Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 15
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปหลังจากที่เขาออกจากดันเจี้ยน
ความสามารถในการกลืนของซู่เจินค่อยๆฟื้นฟูกลับมาและดูเหมือนว่าร่างกายจะค่อยๆปรับตัวให้เข้ากับความสามารถที่มากมาย อย่างไรก็ตามความสามารถส่วมมากไม่ค่อยมีประโยชน์มากนักยกเว้นความสามารถในการทำนายอนาคต
ซู่เจินลองใช้ความสามารถทำนายอนาคต
เขาและสกายนั่งอยู่ในรถประตูและอยู่ดี ๆ ประตูก็เปิดออกและมีชายใส่สูทยืนอยู่ด้วยรอยยิ้ม
ฟิล โคลสัน!
ดูเหมือนเขาจะพูดอะไรบางอย่างและยื่นมือออกมา แต่สิ่งที่เขาเห็นมันเป็นแค่ภาพบางส่วนของอนาคต ไม่มีเสียงใด ๆ
ซู่เจินเดาว่าเขาน่าจะมาเพื่อเชิญให้พวกเขาเข้าร่วมกับ S.H.I.E.L.D. และดูเหมือนว่าเขาจะมาเชิญด้วยตัวเอง เพราะมือที่ยื่นออกมานั้นยื่นมาหาเขา ภาพอนาคตคตนั้นเกิดในระยะเวลาสั้น ๆ ดังนั้นมันควรจะเกิดขึ้นในอีกไม่นาน แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าจะเร็วกว่าในเนื้อเรื่องตามปกติอย่างน้อยสองถึงสามเดือน!
“คุณคิดอะไรอยู่งั้นหรอ?” สกายถามด้วยความงุนงงเมื่อมองไปที่ซู่เจิน
ซู่เจินส่ายหัว “ไม่มีอะไรหรอก ผมรู้สึกว่าจะมีคนมาหาเรา?”
“ลางสังหรณ์ คุณมีความสามารถในด้านนี้ด้วย?” สกายถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ บางครั้งมันก็ใช้ได้บางครั้งมันก็ไม่ได้” ซู่เจินอธิบาย
อย่างไรก็ตามความสามารถเหล่านี้ไม่ได้รับมาจากในโลกนี้และไม่มีใครรู้ว่าเขามีความสามารถแบบไหน ดังนั้นซู่เจินจึงไม่ต้องกังวลอะไร
“ แล้วคุณเคยมีความรู้สึกแบบว่า เราจะได้มาอยู่ด้วยกันไหม?” สกายถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
ซู่เจินส่ายหัว “ไม่นะ แต่ผมคิดว่านี่คือพรหมลิขิตดังนั้น … ผมไม่ต้องการลางสังหรณ์ใด ๆ ยิ่งไปกว่านั้นแม้ว่าผมจะไม่มีลางสังหรณ์บ่งบอกว่าจะได้อยู่กับคุณหรือเปล่าในอนาคต แต่ผมขอบอกคุณไว้ ณ ตรงนี้เลยว่า … ผมจะไม่มีวันทิ้งคุณ เราจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต “
“ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่คุณพูดเป็นเรื่องจริงหรือโกหก เพราะตอนนี้ฉันมีความสุขที่สุดเลย” สกายพูดด้วยรอยยิ้ม
“ ก๊อก ๆ ”
มีคนมาเคาะประตูรถเบา ๆ สกายมองไปที่ซู่เจินด้วยความประหลาดใจและซู่เจินก็ยักไหล่ “ดูเหมือนว่าลางสังหรณ์ครั้งนี้จะแม่น”
ซู่เจินเดินไปเปิดประตูรถ
ฟิล โคลสัน ตัวเป็น ๆ ไม่ได้ใช้สแตนอิน
“สวัสดี คุณซู่เจิน คุณสกาย ฉัน ฟิว โควสัน เป็นตัวแทนของ SHIELD มาที่นี่เพื่อพบพวกคุณ” ฟิลโคลสันกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ มีอะไรงั้นหรอครับ?” ซู่เจินถาม
“ ทำไมเราไม่เปลี่ยนสถานที่กันหน่อยละ” ฟิลโคลสันพูดด้วยรอยยิ้ม
ซู่เจินและสกายมองหน้ากัน และพวกเขาก็พยักหน้าเห็นด้วย
เขาคิดว่าที่โคลสันพูดว่าเปลี่ยนสถานจะพาพวกเขาไปนั่งร้านกาแฟ หรือร้านอาหาร แต่ที่ไหนได้กับพาพวกเขาขึ้นยานบิน เป็นยานบินที่อยู่ในเรื่อง “Agents of S.H.I.E.L.D. ” ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นฐานทัพเคลื่อนที่ก็ว่าได้
ซู่เจินมองไปที่รถโบราณของ โควสัน แน่นอนว่ามันดูเก่าแก่จริงๆ แต่อย่าดูถูกมันละเห็นมันโบราณแบบนี้แต่รถคันนี้อยู่ในระดับไฮเอนด์ ก็แค่มันไม่สามารถบินได้แค่นั้นนอกนั้นจัดว่าสุดยอด! ในเวลาเดียวกันซู่เจินยังได้พบกับนักวิทยาศาสตร์สองคนคือ ลีโอ ฟิทซ์ กับ เจมมา ซิมมอนส์ เป็นสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ เจมมา ซิมมอนส์ ที่ซู่เจินเจอสวยยิ่งกว่าในหนังซะอีก!
“เชิญนั่งลงก่อน”
พวกเขาพากันเดินมาที่บาร์ในเครื่องบินและนั่งลง โควสันพูดออกมาอย่างตรง ๆ โดยทันทีว่า “ฉันกำลังก่อตั้งทีมของตัวเองและเครื่องบินลำนี้เป็นฐานที่ตั้งของทีมฉัน เพราะว่ามันทั้งสะดวกสบาย รวดเร็ว และสามารถเคลื่อนย้ายได้ตลอดเวลา ฐานแบบนี้ไม่เยอะหรอกนะ ”
“เห็นด้วย ๆ ” ซู่เจินพยักหน้า “อย่างไรก็ตามผมต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งที่คุณกำลังจะทำ ดังนั้นคุณควรพาพวกเราไปเยี่ยมชมฐานของคุณไม่ใช่หรือไง?”
“ไม่ จริง ๆ แล้วฉันมาหาเธอเป็นหลัก” โคลสันมองไปที่สกาย “ผู้เชี่ยวชาญด้านแฮกเกอร์ซึ่งเป็นสมาชิกขององค์กร ‘Rising Tide’ โดยองค์กรนี้ได้แฮกระบบของเราซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกทั้งยังขโมยข้อมูลและเผยแพร่สู่สาธารณะ โดยข้อมูลส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่คนทั่วไปไม่ควรรู้ในขณะนี้ เพราะพวกเขายังไม่สามารถยอมรับได้ถึงตัวตนที่พิเศษของคนเหล่านี้ … มิสสกายฉันหวังว่าคุณจะช่วยฉันได้! “
“ช่วยคุณ? แล้วทำไมคุณถึงต้องซ่อนสิ่งเหล่านี้ที่พวกเขาสมควรที่จะได้รับรู้ว่ามีคนอีกมากมายที่มีความสามารถพิเศษและเหล่าฮีโร่มากมายในโลกใบนี้ คุณต้องการไม่ให้คนทั่วไปมีสิทธิ์รับรู้เรื่องพวกนี้เลยงั้นหรอ” สกายกล่าว
โคลสันพยักหน้าและกล่าวว่า “ใช่โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจบสงครามกลางนิวยอร์ก ประชาชนน่าจะรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของซูเปอร์ฮีโร่ แต่ … สิ่งเหล่านี้ต่างออกไปเพราะการมีอยู่ของซูเปอร์ฮีโร่ทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจได้ เพราะเมื่อพวกเขาตกอยู่ในอันตรายจะเหล่าซูเปอร์ฮีโร่เหล่านี้มาช่วยเหลือ แต่ถ้ามีซูเปอร์ฮีโร่มากเกินไปแต่ไม่สามารถใช้งานได้จริง แต “
“ เหมือนพวกมนุษย์กลายพันธุ์?”
“ ก็ไม่เชิง แต่ก็เกือบจะเหมือนกันจริงๆ เพราะเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ถ้า … ประชาชนรู้ว่ามีคนกำลังทำการวิจัยเพื่อสร้างฐานอำนาจขึ้นมา ผลที่ได้นั้นจะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ในปัจจุบันมีขุมอำนาจมากมายที่มีบุคคลที่มีความสามารถพิเศษอยู่ หลังจากการตรวจสอบบุคคลที่มีพลังพิเศษเหล่านี้ก็พบว่าพวกเขาได้รับการฉีดเซรุ่มบางชนิด แต่มันยังไม่สมบูรณ์และจะระเบิดร่างกายของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา พูดง่าย ๆ ก็คือคล้าย ๆ กับไวรัสเอ็กซ์ตรีมมิส .. ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีคนคนบริสุทธิ์ที่ถูกจับตัวไปทดลองเซรุ่มรุ่นใหม่ “
“มองมาที่ผมทำไม ผมไม่ได้เป็นคนคิดไวรัสนี้ขึ้นมาซะหน่อย” โคลสันเหลือบมองมาที่ซู่เจินเมื่อเขาพูดเกี่ยวไวรัสเอ็กซ์ตรีมมิส ทำให้ซู่เจินหน้ามุ่ยและพูดอย่างไม่พอใจ
โคลสันกล่าวขอโทษ “แน่นอนฉันมั่นใจว่าคุณไม่ได้เป็นคนคิดค้นมันขึ้นมา แต่ด้วยสิ่งเหล่านี้อาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อสังคมได้ ถ้าไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายมีไหวพริบสูงก็จับตัวได้ไปนานแล้ว พวกเราได้ลองหลายวิธีในการหาข่าวของพวกเขาและ องค์กร‘Rising Tide’ จงใจประกาศข่าวเหล่านี้ออกมาด้วยการเจาะระบบ ทำให้พวกเราตามตัวพวกเขาได้ยากยิ่งขึ้น … “
“แล้วคุณก็หาฉันเจอ แต่ขอโทษด้วยถึงฉันจะมีความสามารถ แต่ฉันไม่ต้องการทำมัน!” สกายพูดพร้อมกับส่ายหัว
“ไม่แน่คุณอาจจะช่วยพวกเราหาองค์กรนี้เจอก็ได้!” โคลสันพูดอย่างจริงจัง
“ก็อาจจะใช่ แต่ทำไมฉันถึงต้องช่วยคุณละ?” สกายถามออกมา
“เพราะนี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการลบล้างความผิดของคุณด้วยตัวตน เพราะด้วยสถานะของคุณในฐานะสมาชิกขององค์กร‘Rising Tide’ ฉันจึงมีสิทธิ์ที่จะจับกุมคุณ”
“จะลองดูก็ได้นะ” ซู่เจินหยิบไฟแช็คออกมาและพูดด้วยรอยยิ้ม
“ตอนนี้พวกเราอยู่ที่ระดับความสูง 6000 เมตร ฉันไม่รู้ว่าคุณมีความสามารถในการบินหรือไม่ แต่ฉันพร้อมที่จะเสี่ยงนะ!” โควสันพูดอย่างใจเย็น
ซู่เจินมองเขาด้วยรอยยิ้มแม้ว่าน้ำเสียงของ โควสันจะดูเหมือนสงบ แต่จริงๆแล้วเขากำลังประหม่าอยู่ “คุณขู่ผม?”
“ไม่ เพราะฉันคิดว่าที่มานั่งคุยกับพวกเธอก็คือการแสดงความจริงใจของฉันแล้ว เพราะฉันมีสิทธิ์จับพวกคุณได้ในทันที แต่ฉันไม่ต้องการทำเช่นนั้นเพราะฉันหวังว่าคุณจะช่วยฉันได้และยังช่วยผู้คนที่มีความบกพร่องเพราะไวรัสได้อีกด้วย!” โควสันพูดอย่างจริงจัง.
“ตกลง ฉันจะช่วยคุณ!” สกายพูดอย่างกะทันหัน
“สกายถ้าคุณไม่โอเคเกี่ยวกับมันคุณบอกผมได้ ถ้าผมยังอยู่จะไม่มีใครสามารถบังคับคุณได้ !” ซู่เจินหันไปพูดกับสกาย
สกายพยักหน้าและพูดว่า ฉันรู้ แต่สิ่งที่เขาพูดก็ถูกต้องคนบริสุทธิ์หลายคนเสียชีวิตเพราะไวรัสพวกนี้ ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาโดนบังคับหรือว่าสมัครใจแต่ฉันคิดว่าพวกเรา สามารถช่วยพวกเขาได้”
“โอเค เดี๋ยวผมจะหาโอกาสระเบิดที่นี่ทิ้งในอนาคตแล้วกัน”ซู่เจินพูดอย่างหมดหนทางและมองไปที่โควสันที่กำลังกระวนกระวายอยู่ในใจ
ซู่เจินเมื่อเห็นอย่างงั้นก็พูดขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม: “ไม่ต้องตกใจ ผมแค่พูดเล่น.”
“มันไม่ตลกเลยสักนิด!” โคลสันยิ้มอย่างขมขื่น