้งนี้พวกเขาเดินทางมายังป่าโดยเรือ
แม้พวกเขาจะมีมังกรถึงสองตนในกลุ่มแต่ก็เลือกที่จะไม่บินมายังที่นี่เพราะต้องการให้มังกรทั้งสองซ่อนตัวเอาไว้และไม่ให้มันกลายเป็นจุดเด่นเกินไป
คาร์ลสั่งให้ทาช่าและแมรี่อำพรางกายด้วยเช่นกัน พวกเขาทั้งคู่จะเปิดเผยตัวตนหากอยู่สถานการณ์ที่จำเป็นเท่านั้น
“นายน้อยคาร์ล”
คาร์ลหันไปมองคนที่เอ่ยทักเขาทันทีก่อนจะส่งยิ้มให้อย่างอึดอัด
ราชินีลิทาน่าส่งสัตว์คู่กายและมือขวาของเธอมาต้อนรับเขาในวันนี้ บินคือคนที่ลิทาน่าไว้ใจมากที่สุด เขาโค้งศีรษะให้คาร์ลอย่างเคารพ
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะขอรับ”
คาร์ลพยักหน้าตอบรับคำทักทายจากบินและหันไปมองด้านข้าง
กรรจ์!กรรจ์!
เสือดำตัวใหญ่แยกเขี้ยวออกมาทันทีราวกับตั้งใจส่งยิ้มมาให้คาร์ล
‘ให้ตายเถอะ!’
‘เท็น’เสือดำตัวใหญ่ซึ่งเป็นสัตว์คู่กายของลิทาน่าแยกเขี้ยวทักทายเขาอย่างยินดี คาร์ลไม่รู้ว่าลิทาน่าให้เกียรติเขาเกินไปหรือเปล่า?แต่เขาไม่ต้องการที่จะขี่เสือดำอีกครั้ง
~มนุษย์ข้าอยากลองขี่เขาจังเลย!..แต่คงทำไม่ได้สินะเพราะข้าต้องซ่อนตัวเช่นนี้?~
คาร์ลไม่สนใจกับคำถามของราอนและหันไปถามบินแทน
“..ดูเหมือนเจ้าจะนำรถม้ามาด้วย?..พวกข้าสามารถใช้มันได้ใช่มั้ย?”
“ขอรับ..เรานำรถม้ามาด้วย”
“อืม..ถ้าเช่นนั้นข้าจะนั่งรถ—-”
กรรจ์!!! ฮึ่มมมม!!!
เท็นขยับเข้ามาใกล้คาร์ลก่อนจะใช้ศีรษะของมันคลอเคลียไปที่เท้าของคาร์ลทันที
“ดูเหมือนเท็นจะคิดถึงนายน้อยคาร์ลมากเลยนะขอรับ?..ราชินีของเรากล่าวว่าหากเป็นนายน้อยคาร์ล..คงเป็นการดีกว่าหากให้เท็นเป็นคนพาท่านไป”
“…อ่า…ข้าเข้าใจแล้ว”
ในที่สุดกลุ่มของคาร์ลก็แบ่งไปนั่งทั้งรถม้าและขี่ม้าในขณะที่คาร์ลก็ค่อยๆขึ้นไปนั่งบนหลังของเท็น
ฮึ่มมมม!!!!!
ท่าทางของเท็นดูมีความสุขมากเมื่อมันส่งเสียงคำรามผ่านลำคอออกมา คาร์ลยืดหลังตรงและใช้มือเกาะไปที่ร่างของมันกันตกจากนั้นก็เอ่ยถามบินออกมา
“ข้าต้องไปพบพวกเขาที่ใดงั้นรึ?”
บินไม่จำเป็นต้องถามให้มากความว่าพวกเขาที่คาร์ลถามถึงคือใคร แน่นอนว่าคาร์ลต้องหมายถึงนักบวชและหญิงศักดิ์สิทธิ์พี่น้องฝาแฝดคู่นั้น
“พวกเขาพักอยู่ในส่วนที่เจ็ดขอรับ”
ภูมิภาคของป่าแบ่งออกเป็น15ส่วน โดยส่วนที่7ตั้งอยู่ใจกลางป่า มันมีทะเลสาบขนาดใหญ่ไหลผ่านบริเวณนั้น นอกจากนี้วังของเหล่าเชื้อพระวงศ์ก็ตั้งอยู่ในส่วนที่7มาหลายชั่วอายุคนเช่นกัน
คาร์ลหันไปมองบินและเอ่ยติดตลกขึ้น
“ดูเหมือนมันจะเป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุดเลยใช่มั้ย?”
“ประมาณนั้นขอรับ”
ราชินีลิทาน่าดูแลพี่น้องคู่แฝดเป็นอย่างดีก่อนที่คาร์ลจะกระตุ้นให้บินออกเดินทาง
“รีบเดินทางกันเถอะ”
“ขอรับ”
ม้าที่บังคับโดยบินเคลื่อนไปข้างหน้าพร้อมกับเท็นที่เริ่มออกตัวตามหลังบินไปติดๆ คาร์ลพลิกตัวด้วยความเร็วและยึดร่างของเท็นไว้แน่น
แม้ว่าพวกเขาจะเร่งเดินทางมากเพียงใดมันก็ใช้เวลาถึง3วัน กว่าที่พวกเขาจะเข้าสู่พื้นที่ป่าส่วนที่7ได้ คาร์ลไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนไว้ได้เมื่อเผลออ้าปากค้างให้กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
‘ฉันไม่รู้ว่าจะเรียกที่นี่ว่าเมืองได้มั้ย?..แต่ว่ามันก็เพียงพอที่จะเรียกว่าเมืองแห่งป่าได้..มันตระการตาจริงๆ’
อาคารต่างๆถูกสร้างให้เชื่อมต่อกับต้นไม้แต่มันก็ดูแข็งแรงและสวยงามเทียบเท่ากับอาคารของอาณาจักรอื่นๆได้
“ท่านคิดว่าที่นี่เป็นอย่างไรบ้างขอรับ?”
บินพาพวกเขาตัดผ่านถนนเส้นหนึ่งและหันมาถามความคิดเห็นของคาร์ล คาร์ลกวาดสายตาไปมองสัตว์และผู้คนที่กำลังปีนขึ้นลงต้นไม้ใหญ่แล้วหันไปมองอาคารที่อยู่โดยรอบ เขาวิจารณ์สิ่งเหล่านี้ด้วยความซื่อสัตย์
“มันดูดียิ่งนัก..มันมีเสน่ห์มากทีเดียว”
“ท่านพูดถูก..มันดูดียิ่งนัก”
ท่าทางของบินบ่งบอกให้รู้ว่าเขาภูมิใจกับเมืองแห่งนี้มากเพียงใด จากนั้นเขาก็ชี้ไปยังศูนย์กลางของพื้นที่ป่าส่วนที่ 7 ซึ่งรายล้อมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่
“ท่านอาจมองไม่เห็นมันในตอนนี้เพราะต้นไม้ที่บดบังเอาไว้..แต่นั่นคือพระราชวังขอรับ?”
“ข้าจะได้พบกับราชินีของเจ้า..เมื่อตอนรับประทานอาหารค่ำอย่างนั้นหรือ?”
“ขอรับ..แต่ก่อนหน้านั้นท่านจะต้อง..เอ่อ–”
คาร์ลเข้าใจดีว่าบินพยายามจะสื่อถึงอะไร
“ข้าสามารถไปพบพวกเขาได้ทันทีที่เดินทางไปถึงสินะ?”
“ขอรับ”
บินนำคาร์ลและคนอื่นในกลุ่มเข้าไปยังศูนย์กลางของพื้นที่ป่าส่วนที่ 7 ทันที หลังจากนั้นไม่นานพระราชวังก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าพวกเขา
“ว้าว…นายน้อยขอรับ..มันงดงามยิ่งนัก”
รอนบังคับม้าให้ขึ้นมาเทียบข้างคาร์ลก่อนจะแบ่งปันความเห็นของตนให้คาร์ลฟังซึ่งคาร์ลก็เห็นด้วยกับคำที่รอนเลือกใช้
‘ธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของวังและวังก็เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ..มันหมายความแบบนี้สินะ?’
พระราชวังสร้างขึ้นบนต้นไม้ซึ่งคาดว่าจะมีอายุหลายร้อยปี วังขนาดใหญ่ดูเหมือนภูเขายักษ์ท่ามกลางต้นไม้เหล่านี้
~มนุษย์!..บ้านแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ..เราควรจะทำแบบนี้ดูดีมั้ย?~
คาร์ลไม่สนใจเรื่องไร้สาระของราอนและหันไปมองบิน
“โปรดตามกระผมมาขอรับ”
บินนำทางพวกคาร์ลเขาไปในตัวพระราชวังทันที นักรบที่ยืนเฝ้าหน้าพระราชวังโค้งศีรษะให้บินและขยับเปิดทางทันทีที่เห็นเขา กลุ่มของคาร์ลก็สามารถเข้าไปในพระราชวังโดยไม่มีปัญหาใดๆ
“ใช้เวลาถึง200ปีในการสร้างพระราชวังขึ้นมาโดยไม่ทำลายธรรมชาติที่อยู่โดยรอบ..นั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ที่นี่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร”
คาร์ลฟังสิ่งที่บินอธิบายในขณะที่มุ่งหน้าไปยังด้านหลังของพระราชวัง เขาเห็นต้นไม้ใหญ่สองต้นอยู่ตรงหน้าของพวกเขา ต้นไม้ทั้งสองต้นดูเหมือนจะมีอายุหลายร้อยปีและเติบโตขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งพวกมันรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน มีตำหนักเล็กๆหลังหนึ่งถูกสร้างขึ้นภายใต้ต้นไม้ที่พันเกี่ยวกันเป็นหนึ่งเดียว
คาร์ลเข้าใจได้ทันทีว่าพวกเขามาถึงแล้วเมื่อบินหยุดม้าลง
“อยู่ในตำหนักหลังนี้อย่างนั้นหรือ?”
“ขอรับ..ไปกันเถอะ”
บินเดินนำเข้าไปในตำหนักหลังเล็กหลังจากได้ยินความคิดเห็นของคาร์ล นักรบที่เฝ้าหน้าตำหนักหลังนี้ดูเหมือนจะเป็นนักรบที่แข็งแกร่งกว่าจุดอื่นๆในพระราชวังขนาดใหญ่แห่งนี้
พวกเขาเปิดประตูตามคำสั่งของบินทันที
“คนอื่นๆจะเข้าไปกับท่านด้วยหรือไม่?”
“ใช่”
คาร์ลก้าวตามบินเข้าไปในตำหนักหลังนี้ทันทีเมื่อเห็นทุกคนลงจากรถม้าและยืนอยู่ด้านหลังเขาเรียบร้อยแล้ว ตำหนักแห่งนี้มีเพียงห้องโถงเดียวที่ได้รับการคุ้มครองจากนักรบจำนวนหลายสิบคน ลิทาน่าดูเหมือนจะสนใจกับความปลอดภัยของพี่น้องฝาแฝดคู่นี้เป็นอย่างมาก
กลางห้องโถงมีประตูนำทางลงไปยังชั้นใต้ดินตั้งอยู่
เอี๊ยดดดด!!!!
บินเปิดประตูออกกว้าง
เส้นทางที่ทอดยาวลงไปชั้นใต้ดินนั้นดูสะอาดตาและมีแสงสว่างส่องนำทางไม่ให้มืดจนเกินไป
“พวกเขาอยู่ที่นี่ขอรับ”
คาร์ลพยักหน้าตอบรับและเดินตามบินเข้าไปด้านใน
ตึกตึก!!ตึกตึก!!ตึกตึก!!ตึกตึก!!ตึกตึก!!
คาร์ลได้ยินเสียงฝีเท้าของพวกเขาซึ่งกำลังเดินลงบันไดหินก้องไปทั่วบริเวณ เมื่อเดินลงมาเรื่อยๆก็พบว่ามันค่อนข้างไกล
“ชั้นใต้ดินเป็นใจกลางของตำหนักหลังนี้หรือไม่?”
“ขอรับ..เราขุดพื้นที่ขนาดใหญ่บริเวณใต้ดินเพื่อไม่ให้มันทำร้ายต้นไม้สองต้นนี้..มีเพียงข้ารับใช้หนึ่งคน..นักรบระดับสูงหนึ่งคนและแขกสองคนเท่านั้นที่พักอยู่ที่นี่..กระผมถูกส่งให้มาประจำที่นี่ก่อนจะเดินทางไปรับพวกท่านขอรับ”
แน่นอนว่ามันปลอดภัย
“ข้ารู้สึกว่าเราต้องเดินลงไปอีกสักพักใหญ่เลยใช่มั้ย?..มันอยู่ไกลมากหรือเปล่า?”
“เราเกือบจะถึง—–”
มีบางอย่างเกิดขึ้นก่อนที่บินจะพูดจบ
พวกเขาได้ยินบางอย่างดังมาจากสุดทางเดิน
“อึ่ก…อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!”
มันเป็นเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เสียงกรีดร้องของผู้หญิงดูเหมือนใกล้จะตายในอีกไม่ช้า พวกเขาทั้งหมดชะงักฝีเท้าลงทันที
แปะ!แปะ!แปะ!
มีคนแตะมาที่ไหล่ของคาร์ลเบาๆก่อนที่เขาจะหันกลับไปมองทันที เขาเห็นปลายแขนเสื้อคลุมสีดำของแมรี่วางอยู่บนไหล่ของเขาก่อนจะได้ยินเสียงของเธอลอดเข้าหูเขาทันที
“มันกำลังจะครอบงำร่างของนาง”
“เจ้าว่าอะไรนะ?”
“มันอันตราย…มันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า…พลังเวทย์ที่ตายไปแล้วกำลังเข้าสู่ระยะกลาง..มันเจ็บปวดยิ่งนัก”
“ฮึ่กกก!!!..อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!!!!!!!!!”
เสียงกรีดร้องยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่แมรี่ก็รีบพูดต่ออย่างรวดเร็ว
“ดูเหมือนนางกำลังจะถึงขีดจำกัด..ของร่างกายแล้ว”
ร่างของนักดาบหญิงฮันนาห์ถึงขีดจำกัดแล้ว
คาร์ลไม่ได้ตอบอะไรแมรี่และหันไปสั่งบินแทน
“รีบไปกันเถอะ”