Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 25
“ตอนนี้เขาหมดสติและร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส ยิ่งไปกว่านั้นความสามารถของเขาน่าจะถูกกลืนกินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” นาตาชาเดินมาตรวจสอบอาการของจอห์นนี่และหันไปพูดกับนิคฟิวรี่ หลังจากนั้นเธอก็เดินไปตรวจอาการของซูซาน และทำสีหน้าแปลก ๆ ออกมา “เธอ … เธอไม่เป็นอะไรมาก เธอแค่เมามากเกินไป”
“เมา……”
เมื่อได้ยินคำตอบจากนาตาชา นิค ฟิวรี่ และคนอื่น ๆ ก็มีความรู้สึกถึงกับพูดไม่ออก
“ฉันหวังว่าคุณจะมีคำอธิบายดี ๆ ให้กับฉันนะ!” นิค ฟิวรี่ หันไปถามกับซู่เจิน
“ได้ แต่ผมก็อยากได้คำอธิบายเหมือนกัน ผมคิดว่าคุณน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเกิดอะไรขึ้นในเหตุการณ์ 084 บ้างเพราะงั้นผมจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเล่า และหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจผมก็ไปนั่งดื่มผ่อนคลายอยู่ที่บาร์และก็พบเข้ากับซูซานที่กำลังนั่งดื่มอยู่ ผมชวนเธอดื่มแต่เธอก็ปฏิเสธและเดินจากไป และเมื่อผมกำลังจะกลับไปพักผ่อน ผมก็บังเอิญเห็นเธอเมาเดินอยู่คนเดียวในซอยโดยมีคนตามเธออยู่ข้างหลัง ผมในตอนแรกจะออกไปช่วยเธอ แต่เธอดันเข้าใจผิดคิดว่าผมเป็นพวกเดียวกันกับคนที่ตามเธอ และผมพยายามอธิบายให้เธอฟังแต่เธอก็ไม่เชื่อผม และเมื่อเห็นว่าอธิบายไปก็ไม่มีประโยชน์ผมก็เลยจะกลับไปพักผ่อน แต่เธอก็ไม่ยอมและเริ่มโจมตีผม ผมที่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องสู้กับเธอ และเมื่อการต่อสู้จบลง ผมก็ไปตรวจดูอาการของเธอและเห็นว่าเธอเมาและหมดสติไป ผมก็เลยพาเธอมาพักที่นี่และรอจนกว่าเธอจะได้สติ ผมจะแก้ไขเรื่องเข้าใจผิดระหว่างผมกับเธอ และปล่อยเธอไป! “
และซู่เจินก็ชี้ไปที่สไปเดอร์แมน “ผมไม่รู้หรอกนะว่าพวกคุณหยิ่งผยองแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว เพราะพวกคุณแต่ละคนทำตัวเหมือนพวกคนไม่มีความคิด จะมีสักครั้งไหมที่จะถามว่าเกิดอะไรขึ้นและรอให้ผมได้อธิบายเหตุผลให้ฟังก่อน ไม่ใช่ทำกับว่าผมเป็นคนเลวชอบออกไปหาเรื่องต่อยตี ผมไม่ได้ปัญญาอ่อนขนาดนั้น และโดยทั่วไปควรที่จะถามก่อนไหมว่าเกิดอะไรขึ้น เหตุการณ์เป็นมายังไงจริงไหม? และสิ่งที่ผมเห็นมันคืออะไรแถมเขายังเป็นคนของ SHIELE! อีกด้วย และดูเหมือนว่าเขาจะแจ้งเรื่องนี้ให้กับจอห์นนี่เป็นคนแรกและยิ่งแล้วใหญ่จอห์นนี่ก็เป็นพวกยิ่งหยิ่งผยองยิ่งกว่าเขาซะอีก ไม่มีแม้แต่จะเปิดโอกาสให้ผมอธิบายแถมยังโจมตีผมอีก ทำไม ? พวกคุณคิดว่าตัวผมทำขึ้นมาจากโคลนงั้นเหรอ? ที่จะได้ไม่มีความรู้สึกนึกคิด! พอผมพยายามเตือนเขา เขาก็ไม่ฟังแถมยังยั่วยุผมอีก และยังอวดเบ่งด้วยนะว่าพลังของตัวเองแข็งแกร่งนักแข็งแกร่งหนา สุดท้ายแล้วเป็นยังไง ไม่เห็นจะแข็งแกร่งอย่างที่พูด … หึหึ … ”
“และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดคุณจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่คุณ” ซู่เจินพูดออกมาเบา ๆ
“คุณสามารถคืนความสามารถที่คุณกลืนกินกลับมาได้ไหม” นิค ฟิวรี่ ไม่ได้ตอบสนองต่อสิ่งที่ซู่เจินพูดออกมา โดยธรรมชาติแล้วเขาสามารถตรวจสอบสิ่งเหล่านี้ได้ในภายหลัง แต่สิ่งที่เขาอยากจะรู้ในตอนนี้ก็คือความสามารถของจอห์นนี่สามารถนำกลับคืนมาได้หรือไม่
อย่างที่รู้กันว่าแม้ว่านิสัยของจอห์นนี่จะไม่ค่อยได้เรื่องมากนัก แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นคนดีที่ช่วยกำจัดคนเลว และยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกคนสำคัญของ แฟนแทสติก โฟร์ และถ้าเกิดไม่มีจอห์นนี่ ใครจะรู้ว่าหลังจากนี้จะมีปัญหามากมายแค่ไหนตามมา
“ ไม่!”
ซู่เจินพูดอย่างใจเย็น ไม่ต้องพูดถึงว่าเขาสามารถทำมันได้จริง ๆ หรือเปล่า เพราะถึงแม้ว่าเขาจะทำได้ เขาก็ไม่ยอมคืนมันให้แน่นอน!
ไม่อย่างงั้นสิ่งที่เขาเจอมาทั้งหมด มันจะไม่สูญเปล่างั้นหรอ? เขาทำสิ่งพวกนี้โดยวางแผนไว้แล้วเป็นอย่างดีเพื่อที่จะกลืนความสามารถของจอห์นนี่ เขาจึงจงใจแกล้งเป็นอ่อนแอในตอนแรกหลังจากนั้นก็จัดการเขาซะโดยแกล้งทำเป็นเหมือนการป้องกันตัวตามปกติและกลืนกินความสามารถของเขาโดยไม่ให้เกิดปัญหาตามมาที่หลัง
หากเขากลืนกินความสามารถของจอห์นนี่โดยไม่มีเหตุผล ไม่ว่าจะเป็น แฟนแทสติก โฟร์, S.H.I.E.L.D. และ เหล่าอเวนเจอร์ อาจจะคิดว่าเขาเป็นตัวปัญหาและหาทางกำจัดเขาก็ได้ แม้ว่าซู่เจินจะไม่กลัวการเป็นศัตรูของคนทั้งโลก แต่จะดีกว่าไหมถ้าเราจะหลีกเลี่ยงและไม่สร้างปัญหาโดยไม่จำเป็น
นิค ฟิวรี่ ขมวดคิ้วและพูดว่า “พาซู่เจินไปที่ยานก่อนและส่งข่าวไปบอกให้ แฟนแทสติก โฟร์ ที่เหลือรับรู้และพาตัวพวกเขามา!“
ซู่เจินยอมไปกับพวกเขาโดยดี เพราะถึงยังไงเขาก็อยากขึ้นไปสำรวจบนยานบรรทุกเครื่องบินของ S.H.I.E.L.D. พอดี
บนยานซู่เจินเมินเฉยต่อนิค ฟิวรี่ อย่างสิ้นเชิง เขาเดินไปรอบ ๆ ยานอย่างอยากรู้อยากเห็นแน่นอนว่านาตาชาคอยเดินตามเขาอยู่ข้างๆ ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นการเฝ้าระวังรูปแบบหนึ่ง!
การทำงานของ S.H.I.E.L.D. มักจะเป็นแบบนี้เพราะพวกเขาไม่เคยไว้ใจใคร ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์แบบไหน ก็ต้องอยู่ในกำมือของพวกเขา ด้วยเหตุนี้แม้ว่าซู่เจินจะเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. แต่เขาก็ไม่ได้มีแผนจะอยู่ที่นี่นานนัก!
“ฉันคิดว่าคุณน่าจะจงใจกลืนกินความสามารถของ จอห์นนี่ มันไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุ เพราะคุณได้กลืนกินความสามารถในการควบคุมเพลิงของ ปีศาจเพลิง จอห์น มาก่อน และในคราวนี้ฉันคิดว่าคุณน่าจะวางแผนเอาไว้ก่อนอยู่แล้วแน่นอนและเมื่อพิจารณาถึงความสามารถของคุณ คุณก็มีความจำเป็นที่จะต้องกลืนกินความสามารถของจอห์นนี่เข้าไป!”
นาตาชาพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ซู่เจินหยุดเดินและมองไปที่เธอและพูดกับเธอเบา ๆ “อย่าลืมว่าถ้าเขาไม่เย่อหยิ่งและมาสร้างปัญหาให้กับผม ทั้งที่ผมพยายามอธิบายเหตุผลให้เขาฟังแต่เขาไม่ยอมฟัง ถึงแม้ว่าผมอยากที่จะกลืนกินความสามารถของเขา และสนใจในความสามารถของเขา แต่ถ้าเขาไม่มาสร้างปัญหาให้กับผม มันก็จะไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริงไหม และผมก็ไม่ได้เป็นคนโรคจิตที่ชอบโดนทุบตี เมื่อเขาโจมตีผม ผมก็แค่โจมตีกลับ เพราะว่าเขาไม่ใช่ผู้หญิงของผมหรือเพื่อนของผมซะหน่อย ใช่!เขาสามารถสร้างปัญหาให้ผมได้ แต่ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมาที่หลังด้วย! “
นาตาชาฟังอย่างเงียบ ๆ แม้ว่าซู่เจินจะมีความคิดนี้จริง แล้วเขาจะมีอะไรเป็นแรงจูงใจในการทำแบบนี้? ถ้าหากจะโทษใคร ก็ควรโทษตัวของ จอห์นนี่ ที่หยิ่งผยองมากเกินไป
“ฉันจะจัดที่พักให้กับคุณ คุณสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ เพราะเรื่องนี้ไม่ได้จัดการง่ายอย่างที่คิด เพราะว่ามันมีส่วนเกี่ยวข้องกับ แฟนแทสติก โฟว์ ทำให้มันเป็นเรื่องใหญ่ และฟิลโคลสันก็กำลังเดินทางมาที่นี่ด้วยตนเอง คงจะใช้เวลาไม่นานในการเดินทางมาถึงที่นี่ และเดี๋ยวฉันจะมาแจ้งผลลัพธ์ให้คุณรู้หลังจากการประชุมจบลง! “นาตาชากล่าว
ซู่เจินยักไหล่อย่างเฉยเมย “ไม่เป็นไร ผมกะว่าจะนอนหลับสักตื่น และผมหวังว่าจะได้ฟังข่าวดีหลังจากที่ผมตื่นนอน!”
นาตาชาไม่ได้ตอบซู่เจินและพาเขาไปยังที่ห้อง
ภายในห้องเป็นแบบธรรมดา ๆ แต่เขาก็ไม่รู้ว่าจะมีอะไรแอบซ่อนเอาไว้หรือป่าว แต่ถึงจะมีซู่เจินก็ไม่ได้สนใจอะไรมันมากนักเขาเชื่อว่าในสถานการณ์แบบ SHIELD จะไม่ทำอะไรกับเขาแน่นอน
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นิค ฟิวรี่ ถึงลักษณะภายนอกเขาจะดูเหมือนคนชั่ว แต่เขาก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ตราบใดที่ตัวของเขายังมีประโยชน์อยู่ เขาก็จะพยายามรักษาผลประโยชน์นี้เอาไว้
ดังนั้นหลังจากซู่เจินเขามาในห้องก็ล้มตัวลงนอนและค่อย ๆ หลับไปอย่างช้า ๆ …