(One Useless Rebirth) เกิดใหม่อีกครั้งอย่างไร้ [Yaoi] - ตอนที่ 15
มีคนจำนวนมากอยู่ที่ห้องโถงวิดีโอเกม เพียงชั่วพริบตาเต๋อชูเหอก็หายตัวจากสายตาของเหอไป่ท่ามกลางฝูงชน เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากวิ่งไล่ตามเขาไปตามทิศทางที่เป็นไปได้ หลังจากชนเข้ากับคู่รักคู่หนึ่ง เขาก็ยอมรับด้วยความสิ้นหวังว่ากระเป๋ากล้องของเขาถูกเจ้าสารเลวที่เขาเพิ่งช่วยฉลองวันเกิดให้
เจ้าคนสารเลวที่กัดมือคนที่ป้อนอาหาร!
อกตัญญูทีเดียวเชียว!
……………
เต๋อชูเหอได้จัดเก็บบัตรของมหาวิทยาลัยของตน คว้าชานมที่เขายังทานไม่หมด และหยิบกล้องของเขาออกไปในตอนนี้ คนเช่นนี้กลายมาเป็นราชาจอเงินได้อย่างไร? เขาเป็นโจรมากกว่านักแสดง! คนเช่นนี้เป็นคนแบบนี้…เขาโชคดีเหลือเกินที่ได้รู้จักเต๋อชูเหอ!
เหอไป๋บิดตัวไปมาหลายครั้ง เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ในกระเป๋าเสื้อ เขาหยุดทันทีและหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อค้นหาด้วยความสิ้นหวังว่าเขาไม่มีทางติดต่อกับเต๋อชูเหอได้
กล้องที่เขายืมมาจากศาสตราจารย์ซวี่ ไม่ใช่ของราคาถูก ๆ เขาจะทำอย่างไรถ้าไม่ได้มันคืน
….แจ้งตำรวจดีไหมนะ? เขาวางนิ้วลงบนปุ่มโทรฉุกเฉินแล้วปิดโทรศัพท์ลงด้วยความหงุดหงิด หลังจากลังเลเล็กน้อย เชี่ย! วันนี้ไม่เหมาะที่จะออกมาข้างนอกเลยจริง ๆ!
เต๋อชูเหอยืนอยู่ตรงข้ามกับชั้นวางของร้านขายเครื่องประดับ จับจ้องไปที่เหอไป๋ เขาวิ่งเหยาะ ๆ ไปตามถนนด้วยความโกรธ เต๋อชูเหอยิ้มเปิดเข้าแอป wechat บนโทรศัพท์มือถือแล้วส่งข้อความด้วยความยินดี
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : สุขสันต์วันเกิดนะ! อย่าลืมทานเค้กด้วยล่ะ ^-^
เมื่อได้ยินเสียงบี๊บ เหอไป๋ก็เปิดเข้าสู่แอป wechat ของเขาด้วยความสงสัยขึ้นในใจ เมื่อเขาเห็นข้อความนี้ เขาตอบแบบงง ๆ
ขาวและขาว : วันเกิดฉันเหรอ?
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : ใช่ ฉันสังเกตเห็นว่าชื่อบัญชี wechat ของคุณเป็นตัวย่อบวกกับวันที่ ฉันเลยเดาว่าวันนี้เป็นวันเกิดของคุณ ใช่ไหม?
เหอไป๋กระพริบตาอย่างงุนงง เขาออกจากช่องแชทเพื่อดูหน้าหลักของบัญชี wechat ของตน รวมถึงวันที่แล้วก็รู้ว่าวันนี้เป็นวันเกิดของเขาจริง ๆ…
เขาอยู่คนเดียวเป็นเวลานาน เขาลืมที่จะใส่ใจเรื่องต่าง ๆ เช่นวันเกิดของเขาที่เกิดขึ้นทุก ๆ ปี ขณะที่เต๋อชูเหอ ควรระมัดระวังในการค้นหารายละเอียดนี้และเพิ่มคำทักทายให้กับเขาโดยไม่คาดคิด
ขาวและขาว : เป็นวันเกิดของฉันจริงด้วย ไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำ ขอบคุณนะ
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : ด้วยความยินดี อย่าลืมทานเค้กวันเกิดและบะหมี่ล่ะ ^-^
เหอไป๋ยิ้มอย่างมีเลศนัย ใบหน้าปรากฏลักยิ้มขึ้น เขาขอบคุณเต๋อชูเหออีกครั้ง เมื่อมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเขาอย่างกะทันหัน
เต๋อชูเหอ….นกกระเรียนฤดูใบไม้ร่วง เขาได้อย่างคลุมเครือว่าในชีวประวัติออนไลน์ รายงานว่าเต๋อชูเหอ เกิดในฤดูใบไม้ร่วง พ่อแม่ของเขาจึงตั้งชื่อเขาว่า ชูเหอ แต่ตอนนี้ เป็นช่วงฤดูร้อนนี่ ต้นฤดูร้อน!
บ้าเอ้ย…
เขาเป็นคนโกหกและเป็นขโมยที่ทำตัวเหมือนเด็กสามขวบ!
เหอไป๋ทำท่าโกรธอีกครั้งเดินขึ้นลง และวิ่งอย่างรวดเร็วไปที่ป้ายรถเมล์
เนื่องจากเต๋อชูเหอ เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย Q เขาจึงต้องทิ้งรายละเอียด การติดต่อและที่อยู่ไว้ที่นั่น
พระอาจจะไม่อยู่แล้ว แต่วัดหนีไปไหนไม่ได้ เขาบอกตัวเองว่าจะต้องไปเอากล้องคืนมาให้ได้!
เมื่อดูร่างเล็กผอม ๆ หายไปจากสายตาของเขา เต๋อชูเจ๋อ เก็บโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและหันไปหาผู้ช่วยในร้านที่จ้องมองเขาอย่างระมัดระวัง เขาชี้ไปที่กระเป๋ากล้องที่ห้อยอยู่ที่แขนของเขา และถามอย่างสุภาพด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยนว่า “ขอโทษนะครับ ผมขอกล่องของขวัญสำหรับใส่กล้องนี้ได้ไหมครับ”
เมื่อมองไปที่ใบหน้าเปื้อนสีและสติกเกอร์สีสันสดใสของเต๋อชูเหอ พนักงานก็อดไม่ได้ที่จะปฏิบัติติต่อเขาในฐานะเด็กหนุ่ม เขาช่วยค้นหากล่องของขวัญรูปหัวใจสีฟ้า ด้วยท่าทีเห็นอกเห็นใจและถามอย่างนุ่มนวลว่า “ใบนี้โอเคไหม?” ในสายตาของเขา เต๋อชูเหอเห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่ชอบเล่นเกมส์เป็นชีวิตจิตใจจนไม่กล้าจะยั่วโมโหเขา
เต่อชูเหอยกกล่องขึ้นและจำได้ว่าวันนี้ เหอไป๋สวมเสื้อยืดสีฟ้า เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและกล่าวเสริมว่า “ขอริบบิ้นน่ารัก ๆ ให้ผมด้วยครับ”
พนักงานตอบกลับและหันไปหยิบริบบิ้นพร้อมทั้งคิดเงินให้เขาอย่างเงียบ ๆ
เนื่องจากรถค่อนข้างติดในช่วงสุดสัปดาห์ เหอไป๋ใช้เวลากว่าสองชั่วโมงในกาเดินทางไปมหาวิทยาลัย เมื่อมองขึ้นและลงในรถแท็กซี่เขารีบกลับไปที่หอพักเพื่อล้างหน้าในทันที…. เขารู้สึกตกใจกับกล่องสีชมพูสลับสีฟ้า แต่งด้วยริบบิ้น
“นี่มันอะไรกัน” เขามองไปที่หน้าประตูก่อนจะพบว่ามีกล่องของขวัญวางอยู่ที่พื้น แล้วขยี้ตา
“ในที่สุดก็กลับมาแล้ว ไป๋ ดูสิมีคนส่งของขวัญมาให้นาย” หนิวจุนเจี๋ยผุดขึ้นและร้องอย่างตื่นเต้น ด้วยความงงงวยเขามองไปที่ใบหน้าของเหอไป๋ และถามว่า
“หน้านายมีอะไรผิดปกติ? ถูกตีมาหรือเปล่า?”
“ไม่ใช่ มันเป็นสีน่ะ”
เขาถูสีที่แห้งติดบนใบหน้าและตอบอย่างงุนงงว่า
“มีของขวัญส่งมาให้ฉันเหรอ? ของฉันจริงเหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ” หวังหูเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับถือกรรไกรในมือ เขาส่งสัญญาณให้เขาดูโน้ตในกล่อง
“มีข้อมูลของนายอยู่บนนั้นรวมทั้งสาขาที่เรียน รหัสนักเรียน และชื่อนาย แม่บ้านบอกพวกเราว่ากล่องสองกล่องถูกส่งมาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนโดยผู้ชายคนหนึ่ง เขาไม่มีเบอร์นายเลยฝากไว้กับแม่บ้าน จุนเจี๋ยผ่านไปดูและเห็นชื่อของนายติดไว้ที่กระดานน่ะ”
กระดานดำจัดทำขึ้นเป็นพิเศษสำหรับนักศึกษาที่กลับดึก หรือทำของหาย ใครก็ตามที่มีชื่อบนกระดานนั้นมักจะถูกเยาะเย้ยตลอดทั้งสัปดาห์
เหอไป๋เช็ดหน้าของตนเอง พร้อมกับกล่าวของคุณหนิวจุนเจี๋ยอย่างจริงใจว่า
“ขอบคุณนะจุนเจี๋ย”
“ด้วยความยินดีน๊า” หนิวจุนเจี๋ยโบกมือของเขาในขณะที่ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่กล่องของขวัญนั้น แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับเหอไป๋
“เปิดมันสิ อยากรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างในนั้น! ดูจากสีและลายบนกล่องแล้ว จะต้องเป็นผู้หญิงแน่ ๆ ฮ่า ไป๋มีสาวมาจีบด้วย”
เฉินจี้ที่นั่งอยู่เงียบ ๆ ถอดแว่นตาออกและกล่าวว่า “ทำไมถึงไม่ใช่เด็กผู้ชายล่ะ?”
ความเงียบความครอบงำทั้งห้อง ทันใดนั้นก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีนักเรียนแลกเปลี่ยนต่างชาติคนหนึ่งที่มักจะไล่ตามเหอไป๋อย่างบ้าคลั่ง พวกเขาก้าวถอยห่างออกจากกล่อง
หวังหูแตะกรรไกรในมืออย่างช้า ๆ “การให้ของขวัญแบบไม่เปิดเผยตัวตนก็เหมือนจะสไตล์ของผู้ชายเหมือนกันนะ…ใช่ล็อคหรือเปล่า? นักศึกษาศิลปะที่มักจะโรแมนติกคนนั้น เขากลับมาแล้วเหรอ?”
“ฉันว่าไม่ใช่เขานะ การแลกเปลี่ยนของนักศึกษาก็สิ้นสุดลงเมื่อเทอมที่แล้ว เขากลับประเทศเขาไปแล้ว..”
หนิวจุนเจี๋ยกล่าวด้วยความมั่นใจ
เฉินจี้ก้มศีรษะเพื่อดูโน้ตและทำการวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล
“โน้ตเขียนเป็นภาษาจีน ลายมือสวยด้วย ไม่ใช่ชาวต่างชาติหรอก”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา หนิวจุนเจี๋ยก็จ้องมองไปที่โน้ตด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน
“แต่ลายมือนี้ ดูไม่รอบครอบ ไม่มีผู้หญิงคนไหนเขียนแบบนี้หรอก”
เหอไป๋คิดใคร่ครวญ พยายามจดจำสิ่งต่าง ๆ เกี่ยวกับล็อค เขานึกถึงบันทึกนั้นและมีบางอย่างที่ทำให้เขาคิดขึ้นมาได้
เขายื่นมือข้างหนึ่งไปยังหวังหูโดยไม่แสดงอาการ
“พี่ ส่งกรรไกรมาให้หน่อย อย่าตกใจไปเลย กล่องนี้ไม่ได้มาจากล็อคหรอก”
“ไม่ใช่ล็อคเหรอ?”
“อืม ไม่ใช่”
เมื่อได้ยินคำตอบที่ชัดเจนของเขา อีกสามคนก็เข้ามาใกล้อีกครั้ง ทุกคนถามขึ้นทันทีว่าทำไมเขาถึงแน่ใจ และรูแอยู่แวว่าแท้จริงแล้วใครเป็นคนเอามาให้
“เดิมทีฉันก็ไม่รู้หรอก แต่หลังจากเห็นลายมือในกระดาษโน้ตนี้ ฉันคิดว่าฉันรู้ว่าเขาคือใคร ไม่ต้องกังวลไป คนให้เขาเป็นศัตรู ไม่ใช่เพื่อนหรอก แต่เขาไม่ใช่ล็อคแน่นอน” เหอไป๋ตอบด้วยใบหน้าบึ้งตึงตัดริบิ้นรอบ ๆ กล่องโดยตรง และเปิดกล่อง ขณะที่ในใจแอบดุเต๋อชูเหออยู่ลับ ๆ
เมื่อเปิดฝากล่องก็พบกับเค้กเลเยอร์ ของที่อยู่ข้างในทำให้หวังหูและอีกสองคนตกใจเป็นอย่างมาก ปากของเหอไป๋ กระตุกเล็กน้อย เขาเปิดฝากล่องอีกใบ และพบว่าเป็นกล้องถ่ายรูปปที่ถูกเขาเอาไปตามที่คาดการณ์ไว้
เหอไป๋ค่อนข้างแน่ใจ….เต๋อชูเหอเป็นคนปัญญาอ่อนเสียจริง
“เค้กเลเยอร์ราคาแพงจากร้าน J ล่ะ” หนิวจุนเจี๋ยหมอบอยู่เหนือเค้กและลูบคางของตนเอง
“แต่ทำไมเพื่อนของคุณถึงได้วาดรูปสุนัขด้วยล่ะ?”
“มีตัวอักษรอยู่ใกล้ ๆ รูปสุนัขด้วย” เฉินจี้ดันแว่นขึ้น ก้มหัวลงและพยายามทุกวิถีทางเพื่ออ่านประโยคเล็ก ๆ เหล่านั้นที่อยู่ถัดจากรูปลูกสุนัข “สุขสันต์วันเกิดลูกหมาน้อย ขอบคุณที่ส่งรูปให้กับคุณซวีอิ๋นหลง นอกจากนี้วันเกิดของฉันคือวันที่ 7 กันยายน อย่าลืมให้ของขวัญตอบแทนฉันด้วยล่ะ!”
หวังหูหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูวันที่ และตบหน้าผากตัวเองอย่างแรง
“ความทรงจำของฉันแย่มากจนลืมว่าวันนี้เป็นวันเกิดของไป๋ คืนนี้จะออกไปฉลองกันไหมหรือยังไง”
หนิวจุนเจี๋ยยินยอมทันทีด้วยการยกมือขึ้น เฉินจี้ก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
เหอไป๋มองไปที่พวกเขาแล้วยิ้ม “เลี้ยงฉันด้วยล่ะ” และมองไปที่เค้กด้วยคิ้วที่ขมวดขึ้นเล็กน้อย
‘ทำไม เต๋อชูเหอถึงขอบคุณฉันเรื่องรูปถ่าย? รูปไหน? เขารู้จักกับอาจารย์ซวี่เหรอ? เขาอ้างถึงภาพที่ฉันถ่ายโดยบังเอิญหรือเปล่า แต่เขารู้ได้อย่างไรว่าฉันส่งรูปไปให้อาจารย์ซวี่? เดี๋ยวก่อนนี่หมายความว่าเต๋อชูเหอรู้แล้วว่าฉัส่งรูปของเขาเป็นการบ้านของตัวเองหรือเปล่านะ?’
………
เมื่อมองไปที่เค้กเลเยอร์บนพื้นและกระเป๋ากล้องที่อยู่ในกล้อง
เหอไป๋ก็ถอนหายใจยาว ๆ
….ความรู้สึกเหมือนน้ำตาลไหม้
เหอไป๋คิดว่า “เซอร์ไพรส์” สำหรับเขาจบลงแล้ว และไม่คาดคิดว่าจะมีการส่งกล่องอื่น ๆ มาให้หลังจากนั้นอีกสองวัน ชื่อของเขาปรากฎขึ้นบนกระดานดำหน้าหอพัก
“เพื่อนของนายส่งมารึเปล่า” หนิวจุนเจี๋ยขยับตัวด้วยความอยากรู้อยากเห็น ดูกล่องสีชมพูจากนั้นมองไปที่ใบหน้าอ่อนโยนของเหอไป๋ แล้วถอนหายใจด้วยความเศร้าโศก
“อนิจจา ไป๋ ควรจะมีแฟนได้แล้ว”
เหอไป๋โยนเขาไปข้าง ๆ แล้วผลักใบหน้าของเขาไปด้านหข้าง ค่อย ๆ ฉีกกระดาษโน้ตบนกล่องและเปิดฝา จากนั้นเขาก็ตกตะลึง
ครึ่งกล่องเต็มไปด้วยรูปภาพของเต๋อชูเหอ พร้อมลายเซ็นของเขา
มีโน้ตอีกอันติดอยู่ที่พื้นกล่อง เขาฉีกมันออกมาพบว่ามีเบอร์โทรศัพท์อยู่ในนั้น หลังจากลังเลอยู่สักพัก เขาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาบันทึกหมายเลขโทรศัพท์และส่งข้อความไปยังหมายเลขปลายทาง
เหอไป๋ : ฉันได้รับรูปของคุณแล้ว ขอบคุณครับ เรื่องที่คุณเขียนบอกบนเค้กเกี่ยวกับรูปถ่ายและอาจารย์ซวี่ ช่วยบอกฉันทีว่าเกิดอะไรขึ้น?
เต๋อชูเหอกำลังฟังการสนทนาระหว่างเจียงกวานซานและซวีอิ๋นหลง เกี่ยวกับบทละครของเขา แล้วโทรศัพท์เขาก็ดังขึ้น เมื่อนึกถึงภาพที่ส่งไปในวันนี้ เขาก็ยิ้มออกมา ภายใต้ฝาหลังกระดาษสคริปต์ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาอ่านข้อความจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก และเปิดดูข้อความอย่างรวดเร็ว สายตาของเขามองไปที่โฟรเดอร์ใกล้มือของซวีอิ๋นหลง จากนั้นเขาก็เริ่มพิมพ์ข้อความเพื่อตอบกลับ
เต๋อชูเหอ : อยากรู้เหรอว่าฉันขอบคุณทำไม?
เหอไป๋ : ครับ
เต๋อชูเหอ : อยากรู้ใจจะขาดเลยเหรอ?
เหอไป๋ : …อืม
เต๋อชูเหอ : ฉันก็ด้วยย
เหอไป๋ : ?
เต๋อชูเหอ : อยากให้คุณขอร้องฉันใจจะขาด
เหอไป๋ : …
เต๋อชูเหอ : คุณดูน่ารักมาก ตอนี่วิ่งไปตามถนน
เหอไป๋เก็บโทรศัพท์ไว้ในลิ้นชักด้วยความขุ่นเคือง!