Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 14
“ฉันอยู่ที่ไหน เกิดอะไรขึ้น”
ซู่เจินตื่นขึ้นมาด้วยความสดชื่น และมองไปที่หลี่เสี่ยวลู่ ที่ไม่สวมเสื้อผ้านอนอยู่ข้าง ๆ เขา ซู่เจินจำได้ว่า … เขากลืนกินความสามารถของมนุษย์คลื่นเสียงมาและกำลังจะกลืนความสามารถของหลี่เสี่ยวลู่ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะถูกดึงดูดจากรูปร่างของเธอทำให้มีความปรารถนาบางอย่างเกิดขึ้นและเขาไม่สามารถควบคุมมันได้ …
“ดูเหมือนว่าฉันจะทำเกินไปหน่อย…”
ซู่เจินมองไปที่หลี่เสี่ยวลู่ เขารู้สึกอับอายเล็กน้อย
ตอนนั้นเขาไม่สามารถควบคุมร่างกายและสติของตัวเองได้ หลังจากที่เขาได้ระบายอารมณ์เชิงลบออกไปมันทำให้สภาพจิตใจของเขาดีขึ้นเล็กน้อยแม้วิธีการระบายมันค่อนข้างพิเศษนิดหนึ่ง
“เป็นผลกระทบของ จิตใจที่ชั่วร้าย?”
ซู่ซานไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงได้สูญเสียการควบคุมอย่างกะทันหัน แต่ดูเหมือนจะไม่มีเหตุผลอื่นนอกจาก จิตใจที่ชั่วร้าย
“อ๊ะ! ฉันหลับไปนานแค่ไหนกันเนี้ย”
เมื่อเห็นดวงจันทร์ที่ส่องสว่างอยู่ด้านนอกและเวลาที่แสดงอยู่บนนาฬิกา ซู่เจินรู้สึกหดหู่นิดหน่อย เมื่อเขาลองคำนวณเวลาดู ดูเหมือนว่าเขาจะเหลือเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง และพระเอกกับนางเอกตอนนี้อยู่ไหนก็ไม่รู้ แม้กระทั่งบอสของ ‘องค์กร‘ ก็อยู่ที่ไหนไม่รู้เช่นกัน
ความสามารถพลังจิตหรือพลังในการควบคุมจิตใจ!
โดยเฉพาะความสามารถในการควบคุมจิตใจนี่คือความสามารถที่เขาต้องการมากที่สุด!
คงเป็นเรื่องน่าเสียดายแย่หากเข้าพลาดโอกาสแบบนี้
“ไม่! ฉันต้องรีบหาพวกเขาให้เร็วที่สุด ไหนจะบอสขององค์กรวายร้ายที่เขามีความสามารถในการควบคุมความคิด”
ซู่เจินไม่อยากพลาดโอกาสที่จะได้รับความสามารถแต่เวลาก็มีอยู่อย่างจำกัด เขาใช้ความสามารถดูทำนายอนาคตเพื่อพยายามหาพวกเขา แต่จู่ ๆ ซู่เจินก็พบว่าความสามารถของเขาล้มเหลว เขาลองอีกครั้งแต่ผลลัพธ์ก็เหมือนเดิม
คลื่นเสียง,การทำนายอนาคต,การติดตาม และความสามารถในการกลืนของเขาดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรและความสามารถในการควบคุมเพลิงของเขายังสามารถใช้ได้เหมือนเดิมทำให้เขาโล่งใจเล็กน้อย ดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างผิดพลาดขึ้นขณะกลืนกินความสามารถเข้าไป เลยทำให้มันล้มเหลว?
“ระบบ ที่เวลาอย่างงี้คุณกับไม่ยอมออกมาทำงานนะ?”
ซู่เจินพูดสาปแช่งขึ้นมาอย่างหดหู่ แต่เมื่อมองไปที่หลี่เสี่ยวลู่ โอเค … ชั่งมันเถอะ
เขาสูญเสียความสามารถที่เพิ่งกลืนกินไปและประกอบกับความจริงที่ว่าแผนการของเขาได้ล้มเหลวไปแล้ว เพราะเวลาเหลืออีกไม่มากและมันน่าจะสายเกินไปแล้ว แม้ว่าความสามารถของหลี่เสี่ยวลู่ จะไม่ได้ถูกกลืนกินแต่มันหายไปเอง เธอน่าจะค้นพบมันได้หลังจากเธอได้สติ เพราะตอนนี้เธอยังคงงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้าอยู่และซู่เจินก็รู้สึกผิดเล็กน้อยเมื่อมองไปยังเลือดสีแดงที่เลอะอยู่บนผ้าปูที่นอน
“ลืมไปว่าฉันสามารถเข้ามาที่นี่ได้อีกครั้งหลังจากผ่านไป 30 วัน งั้นเขาก็ต้องเก็บดันเจี้ยนนี้เอาไว้ก่อนแล้วค่อยเข้ามาใหม่”
ซู่เจินส่ายหัวและวางเงินกับข้อความเอาไว้ จากนั้นเขาก็ช่วยเธอสวมใส่เสื้อผ้า และนอนรอให้เวลาหมดอย่างช้า ๆ
“หมดเวลาในการเข้าดันเจี้ยน กำลังส่งกลับไปที่โลกเดิม!”
เสียงของระบบดังขึ้นและซู่เจินก็หายตัวไป
วินาทีถัดมาซู่เจินก็ปรากฏตัวขึ้นในรถของสกาย แต่สกายไม่ได้อยู่บนรถ
“ฉันกลับมาแล้ว”
ซู่เจินถอนหายใจและถามระบบ “เกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้ทำไมฉันถึงสูญเสียการควบคุมตัวเอง สาเหตุมาจาก จิตใจที่ชั่วร้ายใช่หรือไม่ เพราะฉันรู้สึกได้ถึงความชั่วร้ายในจิตใจของฉัน มันแข็งแกร่งมากฉันรู้สึกว่าไม่ว่าจะเป็นอะไรก็สามารถทำได้ทุกอย่าง”
“ระบบกำลังมอบรางวัลสำหรับการที่ท่านทำภารกิจหลักได้สำเร็จ”
“รางวัลอะไร”
“พลังงานที่ต้องใช้ในการอัพเกรดระบบ”
“โอเค แต่คุณควรตอบคำถามของผมก่อนนะ”
“การสูญเสียการควบคุมสาเหตุไม่ได้มาจาก จิตใจที่ชั่วร้าย แต่เพราะคุณกลืนกินความสามารถมากเกินไปและเร็วเกินไปทำให้ร่างกายของคุณดูดซับความสามารถไม่ทัน ทำให้คุณเสียการควบคุมของตัวเอง “
“เป็นอย่างงี้นี่เอง”
ซู่เจินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และเขาก็คิดว่ามันเป็นอย่างที่ระบบบอกจริง ๆ
ไม่ว่าร่างกายจะแข็งแรงแค่ไหนก็ไม่สามารถกลืนกินความสามารถจำนวนมากได้ในเวลาอันสั้น อย่างไรระบบให้เขากลืนกินแค่สามความสามารถ ดังนั้นสามารถกล่าวได้ว่าความสามารถสามอย่างเป็นขีดจำกัดของร่างกายเขาที่สามารถรับได้และไม่สูญเสียการควบคุม!
“แล้วความสามารถในการกลืนของฉันล่ะ?”
“มันไม่ได้ล้มเหลว แต่ต้องรอให้ร่างกายของคุณปรับตัวเรียบร้อยก่อนถึงจะใช้ความสามารถได้เหมือนเดิม”
“ตอนนี้ยังไม่สามารถใช้ได้สินะ ไม่เป็นไรดีกว่าสูญเสียมันไป” ซู่เจินถอนหายใจด้วยความโล่งอกและถามระบบขึ้นมา “ระบบพลังงานของคุณเพียงพอที่จะอัพเกรดหรือไม่? ฉันกลืนกินความสามารถมามากมาย ดังนั้นคงได้พลังงานมามหาศาลและยังมีพลังงานที่ได้จากรางวัลของภารกิจอีกด้วย”
“มีพลังงานไม่เพียงพอสำหรับการอัพเกรด”
“ไม่พองั้นเหรอ ดูเหมือนการอัพเกรดคุณจะยุ่งยากซะแล้วในอนาคต”
“คุณกลับมาแล้วหรอ ก่อนหน้านี้คุณไปไหนทำไมไม่บอกฉันและโทรศัพท์ก็ไม่สามารถติดต่อได้” ประตูรถถูกเปิดออกและสกายเดินขึ้นมาแล้วมองไปที่ซู่เจินด้วยความประหลาดใจและกังวล
ซู่เจินยิ้ม “ผมเห็นคุณยังไม่ตื่นเลยไม่ได้บอกคุณ ผมเจอร้านอาหารที่น่ากินมาก ๆ แต่มันเป็นเพียงการรีวิวในโลกอินเตอร์เน็ตเท่านั้นดังนั้นผมจึงไปดูด้วยตาตนเองแต่เพราะอยู่ไกลหน่อย ทำให้คุณตื่นมาไม่เจอผม แต่น่าเสียดายมันไม่ได้ดีเหมือนที่รีวิว … และเรื่องที่คุณโทรหาผมไม่ติด อาจเป็นเพราะแถวนั้นเป็นที่อับสัญญาณ”
“ที่รักที่หลังอย่าทำแบบนี้อีกนะในอนาคตฉันไม่สนหรอกว่าร้านอาหารนั้นจะดีหรือไม่ดี ฉันสนแค่ว่าคนที่นั่งกินข้าวกับฉันคือคุณ คุณไม่รู้หรอกว่าฉันเป็นห่วงคุณมากแค่ไหน ฉันไม่สามารถติดต่อคุณได้ฉันคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับคุณ “สกายพูดอย่างเป็นห่วง
“โอเค ๆ ผมสัญญาว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก” ซู่เจินพูดสัญญาและก้มหน้ารู้สึกผิด “ถึงแม้ว่าร้านนั้นจะทำให้ผมรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย และตอนนี้ผมก็หิวมาก ๆ ดังนั้นแฟนสาวคนสวยของผม ผมจะรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งถ้าได้ทานอาหารร่วมกับคุณ คุณยินดีหรือไม่?”
“แน่นอนสุดหล่อ!”
สกายตอบกลับด้วยรอยยิ้ม