MMORPG: Martial Gamer - ตอนที่ 213
Chapter 213: พวกเราคือกฏ
ผู้เล่นทุกคนที่ดูการต่อสู้อยู่นั้นเสียใจที่การต่อสู้มันเล็กมาก ถ้านิกายซวนเฉินนั้นอยู่ที่นี่แล้วละก็ มันจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากกว่านี้! เมื่อพวกเขามองไปที่การแจ้งเตือนโลกว่านิกายซวนเฉินนั้นได้ท้าทายกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์ว่าทำสงครามกิลด์ ความตื่นเต้นของพวกเขานั้นทะยานขึ้นเป็นอย่างมาก
แน่นอนว่ามันไม่ต้องสงสัยเลยว่าในความคิดของเขาเกี่ยวกับผลลัพธ์ของการต่อสู้นี้ พวกเขานั้นต้องการที่จะเห็นว่านิกายซวนเฉินนั้นสามารถสร้างปาฏิหารย์ขึ้นมาอีกได้ไหม
โชคร้ายที่นิกายซวนเฉินนั้นทำให้พวกเขาผิดหวังในครั้งนี้ เพียงแค่สามสิบนาทีต่อมาหลังจากการแจ้งเตือนเดิม พวกเขาก็ได้รับข้อความว่านิกายซวนเฉินนั้นยอมแพ้เกี่ยวกับสงครามกิลด์
ตั้งแต่ที่ผู้เล่นพวกนั้นคุ้นเคยกับนิกายซวนเฉินที่ดื้อด้านเกี่ยวกับการทำสิ่งต่างๆแล้ว พวกเขาก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะยอมแพ้กับสงครามกิลด์ง่ายๆแบบนี้
“ชิ พวกเขาสามารถที่จะทำได้แค่นี้อย่างงั้นเหรอ? มองไปที่ตัวตลกนิกายซวนเฉินที่โอ้อวดตลอดเวลาบนเว็บบอร์ดสิ และในตอนนี้พวกเขานั้นไม่สามารถที่จะเอาชนะกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์ได้ ในขณะที่พวกเขานั้นไม่ได้อยู่ในสำนักงานกิลด์ของตัวเองนี่นะ?”หลังจากที่พวกเขายอมแพ้ ผู้เล่นจำนวนมากที่มีข้อขัดแย้งกับนิกายซวนเฉินก็พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในเว็บบอร์ด
อย่างไรก็ตาม นอกจากผู้เล่นทั้งหมดที่สังเกตการณ์การต่อสู้นั้น คนที่ดูใกล้ที่สุดนั้นก็คือพวกกิลด์ระดับสูง
ตั้งแต่ที่เกมถูกปล่อยออกมา นิกายซวนเฉินนั้นได้สร้างปาฏิหารย์ครั้งแล้วครั้งเล่า การเคลียร์ครั้งแรกและความสำเร็จส่วนใหญ่ในเกมนั้นถูกแย่งไปโดยพวกเขา…ที่เลวร้ายไปกว่านั้น พวกเขานั้นไม่เคยล้มเหลวในเป้าหมายมาก่อนอีกด้วย!
อำนาจของนิกายซวนเฉินนั้นทำให้ผู้นำกิลด์ระดับสูงกิลด์อื่นนั้นรู้สึกเลวร้ายในหัวใจของพวกเขา เมื่อพวกเขาเผชิญหน้ากับมัน
สุดท้ายแล้ว นิกายซวนเฉินนั้นก็เป็นต้นเหตุที่ทำให้กิลด์ระดับสูงในประเทศจีนอย่าง คฤหาสน์แห่งความสิ้นสุดนั้นแยกตัวเนื่องจากเรื่องตลกของพวกเขา มันเป็นบางสิ่งบางอย่างที่ผู้เล่นระดับสูงทุกคนรู้ ยิ่งไปกว่านั้น สองในสามของกิลด์ที่แยกออกมาจากคฤหาสน์แห่งความสิ้นสุดนั้นกระจายตัวไปในกิลด์ระดับสูงทั้งสิบในประเทศ!
เมื่อผู้นำกิลด์พวกนี้เห็นนิกายซวนเฉินนั้นได้ท้าทายกับกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์ในการทำสงครามกิลด์ พวกเขาก็เชื่อว่านิกายซวนเฉินนั้นจะสร้างปาฏิหารย์ขึ้นมาอีกครั้ง
แต่เมื่อพวกเขาได้รับข่าวที่นิกายซวนเฉินยอมแพ้ในสงครามกิลด์ ผู้นำพวกนี้ก็ต่างถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
“มันเหมือนกับว่าพวกเขาอยู่ใต้แรงกดดันของจำนวนที่มากกว่า แม้กระทั่งกลุ่มสัตว์ประหลาดพวกนั้นก็ยังคงต้องยอมแพ้..”
สำหรับผู้เล่นของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์ที่รู้ความจริงนั้นก็ไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย มันจะกลายเป็นเรื่องที่น่าละอาย ถ้าเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ชื่อเสียงของกิลด์พวกเขานั้นจะไม่มีวันฟื้นคืนได้เลย
พร้อมกับนิกายซวนเฉินที่อยู่รอบๆ พวกเขาก็สามารถที่จะลืมไปถึงการมาเยือนเมืองรัตติกาลได้อีกเลย…พวกเขานั้นไม่ได้มีความคิดที่เปิดกว้างเหมือนกับพันธมิตรอันนองเลือดและพวกเขาก็ยังคงกังวลเกี่ยวกับฐานหลักของพวกเขา แม้ว่านิกายซวนเฉินอาจจะออกไปจากเมืองพราหมณ์แล้ว มันก็ไม่มีเรื่องการันตีว่ากิลด์อื่นนั้นจะไม่พยายามโจมตีพวกเขา ในขณะที่พวกเขายังไม่อยู่
ถึงแม้ว่าผู้เล่นของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นจะผิดหวัง ผู้เล่นจากเมืองรัตติกาลนั้นต่างตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ไม่มีใครเลยในพวกเขาที่คิดว่าพวกเขาจะสามารถเห็นฉากที่สวยงามเช่นนี้ได้ “พลุไฟของวันปีใหม่” ของวันนี้
เมื่อพวกเขามาถึงรูปแบบเทเลพอร์ต ผู้เล่นของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์นั้นก็ได้พบกับการมาถึงของนิกายซวนเฉิน
อย่างไรก็ตามในครั้งนี้นั้น เล่นของกิลด์แผ่นดินอันบริสุทธิ์สามารถที่จะทำได้เพียงก้มหัวต่ำลงและเดินผ่านนิกายซวนเฉินไป ก่อนที่พวกเขาจะแยกตัวกัน บุปผาอันโดดเดี่ยวก็ได้สั่งกับพวกเขาว่าห้ามแตะใครสักคนในนิกายซวนเฉินอีก
เมื่อนิกายซวนเฉินมาถึงปลายถนน รอยยิ้มของดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์ก็แข็งทื่อไป
เมื่อเหลือบตามองไปนั้น สายตาของพวกเขาก็ลงไปกระทบกับหญิงสาวที่ยืนข้างอมิตตาบาและกำลังจ้องกลับมายังดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์
ผู้หญิงคนนี้มีการแสดงออกที่ซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ ที่จริงแล้ว เธอนั้นเลือกที่จะติดตามอมิตตาบาไปตั้งแต่ที่เขานั้นมาจากกิลด์ใหญ่ และเธอก็จะได้มีชีวิตที่สะดวกสบาย ใครจะไปคิดว่าแฟนเก่าของเธอนั้นจะเข้าร่วมกับนิกายซวนเฉินและทะยานขึ้นเหมือนกับนกฟีนิกส์กันละ…
“อัยหยา! มันเหมือนกับว่าพวกเราจะมีโชว์ดีๆกันละ เพื่อนๆ! นายคิดว่ารูนั่นคิดยังไงในตอนนี้?”หมิงตู่แสยะยิ้ม
“ฉันคิดว่าเธอนั้นน่าจะกำลังเสียใจกับทางเลือกของเธอ….และเกลียดชังกับความจริงที่เธอไม่สามารถที่จะกระโดดกลับมาในอ้อมแขนของเขาได้…”ความทระนงตัวแนะนำ
“เหอะ นายมันใสซื่อเกินไป ไอ้เด็กน้อย! เธอนั้นจะต้องโทษว่ามันเป็นความผิดของนิกายซวนเฉินในการช่วยดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์ในการได้รับชีวิตใหม่อย่างแน่นอน!รัศมีฤดูใบไม้ผลิตอบกลับอย่างชาญฉลาด
“มันจะไม่เป็นแบบนั้น! ไม่มีใครที่หน้าด้านขนาดนั้นหรอก!”ขุนนางครอทอ้าปากค้าง
“มันไม่ได้เรียกว่าหน้าด้าน มันก็แค่ผู้หญิง! ไม่สำคัญว่ายังไง พวกเธอก็จะไม่เชื่อว่าพวกเธอนั้นเป็นคนผิด…”รัศมีฤดูใบไม้ผลิถอนหายใจ
“ฮึ่ม!”ในเวลานั้นเอง หญิงสาวทั้งหมดในนิกายซวนเฉินก็จ้องไปที่รัศมีฤดูใบไม้ผลิอย่างดุร้ายและทำให้เขาหยุดพูด
“นายมองเสร็จหรือยัง? ถ้านายต้องการที่จะล้างแค้นละก็ นายก็ไปทำมันซะ! พวกมันนั้นกำลังจะไปแล้วนะ!”โบซอนตบไปที่หลังของดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์และผลักเขาไปด้านหน้า
“ฉันสามารถที่จะทำแบบนั้นได้ด้วยเหรอ?”ดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์ถามขึ้นในทันที ศัตรูของเขานั้นได้ยอมแพ้แล้วและจ่ายค่าชดเชยให้กับพวกเขา ดังนั้นเขาคิดว่าพวกเขานั้นไม่ได้รับอนุญาตให้โจมตีอีกต่อไป
“บุปผาอันโดดเดี่ยวนั้นไม่สนใจเกี่ยวกับคนแค่คนเดียวหรอก…”ไร้ความกลัวยิ้ม
“ลืมมันไปซะ…มันก็แค่นั้นเอง…”
ก่อนที่ดาร์คนอร์ทฟิชเชอร์จะพูดเสร็จ หยางนัวนั้นก็ยิงลูกศรใส่หน้าของหญิงสาวคนนั้นและฆ่าเธอตายในทันที ในเวลานั้นเอง อมิตตาบานั้นกำลังจะโต้กลับ หยางนัวก็หลบไปหลังของเขาและยิงลูกศรใส่หัวเขาและฆ่าเขาตายตรงนั้นเลย
หลังจากที่ฆ่าพวกเขาทั้งคู่ไปแล้ว หยางนัวนั้นก็เดินกลับมาหาคนอื่นและดูถูก “ลังเลมากขนาดนั้นและยังกล้าเรียกตัวเองว่าผู้ชายอีกงั้นเหรอ? ไม่สงสัยเลยที่นายจบแบบนี้หน่ะ!”
“…”
เมื่อบุปผาอันโดดเดี่ยวได้รับข่าวเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขาก็วิ่งกลับมาในทันทีและจ้องไปยังไร้ความกลัว “ผู้นำกิลด์ไร้ความกลัว นี่มันหมายความว่าอะไร? ไม่ใช่ว่าเรื่องระหว่างพวกเรามันจบแล้วงั้นเหรอ?”
“คนของฉันมีข้อขัดแย้งที่จะต้องจัดการ! พวกเราที่เป็นผู้นำไม่ควรที่จะยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวของพวกเขา”ไร้ความกลัวตอบกลับอย่างไม่แยแส
“มันจะมากเกินไปแล้วนะ!”บุปผาขู่แล้วเขาก็ชักดาบ
“มากเกินไปนี่คือยังไงเหรอ? ใครกันที่เป็นคนทำมัน?”
ทันทีที่บุปผาอันโดดเดี่ยวได้ยินเสียงนี้ เขาก็สูญเสียสติไปทั้งหมดและเขาก็คุกเข่าลงกับพื้น
“เทพ…เทพเจ้ากระทิงเหล็ก….การต่อสู้นั้นจบลงแล้ว ดังนั้นคุณไม่คิดว่ามันมากเกินไปนิดหน่อยเหรอที่พวกของคุณนั้นฆ่าคนของผมอยู่อีก….”บุปผาอันโดดเดี่ยวถามอย่างอ่อนแอ
นิดหน่อย….สองคำนี้นั้นแสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัวของบุปผาต่อหวังหยู่
“มันมีกฏแบบนั้นด้วยเหรอ?”หวังหยู่ถามแล้วเขก็เดินไปข้างมู่จี่เซียนและเหลือบตามองไปที่บุปผา
“ไม่! พวกเราเป็นกฏที่นี่!”ไร้ความกลัวพูด