Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 38
บริ๊งค์กำลังฝึกความสามารถของเธออย่างขยันขันแข็ง ส่วนซู่เจินก็ไม่ได้อยู่เฉยๆเช่นกัน เขาพยายามศึกษาเกี่ยวกับก้อนอนุภาคแรงโน้มถ่วงที่อยู่ในมิติเก็บของของเขาอยู่
เจ้าก้อนนี่มันวางอยู่นิ่ง ๆ ในมิติเก็บของ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ไม่มีความแตกต่างให้สังเกตเลยสักนิด
ถ้าเกิดว่าเขาไม่ได้เห็นมันด้วยตาของตัวเองว่ามันอยู่ในมิติเก็บของของเขา เขาคงคิดว่าเจ้าสิ่งนี้ได้กลืนกิน ดร. ฮอลล์ไปแล้วซะอีก
“ระบบฉันสามารถกลืนกินมันได้ไหม?” ซู่เจินถามระบบขึ้นมาด้วยความสงสัย
“ตอนนี้มันกำลังอยู่ในสภาวะปิดผนึก หลังจากการตรวจสอบดูก็พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างอยู่ภายใน และมันน่าจะมีความสามารถในการปรับตัวได้ ดังนั้นจึงไม่สามารถดูดซับได้ในขณะนี้!” ระบบให้คำตอบแก่ซู่เจินอย่างรวดเร็ว
“ปรับตัวงั้นหรอ ? หรือว่ามันจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ดร. ฮอลล์ ได้ความสามารถนี้มา ดังนั้นฉันในตอนนี้ก็ทำได้เพียงแค่รอให้ดร. ฮอลล์ดูดซับความสามารถนี้มา และฉันก็ไปกลืนกินความสามารถของดร. ฮอลล์มางั้นหรอ?” ซู่เจินรู้สึกไม่ดีเล็กน้อย
ดร. ฮอลล์ หรือ ว่านลี่หวัง เขาเป็นคนที่โหดเหี้ยมอำมหิต และยังสามารถบดขยี้สมาชิกทั้งหมดของ อเวนเจอร์ ได้ทำให้หลาย ๆ คนค่อนข้างที่จะเกรงกลัวเขา และถ้าเกิดว่าซู่เจินจะชวนเขามาเข้าร่วมทีมกับเขา เขากลัวว่าจะไม่สามารถควบคุม ดร.ฮอลล์ ได้ บางที… ดังนั้นการกลืนกินความสามารถของเขาจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
“ ซู่เจิน ซู่เจิน!”
ซู่เจินที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ เมื่อได้ยินเสียงเรียกของใครบางคนเรียกเขา เขาก็ได้สติขึ้นมาทันทีและมองไปที่บริ๊งค์ที่กำลังทำท่าทางตื่นตระหนก
“เกิดอะไรขึ้นงั้นหรอ?”
เมื่อเห็นความตื่นตระหนกของบริ๊งค์ ซู่เจินก็รู้สึกสงสัยเล็กน้อย หรือว่าเธอจะมีเรื่องเร่งด่วน?
“มีบางอย่างเกิดขึ้นกับเพื่อนของฉัน ฉันจึงต้อง … รีบไปช่วยเธอให้เร็วที่สุด … แต่ฉันกลัวว่าคนเดียวน่าจะสู้ไม่ไหว ดังนั้นคุณช่วยฉันหน่อยได้ไหม ?” บริ๊งค์รีบถามขึ้นมาอย่างกระวนกระวาย
“แน่นอน!”
ซู่เจินตอบขึ้นมาโดยไม่ลังเล จากนั้นก็ค่อย ๆ บอกให้เธอใจเย็น ๆ และพูดว่า “ก่อนอื่นเลยคุณบอกผมหน่อยได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพื่อนของคุณ และเพื่อนของคุณเป็นใคร?”
“เธอคือเพื่อนที่ฉันเจอเมื่อไม่นานมานี้ เธอเป็นมนุษย์กลายพันธุ์ ชื่อว่า ซาร่า แต่คนส่วนมากชอบเรียกเธอว่า แมโร ( Marrow ) และเธอยังสามารถเอากระดูกของตัวเธอเองมาสร้างเป็นอาวุธได้ แถมเธอยังมีหัวใจอยู่สองดวงภายในร่างกายของเธอ ฉันเพิ่งช่วยเหลือเธอเอาไว้เมื่อไม่กี่วันก่อน และเมื่อกี้เธอก็โทรมาหาฉัน แล้วบอกว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตราย” บริ๊งค์รีบอธิบายขึ้นมาอย่างร้อนรน
“ มนุษย์กลายพันธุ์ ? เอากระดูกของตัวเองมาสร้างเป็นอาวุธได้?”
ซู่เจินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แม้เขาจะรู้ว่าความสามารถของพวกมนุษย์กลายพันธุ์นั้นแปลกประหลาด แต่เรื่องแบบนี้มัน … ก็น่าแปลกใจจริง ๆ นั่นแหละ
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ!”
ซู่เจินหันไปบอกกับบริ๊งค์ เธอพยักหน้าให้กับซู่เจินอย่างขอบคุณ และยกมือโยนคริสตัลออกไปด้านหน้า
หลังจากนั้นก็ปรากฏพอร์ทัลขึ้นมาด้านหน้าของพวกเขา ซู่เจินและบริ๊งค์หันมามองหน้ากันและกระโดดเข้าไปในพอร์ทัลอย่างรวดเร็ว
วินาทีต่อมาพวกเขาทั้งสองคนก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องใต้ดินที่ไหนสักแห่งหนึ่ง
ที่ประตูของห้องใต้ดินถูกปิดอย่างแน่นหนา โดยด้านในของห้องใต้ดิน มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งตัวสั่นและพยายามซ่อนตัวจากอะไรบางอย่างอยู่
เมื่อเห็นว่ามีแสงสว่างของพอร์ทัลปรากฏขึ้น และซู่เจินกับบริ๊งค์เดินออกมา ผู้หญิงคนนั้นก็รีบลุกขึ้นและตะโกนอย่างรวดเร็วว่า “เยี่ยม! ในที่สุดเธอก็มาช่วยฉันแล้ว และเขาเป็นใครงั้นหรอ?”
“เขาชื่อว่า ซู่เจิน เป็นหัวหน้าของฉัน!” บริ๊งค์แนะนำตัวซู่เจินแบบสั้น ๆ และพูดขึ้นมาว่า “รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ!”
ในขณะที่บริ๊งค์ที่กำลังจะเปิดพอร์ทัลขึ้นมา
“มันจะมีปัญหาตามมากมาย!”
จู่ ๆ ซู่เจินก็พูดแทรกขึ้นมาและมองไปที่บริ๊งค์แล้วพูดว่า “ผมไม่รู้หรอกนะว่าพวกเธอจะเคยช่วยเหลืออะไรกันมาก่อน แต่ในตอนนี้เธอดูเหมือนจะมีปัญหาอะไรบางอย่างอยู่ใช่ไหม ? และเธอจะเอาแต่หนีงั้นหรอ ? เธอไม่สามารถหนีมันไปได้ตลอดหรอกนะ ในเมื่อปัญหานี้มันจัดการได้ ทำไมไม่ทำให้มันจบ ๆ ไปเลยล่ะ” หลังจากพูดจบซู่เจินก็หันหน้าไปมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นและพูดว่า ” คุณถูกเรียกว่า แมโร ใช่ไหม ? แล้วคนที่คุณไปมีปัญหาด้วยอยู่ที่ไหนล่ะ? “
“ เขาอยู่ข้างนอก!”
แมโรกล่าวขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
“ผมได้ยินมาว่าคุณสามารถสร้างกระดูกมาเป็นอาวุธได้ใช่ไหม ? และคุณต่อสู้เป็นหรือเปล่า ?” ซู่เจินถามขึ้นมาอีกครั้ง
แมโรส่ายหัวขึ้นมาเบา ๆ
“ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมค่อยสอนคุณที่หลังก็ได้!”
หลังจากที่ซู่เจินพูดจบเขาก็โบกมือเบา ๆ ทำให้ประตูที่ถูกล็อคอยู่ถูกดึงออกอย่างรุนแรงและเปิดออกมา
หลังจากนั้นซู่เจินก็เดินออกไปจากห้องใต้ดิน
ที่ด้านนอกเป็นห้องโถงที่ว่างเปล่า เขาไม่รู้ว่าเมื่อก่อนเคยมีอะไรอยู่ตรงนี้หรือเปล่า เพราะดูเหมือนว่ามันจะถูกทิ้งร้างไว้นานมาก ทำให้เต็มไปด้วยฝุ่นและหยากไย่เต็มไปหมด
“นี่ … ปล่อยเขาไปแบบนั้นจะไม่เป็นอะไรงั้นหรอ?” แมโรถามบริ๊งค์ขึ้นมาด้วยความกังวล
บริ๊งค์ส่ายหัวและพูดว่า “ไม่ต้องเป็นห่วงเขาหรอก เขาแข็งแกร่งจะตายและ … ฉันยังรู้สึกอีกว่าสิ่งที่เขาพูดมามันถูกต้อง เพราะว่าพวกเราไม่สามารถหลบหนี้มันไปได้ตลอดทั้งชีวิต ดังนั้นพวกเราจำเป็นที่จะต้องเผชิญหน้ากับมัน และจัดการมันให้เรียบร้อยซะ!”
“ โฮกกก!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงร้องคำรามแปลก ๆ ดังออกมา
ซู่เจินเอามือของเขาขึ้นมาปิดหูเอาไว้และหันไปพูดกับแมโรและบริ๊งค์ข้างหลังเขาว่า “พยายามปกป้องตัวเองกันเอาไว้”
ตูม! ตูม!
เสียงฝีเท้าที่กระแทกพื้นอย่างรุนแรงค่อย ๆ ดังเข้ามาใกล้พวกเขาเรื่อย ๆ ทำให้สภาพแวดล้อมโดยรอบเกิดการสั่นสะเทือนเล็กน้อย ดูเหมือนว่าคนคนนี้จะมีรูปร่างค่อนข้างใหญ่โตใช่ไหม ?
ซู่เจินจ้องมองไปที่ด้านหน้าของเขาด้วยสายตาจริงจัง และไม่นานก็มีตัวอะไรบางอย่างปรากฏตัวขึ้น!
ผิวสีเขียว ร่างกายใหญ่โต มีหางที่งอกยาวออกมาจากทางด้านหลัง!
“ศาสตราจารย์กิ้งก่า?”
ซู่เจินรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าคนที่ปรากฏตัวขึ้นเป็นใคร เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นศาสตราจารย์ ลิซาร์ด ในตอนนี้เขาน่าจะไปตามไล่จับสไปเดอร์แมนอยู่ไม่ใช่หรอ และทำไมเขาถึงได้มาตามจับพวกมนุษย์กลายพันธุ์ได้ล่ะ มันจะไม่ล้ำเส้นเกินไปหน่อยหรอ!
“เฮ้! ไอ้กิ้งก่าตัวเหม็น พวกมนุษย์กลายพันธุ์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคุณไม่ใช่หรอ !”
ซู่เจินตะโกนถามขึ้นมากับศาสตราจารย์ลิซาร์ด
ศาสตราจารย์ลิซาร์ดคำรามออกมาและพุ่งเข้าไปหาซู่เจินอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจคำพูดของซู่เจินเลยสักนิด
“กล้าเมินฉันงั้นเหรอ ? ได้! เดี๋ยวฉันจะสอนให้คุณรู้เองว่าราคาที่ต้องจ่ายมันเป็นยังไง!” ซู่เจินแสยะยิ้มขึ้นมาและพุ่งออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ศาสตราจารย์ ลิซาร์ด เมื่อเห็นว่าซู่เจินกำลังพุ่งเข้ามา เขาก็ตวัดหางของเขาโจมตีไปที่ซู่เจินอย่างรุนแรง
ทำให้เกิดเสียงลมตัดผ่านชั้นอากาศขึ้นมาอย่างรุนแรง
ซู่เจินก้มตัวหลบได้อย่างง่ายดายและจับไปที่หางของศาสตร์จารย์ ลิซาร์ด ได้อย่างง่ายดาย หลังจากนั้นเขาก็จับหางของศาสตร์จารย์ ลิซาร์ดเหวี่ยงไปรอบ ๆ ตัวของเขาและโยนออกไปอย่างรุนแรง
ตูม!!
ศาสตราจารย์ลิซาร์ดกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างรุนแรง และส่ายหัวไล่ความมึนงง และจ้องไปที่ซู่เจินด้วยความโกรธ เขาคำรามออกมาด้วยเสียงดังลั่นและกระทืบไปที่พื้นอย่างรุนแรง เหมือนกับว่าเขาต้องการบดขยี้ซู่เจินด้วยพลังอันยิ่งใหญ่ของเขา เขาพุ่งเข้ามาหาซู่เจินอย่างรวดเร็วและตวัดหางโจมตีไปทางซู่เจินอย่างรุนแรง
“จะเอาอีกรอบงั้นหรอ?” ซู่เจินยิ้มขึ้นมาเบา ๆ และเม้มริมฝีปากของเขา แทนที่ครั้งนี้เขาจะหลบเหมือนครั้งก่อน แต่เขากลับยกแขนขึ้นมาป้องกันแทน
ปัง!
หางของศาสตราจารย์ลิซาร์ด ตวัดไปที่ซู่เจินอย่างรุนแรง ทำให้ซู่เจินรู้สึกว่าแขนของเขาเกิดอาการชาขึ้นมาเล็กน้อยและกระเด็นถอยหลังไปสองสามก้าว
“สมควรแล้วที่เขาสามารถต่อสู้กับสไปเดอร์แมนได้นานขนาด!”
เท้าของซู่เจินเหยียบลงไปที่พื้นอย่างรุนแรงและทันใดนั้นซู่เจินก็กระโดดตัวขึ้นและหมุนตัวในอากาศเตะไปที่คอของศาสตร์จารย์ลิซาร์ดอย่างรุนแรง
แคร็ก!
มีเสียงดังที่ฟังชัดเจนดังขึ้นมาและศาสตราจารย์ลิซาร์ดก็ถูกเตะบินไปกระแทกเข้ากับกำแพงอย่างรุนแรง ทำให้ผนังบุบเป็นรูขนาดใหญ่
ตุบ!
ตัวของศาสตราจารย์ลิซาร์ด ค่อย ๆ ไหลลงมาจากกำแพง มานอนอยู่ที่พื้นและหมดสติไป
“ นี่ … จบแล้วงั้นหรอ?”
แมโรที่เฝ้าดูซู่เจินอยู่ห่าง ๆ เธอเห็นว่าซู่เจินสามารถจัดการกับศาสตราจารย์ลิซาร์ดได้อย่างง่ายดาย ทำให้เธอพูดขึ้นมาด้วยความตกตะลึงและตัวแข็งค้างเป็นที่เรียบร้อย….