Martial God Space - ตอนที่ 290
Martial god space ตอนที่ 290 หมาป่ากระหายเลือด
แน่นอนว่าจอมยุทธขอบเขตลมปราณปัจฉิมบทอยู่ในระดับต่ำกว่า หากเทียบกับขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนาน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต่อกร
” ชิ้งงงง!” เจี้ยน วู่เฉิน ปลดปล่อยประกายแสงจากดาบอันน่าสยดสยองพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนทั้งรัฐชุนอัน แต่โชคดีที่โลกใบนี้ ความแข็งแกร่งคือกฏหมาย ไม่มีใครกล้าแทรกแซง หรือ ก่อความวุ่นวาย มีเพียงคนเดียวที่อยากจะร้องไห้ในตอนนี้ นั้นก็คือ เจ้าของโรงเตี้ยม
ประกายแสงจากดาบพุ่งตรงไปที่นักฆ่า นับตั้งแต่ เย่ ซีหวิน คอยเฝ้าดูการต่อสู้ครั้งนี้อยู่ไม่ไกล เจี้ยน วู่เฉิน ก็รู้สึกโล่งใจ ในตอนนี้เขาพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อหยุดนักฆ่าขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนาน นักฆ่าส่งเสียงร้องคำรามราวกับสัตว์ป่าที่คลุ้มคลั่งมันถูกบีบบังคับให้จนมุม
แม้ว่านักฆ่าขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนานจะรู้สึกกังวลต่อ เย่ ซีหวิน แต่ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะจอมยุทธขอบเขตลมปราณปัจฉิมบทได้ เขาคงไม่มีโอกาสหนีพ้นจาก เย่ ซีหวิน
” ฟู่วววว! ” กริชของนักฆ่าปล่อยละอองพิษกระจายออกไปทั่วท้องฟ้า ดูเหมือนพิษที่ร้ายกาจจะมุ่งเป้าไปที่ เจี้ยน วู่เฉิน
ใบหน้าของ เจี้ยน วู่เฉิน สงบนิ่งไร้ความรู้สึก แววตาของเขาเฉียบคมเหมือนกับดาบที่อยู่ในมือของเขา
ทันใดนั้นเหล่าจอมยุทธภายในเมือง ต่างเริ่มพูดคุยกันผ่านการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณ พวกเขาตื่นตระหนกเมื่อการต่อสู้ระหว่าง เจี้ยน วู่เฉิน และนักฆ่า
” ชายคนนี้มาจากดินแดนตะวันออกเฉียงใต้จริงๆ เหรอ? ข้าไม่คาดว่าดินแดนตะวันออกเฉียงใต้จะมีจอมยุทธที่ยอมเยี่ยมเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะอยู่ในขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท แต่กลับสามารถต่อกรกับนักฆ่าขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนานได้ นับว่าเป็นการต่อสู้ที่หาชมได้ยาก “
” ดินแดนตะวันออกเฉียงใต้นับว่ายังมีจอมยุทธที่มีพรสวรรค์ ถ้าเขาสามารถเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้ในครั้งนี้ได้ นับจากนี้ไปอีกหนึ่งร้อยปีเขาจะกลายเป็นขุมพลังที่น่าสะพรึงกลัว “
การพูดคุยผ่านทางจิตวิญญาณเหล่านี้เชื่อมต่อกันในอากาศ แต่ไม่สามารถหลบการตรวจพบของ เย่ ซีหวิน ได้ เย่ ซีหวิน ยิ้ม และหัวเราะกับความคิดของพวกเขาเหล่านี้ และดูเหมือนพวกเขาจะไม่ค่อยยินดีกับเรื่องของ เจี้ยน วู่เฉิน และดินแดนตะวันออกเฉียงใต้เป็นเพียงเรื่องน่าขันสำหรับพวกเขา และพวกเขาประเมินความสามารถของ เจี้ยน วู่เฉิน ต่ำเกินไป
คนเหล่านี้เย่อหยิ่ง และเป็นเช่นนี้มาเป็นเวลานาน อาณาจักรต้าหมิง มีอำนาจมากกว่า อาณาจักรหุบเขาเมฆา แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดจะต้องอ่อนแอ ดูเหมือนความคิดเหล่านี้จะถูกครอบงำโดย ฉิ่ว ซินจื้อ และผู้ติดตามของเขา
” เคร้งงง! “
” เปรี้ยงง! “
” บรึ้มมม! “
ทั้งสองคนทยานขึ้นไปบนท้องฟ้า และเริ่มปะทะกันรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ
ทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างต่อเนื่องโดยไม่มีท่าทีที่จะหยุดพัก การเคลื่อนไหวของนักฆ่ารวดเร็วราวกับภูตผี แต่ความเร็วของ เจี้ยน วู่เฉิน ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่ากัน
” ตู้มมมมม! ” การระเบิดของพลังงานที่น่ากลัวกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง บนหน้าอกของ เจี้ยน วู่เฉิน มีแผลขนาดใหญ่มันลึกจนสามารถมองเห็นกระดูก ผิวของเขาเปลี่ยนเป็นสีม่วง เพราะได้รับพิษจากกริชของนักฆ่า
ทางฝ่ายของนักฆ่าเองก็อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกัน ดาบของ เจี้ยน วู่เฉิน ได้ฝากบาดแผลขนาดใหญ่ไว้ในช่องท้องของเขา
ทั้งสองต่างเดินโซเซ แล้วทันใดพวกเขาก็พุ่งเข้าไปปะทะกันอีกครั้ง
เจี้ยน วู่เฉิน สะบัดดาบในมือ พร้อมกับปลดปล่อยเจตจำนงแห่งดาบออกมา เขาอัดแน่นพลังของมันจนกลายเป็นลำแสงขนาดใหญ่ และพุ่งตรงไปยังศัตรูของเขา
การโจมตีด้วยดาบครั้งนี้รวดเร็วราวกับสายฟ้า เพียงชั่วพริบตาปลายดาบก็จ่อมาถึงคอของนักฆ่าแล้ว
บรรดาจอมยุทธที่ชมการต่อสู้อยู่ พวกเขาแทบลืมหายใจเมื่อได้เห็นฉากนี้ จอมยุทธเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในขอบเขตลมปราณมหาเทพ และขอบเขตลมปราณระดับครึ่งก้าวตำนาน พวกเขามีความแข็งแกร่งมากพอที่จะสร้างความหายนะในเมืองนี้
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาได้เห็นเพลงดาบของ เจี้ยน วู่เฉิน พวกเขาต่างพากันสูดลมหายใจยาว บางคนแทบไม่อยากเชื่อสายตาของตัวเอง และในหมู่ของพวกเขามีน้อยคนที่จะสามารถบรรลุได้ถึงระดับนี้
วันนี้ เจี้ยน วู่เฉิน ได้แสดงทักษะ และความสามารถอันยอดเยี่ยมของเขา ท่ามกลางสายตาของคนจำนวนมาก ทำให้จอมยุทธหลายคนต่างพากันอิจฉาในพรสวรรค์ของเขา
” วิ้งงงง! ” ลำแสงจากดาบเปลี่ยนกลายเป็นดาบสองคมขนาดใหญ่ ก่อนพุ่งเข้าปะทะร่างของนักฆ่า
” เปรี้ยงง! ” ความรุนแรงจากการปะทะทำให้กระดูกของเขาหักหลายท่อน พร้อมกับกระอักเลือดคำโต เจี้ยน วู่เฉิน มีพลังมากเกินกว่าที่เขาจะต้านทานการโจมตีเอาไว้ได้
” บรึ้มมม! ” การระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นหลังจากการปะทะกัน ร่างของนักฆ่าถูกแรงกระแทกจากการระเบิด ร่างของมันดิ่งลงมากระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง จนกลายเป็นหลุมรูปทรงคล้ายมนุษย์ในพื้นดิน
และในเวลานี้ เจี้ยน วู่เฉิน ได้บินมาอยู่เหนือหลุมของนักฆ่า และสังหารมันด้วยดาบของเขา
“ฉัวะ!” หัวของนักฆ่าถูกตัดโดย เจี้ยน วู่เฉิน
เจี้ยน วู่เฉิน ได้รับชัยชนะในการต่อสู้ แต่ใบหน้าของเขาดูขาวซีด ร่างของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือด แต่เลือดที่อาบอยู่บนตัวเขาเป็นสีเขียว พิษได้แผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา และส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย ถ้าเขาไม่ได้ใช้ปราณดาบของเขาสะกัดพิษเอาไว้เขาคงจะตายไปแล้ว
” สีหน้าของเจ้าดูไม่ค่อยดี? ดูเหมือนเจ้าจะถูกพิษ ” เย่ ซีหวิน ถาม
” ข้าไม่เป็นอะไร ข้าสามารถรับมือกับมันได้ แต่ข้าอาจต้องใช้เวลาครู่หนึ่งเพื่อขจัดพิษ ” เจี้ยน วู่เฉิน กล่าว
” เจ้าไม่ต้องกังวล ถ้าหมาป่ากระหายเลือดจ้องจะเล่นงานเจ้าในเวลานี้ ข้าจะเล่นสนุกกับเขาเอง ” เย่ ซีหวิน กล่าว พร้อมกับหัวเราะเยาะเย้ย พวกเขาพึ่งจะมาถึงรัฐชุนอัน และนักฆ่าที่ถูกส่งมาจะต้องเป็นคนของ ฉิ่ว ซินจื้อ โดยไม่ต้องสงสัย
อย่างไรก็ตาม พวกเขาคงไม่ยอมลามือเพียงเท่านี้ ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ส่งผลต่อชื่อเสียง และทำให้ตระกูลของพวกเขาต้องเสียหน้า
พวกเขาทั้งสองออกเดินหาโรงเตี้ยมแห่งใหม่ หลังจากพวกเขาได้ห้องพัก เจี้ยน วู่เฉิน เริ่มโคจรลมปราณภายในร่างเพื่อขจัดพิษ เขาบอกกับ เย่ ซีหวิน แม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ได้รับประสบการณ์มากมายในการต่อสู้
เช้าวันรุ่งขึ้น เย่ ซีหวิน กำลังฝึกตนเข้าฌานสมาธิในพื้นที่ลึกลับ ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสถึงออร่าอันน่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้น และมันกำลังใกล้เข้ามา มันดูราวกับว่าเป็นออร่าของสัตว์เดรัจฉาน ทำให้ เย่ ซีหวิน รู้สึกว่าตัวเขาอยู่ในรังของสัตว์ร้าย
” คนจากดินแดนตะวันออกเฉียงใต้ พวกเจ้าอยู่ที่ไหน? ออกมารับโทษตายของเจ้าซะ! ” เสียงคำรามดังก้องไปทั่วท้องฟ้า น้ำเสียงของมันแหบพร่าคล้ายกับเสียงสัตว์ร้าย
เย่ ซีหวิน เห็นร่างของชายคนหนึ่งยืนอยู่บนท้องฟ้าเหนือโรงเตี้ยม เขาสวมชุดทหาร และมีใบหน้าหยาบกร้านขณะที่ใบหน้าของเขาปกคลุมไปด้วยขน ดวงตาของเขามีสีเขียวเข้มเหมือนหมาป่าที่กระหายเลือด แรงกดดันอันน่าสยดสยอง และจิตสังหารอันรุนแรงแผ่กระจายออกไปทั่วทุกหนทุกแห่ง
ผู้คนจำนวนมากต่างตกใจ และรีบวิ่งหนีกันอลหม่าน เพราะหวาดกลัวต่อจิตสังหารที่แผ่ออกจากตัวของสัตว์ร้าย ตอนนี้มันปรากฏตัวขึ้นราวกับมนุษย์หมาป่าในคืนแสงจันทร์
” ชายผู้นี้เป็นใคร? “
” เจ้าไม่รู้เหรอว่าเขาเป็นใคร? เจ้าคงมาจากต่างดินแดนล่ะซิ ถึงไม่รู้เกียรติศักดิ์ชื่อเสียงของ สองพี่น้องหมาป่ากระหายเลือดแห่งชุนอัน ชายผู้นี้เป็นลูกชายคนโตของท่านเจ้าเมืองของเรา เขาเป็นศิษย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของตระกูลฉิ่ว มีเรื่องเล่ากันว่าตอนที่เขายังเด็ก เขาถูกลักพาตัวโดยปีศาจหมาป่า แต่ได้รับการช่วยเหลือหลังจากนั้นเขาก็พบว่าตัวเองติดเชื้อ และได้รับมรดกของเผ่าปีศาจหมาป่า เขายังอายุไม่ถึง 50 ปี และยังเป็นหนึ่งในสองจอมยุทธชั้นนำในรุ่นเยาว์ของรัฐชุนอา และอีกหนึ่งฉายาของเขา คือ หมาป่าฉิ่ว “
” สิ่งนี้สามารถพูดได้ว่าเป็น โชคลาภในความโชคร้าย แต่ผู้ใดที่อยู่ในเมืองไปยั่วยุให้เขาโกรธ? “
” กล่าวกันว่า คนจากดินแดนตะวันออกเฉียงใต้เป็นผู้ตัดแขนน้องชายของเขา เขามาเพื่อแก้แค้น “
ทุกคนต่างสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว พวกเขาไม่สามารถต้านทานต่อจิตสังหารอันรุนแรงนี้ได้
ไม่มีใครสามารถทนต่อจิตสังหารดังกล่าวได้
” โครมม! “
ออร่าอันทรงพลังถูกปลดปล่อยออกมา พร้อมกับร่างของชายคนหนึ่งพุ่งทะลุหลังคาโรงเตี้ยมขึ้นมา เขาจ้องมองไปทางหมาป่าฉิ่ว
” เป็นเจ้าที่ทำร้ายน้องชายของข้าใช่หรือไม่? ” หมาป่าฉิ่ว คำรามด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น ดวงตาสีเขียวเข้มเหมือนหมาป่าที่กระหายเลือด จ้องมองไปที่ เย่ ซีหวิน
” ไม่ใช่! ” เย่ ซีหวิน สั่นหัว ” ข้าให้เขาสู้กับเจ้าไม่ได้ เจ้าต้องข้ามศพข้าไปก่อน “
เย่ ซีหวิน กล่าวด้วยเสียงเย็นชา
” เจ้ากำลังรนหาที่ตาย! ” หมาป่าฉิ่ว กล่าวด้วยน้ำเสียงโกรธ คำพูดของเขาทำให้ผู้คนที่ได้ยินถึงกับหนาวเย็นถึงกระดูกสันหลัง มันไม่ใช่คำพูดที่ตลก แต่เป็นคำ ประกาศิตสั่งตาย
” เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ” เย่ ซีหวิน หัวเราะเยาะ ” โอ๊ะ! ข้าเกือบลืมไป เจ้าเป็นหนึ่งในสองพี่น้องตัวตลกแห่งชุนอัน . . . . ! “
เย่ ซีหวิน กล่าว และหัวเราะเสียงดัง สีหน้าของ หมาป่าฉิ่ว เปลี่ยนไปทันที หลังจากเขาได้รับตำแหน่งจอมยุทธชั้นนำในรุ่นเยาว์ ไม่มีใครกล้าสบประมาท หรือ ดูหมิ่นเขา
” ข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้นๆ ด้วยมือข้างเดียวของข้า! ” ออร่าอันน่าเกรงขามของ หมาป่าฉิ่ว แผ่กระจายออกไปทั่วทุกทิศทุกทาง และล้อม เย่ ซีหวิน เอาไว้ราวกับมหาสมุทรอันกว้างใหญ่
” ด้วยมือข้างเดียว? งั้นเรามาดูกันว่าเจ้ามีฝีมือหรือไม่ ” ดวงตาของ เย่ ซีหวิน เปร่งประกาย พร้อมกับร่างของเขาถูกปกคลุมไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์สีทองดูราวกับเทพเจ้าสงครามทองคำ และทุกคนต้องยอมสยบต่อหน้าเขา
การปะทะกันระหว่างสองออร่าอันน่าสะพรึงกลัวปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า