The Trembling World - ตอนที่ 338
TW:บทที่ 338
“พี่ใหญ่หลิวผมจะใช้ก้างปลาและเส้นใยเปลือกไม้เพื่อเย็บแผลของคุณ ปัญหาก็คือ…มันอาจเพราะสกปรกเกินไป มันจึงเกิดหนอง แล้วควรทํายังไงต่อไปดี” ฮันกวงมิน ถามเขาเพื่อขอคําแนะนํา
“คุณทําได้ดีมาก…ช่วยพยุงผมให้นั่งที..” หลิวกํา ตอบอย่างอ่อนแรง
“เยี่ยม” ฮันกวงมิน เรียก เช่าเหมิง เพื่อขอความช่วยเหลือในการช่วยพยุง หลิวกํา ให้ลุกขึ้นนั่ง
“ผมหลับไปนานแค่ไหน?” หลิวกํา ถาม ฮันกวงมิน ต่อ
“ตั้งแต่เมื่อคืนวานจนถึงวันนี้ มันไม่ได้นานเกินไป” ฮันกวงมิน ตอบ หลิวกํา
“เรา…เรายังอยู่ที่เดิม….กับเมื่อวานงั้นหรอ?” หลิวกํา หันไปมองดูรอบๆ
“ใช่แล้ว” ฮันกวงมิน พยักหน้า
“ปล่อยผมไว้ที่นี่คุณต้องพาพวกเขาหนีไป หมีมีความทรงจําที่ดีมันอาจกลับมาที่นี่ในตอนกลางคืนเพื่อแก้แค้น คุณอาจจะตายภายใต้กงเล็บของมัน” หลิวกํา พยายามอย่างมากเพื่อที่จะพูด
การมีไข้สูงเป็นสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ตอนนี้ หลิวกํา มีการติดเชื้อแบคทีเรียในร่างกายของเขา ตัวบ่งชี้สถานะสุขภาพบนนาฬิกาของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง และมันจะกลายเป็นสีดําถ้าเขายังไม่ได้รับการแก้ไขในเร็วๆนี้
“ไม่!เราจะไม่ทิ้งคุณไว้ที่นี่!” ฮันกวงมิน ส่ายหัว
“มันไม่ได้เป็นปัญหาถ้าคุณจะทิ้งผมเอาไว้ แต่มันจะไร้ประโยชน์ที่คุณจะยืนเฝ้าผม คุณกําลังเฝ้ารอความตายพร้อมกับผม ถ้าคุณพบเส้นทางที่ออกจากพื้นที่ป่านี้ไปได้ ผมอยากให้คุณไปยังศูนย์วิจัยทางชีวเคมี รองหัวหน้า ยินฮี เธอควรที่จะรอผมอยู่ที่นั่น เธอสามารถกลับมาหาผมได้…ถ้า….ในตอนนั้นผมยังมีชีวิตอยู่…” หลิวกํา พูดเบาๆ
“ไม่!ผมจะไม่ทิ้งคุณ!คุณจะไม่เป็นอะไร!” ฮันกวงมิน เริ่มคลุ้มคลั่ง
“นี่เป็นคําสั่ง!” หลิวกํา ขมวดคิ้ว
“แม้ว่ามันจะเป็นคําสั่งผมก็จะไม่ปฏิบัติตาม! ถ้าพวกเราจะไปเราจะไปด้วยกัน!ถ้าไม่มีพี่ใหญ่หลิวพวกเราจะไม่สามารถออกจากป่านี้ได้” ฮันกวงมิน มองไปที่ เชาเหมิง และ เจียงจินหยวน เพื่อเตรียมเปล
พวกเขาพยายามอุ้ม หลิวกํา ไปที่นั่นก่อนหน้านี้พวกเขาได้ใช้เสื้อผ้าของตัวเองในการทําเปล และส่วนที่เหลือพวกเขากองลงบนร่างกายของ หลิวกํา
หลิวกํา กําลังขัดขืนแต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น เขาก็หมดสติไปอีกครั้ง
“เด็กน้อย ที่รักของแม่ หลิวกํา….”เสียงที่คุ้นเคยกระซิบข้างหูของ หลิวกำ
“แม่” หลิวกํา เปิดตา สภาพแวดล้อมรอบตัวของเขาเปลี่ยนไปมันเหมือนอยู่ในอากาศ ในตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในป่า มีหิมะทุกหนทุกแห่ง
ด้านหน้าของเขาคือแม่ของเขาในตอนที่เขายังเด็ก เธอยิ้มให้กับเขาและก้มลง เธอเอื้อมมือที่อบอุ่นของเธอบีบแก้มของเขาเพื่อคลายความหนาวเย็น ในเวลานั้นเขาอายุประมาณ 6 ขวบ
“แม่ต้องไปอีกครั้งคราวนี้อาจใช้เวลาหลายเดือน? ในตอนที่แม่กลับมาอาจจะเป็นฤดูใบไม้ผลิ เด็กชายตัวน้อยของแม่ จะเติบโตขึ้นเป็นสุภาพบุรุษ ลูกจะต้องเรียนรู้การดูแลตัวเองในยามที่แม่ไม่ได้อยู่เคียงข้าง ลูกจะต้องเรียนรู้ที่จะกล้าหาญและไม่ร้องไห้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นอย่ายอมแพ้ง่ายๆ”แม่ของเขาหลั่งน้ําตา
“แม่!อย่าทิ้งผมไป!” หลิวกํา กอดแม่ของเขาเขาไม่ต้องการให้เธอไป
“ลูกน้อยของแม่ฟังนะ นี่เป็นครั้งสุดท้ายที่แม่จะไป แม่สัญญากับลูกว่าแม่จะกลับมาอีกครั้งในฤดูใบไม้ผลิแล้วแม่จะไม่ไปไหนอีก” แม่ของเขาจูบแก้มของเขาแล้วผลัก หลิวกํา ออกไปอย่างรวดเร็ว
“ไม่!อย่าทิ้งผมไป!” หลิวก กรีดร้องเสียงดัง
ในตอนที่ หลิวกํา 6 ขวบเขาไม่รู้ว่าทําไมแม่ของเขาจึงทิ้งเขาไป ในความทรงจําของเขานั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาได้เห็นแม่ของตัวเอง นับตั้งแต่นั้นมาเขารอคอยที่จะพบเธออีกครั้ง เขารอจนกระทั่งหิมะละลายและกลายเป็นฤดูใบไม้ผลิ เขารอจนถนนเต็มไปด้วยกิ่งไม้ที่งอกขึ้นมาใหม่ ปัญหาก็คือแม่ของเขาไม่ได้กลับมา
ปีหนึ่งผ่านไปยังไม่มีข่าวคราว พ่อของ หลิวกํา แจ้งความให้มีการตรวจสอบที่อยู่ของเธอพวกเขาพยายามค้นหาและพยายามติดต่อเธอ แต่น่าเศร้าไม่มีใครสามารถหาตําแหน่งที่อยู่ของเธอได้ ข้อมูลที่เหลือไว้คือแม่ ของ หลิวกํา เป็นนักโบราณคดีและนักสํารวจ เมื่อพ่อของ หลิวกํา นอกใจภรรยาของเขาจึงนําไปสู่การหย่าร้าง หลังจากนั้นเธอมักจะออกไปเผชิญภัยในซากโบราณสถาน
สําหรับฤดูหนาวในปีนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนเห็นเธอเป็นครั้งสุดท้าย
หลังจากช่วงเวลานั้น หลิวกํา เริ่มฝึกฝนร่างกายของตัวเขาเอง เขาพยายามหาวิธีอยู่รอดในที่ต่างๆ สําหรับวันหยุดในฤดูร้อนของเขาที่โรงเรียนมัธยมเขามักจะเดินทางไปยังพื้นที่รกร้างเพื่อสํารวจ มีหลายครั้งที่ตัวเขาเองตกอยู่ในอันตราย แม้มันไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้นแต่เขาต้องการหาที่มาของมารดาตัวเอง
เมื่อเขาอยู่ตามลําพังในสถานที่เงียบสงบและอันตราย นั่นคือตอนที่เขาฝันว่าแม่ของเขาได้กลับมาเคียงข้างเธอใช้มือของเธอบบแก้มเย็นของเขาและบอกให้เขากล้าหาญอย่ายอมแพ้
เมื่อตอนเขาอยู่มหาลัย 4 ปี เวลามากกว่าครึ่งนึงของเขาอยู่ในถิ่นทุรกันดาร แม้กระทั่งตอนจบการศึกษาเขายังไม่กลับบ้าน นับตั้งแต่ที่แม่เขาทิ้งเขาไว้ในฤดูหนาวชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป เขากําลังไล่ตามรอยเท้าของแม่ตัวเอง ทุกคนที่คุ้นเคยกับแม่ของเขาจะพูดถึงเกี่ยวกับเธอเพื่อให้ หลิวกํา จดจํา
แม้ว่าเขาจะอยู่ในถิ่นทุรกันดารแต่จิตวิญญาณของเขาจะรู้สึกสงบเขารู้สึกราวกับว่าช่องว่างระหว่างเขากับแม่น้อยลง เขาจะได้ยินเสียงเธอเรียกหาเขา เขารู้สึกถึงความรักที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
สําหรับเรื่องการสํารวจเทือกเขาเอเวอเรสต์นั้นเป็นทิปที่พี่ชายของเขาจัดขึ้นมา เขาบอกว่าได้รับข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับแม่ของ หลิวกํา ที่เทือกเขาเอเวอเรสต์นี้ มีข่าวลือว่าเธอได้ปักป้ายของเธอไว้บนจุดสูงสุดของเทือกเขาดังนั้น หลิวกํา จึงต้องการยืนยันด้วยสายตาของตัวเอง
ไม่นานหลังจากนั้นการค้นหาของเขาที่เทือกเขาเอเวอเรสต์ก็ต้องชงัก เขาพยายามใช้ทักษะในการปีนเขาของตัวเองในการค้นหาจุดหมายของเขา
“ลูกชายตัวน้อย ลูกต้องอยู่ต่อไปอย่ายอมแพ้” แม่ของ หลิวกํา พูดในขณะที่จับใบหน้าของ หลิวกํา
“ผมจะพยายาม ผมจะพยายามให้ถึงที่สุด แต่ผมเหนื่อย บางครั้งที่ผมไม่รู้ว่าผมกําลังทําอะไร” หลิวกํา ส่ายหัว เขาเหนื่อยมากและไม่ต้องการเปิดดวงตาอีกต่อไป
เขารู้สึกราวกับว่าชีวิตทั้งชีวิตของเขากําลังไล่ตามบางอย่าง แต่เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไร
“ทุกคนที่ส่งมายังโลกใบนี้มีเหตุผลของตัวเอง อย่ายอมแพ้ ลูกจะได้พบความหมายในชีวิตของตัวเอง…”เสียงของแม่จางหายไปในระยะไกล
หลังจากนั้นหลิวกำสั่นและเกิดอาการปวดอย่างฉับพลัน หลิวกํา รู้สึกราวกับว่าเขากําลังตกลงมาจากที่สูง ทันใดนั้น หลิวกํา ก็ตื่นจากการนอนหลับของเขา เมื่อเขาลืมตาขึ้นท้องฟ้าก็มืดแล้ว ฮันกวงมิน ยังคงทําผิดพลาด ในตอนนี้มันดึกมากแล้วพวกเขายังคงติดอยู่ภายในป่าวงกต พวกเขาได้ยินเสียงสัตว์มาจากระยะไกล