(One Useless Rebirth) เกิดใหม่อีกครั้งอย่างไร้ [Yaoi] - ตอนที่ 14
โรงอาหารทางฝั่งเหนือเงียบและว่างเปล่าในเช้าวันอาทิตย์เช่นนี้ หน้าต่างส่วนใหญ่ที่เคยเปิดขายอาหารเช้าก็ปิดลง เหลือเพียงร้านหมี่ซั่วอยู่เพียงร้านเดียว โชคดีจังเลย
หลังจากวางบะหมี่ร้อน ๆ หนึ่งชามตรงหน้าเต๋อชูเหอ เหอไป๋ก็เริ่มแทะซาลาเปาพร้อมกับดื่มน้ำเต้าหู้
“ฉันก็อยากได้น้ำเต้าหู้ด้วยเหมือนกัน” เต๋อชูเหอแยกตะเกียบที่ใช้แล้วทิ้ง และจ้องไปที่มือของเหอไป๋ ด้วยดวงตาที่เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
เหอไป๋หยุดชะงัก ในขณะที่เขานึกถึงชานมที่เต๋อชูเหอคว้าไปจากเขา เขาหยิบหลอดดูดใส่ลงในแก้วน้ำเต้าหู้โดยไม่ลังเล จากนั้นก็ลุกขึ้นพร้อมกับบัตรนักศึกษาเพื่อไปซื้อมาอีกชุด
“ใส่น้ำตาลด้วยได้หรือเปล่า? ฉันชอบแบบหวาน” เต๋อชูเหอขอด้วยท่าทางไร้เดียวสา
เหอไป๋หายใจเข้าลึก ๆ ‘มันเป็นวันเกิดของเขา นอกจากนี้ฉันไม่ควรทะเลาะกับคนโง่’
คิดได้เช่นนั้นก็ลึกขึ้นหยิบแก้วน้ำเต้าหู้ไปเติมน้ำตาล หลังจากนั้นเขาก็หยิบหลอดดูดใส่ลงในแก้ว ก่อนจะวางน้ำเต้าหู้ไว้ข้างชามของเต๋อชูเหอ จากนั้นเขาก็หยิบขนมปังขึ้นกัดหน้าตาดุดันพร้อมกับเบิกตากว้าง
ใบหน้ายามที่เขาโกรธเกรี้ยวดูเหมือนเด็กวัยรุ่น เต๋อชูเหอแอบดูลักยิ้มที่เข้าใจยากของเขาตอนที่เหอไป๋กำลังเคี้ยวเขาแสร้างทำเป็นไอเล็กน้อยเพื่อปกปิดเสียงหัวเราะของเขา เขาค่อย ๆ ม้วนแขนเสื้อขึ้นก่อนจะคีบเส้นบะหมี่ แล้วค่อย ๆ หยิบส่งเข้าปาก
ดวงตาของเหอไป๋จ้องไปตามการเคลื่อนไหวของเขา ก่อนจะจับจ้องไปที่ปากของเขาในที่สุด
ริมฝีปากชุ่มไปด้วยเส้นบะหมี่เปียก เมือ่มันถูกส่งเข้าปากและตอนนี้เขาดูน่าสใจยิ่งขึ้น ด้วยริมฝีปากมันวาว ฟันที่ปิดเล็กน้อยและลิ้นที่เผยออกอย่างแผ่วเบา ตะเกียบไม้ที่คีบเส้นบะหมี่ถูกส่งเข้าปากของเขาอย่างช้า ๆ
“ฉันอยากได้พริกไทยอีกหน่อย” เต่อชูเหอกล่าวขณะที่วางตะเกียบลง
เหอไป๋พยายามเรียกลมหายใจกลับมาในขณะที่เขาเกือบจะหายใจไม่ออกหลังจากได้ยินคำขอของเขา เขารีบกลืนน้ำเต้าหู้อึกใหญ่ แล้ววางถุงซาลาเปาลงบนโต๊ะด้วยความโกรธ หลังจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นอีกครั้งและพูดว่า “รอก่อน!”
เต๋อชูเหอมองไปที่เขา ด้วยใบหน้าที่งุนงงและเสียใจ
“คุณโอเคไหม”
เหอไป๋กัดฟันโดยไม่รู้ตัด พร้อมตอบเขาว่า “โอเคสิ”
ปัง!
ชามเครื่องปรุงถูกยกมาวางไว้ข้าง ๆ แก้วน้ำเต้าหู้
เต๋อชูเหอตาสว่างขึ้น ยิ้มให้เหอไป๋อย่างอ่อนโยน “ขอบคุณนะ ใจดีจัง”
เหอไป๋ยังคงกัดก้อนขนมปังของตนเอง ตัดสินใจที่จะหันไปหาสิ่งที่เขากำลังจะพูดต่อไป
“ที่…”
เขาคิดว่าไม่ควรพูดต่อ เลยหันไปกัดขนมปังต่อไปเรื่อย ๆ
เต๋อชูเหอเม้มริมฝีปากของเขาในขณะที่เขาสังเกตเห็นแก้มที่ถูกขนมปังยัดเข้าไป และลำตัวที่ตั้งตรงของเขา สุดท้ายเขาก็ไม่อยากรบกวนฝ่ายตรงข้ามอีก เขาก้มศีรษะลงและกลืนเส้นบะหมี่เข้าปากแทน
เขากล่าวชมว่า “ยังอร่อยเหมือนเมื่อก่อน”
เหมือนเมื่อก่อน?
เหอไป๋รู้สึกแปลกใจ เขากลืนซาลาเปาแล้วเงยหน้าขึ้นถามว่า
“คุณเคย ทานหมี่ซั่วของที่นี่ด้วยเหรอ?”
“อืม”ืมของที่นี่ด้วยเหรอนถามว่า ไท
้มกงของเขา สุดท้ายกงที่เขากำลังจะพ เต๋อชูเหอตอบด้วยรอยยิ้ม หลังจากที่กลื่นน้ำเต้าหู้รสหวานที่อยู่เต็มปาก
“ฉันเคยมาทานแล้วสองครั้ง ฉันบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอ ฉันเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัย Q แต่ฉันเพิ่งจะจบเมื่อปีนี้เอง ฉันกลับมาเพื่อรับใบประกาศนียบัตร ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเจอคุณที่นี่”
ช่วงนี้เป็นเดือนมิถุนายน และนักศึกษาปีที่สี่มักจะกลับมาเพื่อถ่ายภาพและรับวุฒบัตรจบการศึกษา แม้ว่าจะทำให้เขาประหลาดใจที่เต๋อชูเหอ เป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ จู่ ๆ เขาก็นึกถึงผู้ซื้อลายเซ็นของเต๋อชูเหอ ชายคนนั้นบอกว่าตัวเองเป็นนักศึกษาปีที่ 4 ของมหาวิทยาลัย Q และชื่อบน wechat ของเขาก็คล้ายกับเต๋อชูเหอ หรือว่าเขาจะเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า?
“ทำไมคุณมองฉันแบบนั้นล่ะ? มีอะไรติดอยู่ใบหน้าฉันเหรอ?” เต๋อชูเหอยกมือขึ้นสัมผัสบนใหน้าของเขาพร้อมกับยิ้มอย่างอ่อนโยน
“แปลกใจที่เจอผู้ชายหล่อ ๆ แบบฉันเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้เหรอ ไม่เป็นไรหรอกฉันเข้าใจดี แม้ว่าฉันจะเรียนที่นี่ แต่ฉันก็ไม่ค่อยได้มามหาวิทยาลัยหรอกนะ ก็เพราะงานของฉันนั่นแหละ แม้แต่เพื่อนชั้นยังไม่มีใครรู้จักฉันเลย”
เหอไป๋หรี่ตาลงเล็กน้อย ความสงสัยที่ไม่มีเหตุผลทำให้เขาต้องถามว่า
“รหัสนักศึกษาของคุณคืออะไร? มาเป็นเพื่อนกันเถอะ” เขาร้องขอ
“หืม?” เต๋อชูเหอกล่าวด้วยสีหน้าที่สับสน เขาขมวดคิ้วขณะพยายามขุดคุ้นความทรงจำนั้น แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อค้นหาเว็บไซต์ในขณะที่พูดว่า
“ฉันจำได้ว่าฉันสมัครตอนที่ลงทะเบียนไปตอนนั้น แต่ฉันใช้เลขประจำตัวนักศึกษาแทนการลงทะเบียน ด้วยชื่อบัญชี ขอฉันดูก่อนนะ..”
เมื่อเห็นเช่นนั้นเหอไป๋จึงรีบเปิด wechat เพื่อส่งข้อความไปยังผู้ซื้อ
เขาแอบดูเต๋อชูเหอไม่ได้ใช้ wechat เลย แต่เขากลับได้รับคำตอบทันทีจากผู้ซื้อ
นกกระเรียนที่เกิดในฤดูใบไม้ร่วง : สวัสดีตอนเช้า เป็นอีกวันที่ดีจริง ๆ
“ขอโทษด้วยนะ ดูเหมือนทางบริษัทต้นสังกัดจะทำการยกเลิก ID ของฉัน เพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวไปแล้วน่ะ” เต๋อชูเหอหันหน้าจอโทรศัพท์ของเขาให้เหอไป๋ดู พร้อมทำหน้าเสียใจ จากนั้นเขาก็ถอนมือออกพร้อมกับสัมผัสความโศกเศร้าบนใบหน้า
“นี่เป็นครั้งแรกที่มีนักศึกษาที่เดียวกันต้องการเป็นเพื่อนกันฉัน… ขอบคุณที่อยู่กับฉันในวันเกิดของฉันนะ วันนี้ฉันมีความสุขมากจริง ๆ”
เมื่อมองไปที่ใบหน้าเศร้าของเขา เหอไป๋เกือบรู้สึกผิด ราวกับว่าเขาได้ทำสิ่งที่เลวร้ายกับชายตรงหน้าไปเสียแล้ว
“เอ่อ..ยินดีครับ” ด้วยความละอายใจกับสิ่งที่เขาคิดเมื่อสักครู่ เขาจึงวางโทรศัพท์ลง
มันก็สมเหตุสมผลนะ ที่พวกเขาไม่สามารถเป็นคนเดียวกันได้ ท้ายที่สุดใครจะยอมจ่ายเพื่อซื้อลายเซ็นตัวเองคืนหลังจากมอบให้คนอื่นเนี้ยนะ นั่นไม่ใช่สิ่งที่คนฉลาดอย่างเต๋อชูเหอจะทำ เขาไม่ได้ร่ำรวยขนาดนั้น
ยิ่งเขาคิดเรื่องนี้ก็รู้สึกผิดมากขึ้นที่เขาหวาดระแวงไปเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา จากนั้นเขาก็ตะหนักว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นอาจทำให้เต๋อชูเหอเสียใจมากขึ้น เขาจึงรีบพูดเสริมออกไปว่า
“วันนี้เป็นวันเกิดของคุณ คุณอยากได้อะไรอีกไหมนอกจากหมี่ซั่ว? เค้กไหม? ฉันรู้จักร้านเค้กดี ๆ อยู่ด้วยนะ ถ้าคุณอยากได้ผมจะสั่งให้คุณ”
“อืม ไปกินเค้กกัน” เต๋อชูเหอรีบทานอาหารอย่างเร่งรีบเพื่อให้บะหมี่หมดชามอย่างรวดเร็ว
“ฉันคิดว่าวันนี้ต้องอยู่เพียงลำพังซะแล้ว ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันวิ่งมาหาคุณ ลูกหมาตัวน้อย ขอบคุณนะ”
เหอไป๋กลืนสิ่งที่เขาต้องการจะพูดและมองไปที่กระเป๋ากล้องของเขาข้าง ๆ เขา
“บางที ฉันเพิ่งเจอแบบที่จะใช้ในการถ่ายภาพในสัปดาห์นี้แล้ว”
หลังจากที่ทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว
เต๋อชูเหอไปรับใบประกาศนียบัตร ขณะนั้นเหอไป๋ทำการถ่ายภาพเต๋อชูเหอที่กำลังเดินเข้าไปในอาคารเรียน
เมื่อเริ่มสายแล้ว นักศึกษาจำนวนมากเข้ามาใช้สถานที่ในมหาวิทยาลัย เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวาย เต๋อชูเหอจึงเดินเลี่ยงออกไปกับเหอไป๋หลังจากที่เขาได้ใบกาศนียบัตรแล้ว พวกเขาขับรถไปที่เกมส์เซนเตอร์แห่งหนึ่งด้วยกัน
“ไม่อยากได้เค้กแล้วเหรอ?” เหอไป๋ยืนอยู่หน้าเกมเซนเตอร์ เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะเข้าไปในถ้ำของสิงโต
“ฉันสั่งโทรสั่งเค้กไปแล้ว สักพักกว่าจะได้ มาฆ่าเวลากับสิ่งนี้กันเถอะ” เต๋อชูเหอลดหมวกลง เขาควักเงิน 500 หยวนจากกระเป๋าของเขา และส่งให้เหอไป๋ “นี่ไง ไปแลกเหรียญมาเล่นเกมส์ด้วยกันเถอะ”
เขาจ้องไปที่เงินราวกับมันเป็น 500 หยวนนั้น ที่ดูราวกับเป็นเงินที่เขาให้ไปเมื่อวาน ความอัปยศในการขายลายเซ็นผุดขึ้นมาอีกครั้ง เขาถ่ายภาพเมื่อเห็นใบหน้าอันหล่อเหลาของเต๋อชูเจ๋อ ภายใต้ปีกหมวกนั้น จากนั้นเขาก็รับเงินและเดินเข้าไปในเกมเซนเตอร์ในขณะที่คิดว่า
‘อืม คิดว่าเป็นค่าตอบแทนสำหรับการขายลายเซ็นของเขาล่ะกัน’
พวกเขาลองเล่นทุกอย่างในเกมส์เซ็นเตอร์แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบาสเก็ตบอล เครื่องตกปลา เกมส์เต้น และอุปกรณ์ VR
เหอไป๋ยืนอยู่ข้าง ๆ เครื่องหยิบตุ๊กตา ใบหน้าที่ไร้อารมณ์ของเขากำลังเฝ้ามองดูเต๋อชูเหอ พยายามที่จะจับตุ๊กตาอย่างเงียบ ๆ วันหยุดสุดสัปดาห์มีคนเยอะมาก ก่อนหน้านี้ทั้งสองสามารถเล่นต่อได้โดยไม่มีใครสังเกตเห็นภายใต้แสงไฟสลัว ๆ แต่ตอนนี้อยู่ในส่วนของตู้จับตุ๊กตาที่มีไฟส่องสว่างเพียงพอ ผู้คนจำนวนมากกำลังมองมายังทิศทางของพวกเขา
ทันใดนั้นเหอไป๋ก็สังเกตเห็นว่าไม่ไกลนักมีเด็กผู้หญิงสองสามคนมองมาที่เขา ด้วยสายตาที่เป็นประกาย หลังจากมองไปรอบ ๆ ก็เห็นพนักงานในชุดแม่บ้านขายการ์ตูนสปินออฟ เขารีบหยุดเธอและซื้อของจากเธอ จากนั้นเขาก็วางมือบนไหล่ของเต๋อชูเหอ เขาหันหน้ามาเผชิญหน้าด้วย “ว่าไง?”
เต๋อชูเหอกล่าวโดยไม่สนใจว่าการเรียกให้กะทันหันนี้ได้ทำลายโอกาสที่ดีในการจับตุ๊กตา กระนั้นเขาก็ไม่ได้โกรธ แต่ยกหมวกขึ้นเล็กน้อยและถามเบา ๆ ว่า
“รีบร้อนเหรอ หืม? เราไปหาเครื่องดื่มดื่มกันดีไหม”
ใบหน้าที่แดงระเรื่อหลังการเล่น รอยยิ้มและวิธีที่อ่อนโยนที่เขาพูดคำเหล่านั้น เกือบทำให้เหอไป๋รู้สึกเหมือนกำลังจีบเขาอยู่ ช่างเป็นความเข้าใจผิดที่น่ากลัวจริง ๆ!
เหอไป๋ติดสติกเกอร์บนใบหน้าของเต๋อชูเหอ จากนั้นจึงบีบสีจำนวนมากถูไปทั่วหน้าผากและแก้มของเต๋อชูเหอ
เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจหลังจากที่ใบหน้าหล่อเหลากลายเป็นกระดานวาดภาพที่ยุ่งเหยิง แล้วโบกมือให้เขา
“โอเค ไปเล่นต่อได้ เด็กชายเต๋อ?” เขาคิดว่าเต๋อชูเหอเป็นเด็กผู้ชายที่แกล้งทำเป็นผู้ใหญ่ เห็ได้ชัดว่าเขาเป็นเกมเมอร์ตัวยงและวิธีที่เขาเล่นต่อไปนั้น บงบอกความเป็นเด็กในตัวเขา ตอนนี้เขาดูไม่มีอะไรเหมือนกับสิ่งที่เขาถูกสร้างขึ้นมา
เต๋อชูเหอปล่อยให้เขาทำอะไรกับใบหน้าของเขาตามใจชอบ แต่แล้วเขาก้ได้กลิ่นสีพร้อมกับขมวดคิ้ว “เด็กชายเต๋อเหรอ?”
“ใช่แล้ว จูเนียร์เต๋อ” เหอไป๋ตอบหน้าตาย
ทันใดนั้นเต๋อชูเหอก็คว้าสีจากมือเขา บีบออกมาหนึ่งกำมือแล้วถูกลงบนลักยิ้มทางด้านซ้ายของแก้มเขา พร้อมกับหยิกไปที่แก้วของเขา
“คุณอายุน้อยกว่าฉันอีก ถ้าฉันเป็นเด็ก แล้วคุณเป็นอะไร”
“เป็นลุงของคุณไง”
“ลูกหมาตัวน้อย”
“อะไร?”
“ลุงของฉันตายไปหลายปีแล้ว”
เหอไป๋เอามือออก จากนั้นก็รีบถ่ายรูปและพูดอย่างหัวเสีย
“ฉันจะถ่ายรูปคุณที่น่าเกลียดไว้ทั้งหมดเลย แล้วขายให้แฟนคลับโง่ ๆ ของคุณ มาดูกันว่าเธอจะเลิกบูชาคุณ แล้วหันมาเป็นแอนตี้แฟนของคุณแทนไหม?”
เต๋อชูเหอยิ้มอย่างอ่อนโยน ขณะมองเข้าไปในกล้อง
“แฟนครับโง่ ๆ เหรอ? ใครกัน? คนที่จ่าย 1,000 หยวนเพื่อลายเซ็นน่ะเหรอ? ลูกหมาน้อย ฉันลืมถามคุณไปเลย ทำไมคุณถึงขายลายเซ็นของฉันล่ะ คุณเกลียดฉันเหรอ?”
ผู้ชายในกล้องกำลังยิ้ม แต่ด้วยความเศร้า เหอไป๋กดชัดเตอร์เพื่อถ่ายภาพ โดยไม่รู้ตัวจากนั้นก็ถอนหายใจ เขาวางหน้าเฉยอีกครั้ง และเอียงศีรษะเพื่อมองไปที่ประตูส่งสัญญาณให้เขา
“ไปกันเถอะ ฉันหิวแล้ว ไปหาอะไรกินกัน”
“เลี้ยงใช่ไหม?”
“…ฉันเลี้ยง”
“ฉันอยากกินซี่โครง ที่แพงที่สุด”
เหอไป๋หยุดกะทันหัน และดึงมือของเขาเพื่อเขย่าอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ปล่อยมือนั้นพร้อมกับโบกมืด
“สุขสันต์วันเกิดนะ แล้วพบกันใหม่!”
เต๋อชูเหออดไม่ได้ที่จะหัวเราะ ในขณะที่เหอไป๋หันกลับมา เต๋อชูเหอรีบจัดเข็มขัดกระเป๋าของเขา ด้วยความสูงที่มากกว่า เต๋อชูเหอจึงหยิบกล้องถ่ายรูปของเขาออกมาอย่างสบายใจจากนั้นเขาก็โบกมือ
“เอาล่ะ ขอบคุณนะ แล้วพบกันใหม่”
หลับจากพูดจบเขาก็หันหลังกลับและจากไปโดยไม่ลังเลให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
“เดี๋ยวก่อน…” เหอไป๋ตกตะลึงและจากนั้นเขาก็กระทืบเท้าตะโกน
“เจ้าบ้า! กล้องถ่ายรูปของฉัน!”