Martial God Space - ตอนที่ 288
Martial god space ตอนที่ 288 การพบกันอีกครั้ง
” มันขึ้นอยู่กับเจ้า ว่ามีฝีมือพอหรือไม่ นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้ยินวาจาโอ้อวดจากปากของจอมยุทธของสิบอาณาจักรดินแดนตะวันออกเฉียงใต้! ” ทันใดนั้นชายหนุ่มผู้หนึ่งในกลุ่มของจอมยุทธหนุ่มสาวลุกขึ้นยืน ในชั่วพริบตาเขาก็พู่งเข้ามาจู่โจมทันที พร้อมกระแทกฝ่ามือของเขาไปที่หน้าอกของจอมยุทธที่มาจากสิบอาณาจักรดินแดนตะวันออกเฉียงใต้
( NT : แก้ไขคำ : สิบอาณาจักรในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ เป็น สิบอาณาจักรดินแดนตะวันออกเฉียงใต้
แก้ไขคำ : ผู้เชี่ยวชาญ เป็น จอมยุทธ เพื่อความราบลื่นในการอ่าน )
จอมยุทธที่มาจากสิบอาณาจักรดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้ เขาพึ่งจะก้าวเข้าสู่ขอบเขตลมปราณปฐมบท ส่วนฝ่ายตรงข้ามของเขาอยู่ในขั้นที่ 8 ลมปราณมหาเทพ
( NT : ขอบเขตลมปราณปฐมบท = ขอบเขตลมปราณมหาเทพขั้นต้น )
” ปังงงง! ” ร่างของจอมยุทธหนุ่มปลิวไปกระแทกกับผนังห้องของโรงเตี้ยมจนทะลุ และแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย การโจมตีด้วยฝ่ามือนี้หมายสังหารฝ่ายตรงข้ามในทันที ความรุนแรงของฝ่ามือทำให้กระดูกหักเสียบแทงทะลุหัวใจของเขา และเสียชีวิตทันที
” กบใต้บ่อน้ำ เอาแต่พูดจาโอ้อวด ไม่ได้เบิกตามองดูเหรอว่า สถานที่แห่งนี้เป็นที่ใด เจ้ายังคิดว่ามันเป็นดินแดนตะวันออกเฉียงใต้อีกงั้นรึ? ” ชายหนุ่ม กล่าวอย่างดูถูกเหยียดหยาม
” ฉิ่ว ซินจื้อ ดูเหมือนความแข็งแกร่งของเจ้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำไมเจ้าไม่สอนบทเรียนให้จอมยุทธของดินแดนตะวันออกเฉียงใต้เหล่านี้ พวกเขาพูดจาโอ้อวด ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่า ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ! ” ชายหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มของเขา กล่าวออกมาด้วยความฮึกเหิม
” เจ้าจะข่มเหงผู้อื่นมากเกินไปแล้ว! ” เสียงคำรามหนึ่งดังมาจากมุมห้อง เย่ ซีหวิน หันหลังกลับไปมอง และเห็นกลุ่มของจอมยุทธอีกหกคนจากดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ เขาจำใบหน้าของสองคนกลุ่มนี้ได้ นั้นก็คือ หลิว เย่วหรู และ เสี่ยว เจิง
หนึ่งในหกคนลุกขึ้นยืน นั้นก็คือ เสี่ยว เจิง เขาไม่สามารถทนต่อการยั่วยุของจอมยุทธหนุ่มของรัฐชุนอันได้
” เสี่ยว เจิง อย่าใจร้อน! ” หลิว เย่วหรู ขมวดคิ้ว และรีบพูดเพื่อห้ามเขาเอาไว้
” ข้าไม่อาจทนนิ่งเฉยกับคนที่หยิ่งยโสเหล่านี้ได้ พวกเขากล้าพูดจาดูหมิ่นจอมยุทธของสิบอาณาจักรดินแดนตะวันออกเฉียงใต้! ” เสี่ยว เจิง กล่าวด้วยน้ำเสียงดุดัน เขารู้สึกโกรธมาก และไม่อาจทนฟังคำพูดที่ดูถูกเหยียดหยามดังกล่าวได้
” ถ้าข้าไม่ฆ่าชายผู้นี้ ความเกลียดชังในใจของข้าคงไม่มีทางสงบลง ” เสี่ยว เจิง กล่าว
ฉิ่ว ซินจื้อ หัวเราะเยาะ ขณะมองไปที่ เสี่ยว เจิง แล้วกล่าวว่า ” เพียงลำพังตัวเจ้านั้นเหรอจะฆ่าข้า? เจ้าช่างพูดจาเหลวไหล “
” เจ้าจะต้องนึกเสียใจภายหลังที่บังอาจพูดจาล่วงเกินพวกเรา! ” เสี่ยว เจิง กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา และสะบัดดาบในมือของเขา
หลังจากเหตุการณ์บนเกาะปีศาจความแข็งแกร่งของ เสี่ยว เจิง ได้เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม ตอนนี้เขาอยู่ในขั้นที่ 8 ของขอบเขตลมปราณมหาเทพ นับว่ายอดเยี่ยมหากพิจารณาจากอายุของเขา
” เป็นเจ้าต่างหากที่จะต้องตาย! ” ฉิ่ว ซินจื้อ หัวเราะเยาะ และก้าวออกไปด้านหน้า ในชั่วพริบตาร่างของเขาก็หายตัวไป ทิ้งไว้เพียงร่างเงาจางๆ ทันใดนั้นลำแสงจากดาบก็โผล่ออกมา และพุ่งตรงไปหา เสี่ยว เจิง
” ย๊ากกซ์! ” เสี่ยว เจิง รีบโจมตีทันที และยิงลำแสงจากดาบสองคมออกไปป้องกันลำแสงจากดาบที่พุ่งเข้ามา
ความรุนแรงจากการปะทะกันปราณดาบทำให้ฝาเพดานของโรงเตี้ยมพังทลาย หลังคาของโรงเตี้ยมกลายเป็นรูขนาดใหญ่ สามารถมองเห็นลำแสงของดวงอาทิตย์สาดส่องลงมา
พวกเขาทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า และปะทะกันอย่างรุนแรง ในขณะเดียวกัน หลิว เย่วหรู และกลุ่มของเธอ และจอมยุทธคนอื่น ๆ ก็พากันบินไล่ตามออกไป แม้กระทั่ง เย่ ซีหวิน และ เจี้ยน วู่เฉิน ก็ตามออกไปข้างนอกเพื่อดูการต่อสู้
การปะทะกันระหว่างปราณดาบสองคม และ ปราณดาบ ทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรง ประกายแสงที่น่าสะพรึงกลัวบนท้องฟ้า ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากในรัฐชุนอัน
ฉิ่ว ซินจื้อ โคจรลมปราณดาบในมือของเขา มันควบแน่นจนก่อตัวเป็นหมาป่าขนาดมหึมา และส่งเสียงคำรามดุร้าย มันกระโจนพุ่งตรงมาด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
เสี่ยว เจิง รีบโคจรลมปราณป้องกันตัวเองเอาไว้ทันที พร้อมกับโจมตีด้วยปราณดาบสองคมของเขา ร่างของเขาปกคลุมไปด้วยเหงื่อ เขาสูญเสียพลังไปไม่ใช่น้อย เพียงแค่ป้องกั้นการโจมตีเพียงครั้งเดียว ฉิ่ว ซินจื้อ ไม่ใช่แม้แต่จอมยุทธแถวหน้าของ อาณาจักรต้าหมิง แต่ก็ยังยากที่จะจัดการกับเขา
ใบหน้าของ เสี่ยว เจิง เปลี่ยนกลายเป็นหมองคล้ำ ถ้าเขาไม่สามารถหาวิธีเอาชนะชายที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ เขาก็ไม่มีทางผ่านการทดสอบของ สถาบันยอดยุทธ
” พวกเขาทั้งสองเป็นใครกัน? คนหนึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นจอมยุทธที่มาจากสิบอาณาจักรดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ “
” นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ทุกครั้งที่ สถาบันยอดยุทธ เปิดประตูขึ้น การต่อสู้เช่นนี้มักจะเกิดขึ้นอยู่ทุกหนทุกแห่ง! “
” อีกคนหนึ่งน่าจะเป็น ฉิ่ว ซินจื้อ นอกจากนี้เขายังเป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากในรัฐชุนอันของเรา นอกจากนี้เขายังเป็นน้องชายของ ฉิ่ว หลางเกิง ซึ่งเป็นเจ้าของฉายา สองพี่น้องหมาป่ากระหายเลือดแห่งชุนอัน “
ดูจากการพูดคุยของผู้ชมที่อยู่ด้านล่างเห็นได้ชัดว่าพวกเขาเห็นการต่อสู้เช่นนี้จนคุ้นเคย รัฐชุนอันเป็นเส้นทางเดียวที่สิบอาณาจักรดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ใช้เดินทางไปยัง สถาบันยอดยุทธ ซึ่งส่วนใหญ่พวกเขาเห็นความพ่ายแพ้ของจอมยุทธจากสิบอาณาจักรดินแดนตะวันออกเฉียงใต้จนแทบจะเป็นเรื่องปกติ
” ฝูงหมาป่าพยัคฆ์คำราม! ” ฉิ่ว ซินจื้อ โจมตีด้วยฝูงหมาป่าที่ดุร้าย ซึ่งก่อตัวขึ้นมาจากปราณหยวน ฝูงหมาป่าส่งเสียงคำราม และพุ่งตรงไปทาง เสี่ยว เจิง เพื่อฉีกเขาเป็นออกชิ้นเล็กชิ้นน้อย
เสี่ยว เจิง ต้องถอยออกมาเพื่อรักษาระยะห่างจากฝูงหมาป่า พร้อมกับโจมตีด้วยลำแสงจากปราณดาบสองคม และฆ่าเหล่าหมาป่าที่ดุร้ายอย่างต่อเนื่อง แต่จำนวนหมาป่ากลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้ เสี่ยว เจิง ถูกล้อมไปด้วยหมาป่าที่ดุร้าย
” ฮ่า .. ฮ่า .. ฮ่า นี่น่ะเหรอที่เรียกว่าอัจฉริยะของสิบอาณาจักรดินแดนตะวันออกเฉียงใต้? สำหรับข้าพวกมันก็งั้นๆ ! ” ผู้ติดตามของ ฉิ่ว ซินจื้อ ต่างพากันหัวเราะ และเยาะเย้ยจอมยุทธจากสิบอาณาจักรดินแดนตะวันออกเฉียงใต้
เจี้ยน วู่เฉิน ส่ายหัว และกล่าวว่า ” เสี่ยว เจิง เป็นคนที่มีพรสวรรค์ แต่ขาดแคลนทรัพยากร “
เย่ ซีหวิน พยักหน้า ช่องว่างของความแตกต่างระหว่างอัจฉริยะของดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ และ อาณาจักรต้าหมิง แม้ว่าจะมีพรสวรรค์ที่น่าทึ่ง แต่จอมยุทธมากมายขาดแคลนทรัพยากร ซึ่งต่างจากอาณาจักรต้าหมิงที่มีอยู่มากมาย นี่คือเหตุผลว่าทำไม แม้แต่จอมยุทธผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดของอาณาจักรหุบเขาเมฆา เช่น หวู่ โผ่เทียน และคนอื่นๆ ถึงไม่สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์
อดีตผู้นำนิกาย ก็เป็นหนึ่งในจอมยุทธขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์เพียงไม่กี่คนของอาณาจักรหุบเขาเมฆาที่เสียชีวิตในสงคราม แต่ในอาณาจักรต้าหมิง จอมยุทธขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์ไม่ใช่ของหายาก มีจอมยุทธขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์หลายคนที่เป็นที่รู้จักกันดีในอาณาจักรต้าหมิง ช่องว่างของความแตกต่างนี้ค่อนข้างชัดเจน
ช่องว่างนี้นับว่าใหญ่มากที่เมื่อเปรียบเทียบจอมยุทธขอบเขตลมปราณระดับตำนาน และยิ่งห่างไกลมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับสาวกรุ่นเยาว์ ซึ่งไม่น่าแปลกใจว่าทำไมอัจฉริยะรุ่นเยาว์ เช่น เสี่ยว เจิง จึงไม่สามารถต่อกรกับอัจฉริยะของอาณาจักรต้าหมิง เพราะเขาขาดแคลนทรัพยากรในการฝึกตน
ในความเป็นจริง จอมยุทธรุ่นเยาว์จากสิบอาณาจักรดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ต่างรู้ดีอยู่แล้วว่า การเดินทางครั้งนี้อันตรายสำหรับพวกเขา พวกเขาจะต้องเผชิญกับศัตรูที่น่าเกรงขามนับไม่ถ้วน แต่พวกเขาก็เลือกที่จะเดินทางด้วยความมุ่งมั่น และด้วยความทุ่มเทดังกล่าวจะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จในอนาคต
เย่ ซีหวิน เข้าใจถึงเรื่องนี้ดี เพราะเขาไม่ได้เกิดมาพร้อมกับช้อนเงินช้อนทอง พ่อของเขาไม่ใช่จอมยุทธระดับสูง ดังนั้นจึงไม่ได้มีทรัพยากรมากมายในการฝึกตน สิ่งเดียวที่ช่วยให้ เย่ ซีหวิน มาไกลถึงจุดนี้ได้ นั่นก็เพราะ พื้นที่ห้วงมิติ
” ซูมมมม! ” หมาป่าที่ดุร้ายหลายตัวออกมาจากดาบของ ฉิ่ว ซินจื้อ และล้อมรอบ เสี่ยว เจิง เอาไว้จากทุกด้าน
ในตอนนี้ เสี่ยว เจิง ตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวัง แต่เขาไม่ยอมแพ้ เขาจ้องมองไปที่ ฉิ่ว ซินจื้อ แล้วตะโกนว่า ” เข้ามาเลย! “
” ข้าจะช่วยสงเคราะห์เจ้าเอง! ” รอยยิ้มอันเย็นยะเยือกของ ฉิ่ว ซินจื้อ บ่งบอกถึงเจตจำนงในการฆ่าของเขา ในขณะที่เขาสั่งให้หมาป่าที่ดุร้ายโจมตีไปที่ เสี่ยว เจิง ทันที
” เปรี้ยงง! “
” ย๊ากกกกกก! “
” ฉัวะ! “
. . . . . . .
ดาบในมือของ เสี่ยว เจิง อันแน่นไปด้วยประจุสายฟ้าที่รุนแรง สายฟ้าจากดาบของเขาฉีกร่างของหมาป่าตัวหนึ่งออกเป็นสองส่วน และร่างของมันก็ระเบิดออกกลายเป็นกลุ่มก้อนของพลังงานเล็กๆ กระจัดกระจายอยู่ในชั้นบรรยากาศ
อย่างไรก็ตามจำนวนของหมาป่าที่ดุร้ายมีมากเกินไป การโจมตีด้วยสายฟ้าของเขาไม่เพียงพอที่จะหยุดยั้งหมาป่าทั้งหมด ปริมาณของ ปราณหยวนที่ถูกใช้โดย ฉิ่ว ซินจื้อ ทำให้หมาป่าดุร้ายเหล่านี้แข็งแกร่งเกินกว่าจินตนาการของคนธรรมดาจะเข้าใจ
ในขณะที่ เสี่ยว เจิง กำลังผัวพันอยู่กับการจัดการหมาป่าที่ดุร้าย ร่างของชายคนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้น และโจมตีเขาด้วยปราณดาบอันทรงพลังขนาดใหญ่มาที่เขา
” เคร้งงงงง! ” เสี่ยว เจิง สามารถยกดาบขึ้นมารับการโจมตีได้ทันท่วงที แต่พลังทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวจากการโจมตีทำให้ดาบของเขาหัก และแตกออกเป็นชิ้นๆ เขากระอักเลือดคำโตออกมา ร่างกายของเขาได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก และปลิวตกลงมาจากฟากฟ้า
” เสี่ยว เจิง! “
เพื่อนๆ ของเขารีบบินขึ้นไปเพื่อคว้าจับตัวเขาเอาไว้ แต่ก็ต้องตกใจเมื่อเห็นปราณดาบอันทรงพลังพุ่งตรงเข้ามาหาพวกเขา ฉิ่ว ซินจื้อ หัวเราะเยาะเย้ย และกล่าวว่า ” พวกเจ้าคิดว่า ข้าจะยอมปล่อยให้พวกเจ้าช่วยเขางั้นรึ? “
” ตู้มมมมม! “
” เปรี้ยงงงง! “
” บรึ้มมม! “
เพื่อนๆ ของ เสี่ยว เจิง ต่างได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของปราณดาบอันทรงพลัง
” หยุด! เจ้าทำเกินไปแล้ว ” หลิว เย่วหรู บินขึ้น และกล่าวเพื่อให้เขาหยุดโจมตี
หลิว เย่วหรู บินขึ้นไปขวางเอาไว้ เมื่อ ฉิ่ว ซินจื้อ ได้เห็นความงดงามของหญิงสาว ดวงตาของเขาก็เปร่งประกาย เขายิ้ม และพูดว่า ” เห็นแก่ความงดงามของเจ้า เขาเองก็หาใช่คนใจคอโหดร้าย แต่พวกเขาสมควรได้รับบทเรียนที่พูดจาโอ้อวด อย่างไรก็ตาม เจ้าเองก็จะเดินทางไปยัง สถาบันยอดยุทธ ใช่หรือไม่? ถ้าจะให้พูดตามตรงพวกเขาไม่มีทางพาเจ้าไปถึงที่หมายอย่างแน่นอน ไม่สู้เจ้าเดินทางไปกับเราจะเป็นการณ์ดีกว่า ข้ารับรองจะดูแลเจ้าเป็นอย่างดี เจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร! “
” ขอบคุณสำหรับไมตรี ข้าคงรับไว้ไม่ได้ ” หลิว เย่วหรู ตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชา
” เจ้ามาติดตามข้าจะดีกว่า พวกขี้แพ้ดินแดนตะวันออกเฉียงใต้เหล่านี้ไม่คู่ควรกับเจ้า ” ฉิ่ว ซินจื้อ หัวเราะ และโคจรลมปราณก่อตัวเป็นมือขนาดใหญ่ เพื่อคว้าจับตัวเธอเอาไว้
ทันใดนั้น เสียงแหวกอากาศดังไล่ขึ้นไปบนท้องฟ้า
” ย๊ากกซ์! ” เจี้ยน วู่เฉิน ยิงปราณดาบขนาดใหญ่ตรงไปที่มือขนาดใหญ่ของ ฉิ่ว ซินจื้อ
” โอ๊ยยย! ” มือขนาดใหญ่ที่ก่อตัวด้วยลมปราณของ ฉิ่ว ซินจื้อ ถูกตัดขาดทันที ถ้ามือของเขาไม่ห่อหุ้มไว้ด้วยปราณหยวน มือของเขาคงถูกตัดขาดไปแล้ว
” ใคร..@#$%! ” ฉิ่ว ซินจื้อ เจ็บจนแทบพูดไม่ออก มือของเขาได้รับบาดเจ็บ ” กล้าดียังไงมาทำร้ายข้า! “
” ข้าคิดว่าเจ้าเสียสติ คิดอยากจะฆ่าใครก็ฆ่า? ” เจี้ยน วู่เฉิน กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
” เจ้าเองก็เป็นจอมยุทธจากดินแดนตะวันออกเฉียงใต้รึ? ” ฉิ่ว ซินจื้อ กล่าว พร้อมกับหัวเราะเยาะเย้ย
เจี้ยน วู่เฉิน ชี้ดาบไปที่เขา แล้วพูดว่า ” หุบปาก เหม็นๆ ของเจ้า ! แล้วชักดาบออกมา “
สีหน้าของ ฉิ่ว ซินจื้อ เปลี่ยนไปทันที เพราะเขารู้ว่า เจี้ยน วู่เฉิน แข็งแกร่งกว่าเขามาก เขาไม่กลัวที่จะพูดจายั่วยุจอมยุทธจากดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ นั้นเพราะเขาคิดว่าคงไม่มีใครแข็งแกร่งไปกว่าเขา แม้ว่าตัวเขาเองจะไม่ได้มีฝีมือเทียบเท่าจอมยุทธระดับสูงของอาณาจักรต้าหมิง แต่ก็มั่นใจว่าตัวเขาแข็งแกร่งกว่าคนเหล่านี้มาก