The Ultimate Student สุดยอดนักเรียนสมองอัจฉริยะ - ตอนที่ 163
บทที่ 163 บ้านพักในฝัน!
“พี่สาวหยูซวน เวลาคุณจริงจังคุณช่างดูเหมือนนางฟ้าแสนดี แต่พอเวลาจะกวนโอ๊ยนี่ก็เหมือนกับแม่มดน้อยจริงๆ” จี้เฟิงส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้ม “พี่สาวหยูซวน เมื่อเราไปงานวันเกิดของหลี่เว่ยตงด้วยกันผมจะจัดการกับคนที่กล้ามาทําร้ายคุณเอง ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม!”
เซียวหยูซวนตกใจเมื่อได้ยินคําพูดที่จริงจังและกล้าหาญของจี้เฟิง ดวงตาที่สวยงามของเธอมองจี้เฟิงอย่างลึกซึ้งถึงแม้จี้เพิ่งจะรู้แล้วว่าหลี่เว่ยตงเป็นลูกชายนายกเทศมนตรีของเจียงโจวแต่เขาก็ยังกล้าที่จะยืนหยัดเพื่อปกป้องเธอ เมื่อเทียบกับเหอตงที่ทํากับเธอเพราะต้องการให้หลี่เว่ยตงพึงพอใจมันทําให้เห็นได้ว่าความเป็นสุภาพบุรุษและความกล้าหาญของจี้เฟิงนั่นห่างไกลจากเหอตงมากแค่ไหน?!
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เซียวหยูซวนก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ ทําไมเธอถึงได้โง่งมตามืดบอดไปรักคนเลวอย่างเหอตงได้!
เซียวหยูซวนมีพอหักอยู่ในสหพันธ์มหาวิทยาลัยเจียงโจว เมื่อเทียบกับหอพักคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนมัธยมปลายหมางซื้อที่ 2 แล้ว คงต้องบอกว่าหอพักคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์มหาวิทยาลัยนั้นหรูหรากว่ามากจริงๆ
จะว่าไปแล้วหอพักของคณาจารย์และเจ้าหน้าที่ของสหพันธ์มหาวิทยาลัยไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นหอพักอย่างเต็มปากแต่ควรเรียกว่าอะพาร์ตเมนต์ใช่! มันเป็นบ้านพักที่น่าจะเรียกว่าอะพาร์ตเมนต์มากกว่า!
ตามความเข้าใจของจี้เฟิง สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นหอพักคือสถานที่อยู่อาศัยอย่างหนึ่ง มีทั้งหอพักที่เป็นห้องเดี่ยวและหอพักที่มีคนอยู่อาศัยหลายคนในห้องเดียวกัน แต่ถ้าแบบดีหน่อยก็อาจจะมีห้องเล็กๆแยกให้ในห้องของหอพัก
อย่างไรก็ตามสถานที่ที่เซียวหยูซวนอาศัยอยู่ในตอนนี้นั้นมีห้องนอนถึงสามห้องโดยที่ไม่ต้องพูดถึงว่าการตกแต่งภายในนั้นหรูหราเพียงใด เพียงแค่รูปแบบของห้องพักที่มีห้องนอนถึงสามห้องและสภาพแวดล้อมโดยรอบที่สวยงามก็เพียงพอแล้วที่จะทําให้หลายคนต้องอิจฉา
สหพันธ์มหาวิทยาลัยเป็นพื้นที่สีเขียวที่มีชื่อเสียงมากในเจียงโจว โดยเกือบหนึ่งในสามของลานเล็กๆทั่วมหาวิทยาลัยทั้งหมดเป็นป่าเขียวชอุ่มและสดชื่น ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากสถานที่ตั้งของสหพันธ์มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ในเขตที่ห่างไกลจากเขตเมืองที่วุ่นวายพอสมควร ดังนั้นไม่เพียงแต่สภาพแวดล้อมจะสวยงามแล้วแต่ยังไม่มีมลพิษเหมือนอย่างในเมืองอีกด้วยนั่นจึงทําให้ภายในของสหพันธ์มหาวิทยาลัยมีบรรยากาศที่เงียบสงบเมื่อเทีย บกับพื้นที่ย่านใจกลางเมืองนักศึกษาส่วนใหญ่ต่างมีชื่อเรียกมหาวิทยาลัยแห่งนี้ว่าแฟรี่แลนด์!
การที่ได้ทํางานและมีที่พักอาศัยที่มีถึงสามห้องนอนในสภาพแวดล้อมเช่นนี้มันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก!
จี้เฟิงไม่เคยเชื่อว่าคนรวยจะต้องมีชีวิตที่ดีและน่าอิจฉาเสมอไป ในความเป็นจริงก่อนที่เขาจะได้พบกับสมองหมายเลข 1 ความฝันของเขาคือการได้มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคงมีที่อยู่อาศัยที่มีสภาพแวดล้อมที่ดีเช่นนี้ เขาต้องการให้แม่ของเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีด้วยเหตุผลเหล่านี้เขาจึงต้องการออกจากหมางซื้อที่ที่ทําให้เขาและแม่ต้องเป็นทุกข์และโดนดูถูกมาทั้งชีวิต
อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวของสมองหมายเลข 1 ทําให้ความคิดหลายอย่างของจี้เพิ่งเปลี่ยนไปแต่นั่นก็ไม่ได้ทําให้จี้เฟิงไม่ได้รู้สึกชื่นชอบที่พักอาศัยที่มีสิ่งแวดล้อมดีๆอย่างของเซียวหยูซวน
“พี่สาวเซียวหยูซวน บ้านพักคุณสวยมาก สภาพแวดล้อมก็ดีมากด้วย ผมอยากรู้ว่าอะพาร์ตเมนต์ในเขตมหาวิทยาลัยนี้เขาขายหรือเปล่าผมอยากจะซื้อซักชุดหนึ่ง!” จี้เฟิงยิ้ม แผนของเขาส่วนหนึ่งนอกจากจะมีรถแล้วก็คือมีบ้านพักของตัวเองเพราะกิจการที่เขาต้องการทําในอนาคตมันจะไม่สะดวกหากต้องอยู่ในหอพักของนักศึกษา
อะพาร์ตเมนต์ของคณาจารย์และพนักงานของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เกือบจะเหมือนย่านชุมชนคนเมืองมีสิ่งอํานวยความสะดวกครบครันแต่สิ่งที่ย่านชุมชนเมืองหาไม่ได้นั่นก็คือสิ่งแวดล้อมที่ดีและอากาศที่บริสุทธิ์จี้เฟิงจึงรู้สึกสนใจทันทีที่เห็น
เซียวหยูชวนอดไม่ได้ที่จะมองเขาและยิ้ม “ถามทําไมเหรอ เธออยากจะซื้อบ้านพักที่นึ่งั้นเหรอ?”
“ทําไมล่ะ คิดว่าผมซื้อไม่ได้เหรอ?” จี้เฟิงถามกลับ
เมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของจี้เฟิง เซียวหยูซวนก็หัวเราะเบาๆหัวใจของเธอรู้สึกมีความสุขทันที “หนุ่มน้อยฉันไม่รู้จะพูดยังไงดีเธอรู้หรือเปล่าว่าอะพาร์ตเมนต์ในสหพันธ์มหาวิทยาลัยเจียงโจวนี้โด่งดังและเป็นที่ต้องการของผู้คนมากแค่ไหน!”
จี้เฟิงรู้สึกประหลาดใจ “ทําไมคนอื่นถึงอยากมาพักอาศัยในเขตของสหพันธ์มหาวิทยาลัยนี้?”
“แล้วเธอคิดว่าเพราะอะไรล่ะ?” เซียวหยูซวนมองเขาอย่างว่างเปล่า ที่อยู่อาศัยที่ล้อมรอบไปด้วยสภาพแวดล้อมที่ดีและเต็มไปด้วยบรรยากาศแห่งวิชาการ พ่อแม่ที่ตั้งตารอจะทําให้เหล่าลูกๆของพวกเขาเติบโตมาเป็นนกฟินิกซ์ทําไมถึงจะไม่อยากให้ลูกๆอยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุยังน้อยล่ะ?
จี้เพิ่งคิดถึงคําถามของเซียวหยูชวนครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าและพูดว่า “งั้นบ้านพักในมหาวิทยาลัยนี้ก็คงจะไม่ใช่ถูกๆเลยสินะใช่มั้ย?”
เซียวหยูชวนยิ้มแล้วพูดว่า “มีย่านที่อยู่อาศัยสุดหรูแห่งหนึ่งในเจียงโจว ที่เรียกว่า”ไฮคลาส”เธอน่าจะเคยได้ยินมาบ้างใช่มั้ย?
“เคยได้ยินมานิดหน่อย” จี้เฟิงยิ้ม อันนี้ที่จริงจี้เฟิงรู้เรื่องนี้อยู่พอสมควร อย่าว่าแต่จี้เฟิงเลยแม้แต่คนที่ใส่ใจข่าวสารและราคาของที่อยู่อาศัยก็คงไม่มีใครไม่รู้จักชุมชน “ไฮคลาส”แห่งนี้ในเจียงโจว ว่ากันว่าคนที่สามารถอาศัยอยู่ในชุมชนต้องไม่ใช่แค่พอมีเงินเท่านั้นแต่ต้องเป็นคนที่ร่ํารวยมากบ้านที่มีราคาแพงที่สุดที่อยู่ในย่านชุมชนแห่งนี้มีราคาสูงถึง 200,000 หยวนต่อตารางเมตร เมื่อจี้เพิ่งได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรกเขาแทบไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
ช่างเป็นเรื่องตลก ด้วยราคาที่มากกว่า 200,000 หยวนต่อตารางเมตร! หรือว่าบ้านในย่านไฮคลาสนี้มันจะทํามาจากทองคํา!
อย่างไรก็ตามมันคือความจริงที่เกี่ยงไม่ได้ ในพื้นที่ราคา 200,000หยวนต่อตารางเมตรแต่ก็ยังมีหลายคนต้องการจะซื้อแต่พวกเขาก็ไม่สามารถซื้อได้
จริงๆแล้วในความคิดของคนเหล่านี้แทบจะเรียกได้ว่าเป็นความบ้ามากจริงๆ ทําไมพวกเขาถึงได้ต้องการบ้านราคาหลายสิบล้านนี้ยังไม่รวมค่าธรรมเนียมและรายจ่ายอื่นๆอีก
สมัยที่เพิ่งเรียนอยู่มัธยมปลายเขาเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับย่านที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่และมีราคาแพงและเมื่อเขาได้ยินเซียวหยูชวนพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้มันก็ทําให้เขานึกถึงข่าวนี้ขึ้นมาได้
“พี่สาวหยูซวน อย่าบอกนะว่าราคาที่พักในสหพันธ์มหาวิทยาลัยมีราคาพอๆกับ”ย่านไฮคลาสที่ว่านั่นมันจะเกินไปรึเปล่า”จี้เฟิงถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“ไม่ขนาดนั้น ถึงแม้ว่าบ้านพักในสหพันธ์มหาวิทยาลัยจะมีราคาแพง แต่มันก็ไม่ได้ถูกตั้งราคาที่เกินจริงเหมือนกับที่นั่น” เซียวหยูชวนส่ายหัวและยิ้ม“อย่างไรก็ตามบ้านพักในเขตของสหพันธ์มหาวิทยาลัยก็มีชื่อเสียงมากไม่แพ้กันในเรื่องของความเป็นบ้านพักชั้นยอด”
จี้เฟิงยิ้ม “พี่สาวหยูซวนต้องการจะบอกว่า บ้านพักที่นี่เป็นที่ที่แพงที่สุดในเขตนี้?”
“60,000 หยวนต่อตารางเมตร เธอคิดว่าไงล่ะ?” เซียวหยูชวนยิ้ม
“…” จี้เฟิงพูดไม่ออก
เขาจําได้ว่าตอนที่มีรายงานข่าวว่าที่พักสุดหรูย่าน “ไฮคลาส” มีราคาสูงมากกว่า 200,000 ต่อตารางเมตรชาวเน็ตหลายคนต่างแสดงความคิดเห็นและถามว่าบ้านหลังนี้ทําด้วยทองคําหรือเปล่า?
ในที่สุดจี้เฟิงก็เข้าใจถึงความคับข้องใจของชาวเน็ตเหล่านั้น และตอนนี้เขาก็อยากจะถามเหมือนกันว่า“บ้านหลังนี้ทําด้วยทองคําหรือเปล่า?”
มันจะน่ากลัวเกินไปแล้ว! 60,000 หยวนต่อตารางเมตร!… จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อยเขาไม่รู้ว่าควรพูดอะไรออกไปดี
“เธอรู้หรือเปล่าว่า..” เซียวหยูชวนยิ้ม “บ้านที่ฉันอาศัยอยู่ตอนนี้มีพื้นที่เกือบ 110 ตารางเมตรและมันมีราคามากกว่า 6,000,000 หยวน ถ้าเธอบวกภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆอีกฉันกลัวว่ามันน่าจะมีราคามากกว่านี้”
เซียวหยูชวนรู้ว่าถึงแม้จี้เพิ่งจะซื้อรถ Audi ได้ แต่เมื่อเทียบกันแล้วราคาของรถ Audi อาจจะซื้อไม่ได้แม้แต่ห้องน้ําด้วยซ้ํา เธอไม่คิดว่าจี้เพิ่งจะสามารถเปลี่ยนจากคนที่ไม่มีอะไรเลยกลายมาเป็นเศรษฐีที่มีทรัพย์สินเป็นล้านได้ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน
แน่นอนว่าไม่ว่าจี้เฟิงจะยากจนหรือร่ํารวย ทัศนคติที่เธอมีต่อจี้เฟิงก็จะไม่เปลี่ยนแปลงไปแม้แต่น้อย ในสายตาของเธอจี้เฟิงยังคงเป็นชายหนุ่มที่น่าสนใจ… เป็นน้องชายคนหนึ่ง…
จี้เฟิงพยักหน้าและพูดด้วยรอยยิ้ม “มากกว่าหกล้าน… ผมทําใจจ่ายไม่ได้จริงๆ และถึงแม้ว่าจะมีเงินพอที่จะซื้อได้แต่ผมก็คงจะไม่ซื้ออยู่ดี มันเหมือนเอาเงินไปทิ้ง! นี่มันไม่ใช่บ้าน มันคือทองคําชัดๆ!”
จี้เฟิงจะไม่ใช้จ่ายเงินอย่างโง่เขลา แม้ว่าเขาจะมีเงินเพียงพอที่จะซื้อบ้านพักแห่งนี้ก็ตาม แต่เขาจะไม่มีวันใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือยโดยเด็ดขาด
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวของจี้เฟิง เซียวหยูซวนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะคิกคัก
“พี่สาวหยูซวน คุณน่ารักมากจริงๆเวลาคุณยิ้ม” จี้เฟิงกล่าวพร้อมรอยยิ้ม “อย่าเป็นกังวลจนต้องขมวดคิ้วทั้งวันอีกเลย ผมบอกไปแล้วไงว่าผมจะช่วยคุณเกี่ยวกับกิจการของครอบครัวคุณเองดั้งนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วง”
“เธอเองต่างหากที่ไม่ควรต้องเป็นห่วงเรื่องนี้!” เซียวหยูชวนมองเขาด้วยสีหน้าจริงจัง “มันไม่แปลกหากฉันจะต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องของพ่อและกิจการภายในตระกูล แต่ตอนนี้ฉันไม่อยากให้เธอต้องมามีส่วนร่วมในเรื่องนี้มันจะทําให้ฉันต้องเป็นห่วงเธอไปอีกคน… จี้เฟิงเธอแค่ไม่ต้องสนใจเรื่องนี้อีกต่อไป..ได้มั้ย?การที่เธอเข้ามายุ่งนอกจากมันจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้วแต่มันจะทําให้เธอต้องมาเดือดร้อนไปด้วย การที่ฉันกับพ่อออกจากเจียงโจวมันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยจริงๆ”
จี้เฟิงยิ้มเล็กน้อยและพูดว่า “พี่สาวหยูซวนผมว่ามันไม่ทันแล้วล่ะ ต่อให้ตอนนี้ผมจะไม่สนใจเรื่องนี้แล้วก็ตามแต่เหอตงก็เห็นแล้วว่าผมมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ และผมก็เชื่อว่าตอนนี้เรื่องคงถึงหูของหลี่เว่ยตงแล้วอย่างแน่นอนแล้วคุณคิดว่าพวกเขาจะปล่อยผมไปง่ายๆอย่างนั้นเหรอมันเป็นไปไม่ได้ที่ผมจะถอนตัวจากเรื่องนี้กลางคันเว้นเสียแต่ว่าผมจะต้องออกจากเจียงโจวเสียตั้งแต่ตอนนี้”
เซียวหยูซวนเงียบไปครู่หนึ่งเธอรู้ดีว่าจี้เฟิงนั้นพูดถูกเนื่องจากเหอตงเห็นแล้วว่าจี้เฟิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้และเขาจะต้องรายงานเรื่องนี้แก่หลี่เว่ยตงอย่างไม่ต้องสงสัยและเขาจะปล่อยจี้เฟิงไปง่ายๆได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อตอนที่เพิ่งอยู่หมางซื้อเขาก็เคยทําให้เหอตงต้องอับอายอย่างมาก จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนอย่างเหอตงจะไม่โกรธแค้นจี้เฟิง
และถึงแม้ว่าจี้เพิ่งจะออกจากเจียงโจวตั้งแต่ตอนนี้ฉันก็กลัวว่าเรื่องมันจะไม่จบง่ายๆอย่างนั้นแน่นอนด้วยอิทธิพลของหลี่เว่ยตงและเหอตงสุนัขรับใช้ของเขามันไม่ใช่เรื่องยากที่จะหาที่อยู่และตัวตนของจี้เฟิงในเวลานี้หากหลี่เว่ยตงต้องการจะจัดการกับจี้เฟิงฉันกลัวว่าแม้แต่ประเทศจีนที่กว้างใหญ่ก็จะไม่มีที่ให้จี้เฟิงอยู่
และถ้าหากจี้เฟิงต้องออกจากสหพันธ์มหาวิทยาลัยเจียงโจว เขาจะต้องใช้เวลาพอสมควรในการดําเนินการลาออกและในช่วงเวลาดังกล่าวก็เพียงพอแล้วสําหรับหลี่เว่ยตงและเหอตงที่จะจัดการกับจี้เฟิง
“จี้เฟิง เรื่องนี้ฉันเป็นต้นเหตุทําให้เธอต้องมามีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่อย่างนั้น…” เซียวหยูชวนส่ายหัวเล็กน้อยเธอมีความรู้สึกซับซ้อนมากมายอยู่ในใจของเธอ
หากจี้เฟิงตัดสินใจที่จะไม่ช่วยเหลือเธอแล้ว เธอก็คงจะรู้สึกผิดหวังอย่างแน่นอน แต่ถ้าเป็นแบบนั้นเธอก็จะได้ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของจี้เฟิง
แต่ตอนนี้จี้เฟิงได้พูดยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเขาต้องการอยู่เคียงข้างและช่วยเหลือเธอมันทําให้เธอรู้สึกอุ่นใจไม่น้อย แต่นั่นมันก็จะทําให้เธอเป็นกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของจี้เฟิง เพราะคนที่เขากําลังจะเผชิญหน้าเขาคือหลเว่ยตงซึ่งเป็นลูกชายของนายกเทศมนตรีเจียงโจว
“พี่สาวหยูซวน นี่คุณไม่มั่นใจในตัวผมมากขนาดนี้เลยเหรอ? เราแค่ไปร่วมงานวันเกิดตามคําเชิญของเขาทําไมเราจะต้องกลัวเขาด้วย” จี้เฟิงส่ายหัวเล็กน้อยเขายิ้มและพูดต่อว่า “ไม่ต้องกังวลไปถ้าผมบอกว่าไม่เป็นไรก็คือไม่เป็นไรอีกสามวันเราจะไปงานวันเกิดของหลี่เว่ยตงด้วยกัน!”
เซียวหยูชวนรู้สึกใจชื้นขึ้นมาก ดวงตาที่สวยงามของเธอจ้องไปที่จี้เฟิงอย่างลึกซึ้งและเธอไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรออกไป
ดูเหมือนว่าจี้เฟิงจะไม่ทันเห็นการแสดงออกของเซียวหยูซวน เขามองไปรอบๆบ้านพักของเซียวหยวนและกล่าวชื่นชม“ว่าก็ว่าเถอะสหพันธ์มหาวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงและมีมรดกทางวัฒนธรรมที่ลึกซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะสร้างบ้านพักที่มีเค้าโครงและการตกแต่งที่ดีมากเช่นนี้ผมคิดว่ามันน่าจะถูกออกแบบโดยศาสตราจารย์ภาควิชาสถาปัตยกรรมของสหพันธ์มหาวิทยาลัย”
“นี่! อย่าเปลี่ยนเรื่อง!” เซียวหยูชวนพูดอย่างโกรธๆ “จี้เฟิงฉันเข้าใจความตั้งใจของเธอดี ฉันรู้ว่าเธออยากจะช่วยฉันด้วยความจริงใจอย่างไรก็ตามหลี่เว่ยตงไม่ใช่คนธรรมดาที่เธอจะไปยุ่งได้ฉันบอกเธอไปแล้วนะว่าเขาเป็นลูกชายของนายกเทศมนตรี แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนดีเขาเป็นคนที่มีอํานาจและทําตัวบ้าอํานาจกร่างไปทั่วและนอกเหนือจากตระกูลจแล้วฉันเกรงว่าคงไม่มีใครกล้าไปซื้อกับเขาอย่างแน่นอนส่วนเธอ.. แม้ว่าเธอจะสกุลจีแต่เธอไม่ได้มาจากตระกูลที่ใหญ่โตนั่นซะหน่อย!”
จี้เพิ่งหันหน้าไปมองเซียวหยูซวนอย่างยิ้มๆและถามว่า “คุณรู้ได้ยังไงว่าผมไม่ได้มาจากตระกูลที่ใหญ่โตนั่นถ้าผมบอกคุณว่าผมเป็นคนในตระกูลจริงๆ คุณจะเชื่อมั้ย?”
เซียวหยูซวนรู้สึกคันไม้คันมืออยากจะทุบเด็กดื้อคนนี้ ทําไมเขาถึงไม่ฟังที่เธอพูดเลย แถมยังมัวพูดเล่นบอกว่าเขามาจากตระกูลจ์อีก? เซียวหยูซวนได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนใจ ถ้าเขามาจากตระกูลจจริงทําไมแม่ของเขาถึงต้องไปขายผักที่ถนนทุกวัน
“หนุ่มน้อย เธอช่วยจริงจังกว่านี้หน่อยได้มั้ย!” เซียวหยูชวนพูดอย่างโกรธๆ
จี้เฟิงหัวเราะทันที และเขาก็แอบสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเซียวหยูซวน บางครั้งเวลาเธออยู่กับเขาเธอมักจะแสดงมุมที่เหมือนกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่เอาแต่ใจโดยไม่รู้ตัว ในความรู้สึกลึกๆของเขา เขาถือว่าเซียวหยูซวนเป็นหนึ่งในคนที่ใกล้ชิดที่สุดเช่นเดียวกับองเล่ยนอกจากแม่ที่เป็นคนในครอบครัวอยู่แล้วความรู้สึกที่เขามีต่อถงเลย จางเล่ยและเซียวหยูซวนพวกเขานั้นไม่ต่างจากสมาชิกในครอบครัวของเขา
กับองเล่ยเด็กสาวผู้ใสซื่อบริสุทธิ์และไม่มีใครเทียบได้ เธอคือแฟนของจี้เฟิง และเขาก็รักเธอจากใจจริงสําหรับถงเล่ยเขาต้องการดูแลเธอไปจนแก่เฒ่า
แต่กับเซียวหยูชวนนั้นต่างออกไป จี้เพิ่งรู้สึกเสมอว่าเวลาเขาทะเลาะกับเซียวหยูซวนและล้อเล่นเป็นบางครั้งบางคราวมันทําให้เขารู้สึกสนุกและผ่อนคลายและมันก็ทําให้ทั้งคู่มีความสุขมาก
ในความเป็นจริงเซียวหยูชวนก็รู้สึกเช่นเดียวกัน เวลาที่เธออยู่ต่อหน้าจี้เพิ่งเธอสามารถระบายปัญหาทั้งหมดที่อยู่ในใจของเธอได้และไม่จําเป็นต้องคอยสร้างกําแพงกั้นเหมือนที่เธอมักจะทํากับคนอื่นเพราะไม่ว่าใครๆต่างก็เข้าหาเธอด้วยจุดประสงค์และผลประโยชน์บางอย่างแต่จี้เฟิงนั้นไม่เหมือนใคร
ตั้งแต่ที่เซียวหยูชวนพบกับจี้เฟิงครั้งแรกเธอก็รู้สึกได้ว่าแววตาของเขาบริสุทธิ์ เป็นแววตาที่ปราศจากความคิดสกปรกใดๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเสแสร้งได้
“พี่สาวหยูซวน ไม่ต้องคิดมากเรื่องนี้อีก อย่างที่ผมบอกไปผมจะช่วยคุณจัดการเรื่องนี้เอง และผมจะทํามันอย่างแน่นอน”จี้เฟิงทิ้งท่าที่ล้อเล่นและหันมาพูดกับเซียวหยูซวนอย่างจริงจัง“ผมไม่ได้โกหกคุณผมมาจากตระกูลจจริงๆ!”
“เธอมาจากตระกูลจ์?” เซียวหยูซวนทําหน้าไม่เชื่อและยิ้มยียวน “นอกจากจะเรียนเก่งแล้ว ยังโกหกเก่งอีกด้วยนะ!”
เฮ้อ..!!
จี้เฟิงรู้สึกเหนื่อยใจ เขาได้แต่เช็ดเหงื่อเย็นๆที่ผุดขึ้นที่หน้าผากของเขา ทําไมเธอถึงไม่เชื่อแม้จะพูดอย่างจริงจังขนาดนี้? เขาดูไม่เหมือนคนที่น่าจะมาจากตระกูลใหญ่ได้เลยเหรอ?
“ช่างมันเหอะ ถ้าคุณไม่เชื่อผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง รองานวันเกิดของหลี่เว่ยตงอีกสามวันแล้วคุณจะรู้เอง!” จี้เพิ่งส่ายหัวและยิ้ม เขาไม่อยากเถียงกับเซียวหยูซวนในเรื่องนี้อีกต่อไป และเขาก็ไม่ต้องการพูดเรื่องที่เกี่ยวกับพ่อของเขามากนักในตอนนี้ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องอธิบายตั้งแต่ต้นว่าทําไมเขาถึงไม่มีพ่อในตอนแรก
…จบบทที่ 163-2