Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 24
“นายควรหยุดก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน!”
ซู่เจินตะโกนบอกกับจอห์นนี่ พร้อมกับหลบการโจมตีจอห์นนี่ไปมา
“หมดความอดทน ? คุณคิดว่าคุณสามารถสู้กับฉันได้งั้นหรอ! ไม่ใช่ว่าคุณมีความสามารถในการควบคุมเปลวเพลิงไม่ใช่หรอ ทำไมไม่ลองดูละว่าคุณสามารถควบคุมเปลวเพลิงของฉันได้หรือปล่าว ถ้าคุณทำไม่ได้ก็อย่าหาว่าฉันรังแกคุณก็แล้วกัน!” จอห์นนี่ ตะโกนบอกซู่เจินขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่ง
“นายกำลังทำให้ฉันหมดความอดทน นายคงรู้ใช่ไหมว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง” ซู่เจินพูดออกมาด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“ แล้วยังไงล่ะ? เพราะวันนี้ฉันจะเป็นคนสอนคุณเองว่าอะไรควรไม่ควร ถ้าคุณมีดีอย่างที่พูดก็แสดงมันออกมาให้ฉันเห็นสิ!” จอห์นนี่พูดพร้อมกับเปลี่ยนตัวของเขาให้กลายเป็นไฟ เขาพุ่งเข้าไปหาซู่เจินอย่างรวดเร็ว
ซู่เจินจงใจเปิดช่องโหว่ให้จอห์นนี่เห็น และเมื่อจอห์นนี่เห็นเช่นนั้นเขาก็โจมตีไปที่ซู่เจินในทันที ทำให้เสื้อผ้าของซู่เจินไหม้กลายเป็นเถ้าถ่านในทันที
พลังอันมหาศาลกระแทกเข้ากับร่างกายของเขาทำให้ซู่เจินกระเด็นพุ่งเข้าไปชนกำแพง แต่ไม่จบแค่นั้นจอห์นนี่พุ่งเข้ามาหาซู่เจินอีกรอบเพื่อที่จะซ้ำเติม เมื่อซู่เจินเห็นอย่างงั้นก็ตะโกนขึ้นมาว่า “นายเป็นคนบังคับฉันเองนะ!” เมื่อซู่เจินพูดจบ เขาก็คว้าไปที่แขนของจอห์นนี่ด้วยความแม่นยำ ถึงแม้ตัวของจอห์นนี่จะลุกเป็นไฟอยู่ ก็ไม่ได้ทำให้ซู่เจินบาจเจ็บอะไรเพราะว่า ไฟ ไม่สามารถทำอะไรต่อเขาได้ จอห์นนี่ประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้จอห์นนี่สงสัยเลยว่าทำไมซู่เจินถึงไม่ได้รับบาจเจ็บจากไฟของเขาเลย
“โง่!”
จอห์นนี่ประหลาดเล็กน้อยและยิ้มอย่างมีชัย “เปลวไฟของฉันมันไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิดหรอกนะ”
เมื่อเสียงพูดจบลงนิ้วของจอห์นนี่ก็กางออกและมีเปลวไฟปรากฏออกมาคล้ายกับลูกกระสุนปืน มันพุ่งเข้าไปโจมตีซู่เจินอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามซู่เจินก็แสดงท่าทางดูถูกเหยียดหยามออกมา อย่างที่รู้กันจอห์นนี่เป็นคนจำพวกอารมณ์ร้อนชอบหุนหันพลันแล่น และด้วยนิสัยพวกนี้นี่แหละจะเป็นสิ่งที่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวของเขาเอง เพราะฉะนั้นซู่เจินจะเป็นคนช่วยดัดนิสัยของจอห์นนี่ให้เขาที่เข้าทางเอง ดังนั้นจอห์นนี่ควรที่จะขอบคุณเขา!
“ ตูม!”
ซู่เจินยกมือขึ้นมาและต่อยไปที่หน้าของจอห์นนี่อย่างรุนแรง แต่ในขณะที่จอห์นนี่กำลังจะกระเด็นไปซู่เจินก็จับตัวของเขาเอาไว้และซู่เจินค่อย ๆ ยกมือขึ้นมาอีกรอบ โดยรอบ ๆ มือของเขาถูกปลุกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง
เขาขอตั้งชื่อท่านี้ว่า หมัดวนลูป!
จอห์นนี่ถูกต่อยไปที่ใบหน้าอย่างรุนแรงและกำลังจะกระเด็นซู่เจินก็จับเขาเอาไว้
เป็นแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เปลวไฟบนตัวของจอห์นนี่ก็ค่อย ๆ ดับลง สติของเขาเริ่มเลือนราง และใบหน้าของเขาก็บวมเป่งจากการต่อยของซู่เจิน
“ ไม่ …มันเป็นไปได้ยังไง?”
ดวงตาที่บวมเป่งของจอห์นนี่สามารถเห็นได้ชัดเจนเลยว่า ไฟ ของเขาไม่สามารถทำอะไรกับซู่เจินได้เลย ราวกับว่า ไฟ ของเขาทำตามคำสั่งของซู่เจิน แถมไฟของเขายังถูกซู่เจินควบคุมและนำมันมาทำร้ายตัวเขาเองอีกด้วย
เขาสามารถควบคุมเปลวไฟของฉันได้ … มันเป็นไปไม่ได้!
“ ฉันเตือนนายแล้วแต่นายไม่ฟังเอง!”
ซู่เจินมองไปที่สจอห์นนี่ที่กำลังทำหน้าตกใจอยู่และพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา ซู่เจินจับไปที่มือของจอห์นนี่และเริ่มกลืนกินความสามารถของเขา
วิส!
ในขณะที่เขากำลังจะกลืนกินความสามารถก็มีคนกระโดดเข้ามาจากทางหน้าต่างที่แตก
เขาก็คือ สไปเดอร์แมน!
“จอห์นนี่, คุณซู่เจินผมว่าเราควรหยุดการต่อสู้กันก่อน ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันเล็กน้อย … “
สไปเดอร์แมนรีบตะโกนทันทีเมื่อเขาเข้ามา แต่สิ่งที่เขาเห็นทำให้เขาประหลาดใจมาก ซู่เจินสามารถจัดการกับจอห์นนี่ได้จริง ๆ ด้วย ดูเหมือนว่าครั้งนี้จอห์นนี่จะได้รับบทเรียนที่แสนสาหัส!
“ มันสายเกินไปแล้ว……”
ซู่เจินเหลือบมองไปที่สไปเดอร์จากนั้นซู่เจินก็ปล่อยตัวของจอห์นนี่
จอห์นนี่ล้มลงกับพื้นด้วยสภาพไร้เรี่ยวแรงเกือบที่จะหมดสติ
“คุณ … คุณคงไม่ได้กลืนกินความสามารถของเขาไปใช่ไหม?” สไปเดอร์ถามขึ้นมาอย่างกระวนกระวาย หลังจากที่เขาได้บอกเรื่องพี่สาวของจอห์นนี่ได้ถูกลักพาตัวไป สไปเดอร์แมนก็คิดว่าเรื่องนี้ควรแจ้งให้ SHIELD รับทราบและให้ SHIELD ช่วยสืบหาตัวตนของซู่เจิน
ซึ่งการหาข้อมูลนั้นใช้เวลาไม่นาน เขาก็รู้ว่าซู่เจินนั้นดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของ SHIELD ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ได้ไม่นาน
และด้วยความที่เขาเป็นที่ปรึกษาของ S.H.I.E.L.D. ดังนั้นเขาไม่น่าจะใช่คนเลวอย่างที่เขาคิด ดังนั้นเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการเข้าใจผิดกันมากกว่า เขาจึงรีบเข้าไปหยุดการต่อสู้ของทั้งสองคน แต่น่าเสียดาย … ดูเหมือนว่ามันจะสายเกินไปแล้ว!
“ นายควรขอบคุณที่ฉันแค่กลืนกินความสามารถของเขาและไม่ได้ฆ่าเขาทิ้งซะ วันนี้ฉันโชคไม่ค่อยดีเลยจริง ๆ ครั้งแรกฉันถูกซูซานโจมตีอย่างไม่มีเหตุผล ครั้งที่สองฉันก็ถูกนายทุบตี และครั้งที่สามก็ยังถูกจอห์นนี่ทำร้ายอีก พวกนายคิดว่าจะทำอะไรกับใครก็ได้งั้นสินะ ถ้าเกิดว่าฉันไม่แข็งแกร่งมากพอก็คงถูกพวกนายทำร้ายจนสาหัสหรือแม้กระทั่งตายได้เลยสินะ?” ซู่เจินตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
สไปเดอร์แมนถึงกับพูดไม่ออก ใครกันแน่ที่ถูกทุบตี?
ซูซานถูกคุณทำให้หมดสติและฉันก็ถูกคุณทุบตีจนบาจเจ็บสาหัส และในตอนนี้ก็เป็นจอห์นนี่ เขาไม่เพียงแค่ถูกคุณทุบตีเท่านั้น แต่ความสามารถของเขายังถูกคุณกลืนกินไปอีก คุณคิดว่าใครควรจะโชคร้ายมากกว่า?
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้สไปเดอร์แมนก็ได้แต่คิด เขาไม่มีความกล้ามากพอที่จะพูดออกไป แต่คำพูดของซู่เจินก็ถูกต้องเพราะว่าถ้าซู่เจินไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากพอ เขากลัวว่าคนที่โชคร้ายจริง ๆ น่าจะเป็นตัวของซู่เจินเอง
“เฮ้อ ผมไม่รู้ว่าตอนนี้จะทำยังไงดี แต่ผมคิดว่าเดี๋ยวก็คงจะมีคนมาช่วยสะสางปัญหาของพวกเราให้ในเร็ว ๆ นี้นี่แหละ” สไปเดอร์แมนกางมือออกและหยักไหล่อย่างช่วยไม่ได้ เพราะเขาเชื่อว่า S.H.I.E.L.D. จะมาที่นี่ในเร็ว ๆ นี้แน่นอน!
ในความเป็นจริง มันน่าจะใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
มีเสียงคำรามของเครื่องยนต์ดังออกมาจากทางด้านนอกของหน้าต่าง มันเป็นยานบรรทุกเครื่องบินขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนที่มาทางโรงแรม จากนั้นประตูห้องโดยสารของยานก็เปิดออกและมีคนหลายคนกระโดดลงมายังที่หน้าต่างของโรงแรมชั้นที่ซู่เจินยืนอยู่กับสไปเดอร์แมน
คนแรกที่กระโดนลงมา เป็นชายผิวดำ ใส่เสื้อโค้ทยาวสีดำ สวมผ้าปิดตาที่ด้านซ้าย
ตามมาด้วย ผู้หญิงในชุดรัดรูปสีดำที่มีรูปร่างอันเซ็กซี่เป็นอาวุธ
และคนสุดท้ายเป็นผู้ชายรูปร่างแข็งแกร่งกำยำ สวมใส่ชุดสีแดงตัดกับสีน้ำเงินพร้อมกับสะพายโล่ไว้ที่ด้านหลัง
“ผู้อำนวยการของ S.H.I.E.L.D. นิค ฟิวรี่ , สมาชิกของทีมอเวนเจอร์ส นาตาชา โรมานอฟ หรือที่รู้จักกันในชื่อ แบล็ควิโดว์,และคนสุดท้ายเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก สตีฟ โรเจอร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ กัปตันอเมริกา” ซู่เจินมองไปที่พวกเขาทั้งสามคนและพูดชื่อของพวกเขาทีละคนออกมา “ถ้าพวกคุณต้องการมาจับผม ผมว่าด้วยจำนวนคนแค่นี้ไม่น่าจะพอนะ!” ซู่ซเจินพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม