Martial God Space - ตอนที่ 289
Martial god space ตอนที่ 289 การลอบสังหารในยามราตรี
สีหน้าของ ฉิ่ว ซินจื้อ เปลี่ยนไปทันที เมื่อเขารู้ว่า เจี้ยน วู่เฉิน แข็งแกร่งกว่าเขา นอกจากนี้เขาตระหนักถึงความผิดพลาดที่ไปยั่วยุชายผู้แข็งแกร่งจากดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ ถึงแม้จอมยุทธระดับสูงของ จักรพรรดิหมิง จะเหนือกว่า ดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ แต่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อช่วยเขา
เจี้ยน วู่เฉิน ค่อยๆ บินเข้าไป ด้วยใบหน้าที่ดูสงบนิ่งของเขา
ในเวลานี้จอมยุทธจากดินแดนตะวันออกเฉียงใต้พากันจดจำใบหน้าของ เจี้ยน วู่เฉิน และ เย่ ซีหวิน ได้ พวกเขาเคยเห็นทั้งสองบนเกาะปีศาจ แน่นอนว่าสองอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงจากดินแดนบ้านเกิดของพวกเขา ตอนนี้อยู่ที่นี่แล้ว พวกเขารู้สึกภาคภูมิใจ และตื้นตันใจที่พวกเขายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ
ตอนนี้พวกเขาสามารถพูดได้อย่างภาคภูมิใจแล้วว่า ดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ของพวกเขาเป็นที่อยู่ของจอมยุทธผู้พิชิตเกาะปีศาจ
” นั้นเขา! ” หลิว เย่วหรู ไม่คาดว่าจะได้พบ เย่ ซีหวิน ในสถานที่แห่งนี้ แม้ว่าเธอจะเคยมีเรื่องกับ เย่ ซีหวิน แต่เพราะ จี่ โม่อิ้น ช่วยพูดทำให้ เย่ ซีหวิน ไม่ถือสาเอาเรื่องที่แล้วมา แต่เธอก็ไม่คิดว่า เย่ ซีหวิน และ เจี้ยน วู่เฉิน จะยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเธอ
สีหน้าของ เสี่ยว เจิง เต็มไปด้วยความซับซ้อน เขาไม่คิดว่าจะได้รับการช่วยเหลือจาก เจี้ยน วู่เฉิน และระหว่าง เย่ ซีหวิน กับเขาเคยมีเรื่องบาดหมางกัน แต่มันก็ผ่านมานานแล้ว
” หากเจ้าคิดว่าตัวเองมีฝีมือ ทำไมเจ้าไม่ไปสู้กับบุคคลที่เข็งแกร่งที่สุดของรัฐชุนอัน? ” ฉิ่ว ซินจื้อ กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด
” แน่นอน! ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน จากนั้นค่อยตามหาบุคคลที่เจ้าพูดถึง ” เจี้ยน วู่เฉิน ตอบด้วยน้ำเสียงดุดัน คำพูดของเขาเด็ดเดี่ยว และหนักแน่น เพื่อต้องการบีบอีกฝ่ายให้ต่อสู้ นั้นก็เพราะเขาต้องการที่เป็น สุดยอดนักดาบ และต้องเอาชนะศัตรูที่ทรงพลัง เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในฐานะ นักดาบที่แข็งแกร่งที่สุด
” เจ้า. . . ” สีหน้าของ ฉิ่ว ซินจื้อ ถือกับซีดเผือก เพราะเขาสัมผัสถึงจิตสังหารที่แผ่ออกมา เจี้ยน วู่เฉิน ไม่ยอมปล่อยเขาไปแน่
” ซูมมมม! ” ฉิ่ว ซินจื้อ ตัดสินใจโจมตีเขาทันที เขารู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ เจี้ยน วู่เฉิน ดังนั้นเขาต้องรีบชิงลงมือก่อน เพื่อไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายมีโอกาสตั้งตัว
ฉิ่ว ซินจื้อ โคจรปราณดาบจำนวนมหาศาลออกมา มันกลายเป็นหมาป่าที่ดุร้าย และพวกมันก็รีบวิ่งตรงเข้าไปหา เจี้ยน วู่เฉิน ทันที
เจี้ยน วู่เฉิน ยิ้มที่มุมปาก เหมือนการโจมตีครั้งนี้ไม่มีความหมายสำหรับเขา เขาเพียงแค่สะบัดดาบของเขาเพียงครั้งเดียว ก็สามารถทำลายหมาป่าทั้งหมดได้ในครั้งเดียว
การสะบัดดาบของเขา หากมองด้วยตาเปล่า การเคลื่อนไหวของมันช่างดูเชื่องช้า แต่ความรวดเร็วที่ปรากฏมันช่างน่าเหลือเชื่อ หมาป่าทั้งหมดไม่สามารถหลบการโจมตีของเขาได้
” ข้าไม่คิดว่าดินแดนตะวันออกเฉียงใต้จะนักดาบที่เก่งกาจเช่นนี้ ” หลังจากเห็นการโจมตี เหล่าจอมยุทธที่ชมการต่อสู้ ต่างยอมรับว่า เจี้ยน วู่เฉิน นั้นแข็งแกร่งมาก และแข็งแกร่งยิ่งกว่า ฉิ่ว ซินจื้อ
” กบใต้บ่อน้ำเช่นเจ้า คงไม่รู้หรอกว่า แมลงในฤดูร้อนไม่สามารถอาศัยอยู่ในฤดูหนาวได้! ” ในเวลานี้จอมยุทธรุ่นเยาว์คนอื่น ๆ ในกลุ่มของ หลิว เย่วหรู ต่างพากันหัวเราะ และพูดว่า ” เจ้าเรียกตัวเองว่า ยอดฝีมือ และคิดว่าดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ของเราจะไม่มี ยอดฝีมือ บ้างอย่างนั้นรึ? ในความจริงก็คือ รัฐชุนอันของเจ้าไม่สามารถแข่งขันกับดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ของเราได้ “
ใบหน้าของจอมยุทธรุ่นเยาว์ในกลุ่มของ ฉิ่ว ซินจื้อ เปลี่ยนไปเป็นดูหมองคล้ำ เพราะพวกเขารู้ว่า เจี้ยน วู่เฉิน แข็งแกร่งกว่า ฉิ่ว ซินจื้อ ซึ่งในกลุ่มของพวกเขา ฉิ่ว ซินจื้อ เป็นเพียงคนเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม
เจี้ยน วู่เฉิน ไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสอีกครั้ง และเปิดการโจมตีทันทีด้วยการยิงลำแสงจากดาบ ประกายแสงอันน่าสะพรึงกลัวของมันกวาดออกไปทั่วท้องฟ้า มันพุ่งตรงเข้าไปหา ฉิ่ว ซินจื้อ ด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
” ฉัวะ !” แขนขวาของ ฉิ่ว ซินจื้อ ถูกตัดทันทีโดยปราณดาบ เขากรีดร้องเสียงดังด้วยความเจ็บปวด และตกลงมาจากฟากฟ้า
เจี้ยน วู่เฉิน มองด้วยสายตาอันเย็นชาไปที่ ฉิ่ว ซินจื้อ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก เขารู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่คาดว่าจะได้พบกับ ยอดฝีมือในการใช้เพลงดาบ
” เจ้าจะต้องเสียใจ! ” ฉิ่ว ซินจื้อ ฝืนตะโกนด้วยความโกรธ ถึงแม้จะเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่บาดแผล
เจี้ยน วู่เฉิน ไม่ได้พูดอะไร เขาเพียงหันไปชมวิวรอบๆ ในขณะที่เดินกลับไปยืนข้างๆ เย่ ซีหวิน
ในเวลานี้บรรดาจอมยุทธรุ่นเยาว์ในกลุ่มของ ฉิ่ว ซินจื้อ ไม่กล้ารออีกต่อไป พวกเขารีบไปเก็บแขนที่ถูกตัดขาด และรีบหนีออกไปจากที่นั่นพร้อมกับ ฉิ่ว ซินจื้อ พวกเขาไม่ใช่คนโง่ และรู้ดีว่าเวลานี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาแก้แค้น ตอนนี้พวกเขาทำได้แค่ต้องรีบหนีก่อน จากนั้นค่อยขอร้องให้คนในตระกูล หรือบุคคลอื่นๆ ที่น่าเกรงขามมาช่วยกู้ศักดิ์ศรี และแก้แค้นให้พวกเขา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของ เจี้ยน วู่เฉิน การยั่วยุให้เขาโกรธในเวลานี้ไม่ใช่ความคิดที่ดี
” ขอบคุณพวกเจ้าทั้งสองคนที่ยื่นมือเข้าช่วยชีวิตของเรา! ” เสี่ยว เจิง แม้ว่าจะเคยเกลียดชัง เย่ ซีหวิน แต่ด้วยความช่วยเหลือครั้งนี้ เขาต้องขอบคุณเขาอย่างจริงใจ
” เจ้าไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้า คราวนี้ข้ายังไม่ได้ทำอะไรเลย ” เย่ ซีหวิน ยิ้ม และพูดด้วยความเป็นมิตร
เมื่อได้ยินดังนั้น เสี่ยว เจิง ก็รู้สึกโล่งใจ เพราะ เย่ ซีหวิน ไม่ถือสาเรื่องราวในอดีตระหว่างเขา
” ขอบคุณเจ้าทั้งสองมาก ” หลิว เย่วหรู มองทั้ง เย่ ซีหวิน และ เจี้ยน วู่เฉิน และพูดว่า ” แต่ดูเหมือนพวกเขาคงไม่ยอมลามือง่ายๆ “
เส้นทางที่มุ่งไปยัง สถาบันยอดยุทธ เต็มไปด้วยอันตรายมากมาย หลายคนจบชีวิตบนเส้นทางสายนี้ ก่อนที่จะมีโอกาสเดินทางไปถึง
” ข้าอยากจะทดสอบฝีมือกับพี่ชายของ ฉิ่ว ซินจื้อ พวกเขาเป็นสองพี่น้องที่แข็งแกร่งที่สุดของรัฐชุนอัน ชื่อเสียงอันน่าเกรงขามของพวกเขาคงไม่ทำให้ข้าผิดหวัง ” เย่ ซีหวิน กล่าวด้วยรอยยิ้มจางๆ บนใบหน้า ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะจอมยุทธในดินแดนห่างไกลนี้ได้ ก็ไม่ต้องพูดถึงการเอาชนะผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งหมด เพื่อให้ได้เข้าร่วม สถาบันยอดยุทธ
” หากเจ้ากล่าวเช่นนั้น พวกเราคงต้องขอแยกตัวไปก่อน ” หลิว เย่วหรู กล่าว แม้ว่าเธอจะต้องการที่พัก แต่เธอไม่กล้าเสี่ยง และมีความมั่นใจอย่าง เย่ ซีหวิน หากมีจอมยุทธขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนานซ่อนอยู่ในเมืองนี้เหตุการณ์อาจเลวร้ายยิ่งกว่านี้?
หลังจาก หลิว เย่วหรู และคนอื่นๆ เดินทางออกจากที่นั้น เย่ ซีหวิน และ เจี้ยน วู่เฉิน ก็กลับไปที่โรงเตี้ยม และรอสองพี่น้องหมาป่ากระหายเลือด พวกเขาเชื่อว่า พี่ชายของ ฉิ่ว ซินจื้อ จะแข็งแกร่งสมคำร่ำลือ
หลังจาก ฉิ่ว ซินจื้อ พ่ายแพ้ให้กับ เจี้ยน วู่เฉิน ข่าวลือนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วทั้งรัฐชุนอัน ราวกับไฟไหม้ป่า เป็นเวลานานที่ไม่เคยมีจอมยุทธจากดินแดนตะวันออกเฉียงใต้กล้าท้าทายพวกเขาเช่นนี้ หลายคนอยากจะสอนบทเรียนให้ เจี้ยน วู่เฉิน และ เย่ ซีหวิน แต่ไม่มีใครกล้า พวกเขาไม่ใช่แม้คู่ต่อสู้ของ ฉิ่ว ซินจื้อ นับประสาอะไรกับ เจี้ยน วู่เฉิน
ความมืดค่อยๆ คืบคลานเข้ามาปกคลุมท้องฟ้า เย่ ซีหวิน ได้วางค่ายกลเอาไว้ มันช่วยป้องกันไม่ให้ผู้อื่นได้ยินเสียงการพูดคุยจากภายในห้อง แต่สามารถได้ยินเสียงภายนอก หากมีสิ่งผิดปกติเข้ามาในค่ายกลนี้พวกเขาจะรู้ตัวก่อนล่วงหน้า
” การเดินทางของเราครั้งนี้ อาจจะต้องพบอุปสรรคอีกมากมาย ” เย่ ซีหวิน กล่าว
” สำหรับข้า ถ้าถนนสายนี้มีแต่ จอมยุทธขอบเขตลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8 – 9 คงเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ ถ้าได้สู้กับจอมยุทธขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนาน มันถึงจะน่าสนุก! ” ลูกหมาป่า กล่าว
เย่ ซีหวิน พยักหน้า อาณาจักรต้าหมิง เหมือนกับ อาณาจักรหุบเขาเมฆา มีศูนย์กลางของกองกำลังหลักของ จักรพรรดิหมิง ตั้งอยู่ในเมืองหลวงของจักรวรรดิ รวมทั้ง จอมยุทธขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์ รัฐชุนอัน ตั้งอยู่ในเขตชายแดน และส่วนใหญ่เป็น จอมยุทธขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนาน ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการเดินทางของพวกเขา
อย่างไรก็ตามความมุ่งมั่นของ เย่ ซีหวิน กับเพิ่มมากยิ่งขึ้น ยิ่งเจอศัตรูที่แข็งแกร่งเท่าไหร่ กลับยิ่งท้าทายให้พิชิตมากเท่านั้น การสร้างชื่อเสียงของตัวเองบนเส้นทางสายนี้ จะเป็นการปูเส้นทาง และประสบการณ์ในการพัฒนาของเขาต่อไป
” การเดินบนเส้นทางสายนี้เป็นเรื่องที่ยากลำบาก จะมีโครงกระดูกอีกมากมายเรียงรายบนเส้นทางของเจ้า ” เยโม่ กล่าว พร้อมกับถอนหายใจ ” อย่างไรก็ตามถ้าไม่สิ่งเหล่านี้คอยกระตุ้น เจ้าจะไม่มีวันเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และแข็งแกร่งภายในเวลา 1 ปีเท่านั้น “
เย่ ซีหวิน ไม่ทันได้ตอบ เขาก็สัมผัสถึงแรงกดดันอันมหาศาลบนท้องฟ้า แรงกดดันนี้ไม่ส่งผลกระทบกับคนอื่นๆ แต่มันเจาะจงมาที่ เย่ ซีหวิน และ เจี้ยน วู่เฉิน เท่านั้น
” ขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนาน! ” ลูกหมาป่า รับรู้ได้ทันทีจากสัญชาตญาณของมัน ขนสีดำของมันชี้ตั้งไปทั้งตัว
เจี้ยน วู่เฉิน อยู่ในห้องถัดไป เขาก็สัมผัสถึงการปรากฏตัวของศัตรู เขายิงปราณดาบขึ้นไปบนท้องฟ้า ทำให้หลังคาทั้งหมดของโรงเตี้ยมพังทลาย
เย่ ซีหวิน รีบบินตามขึ้นไปบนท้องฟ้า และเห็นร่างของชายคนหนึ่งสวมชุดคลุมสีดำบินตรงเข้าไปโจมตี เจี้ยน วู่เฉิน กริชอยู่ในมือของมันดูเหมือนจะเคลือบด้วยพิษบางชนิด มันสะท้อนแสงสีเข้มเป็นประกายภายใต้แสงจันทร์
มันเคลื่อนไหวรวดเร็วมากราวกับภูติผี เพียงชั่วพริบตาเดียว มันได้มาถึงด้านหน้าของ เจี้ยน วู่เฉิน และโจมตีเขาด้วยกริชของมัน
แรงกดดันอันมหาศาลของขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนานได้สะกดการเคลื่อนไหวของ เจี้ยน วู่เฉิน เอาไว้ ทำให้เขาแทบจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้
เจี้ยน วู่เฉิน ระเบิดเสียงคำรามด้วยความโกรธ เจตจำนงแห่งดาบขนาดใหญ่ถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของเขา ทำให้แรงกดดันอันมหาศาลของมันสลายไป
” วิธีลอบกัดของเจ้าใช้กับข้าไม่ได้ผลหรอก ข้าจะใช้ดาบเล่มนี้กำจัดเจ้า ” เจี้ยน วู่เฉิน พุ่งตรงเข้าไปหา นักฆ่าขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนาน ด้วยดาบในมือของเขา
นักฆ่าถึงกับตื่นตระหนก เขากระโดดถอยหลังออกไปหลายก้าว และไม่กล้าปะทะโดยตรงกับ เจี้ยน วู่เฉิน ถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนาน และเชี่ยวชาญในการลอบสังหาร แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะแข็งแกร่ง
ความสามารถที่โดดเด่นเพียงอย่างเดียวของเขา คือ การลอบสังหาร และลงมืออย่างรวดเร็ว แต่หากเป็นการต่อสู้แบบซึ่งๆ หน้า เขาไม่สามารถต่อกรได้แม้แต่จอมยุทธขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท เช่น เจี้ยน วู่เฉิน
มันล้มเหลวในการลอบสังหาร เจี้ยน วู่เฉิน ในเวลานี้ถือเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดของมัน และความคิดเดียวของมันในตอนนี้คือต้องการที่จะหลบหนี แต่ เจี้ยน วู่เฉิน ไม่มีทางปล่อยให้มันเกิดขึ้น
และมีสิ่งหนึ่งน่ากลัวยิ่งกว่านั้น คือ มันสัมผัสถึงออร่าอันน่าสะพรึงกลัว ราวกับว่าเขาจ้องมองมาที่มันโดยไม่คลาดสายตาจากทางด้านหลัง แม้ว่าเขาจะไม่ลงมือในตอนนี้ แต่ดูเหมือนว่าเขาพร้อมจะโจมตีได้ทุกขณะ เห็นได้ชัดว่านักฆ่าไม่สามารถหลบหนีภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ได้
เมื่อคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว มันสบถในใจพร้อมกับกัดฟัน โคจรพลังทั้งหมดเข้าปะทะกับ เจี้ยน วู่เฉิน เพราะก่อนอื่นมันต้องกำจัด เจี้ยน วู่เฉิน หลังจากนั้นมันอาจจะพอมีโอกาสหลบหนีจากเจ้าของออร่าอันน่าสะพรึงกลัวนั้นได้
เย่ ซีหวิน หัวเราะเยาะเย้ย ในเวลานี้เขาล็อคนักฆ่าเอาไว้ด้วยออร่าของเขา ในระหว่างที่ เจี้ยน วู่เฉิน กำลังต่อสู้ เขาไม่ต้องการเข้าไปแทรกแซง อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการให้นักฆ่าสามารถหลบหนีได้ ออร่าของเขาทำให้ความสามารถของนักฆ่าลดลงอย่างมาก
การลอบสังหารที่เตรียมการณ์เอาไว้อย่างดี อาจจะสามารถฆ่าจอมยุทธขอบเขตลมปราณระดับตำนาน แต่แผนการของนักฆ่าต้องล้มเหลว เขาเปิดเผยร่องรอยของตัวเอง และผลที่ตามมาก็คือ เขาถูกฆ่าโดยจอมยุทธขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท
นี่คือ จุดจบของนักฆ่า!