Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 32
ภายในยานบิน ณ ห้องวิจัย
ฟิทซ์ในตอนกำลังตรวจสอบลูกเหล็กที่อยู่ภายในแหวนอย่างจริงจัง ส่วนโคลสันและเหมยกำลังพูดกระซิบกันอยู่สองคนพวกเขากำลังปรึกษาเรื่องที่ SHIELD มีคนทรยศอยู่ภายในองค์กร แม้ในตอนแรกเหมยจะไม่ค่อยเชื่อว่ามันจะมีคนทรยศอยู่ภายใน SHIELD แต่โคลสันคิดว่าเขาควรไปตรวจสอบให้ละเอียดชัดเจนอีกที อย่างน้อยมันก็ช่วยขจัดความสงสัยของทุกคนที่มีต่อ SHIELD ไปได้
เหมยพยักหน้าเห็นด้วยและเธอก็หันหลังเดินจากไป
โควสันหันไปมองที่สกายและกล่าวว่า “เธอช่วยตรวจสอบร่องรอยของยางรถหน่อย ไม่แน่เราอาจจะเจอเบาะแสอะไรเพิ่มเติม!”
“รับทราบ ฉันจะไปตรวจสอบให้เดี๋ยวนี้ … ” นี่เป็นงานถนัดของสกายโดยเฉพาะ แต่ในขณะที่สกายกำลังจะเดินจากไป ซุ่เจินที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอก็พูดแทรกขึ้น
“มันไม่จำเป็น!” ซู่เจินพูดขึ้นมาเบา ๆ
“ทำไม?” สกายและโคลสันมองไปที่ซู่เจินด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความแปลกใจเล็กน้อย หรือว่าเขาจะรู้อะไรบางอย่าง? ทันใดนั้นโคลสันก็พูดขึ้นมาว่า ” ซู่เจินหรือว่าคุณรู้อะไรบางอย่างอยู่แล้ว? ฉันรู้นะว่าคุณมีความสามารถในการทำนายอนาคต แต่ … นี่มันไม่ใช่เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต!”
“ แน่นอนว่าผมไม่สามารถทำนายอนาคตได้ และผมก็ไม่รู้ว่าใครลักพาตัว ดร. ฮอลล์ไป แต่ผมรู้ว่าเราจะต้องไปจัดการกับใครในตอนนี้ แถมผมก็รู้ด้วยว่า ดร. ฮอลล์ตอนนี้อยู่ที่ไหน!” ซู่เจินหยุดพูดครู่หนึ่งแล้วพูดต่อวา “ดังนั้นเราไม่จำต้องสืบสวนเรื่องนี้อีกต่อไป!”
“แล้วเขาเป็นใคร?”
โคลสันถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“ผมคิดว่าเจ้าสิ่งนี้น่าจะเป็นเครื่องมือขนาดเล็กที่สามารถส่งผลต่อแรงโน้มถ่วงได้” ซู่เจินชี้ไปที่ลูกเหล็กขนาดเล็กที่ติดอยู่ภายในแหวนที่ฟิตซ์กำลังตรวจสอบมันอยู่แล้วพูดต่อว่า “ควีน อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น”
“ควีน อินเตอร์เนชั่นแนล ? ถ้าฉันจำไม่ผิดฟิตซ์และเจมมา พวกเขาน่าจะเคยไปฝึกงานกับบริษัทแห่งนี้ ในตอนนั้นพวกเขาได้อยู่ในแผนกวิศวกรรมเคมีน่าจะเคยเห็นหน้าของ เอียนควินน์ ผ่านหน้าผ่านตามาบ้าง ไม่ก็จะเห็นเขาอยู่บนปกนิตยสารฟอร์บ!” โคลสันพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“เขาน่าจะลักพาตัวดร. ฮอลล์ล์ ไปโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ดร. ฮอลล์ล์ช่วยควบคุมเครื่องมือโปรตอนแรงโน้มถ่วงขนาดใหญ่และดูเหมือนว่าเขากำลังจะทำอะไรบางอย่างอยู่!” ซู่เจินพูดขึ้นมา
“ตอนนี้เขาอยู่ที่สาธารณรัฐมอลตาและเขาก็เปลี่ยนเป็นสัญชาติมอลตาเรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนว่าเขากำลังจะจัดงานเลี้ยงค็อกเทลขึ้น!” สกายเงยหน้าขึ้นจากคอมพิวเตอร์และบอกข้อมูลคร่าว ๆ ออกมาหลังจากที่เธอตรวจตำแหน่งของเขาพบ
“ดร. ฮอลล์ก็อยู่ที่นั่นเช่นกัน!” ซู่เจินกล่าวขึ้นมา
โคลสันขมวดคิ้ว “ตอนนี้มีปัญหาบางอย่างทำให้ SHIELD ไม่สามารถไปยุ่งเกี่ยวกับสาธารณรัฐมอลตาได้ ทำให้เราไม่สามารถทำอะไรเขาได้ มิฉะนั้นพวกเราจะต้องเผชิญกับข้อตกลงระหว่างประเทศมากมาย และฉันก็คิดว่ามันน่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เราจะช่วยดร. ฮอลล์ออกมาได้ แถมรัฐบาลท้องถิ่นคงจะไม่ยอมให้เราเอากองกำลังจู่โจมเข้ามาได้ง่าย ๆ อย่างแน่ และบ้านของเอียนควินน์ยังได้รับการคุ้มกันอย่างแน่นหนาและล้อมรอบไปด้วยลั้วเหล็กที่ปล่อยกระแสไฟฟ้าแรงสูงอยู่ตลอดเวลา
“ทางเดียวก็คือให้เข้าไปด้านในเพียงคนเดียว แต่มันก็จะอันตรายมากหากเกิดข้อผิดพลาดขึ้น ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นก็ต้องหาทางเอาตัวรอดด้วยตนเอง แถมเรายังไม่มีสายลับที่แฝงตัวอยู่ภายในหรืออุปกรณ์ที่ช่วยให้ผ่านลั้วกระแสไฟฟ้าแรงสูงไปได้ ถ้าเราไปยุ่งหรือไปทำอะไรกับลั้วกระแสไฟฟ้าเราก็จะถูกพบตัวทันที !” เหมยที่อยู่ข้าง ๆ พูดขึ้น
“นั่นสินะ!” โควสันพูดขึ้นมาและพยักหน้าเห็นด้วย
“ซู่เจินคุณลองทำนายอนาคตแล้วบอกพวกเราได้ไหมว่า….พวกเราจะจัดการกับเรื่องนี้กันยังไง” โคลสันหันไปถามซู่เจิน
ซู่เจินไม่ได้ตอบโควสัน แต่เขากลับเหลือบมองไปทางสกายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาแทนและดูเหมือนว่าสกายกำลังทำอะไรบางอย่างกับโทรศัพท์โทรศัพท์ของเธออยู่
เขารู้ว่าสกายจะต้องได้รับจดหมายเชิญเข้าร่วมงานเลี้ยงค็อกเทลในคืนนี้แน่นอน เพราะว่าเธอเป็นสมาชิกขององค์กร “Rising Tide” อย่างไรก็ตามถ้าให้สกายไปคนเดียว ซู่เจินคิดว่ามันน่าจะอันตรายเกินไป เพราะว่าเธอไม่ได้รับการฝึกฝนในด้านนี้มาโดยเฉพาะ อาจทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงแก่ชีวิตได้
“อันที่จริงการที่เราจะช่วย ดร. ฮอลล์มันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรขนาดนั้น แม้ว่ามันจะมีการป้องกันอย่างแน่หนา แต่ถ้าอยู่ในระดับนี้มันก็ไม่มีปัญหาสำหรับผมหรอก อยากแรกเลยผมจะแอบเข้าไปด้านในแล้วไปปิดเครื่องกำเนิดพลังงานของกระแสไฟฟ้าแรงสูงให้ หลังจากนั้นคุณก็เข้ามาช่วย ดร. ฮอลล์ ออกไป ” ซู่เจินไม่อยากให้สกายไปเสี่ยง เขาก็เลยเสนอแผนการขึ้นมาให้โควสันฟัง
“ แน่ใจนะว่าคุณทำได้?” โคลสันถามขึ้นมาอย่างไม่แน่ใจ
ซู่เจินพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าดร. ฮอลล์ มีคุณค่ามากพอที่จะให้ช่วยเหลือล่ะก็นะ!
“เอาล่ะ! ฟิทซ์คุณช่วยไปเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับจัดการกับลั้วกระแสไฟฟ้าแรงให้ฉัน และเราก็เริ่มออกเดินทางสู่มอลตากันเดี๋ยวนี้เลย!” โคลสันกล่าวขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจริง
“ซู่เจินนี่คือนาฬิกาที่ฉันออกแบบมาสำหรับคุณโดยเฉพาะ คุณเห็นแสงสีแดงข้าง ๆ นั่นไหม เพียงคุณรอให้แสงสีแดงเปลี่ยนเป็นสีเขียวนั่นหมายความว่าคุณสามารถกดปุ่มเพื่อให้มันทำงานได้ ขอแค่คุณกดมันเบา ๆ มันก็จะทำให้ระบบของลั้วกระแสไฟฟ้าแรงสูงหยุดทำงานได้ชั่วคราว” เจมมาช่วยซู่เจินใส่นาฬิกาที่ข้อมือและอธิบายการใช้งานคร่าว ๆ ให้กับซู่เจินฟัง
ซู่เจินมองไปที่มันและยกแขนขึ้นมาดูใกล้ ๆ แล้วเขาก็ยิ้มออกมาเพราะว่ามันดูสวยดีเข้ากับตัวเขามาก
“ เข้าใจแล้ว!”
ซู่เจินที่กำลังสวมหูฟังอยู่พูดตอบขึ้นมา และหลังจากนั้นเขาก็เดินไปหาที่นั่งเพื่อพักผ่อน
โดยปกติแล้ว ดร. ฮอลล์ เขาไม่สามารถมีชีวิตรอดออกมาได้ ถึงแม้ว่าซู่เจินจะสามารถช่วยเขาได้ แต่เขาก็ไม่ต้องการทำอย่างงั้น แม้ว่าดร. ฮอลล์ คนนี้จะถูกลักพาตัวไปในตอนแรก แต่เขาก็ถูกเอียนควินน์ยื่นข้อเสนอที่สุดแสนพิเศษให้กับเขา ทำให้เขาเปลี่ยนฝั่งไปอยู่ข้างเดียวกับเอียนควินย์ ถึงแม้ในตอนท้ายเขาจะโดนโควสันจัดการและตกลงไปสนามโปรตอนแรงโน้มถ่วง! และดูเหมือนว่าเขาจะโดนสนามโปรตอนแรงโน้มถ่วงบีบอัดจนตาย แต่สุดท้ายเขาก็รอดมาได้โดยบังเอิญ
ตามการคาดเดาของซู่เจิน ผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นเทพปลอมตัวมาเป็นมนุษย์ก็ได้ ไม่เพียงเขาไม่ตายเท่านั้น เขายังได้ความสามารถในการควบคุมแรงโน้มถ่วงมาอีกด้วย เนื่องจากอนุภาคของแรงโน้มถ่วงได้รวมเข้ากับโมเลกุลของร่างกาย ทำให้เขาสามารถควบคุมแรงโน้มถ่วงของวัตถุได้ ตามความคิดของเขา!
ด้วยความสามารถนี้ทำให้ซู่เจินนึกถึงตัวร้ายคนหนึ่งที่มีความสามารถเช่นเดียวกันกับเขา ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยมีชื่อเสียงสักเท่าไหร่ในจักรวาล Marvel แต่ก็ถือว่าแข็งแกร่งมากเลยที่เดียว เขาก็คือ. . .
ว่านลี่หวัง!