The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - ตอนที่ 162
บทที่ 162 ออกจากเจียวโจว
“ใช่!”
เซียวหยูซวนพยักหน้าและกล่าวว่า “เมื่อหกเดือนที่แล้ว จู่ๆพ่อก็โทรหาฉันแล้วบอกว่าตอนนี้บริษัทของเขามีปัญหาอย่างหนัก เหมือนมีคนตั้งใจทําให้เกิดปัญหาไม่ว่าจะเป็นแหล่งสินค้าหรือช่องทางการขายจู่ๆพวกเขาก็ตัดความสัมพันธ์กับบริษัทของพ่อฉัน แม้กระทั่งคนในบริษัทก็หักหลังมีคนนําข้อมูลจากภายในไปขายแก่คนนอกจนทําให้โปรเจกต์ของพ่อฉันต้องล้มพ่อจึงขอร้องให้ฉันกลับไปช่วยงานที่บริษัททันที เพราะเป็นสถานการณ์ที่เร่งด่วนบวกกับความกังวลของฉันจนทําให้ฉันไม่มีเวลาได้บอกกล่าวอะไรเธอก่อนที่จะจากไป”
เมื่อพูดถึงตรงนี้เซียวหยูซวนก็ขมวดคิ้ว เธอส่ายหัวและถอนหายใจ “ตอนแรกฉันกับพ่อก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นได้ยังไงเพราะปกติแล้วทัศนคติในการทําธุรกิจของพ่อฉันเขาเป็นคนประนีประนอมและใจกว้างเขายึดมั่นในความยุติธรรมและไม่ชอบทําให้ผู้อื่นเกิดความขุ่นเคืองมันจึงทําให้พ่อฉันมีศัตรูทางธุรกิจน้อยมากจนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อสามเดือนที่แล้วจู่ๆหลี่เว่ยตงก็มาที่บ้านของฉันเพื่อมาหาพ่อของฉัน และวันนั้นเองฉันกับพ่อก็ได้รู้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้เกิดจากเขา”คําพูดของเซียวหยูซวนเต็มไปด้วยความเกลียดชัง“เขาสั่งให้ บริษัทอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับบริษัทของพ่อฉันรวมถึงบริษัทและธนาคารที่พ่อของฉันมีหุ้นส่วนต่างหันมาบีบบังคับและโจมตีพ่อของฉัน แม้พวกเราต่อสู้กันจนถึงที่สุดแต่สุดท้ายพวกเราก็เหนื่อยและพ่ายแพ้
“ขอโทษนะ” จี้เฟิงพูดขึ้น “หลี่เว่ยตงที่คุณพูดถึงนี่เขาเป็นใครเหรอ?”
จี้เฟิงจับในประเด็นสําคัญได้ดีมาก เห็นได้ชัดว่าต้นเหตุหลักๆของเรื่องนี้คือหลี่เว่ยตง มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆที่คนคนหนึ่งจะสามารถสั่งการให้บริษัทอื่นๆรวมถึงบริษัทและธนาคารที่ตระกูลเซียวมีหุ้นส่วนหันมาโจมตีตระกูลเซียวได้เขาจะต้องเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลมากคนหนึ่งหากบุคคลนี้ยังไม่ใช่ประเด็นสําคัญแล้วจะมีอะไรอย่างอื่นที่เป็นสาเหตุในเรื่องนี้ได้อีก?
เซียวหยูซวนกล่าวว่า “หลี่เว่ยตงเขาเป็นลูกชายคนเล็กของนายกเทศมนตรีแห่งเจียงโจว”
“พูดเป็นเล่น!” จี้เฟิงตกตะลึง ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทําไมเขาถึงสามารถสั่งการให้บริษัทอื่นๆทําตามความต้องการได้เป็นเพราะเขาเป็นลูกของคนมีอิทธิพลนี่เอง“แต่ทําไมหลี่เว่ยตงถึงต้องการจัดการกับบริษัทของตระกูลคุณตระกูลของคุณมีปัญหากับเขางั้นหรือ?”
“ไม่ใช่เหตุผลนั้นแน่นอน!” เซียวหยูซวนกล่าวว่า“ฉันเพิ่งจะบอกเธอว่าพ่อของฉันไม่ชอบมีปัญหากับคนอื่นเขาทําธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเสมอมาแล้วเขาจะทําให้ลูกชายของนายกเทศมนตรีขุนเคืองได้ยังไง?”
“ถ้าอย่างนั้นแล้วทําไมหลเว่ยตงถึงได้ทําแบบนั้น?” จี้เฟิงถามอย่างไม่เข้าใจ
“เพราะฉันไงล่ะ!” เซียวหยูซวนกล่าวด้วยความโกรธ“หลี่เว่ยตงก็เป็นคนหนึ่งที่อยากจะครอบครองฉัน!”
“เข้าใจล่ะ!” นี่สินะที่เขากล่าวกันว่าความงามเป็นหอกแหลมคมฮ่าฮ่า!”
“เธอยังหัวเราะอีกเหรอ!” ทันใดนั้นเซียวหยูซวนก็ดเสียงดังและจ้องมองจี้เฟิงอย่างดุร้าย “ฉันเครียดแทบตายแต่เธอยังหัวเราะอย่างมีความสุขเธอนี่มันน่าโมโหจริงๆ!”
เมื่อจี้เฟิงมองไปที่เซียวหยูซวนที่ตอนนี้โวยวายไม่ต่างกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเขาก็ถึงกับชะงัก
เมื่อเห็นความผิดปกติบางอย่างของจี้เฟิงเซียวหยูซวนก็เหมือนจะรู้ตัวว่าน้ําเสียงของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อยใบหน้าของเธอก็แดงระเรื่อขึ้นมาอีกครั้งทันที“มองอะไร!”
“ฮ่าฮ่าy!”จี้เฟิงหัวเราะทันที
“เธอยังกล้าหัวเราะอีกเหรอ!” หมัดเล็กๆของเซียวหยูชวนทุบไปที่เพิ่งสองสามครั้งอย่างโกรธๆจนกระทั่งจี้เฟิงร้องขอความเมตตาเธอจึงหยุด
“โอเคโอเค!” จี้เฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม “ผมไม่หัวเราะแล้วครับเชิญพี่สาวเล่าต่อได้เลย”
เซียวหยูซวนจ้องเขาอย่างดุๆอีกครั้งก่อนพูดต่อ “สมัยเรียนมหาวิทยาลัยหลีตงเว่ยเป็นคนเจ้าชู้เพลย์บอยจุดประสงค์ที่เขาเข้าหาฉันจึงชัดเจนมาก ข่าวลือร้ายๆในมหาวิทยาลัยจะต้องมีชื่อของเขาอยู่ในนั้นวันหนึ่งฉันได้ปฏิเสธเขาไปตรงๆ และตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่ได้เข้ามายุ่มยามกับฉันอีกเลยแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในครั้งนี้จู่ๆเขาก็มาโจมตีครอบครัวของฉัน”
จี้เฟิงยิ้มและพูดว่า “บางทีเขาอาจจะยังไม่ยอมแพ้เรื่องของคุณ แต่เป็นเพราะตอนเรียนมหาลัยเขาไม่สามารถใช้อิทธิพลอะไรมาบังคับคุณได้ แต่ตอนนี้แตกต่างออกไป เขามีสถานะที่ใหญ่โตและมีอํานาจมากพอที่จะทําให้บริษัทของคุณเกิดปัญหาและใช้เรื่องนี้เพื่อเป็นข้อต่อรองที่จะได้ตัวคุณมาผมพูดถูกหรือเปล่า?”
“ใช่!” เซียวหยูชวนมองจี้เฟิงด้วยความประหลาดใจ เด็กหนุ่มคนนี้เดาแม่นจริงๆ “หลี่เว่ยตงมาที่บ้านของฉันในวันนั้นและพูดตรงๆว่าที่เขาทําทั้งหมดนี้ก็เพราะฉัน และเรื่องนี้จะหมดปัญหาถ้าฉันทําตัวดีๆกับเขาแต่ถ้าฉันยังคงปฏิเสธเขาตระกูลเซียวของเราจะไม่สามารถอยู่ในเจียงโจวได้อีกต่อไป!”
“เหอะๆ โคตรจะบ้าอํานาจเลย!” จี้เฟิงส่ายหัวและยิ้มอย่างเหยียดหยาม แต่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าหลี่เว่ยตงมีอิทธิพลเพียงพอที่จะทําให้เขาเป็นคนบ้าอ่านาจแบบนี้ และถ้าหากเขาต้องการจัดการกับตระกูลเซียวจริงๆ ตระกูลเซียวก็คงไม่มีพลังอํานาจมากพอที่จะต้านทานได้อย่างแน่นอน และพวกเขาก็คงจะอยู่ที่เฉียงโจวไม่ได้จริงๆตามที่หลีเว่ยตงได้พูดไว้
“มันเป็นความหยิ่งผยองและเป็นการกระทําที่เห็นแก่ตัวของหลี่เว่ยตง แต่เขาก็มีเงินและอํานาจมากพอที่จะทําเช่นนั้นได้จริงๆ!” เซียวหยูซวนกล่าวด้วยรอยยิ้มที่ขมขื่น
ทันใดนั้นจ์เฟิงก็นึกอะไรบางอย่างได้และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “อย่างที่คุณพูดมาก็ถูก แต่คุณยังไม่ได้พูดถึงเหอตงเลยผมจําได้ว่าตอนที่เหอตงและลูกน้องสี่คนของเขายืนล้อมคุณเหมือนเขาจะบอกให้คุณไปที่ไหนซักที่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ใบหน้าของเซียวหยูซวนเคร่งขรึมขึ้นทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ “เขาเลวยิ่งกว่าสัตว์”
จี้เฟิงสะดุ้งเมื่อได้ยินเซียวหยูชวนพูดคํานี้ออกมา อะไรทําให้เธอเกลียดเหอตงขนาดนี้?
“เหอตงเป็นตัวการสําคัญที่ทําให้หลี่เว่ยตงจัดการกับตระกูลเซียวของฉันได้อย่างราบรื่น” เซียวหยูซวนกล่าวอย่างโกรธแค้น “เป็นเพราะฉันหลงรักเหอตง ไม่ว่าก่อนหน้านี้พ่อของฉันจะไม่ชอบเขาอย่างไรแต่พ่อก็ไม่เคยดูถูกเขาแถมยังให้เขามาเป็นหัวหน้าแผนกเล็กๆในบริษัทและเพราะเหตุนี้เหอตงได้รับการสนับสนุนจากหลี่เว่ยตงให้มาติดสินบนผู้บริหารของบริษัทเราและสืบหาข้อมูลความลับต่างๆภายในบริษัทต่อมาหลังจากที่ฉันไปหมางซื่อพ่อของฉันก็รู้ว่าฉันอยากจะเลิกกับเหอตง พ่อเลยไล่เขาออกจากบริษัทแต่ตอนนั้นความลับต่างๆของบริษัทอยู่ในมือของเขาแล้วด้วยข้อมูลเหล่านี้จึงทําให้หลี่เว่ยตงรู้ว่าบริษัทของเรามีหุ้นส่วนกับที่ใดบ้างและรู้ทุกอย่างที่สําคัญเกี่ยวกับบริษัท!”
“เลวได้ใจจริงๆ!” จี้เฟิงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมความเลวสุดขั้วของเหอตง ต้องเป็นคนแบบไหนถึงช่วยคนอื่นจัดการตระกูลแฟนตัวเองโดยไม่ต้องคิดงี้เฟิงก็รู้ได้ว่าเขาจะไม่มีวันทําเช่นนั้นเด็ดขาด
“มันมากกว่านั้นอีก!” เซียวหยูชวนยิ้มเยาะ “หลังจากที่ฉันกลับมา หลี่เว่ยตงก็พูดจุดประสงค์ของเขาทันทีแต่ในตอนนั้นพ่อของฉันไม่คิดที่จะเจรจาใดๆทั้งสิ้น เขาถูกพ่อของฉันขับไล่แต่ในตอนนั้นฉันยังไม่รู้ว่าเหอตงมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเขานัดฉันไปทานข้าวข้างนอก.. และเขาทําแม้กระทั่งใส่ยาในไวน์ของฉัน..!” แม้ว่าเหตุการณ์จะผ่านไปหลายเดือนแต่เซียวหยูชวนก็ยังคงสั่นสะท้านด้วยความโกรธเมื่อเธอเล่าถึงเหตุการณ์นี้ “จริงๆแล้วสัตว์นรกเหอตงต้องการมอบฉันเป็นของขวัญให้แก่หลี่เว่ยตงเพื่อที่เขาจะได้บรรลุจุดประสงค์ของเขาหากทําให้หลเว่ยตงพอใจแต่โชคดีที่ฉันรู้ตัวก่อนจึงหลบหนีมาได้ไม่เช่นนั้น…”
ความเกลียดชังฉายออกมาจากดวงตาของเซียวหยูซวนเห็นได้ชัดว่าเหอตงทําร้ายจิตใจของเธออย่างสมบูรณ์ไม่น่าจะพูดได้ว่าเธอยอมแพ้กับความรักในครั้งนี้ ความรักดั้งเดิมกลายเป็นความเกลียดชังที่รุนแรงแต่ความเกลียดชังนี้ไม่ได้มาจากความรัก แต่มันมาหลังจากที่ความรักได้หมดไปแล้วนั่นเป็นเพราะการกระทําเลวๆของเหอตงจึงทําให้เซียวหยูซวนเกลียดชังเหอตงอย่างสมบูรณ์
“เหอตงทําแบบนี้เขาจะได้ประโยชน์อะไร?!” จี้เฟิงถามพร้อมกับขมวดคิ้ว สําหรับการกระทําที่ทรยศต่อบริษัทของตระกูลเซียวจี้เฟิงไม่โกรธ เพราะผลประโยชน์มักจะทําให้คนคลั่งไคล้จนตามืดบอด แต่การที่เขามอบเซียวหยูซวนซึ่งเป็นคนรักของตัวเองให้กับหลี่เว่ยตงมันเป็นการกระทําที่ชั่วช้ยิ่งกว่าสัตว์!
“เขาเก่งมาก เขาทําให้หลี่เว่ยตงมอบตําแหน่งผู้จัดการสาขาแก่เขาได้ นั่นเป็นตําแหน่งที่ร่ํารวยและทําให้หลายคนต้องอิจฉา!” เซียวหยูชวนพูดอย่างประชดประชัน
“โคตรเหี้ย!” จี้เฟิงตะโกนด่า “นอกจากเลวแล้วยังโง่อีก!”
“อย่าหยาบคายสิ!” เซียวหยูชวนมองเขาอย่างอึ้งๆและพูดต่อว่า “ความเกลียดชังที่ฉันมีต่อเหอตงก็ไม่ต่างจากหลี่เว่ยตงเขาใช้วิธีนี้ทําร้ายครอบครัวของฉันเพื่อบังคับให้ฉันเป็นคนรักของเขา!”
“ไอ้เลว!” จี้เฟิงตะโกนอีกครั้ง “เซียวหยูซวน แล้วคุณจะทําอย่างไรต่อไป”
“เฮ้อ.. ฉันจะทําอะไรได้อีก ฉันคุยกับพ่อแล้วล่ะว่าจะจัดการเรื่องการประกาศล้มละลายก่อน แล้วหลังจากนั้นก็ออกจากเจียงโจว” เซียวหยูซวนถอนหายใจเบาๆ“ฉันเพิ่งจะได้งานในสหพันมหาวิทยาลัยแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะต้องลาออกแล้วล่ะ!”
“ทําไมต้องลาออก” จี้เฟิงยิ้มเจ้าเล่ห์ “ผมว่าเราทําตามที่เหอตงบอกอีกว่า ที่เขาอยากจะเห็นคุณปรากฏตัวในงานวันเกิดของหลี่เว่ยตงในอีกสามวันข้างหน้า ผมจะไปกับคุณด้วยแล้วผมจะคอยดูว่าใครที่มันกล้าบังคับคุณผมจะฆ่ามัน!”
จี้เฟิงกัดฟันกรอดและในขณะเดียวกันเขาก็รู้ตัวว่าเซี่ยวหยูซวนได้เข้ามาอยู่ในหัวใจของเขาแล้วเพียงแต่ยังไม่รู้ว่ามาอยู่ในสถานะอะไร..?
“อะไรนะ! เธอจะไปงานวันเกิดของเขาเหรอ จี้เฟิงเธออย่ามายุ่งเรื่องนี้เลย หลี่เว่ยตงเขาไม่ใช่คนที่มีอิทธิพลธรรมดาๆ เขาเป็นลูกชายของนายกเทศมนตรีเขามีอํานาจในเจียงโจวอย่างที่นายไม่คิดไม่ถึงเลยล่ะ”เซียวหยูซวนรู้สึกกระวนกระวายใจ“การออกจากเจียงโจวมันไม่ใช่เรื่องใหญ่สําหรับฉันแต่เธอยังต้องอยู่ในเจียงโจวเพื่อเรียนมหาวิทยาลัยแล้วถ้าเกิดหลี่เว่ยตงไม่พอใจเธอขึ้นมาเธอจะทํายังไง?!”
จู่ๆใบหน้าของเซียวหยูซวนก็เปลี่ยนจากความกังวลเป็นความเขินอายซึ่งเห็นได้ชัดจากแววตาของเธอ
เซียวหยูชวนมองไปที่จี้เฟิงอย่างโกรธๆ เธอกระแอมไอเล็กน้อยก่อนที่จะกล่าวว่า “ที่ฉันเป็นห่วงเธอเป็นเพราะก่อนหน้านี้เธอช่วยฉันไว้ และอีกฝ่ายก็เป็นคนที่มีอํานาจมากในเจียงโจวคนอย่างพวกเรานั้นเทียบไม่ติดอย่างแน่นอนถ้าเธอเข้าไปยุ่งมันจะมีแต่ทําให้เธอพลอยเดือดร้อนไปด้วย ดังนั้นหนุ่มน้อยเธออย่าคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย”
จี้เฟิงไม่พอใจเมื่อได้ยินเซียวหยูซวนเรียกเขาว่าหนุ่มน้อย เขาต้องการให้เซียวหยูซวนรู้ว่าเขาไม่ใช่เด็กน้อยไร้ความสามารถคนเดิมอีกต่อไปอย่างไรก็ตามเขาได้แต่คิดในใจและไม่ได้พูดออกไป
“คิกคิกะ” เมื่อเห็นท่าทางอารมณ์เสียของจี้เฟิง เซียวหยูซวนก็หัวเราะคิกคักและความหดหูในใจของเธอก็ผ่อนคลายลงอย่างมาก
…จบบทที่ 162-2
คุยกันท้ายบท
สําหรับท่านที่อ่านตอนที่ 160-161 ไปแล้วผู้แปลขออนุญาตแก้ไขคําผิดนิดนึงนะคะ
ชื่อของ*หลี่กงซื่อขอเปลี่ยนเป็น “คุณชายหลี่ (คนเดียวกันกับหลี่เว่ยตง)
(สําหรับท่านที่อ่านหลังจากนี้ผ่านไปได้เลยเด้อ)
ด้วยเหตุนี้ผู้แปลจึงขอเปิดเป็นตอนฟรีเพื่อเป็นการขออภัยผู้อ่านทุกๆท่านด้วยนะคะ
( A )
ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามมาจนถึงตอนนี้และฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะ
แปลจนจบแน่นอนค่ะ! o(
ด้วยรัก
เนตรนารีสีชมพู