Marvel : The King ราชาของโลกมาเวล - ตอนที่ 13
สำหรับเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่สูญเสียพลังเธอก็เปรียบเสมือนมดตัวเล็ก ๆ ในโลกนี้ และเธอก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะมีคนที่สามารถแย่งชิงความสามารถได้
“เธอแปลกใจใช่ไหมที่ฉันสามารถแย่งชิงความสามารถของเธอมาได้ ทั้งที่คนในโลกนี้ไม่น่าจะมีใครสามารถทำได้ แต่ก็น่าเสียดาย … ฉันไม่ได้เป็นคนของโลกนี้ดังนั้นฉันจึงสามารถแย่งชิงความสามารถของเธอได้ แต่เห็นแก่ชีวิตดวงน้อย ๆ ของเธอฉันจะไว้ชีวิตเธอก็แล้วกัน!”
“ ทำไม … ทำไมต้องเป็นหนูล่ะ หนูยังต้องใช้ความสามารถนั้นอยู่ … ”
“ เธอต้องการช่วยแม่ของเธอใช่ไหม ไม่ต้องห่วงคนที่ต้องการยา เขาจะไม่มีทางเอาไปได้ ส่วนแม่ของเธอถ้าฉันมีโอกาสฉันจะช่วยออกมาเอง ฉันจำได้ว่า … แม่ของเธอยังสาวและสวยมาก โอเคไม่มีอะไรแล้วนะฉันจะไปล่าเยื่อต่อแล้ว! “ซู่เจินมองไปที่คนสองคนที่เดินออกมาจากบ้านของพระเอก มุมปากของซู่เจินยิ้มด้วยร้อยยิ้มแสนชั่วร้าย
ซู่เจินจงใจปล่อยให้พวกเขาไป เพื่อที่จะใช้ความสามารถในการทำนายอนาคตเพื่อค้นหาที่อยู่ของพวกเขา ความสามารถที่ดี! ต้องบอกว่าความสามารถในการทำนายอนาคตนั้นแข็งแกร่งมาก แต่น่าเสียดายที่มันเป็นเพียงพลังที่ไม่สมบูรณ์ดังนั้นหากเป็นสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยโอกาสสำเร็จก็จะสูงขึ้น แต่ถ้าเป็นสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยอัตราความสำเร็จก็จะต่ำลงไปด้วย
ซู่เจินพยายามหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ได้สำเร็จทุกครั้ง
แต่ดูเหมือนภาพอนาคตจะปรากฏขึ้นแบบสุ่ม เป็นเหตุการณ์ที่เกิดในช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่ง และสถานที่แบบสุ่ม
ด้วยความสามารถนี้หากเขาสามารถพัฒนาและปรับปรุงมันได้จะเป็นความสามารถที่แข็งแกร่งมาก แต่ตอนนี้ … มันค่อนข้างจะแย่สักเล็กน้อย
“เจอแล้ว!”
เมื่อมองไปยังคนสองคนที่อยู่ไม่ไกลนัก ซู่เจินก็เดินไปทางด้านหลังและวางแขนของเขาไว้ที่ไหล่ของคนทั้งสองคน ทั้งสองคนตกใจพวกเขากำลังจะปกป้องตัวเองด้วยสัญชาตญาณ แต่ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินซู่เจินพูดว่า “ฉันรู้ว่าผู้หญิงที่คุณกำลังตามหาอยู่ที่ไหน?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ชายทั้งสองก็หยุดไปชั่วขณะ และในขณะนี้ซู่เจินก็ใช้ความสามารถในการกลืนกินของเขาไปด้วย
กลืนกินทั้งสองคนในเวลาเดียวกัน!
ชายทั้งสองรู้สึกว่ามีบางอย่างถูกดึงออกไป พวกเขาพยายามต่อต้าน แม้ว่าพวกเขาสองคนจะแข็งแกร่ง แต่พวกเขาไม่สามารถเอามือของซู่เจินออกจากไหล่พวกเขาได้เลย แม้ว่าพวกเขาจะพยายามโจมตีซู่เจิน แต่มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นดูแม้แต่การแสดงออกของซู่เจินก็ไม่เกิดขึ้นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ยกเว้นสีหน้าของเขาที่แสดงการเยาะเย้ยอย่างเต็มที่ การมีจิตใจที่ชั่วร้ายมันชั่งดีจริง ๆ!
“หึ! มันเป็นเรื่องยากที่จะดูดกลืนสองคนในเวลาเดียวกันถ้าไม่มีจิตใจที่ชั่วร้ายเขากลัวว่ามันจะทำไม่สำเร็จ”
หลังจากนั้นไม่นานซู่เจินก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เขาเปลี่ยนจากจับไหล่และเอามือทั้งสองข้างไปบีบคอทั้งสองคนเอาไว้แล้วออกแรงเล็กน้อย
ทันใดนั้นทั้งสองก็ทรุดตัวลงกับพื้นและซู่เจินก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว
“สามความสามารถได้มาอยู่ที่ฉันเรียบร้อยแล้ว!”
คลื่นเสียง,การทำนาย,และการติดตาม
พวกเขาสองคนที่เขาดูดความสามารถมามีความสามารถในการติดตามเหมือนกันทั้งสองคน และดูเหมือนว่าความสามารถการติดตามจะถูกยกระดับขึ้น แต่ซู่เจินก็ไม่รู้รายละเอียดของมันมากนักและเขายังไม่ต้องการจะลองในตอนนี้
“ความสามารถที่เหลือก็คือการควบคุมจิตใจและการป้องกันการจู่โจมทางจิต นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการลบความทรงจำ” ส่วนเจ้าของของความสามารถในการลบความทรงจำ ซู่เจินมีความทรงจำที่ลึกซึ้งมากเกี่ยวกับเขาเพราะครั้งหนึ่งเขาเคยเล่นละครเรื่อง อุ้ยเสี่ยวป้อ และอุ้ยเสี่ยวป้อ รับบทโดย เฉิน เสี่ยวชุน และในหนังเรื่องนี้เขาจะรับบทเป็นคนหาปลาอยู่บนเรือหาปลา
ซู่เจินสนใจความสามารถนี้มากเป็นพิเศษเพราะมันสามารถลบความทรงจำของคนอื่นได้ ถ้าคุณเกิดทำอะไรผิดพลาดคุณก็สามารถใช้สิ่งนี้เพื่อลบความทรงจำของอีกฝ่ายได้ อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนักเพราะมันสามารถฟื้นคืนความทรงจำกลับมาได้ เขาจำเป็นต้องใช้อย่างระมัดระวัง
จากการคำนวณเวลาเขาอยู่ในได้ประมาณสี่ชั่วโมงแล้วและเวลาส่วนใหญ่เสียไปกับการทดสอบความสามารถในการทำนาย แต่ด้วยเวลาที่เหลือก็น่าจะเพียงพอ
เขาหาคนที่มีความสามารถในการลบความทรงจำได้อย่างง่ายดายและกลืนกินความสามารถของเขาได้สำเร็จและลบความทรงจำของเขาซะไป แต่ดูเหมือนว่าเขาจะใช้พลังมากไปหน่อยทำให้ความทรงจำของเขานั้นไม่มีเหลือเลยเปรียบเสมือนเด็กทารกแรกเกิด
หลังจากดูดซับความสามารถมาสี่อย่างแล้วซู่เจินรู้สึกได้ว่าเขามีพลังมากขึ้น ทำให้เขากระตือรือร้นที่จะกลืนกินความสามารถให้มากกว่านี้อีก เขาตรงไปที่บ้านของพระเอก ๆ แต่เมื่อมาถึงเขากับไม่เจอใครสักคน ซู่เจินจำได้ว่าหลังจากที่คนที่มีพลังในการติดตามทั้งสองมาที่ประตูบ้านของพระเอกเขาน่าจะหนีไปแล้ว แต่ทันใดนั้นก็มีเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ปรากฏตัวขึ้นและทำให้แผนของเขาหยุดชะงัก, ดังนั้น … เขาน่าจะหนีไปแล้ว?
“ หาไม่เจอ?”
ซู่เจินขมวดคิ้วแม้ว่าเขาจะสามารถใช้ความสามารถในการติดตามเพื่อค้นหาพระเอกได้ แต่ใครจะรู้ว่าพระเอกคนนี้ไปที่ไหนและเขามีประสบการณ์มากมายในการที่จะหลบหนี กว่าจะหาเขาเจอคงต้องใช้เวลาอีกมาก
แต่เขาไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น!
เขารู้สึกว่าความปรารถนาในการที่จะกลืนกินพลังนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ
“ ตูม!”
ทันใดนั้นประตูก็ถูกเตะออกอย่างรุนแรงและมีมนุษย์คลื่นเสียงอีกคนเดินเข้ามา ด้านหลังของมนุษย์คลื่นเสียงมีนักพยากรณ์เดินตามหลังมา เธอก็คือ หลี่เสี่ยวลู่
เมื่อพวกเขาเห็นซู่เจินทั้งสองคนก็ตกใจ พวกเขาไม่คิดว่าจะมาเจอซู่เจินที่นี่
“หนี!”
หลี่เสี่ยวลู่ตะโกนขึ้นมาและพยายามจะวิ่งหนี แต่น่าเสียดายที่เธอช้าไปเล็กน้อย
ซู่เจินเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง ในพริบตาเขาก็อยู่ที่หน้าประตูและปิดประตูอย่างแรงและยืนขวางทางพวกเขาเอาไว้ ในเวลานี้ มนุษย์คลื่นเสียงอีกคนกำลังจะโจมตีด้วยคลื่นเสียง แต่ทันใดนั้นซู่เจินเตะไปที่ลูกกระเดือกของเขาอย่างแรงทำให้เขาล้มลงกับพื้น ซู่เจินหยิบไฟแช็คออกมาเพื่อจุดไฟ และควบคุมเปลวเพลิงไปรอบ ๆ ประตูเพื่อกันหลี่เสี่ยวลู่จะหนีไป
“ฉันหาเธออยู่ตั้งนานแต่ไม่เจอ แต่ไม่คิดว่าเธอจะเป็นคนมาฉันด้วยตัวเอง”
ดวงตาของซู่เจินกลายเป็นสีแดงและเขาแสยะยิ้มและเดินเข้าไปหามนุษย์คลื่นเสียงและนั่งลงยอง ๆ กลืนความสามารถของเขาหลังจากกลืนกินความสามารถของเขาเรียบร้อยก็เกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น ซู่เจินความสามารถมันแข็งแกร่งขึ้นแต่ประสาทสัมผัสทั้งห้าก็ยังปกติเช่นเดิม แต่ความรู้สึกชั่วร้ายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด!
“ถึงตาคุณแล้ว!”
ซู่เจินเดินเข้าไปหาหลี่เสี่ยวลู่อย่างช้า ๆ
“ ปัง!”
หลี่เสี่ยวลู่หยิบปืนออกมาและยิงไปที่ซู่เจิน แต่น่าเสียดายที่ซู่เจินสามารถหลบได้อย่างง่ายได้
หลี่เสี่ยวลู่ถึงกับตกตะลึงระยะใกล้ขนาดนี้เขายังสามารถหลบได้
การกระทำของเธอทำให้ซู่เจินโกรธ ซู่เจินพุ่งเขามาหาหลี่เสี่ยวลู่แล้วจับที่คอของเธอและยกตัวเธอขึ้น
การจ้องมองของซู่เจินทำให้หลี่เสี่ยวลู่กลัวเธอพยายามดิ้นรนแกว่งขาและแขนโจมตีไปที่ซู่เจิน … ซู่เจินในตอนนี้สภาพดูเหมือนคนติดยาและดูเหมือนจะเกิดความคิดบางอย่างขึ้นในจิตใจของเขา
เขาวางหลีเสี่ยวลู่ลงและหลังจากนั้น …..