God Level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ - ตอนที่ 999
ตอนที่ 999
เดี๋ยวนะ โนริเอล?
ลั่วฉวนสำรวจมองภาพถ่ายเด็กสาวเส้นผมสีดำและดวงตาสีดำ
เป็นโนริเอลที่เขารู้จัก
แต่ไม่ใช่ว่าอยู่เมืองใต้สมุทรหรอกหรือ ไฉนมาคึกคักในกลุ่มแชทได้กัน?!
นอกจากนี้ลั่วฉวนยังได้ทราบเรื่องราวเพิ่มเติม คล้ายว่านางจะพูดคุยกับลูกค้าไปมากหน้าหลายตา
ตัวตนของโนริเอลจึงกลายเป็นที่สงสัยในกลุ่มแชท
ในใจลั่วฉวนครุ่นคิดไปมา สุดท้ายเขาก็ไม่ได้เปิดเผยตนเองที่เข้าร่วมกลุ่มแชทแต่อย่างใด
จากนั้นจึงไปเปิดแอพวิดีโอและรับชม ซึ่งก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก
เหมือนว่าวิดีโอชุดของหุบเขาโอสถจะเพียงเพิ่งเริ่มแผนการ ตอนนี้ยังไม่พร้อม
เขาจึงปิดโทรศัพท์วิเศษไป
ผ้านวมนำมาห่มคลุมร่างก่อนจะหลับตาลง
ราตรีสวัสดิ์
ค่ำคืนนี้ไร้ฝัน
เมื่อลั่วฉวนลืมตาตื่น มันก็เป็นตอนเช้าตรู่แล้ว
บ่อยครั้งมักเป็นเช่นนี้ เป็นการหลับไปกว่าจะรู้ตัวก็คือเวลาผ่านพ้นไปไกล
เมื่อเปิดหน้าต่างออก ภายนอกฝนยังคงตก
ลั่วฉวนเดินออกจากห้อง
วันนี้เขาตื่นเช้ากว่าปกติ ประตูห้องเหยาซือหยานยังคงปิดอยู่
หลังล้างหน้าเรียบร้อยแล้วเขาจึงค่อยลงมาชั้นล่าง
“อรุณสวัสดิ์ก้อนดำน้อย” ลั่วฉวนพูดกล่าวกับก้อนดำน้อยที่อยู่บนกิ่งต้นไม้โลก
ก้อนดำน้อยกระโดดลงบนฝ่ามือลั่วฉวนและเด้งไปมาอยู่หลายครั้ง
กิ่งของต้นไม้โลกและใบไม้ขยับเล็กน้อย ตามความเข้าใจของลั่วฉวน น่าจะเป็นการบอกเร่งให้มารดน้ำ
ด้วยถือก้อนดำน้อยไว้มือหนึ่ง เขาจึงเดินไปยังชั้นและนำสินค้ากลับมา
โคล่าถูกปิดฝาขวดและเทออก เพียงไม่นานก็ซึมหายเข้าไปในดำอย่างไร้ร่องรอย
จากนั้นจึงราดสไปรท์และสินค้าอื่นลงไป
เหยาซือเย่ว์เปิดประตูออกมาพร้อมหาววอด สายตานั้นมองทางห้องลั่วฉวนด้วยความง่วงงุนก่อนจะมองกลับเข้าห้องที่นางเพิ่งออกมา “พี่หญิง เหมือนเถ้าแก่จะตื่นนานแล้ว”
“ข้าไม่ควรคุยกับเจ้าจนดึกดื่น” เหยาซือหยานดีดนิ้วที่หน้าผากเหยาซือเย่ว์
“เจ็บนะ ท่านไปทำอาหารเช้าแล้ว” เหยาซือเย่ว์หัวเราะตอบ
มื้อเช้าวันนี้ค่อนข้างเรียบง่าย
ลั่วฉวนได้ทานอาหารซากุระอีกครั้ง เขาคาดการณ์ได้จากการที่เห็นเหยาซือเย่ว์เดินเข้าไปในหมู่บ้านซากุระเมื่อครู่
พักหนึ่งได้ทานไม่เป็นไร กลิ่นของซากุระจะฟุ้งกระจายในร้านเพราะอาหารมื้อเช้า
เมื่อปู้หลี่เกื๋อเข้ามาในร้านพร้อมอาหารเช้าที่เพิ่งซื้อจากร้านหยวนก่วย เขาพลันรู้สึกว่าอาหารในมือตนเองจืดชืด
มันไม่ใช่เพราะอาหารของร้านหยวนก่วยไม่ดี อย่างไรแล้วฝีมือการทำอาหารของหยวนก่วยก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าเหยาซือหยาน แต่มันเป็นเรื่องของปริมาณ
สายตาปู้หลี่เกื๋อมองซาลาเปาในมือ จากนั้นจึงมองสำรับอาหารเช้าหรูหราของลั่วฉวน หากเทียบเปรียบแล้ว ไม่ควรเปรียบเทียบจะดีกว่า
“เถ้าแก่ ไฉนอาหารเช้าวันนี้ดูสายกว่าปกติ?” ปู้หลี่เกื๋อพยายามหักห้ามไม่ให้ตนเองสนใจ
“เมื่อคืนเล่นโทรศัพท์วิเศษดึกไปหน่อย” เหยาซือหยานตอบคำถามของปู้หลี่เกื๋อแทนลั่วฉวน
“โอ้” ปู้หลี่เกื๋อพยักหน้ารับโดยไม่คิดอะไรมาก
“ได้ยินว่าเมื่อคืนนี้หยวนก่วยไปที่คฤหาสน์ขุนนางใต้ เป็นยังไงบ้าง รับตัวเจ้าเป็นศิษย์เรียบร้อยดีแล้ว?” เหยาซือเย่ว์มองมาพร้อมกล่าวถาม
“จะเรียบง่ายเช่นนั้นได้ยังไง” ปู้หลี่เกื๋อเผยยิ้มขื่นขม “เมื่อคืนแค่เป็นการหารือเรื่องพิธีการรับตัวเป็นศิษย์ ยังไม่ได้เป็นศิษย์และอาจารย์ต่อกันจริง”
“พิธีรับตัว?” ลั่วฉวนเกิดสงสัย
“ข้าจำไม่ค่อยได้เท่าไหร่นัก เหมือนว่าจะมีหลายขั้นตอนพอสมควร” ปู้หลี่เกื๋อยักไหล่ตอบอย่างอับจน
ด้วยเหตุนี้ลั่วฉวนจึงยังไม่ทราบว่าพิธีทำอย่างไร
“กล่าวไปแล้ว อาจารย์บอกในระหว่างพิธีต้องเชิญผู้อื่นมาเป็นพยานด้วย น่าจะเป็นเถ้าแก่นะ” ปู้หลี่เกื๋อเผยความเห็น
“ได้” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ สีหน้ายังคงราบเรียบเหมือนดังเคย
ปู้หลี่เกื๋อที่เดินซาลาเปามาตั้งแต่ร้านหยวนก่วย ตอนนี้กินหมดแล้วจึงเก็บห่อเข้าแหวนมิติ จากนั้นจึงเดินไปหยิบสไปรท์จากชั้นวางและเดินไปทางเครื่องเล่นเกมเสมือนจริง
“ไม่รอเล่นกลอรี่พร้อมคนอื่นหรือ?” เหยาซือเย่ว์กล่าวถาม
“กลอรี่ยังไม่ต้องรีบก็ได้ วันนี้เล่นโหมดทั่วไปดีกว่า” ปู้หลี่เกื๋อตอบกลับมา “ฟังจากคนในกลุ่มแชทกล่าวว่ามีภารกิจใหม่ปล่อยออกมา ข้าต้องไปดูเสียหน่อยว่าคืออะไร”
ลั่วฉวนพอจะทราบเรื่องนี้มาบ้าง
ขณะที่หายนะเริ่มเคลื่อนไหว จำนวนของผู้ติดเชื้อเร่รอนในป่าก็ลดลง ภารกิจออกล่าผู้ติดเชื้อจึงน้อยลงตามไปด้วย
ขณะเดียวกัน สัตว์ที่ติดเชื้อก็เข้ามาแทนที่ผู้ติดเชื้อ เหล่านั้นคือภารกิจล่าสุดที่ปล่อยออกมา
ที่ตัวของสัตว์อสูรเหล่านั้นจะมีวัสดุที่ดีคงอยู่ ซึ่งมันเหมาะสมสำหรับนักเวท รวมถึงยังมีแร่ธาตุอื่นที่สามารถนำมาใช้งาน
อานเหวยหยามาถึงร้านเป็นคนที่สอง นางคุ้นเคยกับการเปิดเส้นทางมิติดี
“เถ้าแก่ยังทานมื้อเช้าอยู่หรือนี่” อานเหวยหยาพบเห็นลั่วฉวนยังคงทานมื้อเช้าพลางต้องลอบกลืนน้ำลาย
“ทานไหม?” ลั่วฉวนพบเห็นสายตาจึงรู้สึกนึกสนุกขึ้นมา
“เช่นนั้นข้าไม่มากมารยาท” ดวงตาอานเหวยหยาเผยประกายก่อนจะรวบเอามื้อเช้าที่เหลือเข้าปาก “ไม่ทานกันแล้วหรือ?”
“วันนี้ทำมื้อเช้าเยอะไปหน่อย” เหยาซือหยานยิ้มตอบ
ปู้หลี่เกื๋อที่เพิ่งนั่งตรงเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงพอพบเห็นจึงเผยดวงตาเบิกกว้าง
ทำไมกลายเป็นเช่นนี้? หากทราบเขาคงถามไปก่อนเป็นคนแรกแล้ว
และก็ไม่ทราบว่าโอกาสเช่นนี้จะปรากฏอีกครั้งเมื่อใด
ในใจปู้หลี่เกื๋อเกิดนึกเสียดายขึ้นมา
จากนั้นเขาจึงเข้าโลกเสมือนจริง ความเสียดายถูกระบายออกไปยังเหล่าสัตว์อสูร
การมาถึงของปู้หลี่เกื๋อและอานเหวยหยา มันแทบเป็นการยืนยันว่าเวลาเริ่มทำการของร้านต้นตำรับเริ่มขึ้นแล้ว ถัดจากนี้จะมีลูกค้าทยอยมากัน
ลั่วฉวนพบเห็นว่าลูกค้าหลายคนเมื่อเข้ามาในร้านจะหันมองสำรวจราวค้นหาอะไรบางอย่างอยู่
สุดท้ายสายตาพวกเขาจึงมองไปทางปู้หลี่เกื๋อที่เข้าโลกเสมือนจริงไปเรียบร้อยแล้ว สีหน้าพวกเขาตอนนี้ค่อนข้างที่จะ… หวั่นเกรง
นี่เป็นผลกระทบจากเรื่องของสถานะ ไม่ว่าโลกใดล้วนมี
ราชินีไซเรนมาถึงร้านต้นตำรับผ่านทางประตูแสงพร้อมเดินไปเลือกซื้อสินค้า
เมื่อผ่านมาหน้าโต๊ะรับเงิน ลั่วฉวนจึงเรียกนางไว้
“เฮเลนเวีย ตอนนี้เป็นยังไงบ้างแล้ว?”
ลั่วฉวนย่อมถามถึงเรื่องเมืองใต้สมุทร
ราชินีไซเรนหยุดตอบ “ยี่ลาส่งชาวไซเรนจำนวนหนึ่งออกไปแล้ว หากเกิดเรื่องราวใดขึ้นจะแจ้งข่าวอีกที”
“ดีแล้ว” ลั่วฉวนพยักหน้ารับ
เหมือนว่าเขาจะเลือกถูกที่ฝากฝังให้ชาวไซเรนช่วยเหลือ เพราะพวกนางคือผู้เชี่ยวชาญและไว้ใจได้
“เถ้าแก่พูดกล่าวถึงอะไรหรือ?” เหยาซือเย่ว์มองทางราชินีไซเรนด้วยความสงสัย
“เดี๋ยวก็ทราบ” นี่แทบจะกลายเป็นประโยคสุดคลาสสิคของลั่วฉวนไปแล้ว
“คำตอบนี้อีกแล้ว” เหยาซือเย่ว์บุ้ยปากตอบรับก่อนจะเดินกลับไป ไม่ช้าจึงหาที่นั่งและเข้าโลกเสมือนจริง