Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 33
“ ซู่เจิน … คุณระวังตัวด้วย!”
ยานบินเดินทางมาถึงสาธารณรัฐตามอลตาอย่างรวดเร็วและลงจอดใกล้ ๆ กับบ้านพักตากอากาศของ เอียนควินน์ ในขณะที่ซู่เจินกำลังเดินออกจากยาน โควสันก็พูดขึ้นมาและมองไปที่ซู่เจินด้วยสายตาเป็นห่วง
ซู่เจินยิ้มแล้วพูดขึ้นมาว่า “ไม่ต้องห่วง ไม่มีใครทำอะไรผมได้หรอก!”
“อย่าประมาท!”
โคลสันพูดขึ้นมาและมองที่ซู่เจินด้วยสายตาจริงจัง ซู่เจินเมื่อเห็นเช่นนั้นก็พยักหน้าให้และหันไปมองสกายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาและยิ้มให้กับเธอ แล้วเขาก็ปรบมือขึ้นและพูดว่า “โอเค! เริ่มภารกิจได้!”
ที่ประตูวิลล่าของ เอียนควินน์ มีคนเดินเข้าไปด้านในเป็นจำนวนมาก ส่วนมากจะเป็นเหล่าดาราคนดังที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงหรือบุคคลสำคัญ ๆ ต่าง ๆ ตรงประตูทางเข้าจะมีบอดี้การ์ดที่คอยตรวจบัตรเชิญอย่างเข้มงวดและมีเสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ซึ่งทำให้มันดูมีชีวิตชีวามาก!
“คุณผู้ชายโปรดแสดงบัตรเชิญของคุณ!”
ผู้คุ้มกันเมื่อเห็นซู่เจินเดินเข้ามา เขาก็เรียกให้ซู่เจินแสดงบัตรเชิญของเขาขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ
“บัตรเชิญ ? ฉันคิดว่า … ฉันไม่จำเป็นต้องใช้มันหรอกนะ!” ซู่เจินพูดด้วยรอยยิ้มขณะที่มองไปที่ผู้คุ้มกัน
ผู้คุ้มกันขมวดคิ้ว “คุณผู้ชายถ้าคุณไม่มีบัตรเชิญ ผมเกรงว่าจะปล่อยคุณเข้าไปด้านในไม่ได้ คุณควรออกไปเดี๋ยวนี้ไม่อย่างงั้น … อย่าโทษพวกเราที่ใช้วิธีการรุนแรงบังคับคุณออกไป!”
“โอ้! จริงงั้นเหรอ? ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่าวิธีบังคับของพวกนายจะสามารถเอาฉันออกไปได้หรือปล่าว” ซู่เจินมองไปที่ผู้คุ้มกันด้วยความสนใจและยิ้มออกมา
ผู้คุ้มกันเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีและมีวิธีจัดการกับสถานการณ์แบบนี้มากมาย หลังจากที่ซู่เจินพูดจบ ผู้คุ้มกันก็คว้าไปที่ตัวของซู่เจินอย่างรวดเร็ว มือของบอดี้การ์ดจับอยู่ที่ไหล่ของซู่เจินอย่างแน่นหนาและพยายามจะพาเขาออกไป
“หือ?” ผู้คุ้มกันพยายามออกแรงอย่างสุดแรงเพื่อลากตัวซู่เจินออกไป แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามแค่ไหนตัวของซู่เจินก็ไม่ขยับเลยสักนิด
ซู่เจินยิ้มและพูดว่า “อะไรกัน นี่นายได้ออกแรงจริง ๆ ใช่ไหมเนี้ย?”
ผู้คุ้มกันตะโกนขึ้นมาและพยายามออกแรงมากขึ้น แต่ซู่เจินก็ยังไม่ขยับไปไหนอยู่ดี ในขณะเดียวกันผู้คุ้มกันที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาก็สังเหตุเห็นว่ามีอะไรบางอย่างผิดปกติ เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปช่วยอีกแรง แต่ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหน พวกเขาก็ไม่สามารถทำให้ซู่เจินขยับได้เลยแม้สักก้าวเดียว ซู่เจินยืนอยู่นิ่ง ๆ เหมือนกับว่าขาของเขามีรากฝังลึกอยู่ในดิน
เมื่อเขาเห็นว่าผู้คุ้มกันทั้งสองคนพยายามกัดฟันเพื่อออกแรงและมีเส้นเลือดสีฟ้าปรากฏขึ้นที่คอของพวกเขา และอยู่ดี ๆ มันก็ทำท่าจะระเบิดออกมา ซู่เจินเมื่อเห็นอย่างงั้น เขาจึงเอื้อมมือไปจับที่ไหล่ของผู้คุ้มกันทั้งสองคนเอาไว้และพูดว่า “ดูเหมือนว่าพวกนายจะมีดีกันแค่นี้สินะ งั้นก็ … ไปนอนคุยกับรากมะม่วงซะ!”
ซู่เจินยกมือทั้งสองข้างของเขาขึ้นมา และจัดท่าทางให้พวกเขาเข้าที่เข้าทางและโยนพวกเขาเข้าไปด้านในวิลล่าอย่างรุนแรง
ตูม!
คนแรกถูกโยนลงบนโต๊ะขวดไวน์ ส่วนอีกคนหนึ่งถูกโยนลงสระว่ายน้ำ
“เกิดอะไรขึ้น……”
ทันใดนั้นผู้คนในวิลล่าก็เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ไม่เว้นแม้แต่เอียนควินน์ที่กำลังถือแก้วไวน์อยู่ก็ตกใจเช่นกัน แต่เขาก็กลับมามีสติได้อย่างรวดเร็วและมองไปที่ซู่เจินที่กำลังเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ ด้วยรอยยิ้ม
“จับตัวเขาซะ!”
เอียนควินน์พูดขึ้นมากับผู้ชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา และในตอนนี้เขาก็อยากรู้เช่นกันว่าชายผิดเหลืองคนนี้เป็นใครถึงได้กล้ามาสร้างปัญหาให้กับเขาถึงที่นี่ ในถิ่นของเขาแบบนี้!
ในไม่ช้าบอดี้การ์ดจำนวนมากมายก็พุ่งเข้าไปหาซู่เจินอย่างรวดเร็ว
มุมปากของซู่เจินงอขึ้นเล็กน้อย เขาไม่ได้สนใจพวกบอดี้การ์ดที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเขาเลยแม้แต่น้อย เขายกมือขึ้นเล็กน้อย ทำให้บอดี้การ์ดที่กำลังวิ่งเข้ามาหาเขาบางคน ลอยตัวขึ้นอยู่ในอากาศราวกับว่าพวกเขาถูกบางสั่งบางอย่างจับอยู่ที่คอของพวกเขา และเมื่อเห็นเช่นนั้นพวกเขาก็แสดงอาการตื่นตระหนกออกมา ซู่เจินเมื่อเห็นเช่นนั้นเขาก็ควบคุมพลังจิตของเขาบังคับร่างของบอดี้การ์ดเหล่านั้นให้กระเด็นไปชนกับพวกที่เหลือที่กำลังวิ่งเข้ามา
“ไม่……”
เสียงตะโกนดังขึ้นมาอย่างหวาดกลัว แต่ไม่ว่าพวกเขาจะตะโกนยังไง พวกเขาก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายของพวกเขาเองได้ ซู่เจินบังคังพวกเขาให้กระเด็นไปชนกับเพื่อน ๆ ของพวกเขาทีละคนสองคนและค่อย ๆ หมดสติตามกันไป
เอียนควินน์จ้องมองไปที่ซู่เจินด้วยความสนใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าซู่เจินจะมีความสามารถพิเศษที่น่าสนใจเช่นนี้!
“จับตัวเขาให้ได้ ไม่ว่าจะแลกด้วยอะไรก็ตาม!”
เอียนควินน์ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของซู่เจินที่มาที่นี่คืออะไรกันแน่ แต่ส่วนใหญ่ก็มาเพื่อที่จะจัดการเขา ดังนั้นในฐานะที่เขาเป็นเจ้านาย เขาจะไม่ยอมอยู่ที่นี่เพื่อให้ตัวเองมีอันตรายอย่างแน่นอน หลังจากที่เขาสั่งคำสั่งกับลูกน้องของเขาเรียบร้อยแล้ว เอียนควินน์ก็เดินหนีไปอย่างรวดเร็ว
ปังปังปัง!
เสียงปืนดังขึ้นจากทั่วทุกสารทิศพุ่งตรงไปที่ซู่เจินอย่างรวดเร็ว แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของซู่เจินนั้นรวดเร็วกว่า เขาสามารถหลบลูกกระสุนได้อย่างง่ายดาย ราวกับว่าเขาเป็นเดอะเมทริกซ์ เมื่อลูกกระสุนบินผ่านร่างของเขาไป ซู่เจินก็ควบคุมพลังจิตของเขาไปที่ลูกระสุนพวกนั้น หลังจากนั้นก็เหมือนแผ่นหนังย้อนกลับ ลูกกระสุนที่ถูกพลังจิตควบคุมอยู่มันก็พุ่งย้อนกลับไปหาเจ้าของที่ยิงออกมาอย่างรวดเร็ว
และก่อนที่พวกเขาจะตอบสนองทันพวกเขาก็ถูกลูกกระสุนยิงเข้าที่หัวอย่างแม่นยำและค่อย ๆ ล้มลงกับพื้นที่ละคน
“แม้ว่ามันจะไม่เจ๋งเท่ากับของแม็กนีโต แต่ได้แค่นี้ก็แข็งแกร่งมากแล้ว!”
พวกเขาทั้งหมดตาย โดยไม่มีเวลาให้พวกเขาได้ตอบสนองเลยสักนิด
ด้วยความสามารถนี้ ทำให้ซู่เจินสามารถประหยัดเวลาไปได้มากมาย และยิ่งเขาใช้มันมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งหลงรักมันมากขึ้นเท่านั้น
ซู่เจินเมื่อจัดการอะไรเสร็จเขาก็เดินเข้าไปด้านในของวิลล่าอย่างช้า ๆ และในขณะที่เขากำลังเดินเขาก็เห็นว่าไฟสีแดงบนนาฬิกามันเปลี่ยนเป็นสีเขียวเรียบร้อยแล้ว เขาจึงกดไปที่มันเบา ๆ และติดต่อไปแจ้งให้กับโควสันและคนอื่น ๆ ทราบ
โคลสันที่กำลังคอยอยู่บริเวณใกล้ ๆ กับลั้วกระแสไฟฟ้าแรงสูง อยู่ดี ๆ เขาก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นข้างในของวิลล่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เขาที่กำลังนั่งรออยู่รู้สึกตื่นตระหนก และในที่สุดเขาก็ได้การติดต่อมาจากซู่เจินทำให้เขาหายห่วงไปได้เปราะหนึ่ง เมื่อเขาเห็นว่าลั้วกระแสไฟฟ้าแรงสูงมันหยุดการทำงานชั่วคราว เขาก็วิ่งเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีความลังเล
ส่วนฟิทซ์ เจมมา สกาย และเหมย พวกเขาไม่ได้ไปด้วยกับโควสัน เพราะพวกเขาไม่ใช่นักสู้ ถึงแม้ว่าเหมยจะแข็งแกร่งและเรียนศิลปะการต่อสู้มา แต่เธอก็ยังต้องอยู่ยานบิน เพื่อเตรียมพร้อมที่จะขึ้นบินได้ตลอดเวลา ดังนั้นจึงมีแค่โควสันเท่านั้นที่เข้ามาด้านในของวิลล่า
หลังจากที่โคลสันเข้ามาด้านในได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซู่เจินก็ลงมือทำลายล้างบริเวณโดยรอบโดยทันที!
อย่างที่ทราบกันว่าเอียนควินน์คนนี้จะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในอนาคต ดังนั้นถ้าหากเราจับตัวเขาในตอนนี้มันอาจจะส่งผลกระทบอะไรบางอย่างในอนาคต ดังนั้นเราควรปล่อยให้เขาหนีไปก่อน เพราะถึงยังไงการจัดการกับเขามันก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรมากมาย
ตู้ม!ตู้ม!ตู้ม!
สิ่งของภายในห้องถูกทำลายลงอย่างต่อเนื่องด้วยพลังจิตของซู่เจิน โดยที่เขาใช้เวลาเพียงนิดเดียวเท่านั้นในการทำลายมัน และจู่ ๆ ซู่เจินก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงใต้เท้าของเขา เขาสามารถเดาได้เลยว่าตอนนี้โควสันน่าจะเจอกับดร. ฮอลล์เป็นที่เรียบร้อยแล้วแน่นอน….