Martial God Space - ตอนที่ 282
Martial god space ตอนที่ 282 ต่อสู้กับ ลู่ หงเหว่ย
” เย่ ซีหวิน คราวนี้ไม่เพียงเจ้าจะต้องตาย แม้แต่สำนักยี่หยวนของเจ้าก็จะถูกทำลายด้วย! ” ลู่ หงเหว่ย มองไปยัง เย่ ซีหวิน แขนซ้ายของเขาในตอนนี้ดูไม่เหมือนแขนของมนุษย์ แต่มันเป็นแขนของปีศาจที่แข็งแกร่ง และมีออร่าของพลังปีศาจแผ่ออกมา
เขาเกลียด เย่ ซีหวิน เข้ากระดูกดำ ถ้าไม่ใช่เพราะ เย่ ซีหวิน เขาคงไม่ต้องอับอายมากถึงเพียงนี้ และเพราะเหตุนี้เขาจะต้องฆ่า เย่ ซีหวิน เพื่อชำระความแค้นที่เกาะกินอยู่ในจิตใจของเขา
เย่ ซีหวิน ได้ทำลายแผนการของเขาบนเกาะเหล็กไหล และแจ้งข่าวไปยังสำนักยี่หยวน และกองกำลังหลักอื่นๆ ให้ทุกคนได้ล่วงรู้ เกี่ยวกับแผนการโจมตีที่กำลังใกล้เข้ามาของ ลัทธิมาร เย่ ซีหวิน มีบทบาทสำคัญอย่างมากในเหตุการณ์ครั้งนั้น
เย่ ซีหวิน หัวเราะเยาะ และพูดว่า ” ความเพ้อฝันของเจ้า ที่จะทำลายสำนักยี่หยวนไม่มีวันทำสำเร็จได้ “
ทหารปีศาจนับแสนคนกำลังเคลื่อนทัพเข้ามาในวันนี้เพื่อบดขยี้สำนักยี่หยวน มันเป็นเหมือนภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่กำลังคืบคลานเข้ามา และเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการสูญสิ้นของสำนักยี่หยวน
ลู่ หงเหว่ย ถือว่าเป็นบุคคลที่น่าเกรงขาม เขาเป็นผู้มีพลังลมปราณขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าว ขอบเขตพลังของเขายากที่จะจินตนาการถึง
สนามรบทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยซากศพของทหารปีศาจ และผู้เชี่ยวชาญของมนุษย์ ทุกๆ ที่สาวกของสำนักยี่หยวน และทหารปีศาจกำลังห้ำหั่นซึ่งกันและกัน
แขนของ ลู่ หงเหว่ย ที่เต็มไปด้วยออร่าของพลังปีศาจ จากนั้นเขาก็ผสานพลังเข้ากับดาบแล้วยิงลำแสงปีศาจไปที่ เย่ ซีหวิน
เย่ ซีหวิน ยืนสงบนิ่งดั่งขุนเขา และจ้องมองด้วยสายตาอันเย็นชา ร่างของเขาปลดปล่อยออร่าแสงสีทองออกมา ดูราวกับเทพเจ้าที่ปกคลุมไปด้วยรัศมีสีทอง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะแสดงพลังในการต่อสู้ที่แท้จริงของเขาในระดับขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าว เขาแผดเสียงร้องดังยาว และร่างของเขาก็ปกคลุมไปด้วยพลังงานอันมหาศาลที่กำลังเดือดพล่าน
เย่ ซีหวิน รีบยิงลำแสงสีทองออกไปปะทะกับลำแสงปีศาจ
” ตูมมมมม! ” คลื่นแรงระเบิดอันน่าสยดสยองจากการปะทะกันครั้งนี้ ทำให้ทหารม้าปีศาจ และสาวกของสำนักยี่หยวนที่อยู่บริเวณรอบๆ ถูกแรงระเบิดกระเด็นออกไปคนละทิศละทาง
” เย่ ซีหวิน เจ้าไม่ควรต่อสู้ในบริเวณนี้ สาวกจำนวนมากในนิกายของเจ้า อาจได้รับบาดเจ็บโดยไม่ได้ตั้งใจ ” เยโม่ กล่าว
ในเวลานี้มีเงาขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้า ยอดขุนเขาเฉียนหยู่ มันคือป้อมปราการสงครามต่อสู้ทางอากาศ และด้วยการปรับแต่งของ เย่ ซีหวิน ทำให้มันมีขนาดใหญ่กว่าภูเขาโดยเฉลี่ย ป้อมปราการสงครามของ ยอดขุนเขาเฉียนหยู่ กำลังยิงลำแสงพลังงานอย่างต่อเนื่องไปยังกองกำลังปีศาจที่บินอยู่บนท้องฟ้า ทำให้ทหารปีศาจจำนวนนับไม่ถ้วนตายในทันทีเมื่อโดนลำแสงพลังงาน ทหารปีศาจจำนวนมากไม่สามารถหลบการโจมตีด้วยลำแสงที่ทรงพลัง และถูกกวาดล้างออกไปกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนพวกมัน
(NT : ยอดขุนเขาเฉียนหยู่ หรือ ยอดขุนเขา เป็นไอเทมศักดิ์สิทธิ์ หนึ่งในสิบยอดขุนเขาของสำนักยี่หยวน เย่ ซีหวิน ได้รับมาจากผู้นำนิกาย หลังจากได้รับตำแหน่งศิษย์แท้จริง)
ความแข็งแกร่งของป้อมปราการสงครามของ ยอดขุนเขาเฉียนหยู่ ได้แสดงให้เห็นเป็นประจักษ์ต่อสายตาทุกคนในเวลานี้
” ว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า องค์ชาย ของพวกเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว! ” ในเวลานี้ลูกหมาป่า หัวเราะเยาะอย่างเย้ยหยัน แล้วมันก็อ้าปาก พร้อมกับยิงลูกบอลพลังงานโจมตีไปที่กองกำลังทหารปีศาจ ทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงเป็นกลุ่มเมฆดอกเห็ด ในชั่วพริบตาทหารปีศาจหลายร้อยตัวถูกทำลาย
เย่ ซู ยืนอยู่ข้างๆ ลูกหมาป่า และเขาก็เริ่มใช้เคล็ดวิชาการต่อสู้ต่างๆ กวาดล้างทหารม้าปีศาจหลายกลุ่มในเวลาเดียวกัน
สำหรับ เย่ เฟ่ง และคนอื่นๆ ไม่ได้ออกมาข้างนอก เพราะพวกเขายังไม่ได้เข้าสู่ขอบเขตลมปราณมหาเทพ พวกเขาไม่แข็งแกร่งพอจะปกป้องตัวเองได้ในสนามรบนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงทำได้เพียงควบคุมป้อมปราการสงคราม และโจมตีทหารปีศาจจากภายใน ยอดขุนเขาเฉียนหยู่
เย่ ซีหวิน สแยะยิ้ม และระเบิดออร่าแสงสีทองออกมาจากร่างของเขา และทันใดนั้นออร่าแสงสีทองที่ระเบิดออกมานั้นก็แทรกซึมเข้าไปในร่างของทหารปีศาจทันที
“อ๊ากกกกกซ์!”
เสียงกรีดร้องโหยหวนของทหารปีศาจดังลั่นไปทั้งสนามรบ เนื่องจากจิตวิญญาณของพวกมันถูกทำลายโดยออร่าแสงสีทองโดยตรง และเปลี่ยนพวกมันเป็นหมอกเลือดสีทอง
” เจ้าหนีข้าไม้พ้นหรอก! ” ลู่ หงเหว่ย จ้องมอง เย่ ซีหวิน ด้วยดวงตาที่แดงก่ำของเขา แล้วรีบวิ่งไล่ตาม เย่ ซีหวิน
เย่ ซีหวิน วิ่งตรงเข้าไปกลางกลุ่มของกองกำลังทหารปีศาจ และปลดปล่อยออร่าแสงสีทองของเขาฆ่าพวกมันครั้งแล้วครั้งเล่า ในตอนนี้เขาพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อลีกเลี่ยงการทำร้ายพวกเดียวกันโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างไรก็ตาม ลู่ หงเหว่ย ไม่ได้สนใจเรื่องการสูญเสียกองกำลังทหารของตนเองในการต่อสู้เลยแม้แต่น้อย
เย่ ซีหวิน เปรียบเสมือนเทพแห่งความตาย เส้นทางที่วิ่งตัดผ่านเหล่าทหารปีศาจ ไม่มีใครสามารถหยุดเขาไม่ว่าจะพยายามมากแค่ไหน! พลังศักดิ์สิทธิ์แทรกซึมเข้าไปในร่างของมันเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดของปีศาจ
“ฆ่าเขา!”
เสียงกรีดร้องดังขึ้นเป็นระยะในสนามรบ การสังหารหมู่ยังคงดำเนินต่อไป ซากศพกระจัดกระจาย และเลือดไหลนองไปทั่วสนามรบ ซึ่งบ่งชี้ถึงจำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆ นาที
” ตูมมมม!”
” ตูมมมม!”
” ตูมมมม!”
เสียงกรีดร้องที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับเสียงที่น่ากลัวของการระเบิด เย่ ซีหวิน ถูกล้อมโดยผู้เชี่ยวชาญปีศาจหลายตน แต่ในชั่วพริบตาผู้เชี่ยวชาญปีศาจทั้งหมดก็ถูกสังหารโดย เย่ ซีหวิน
ตราประทับถล่มภูผาของ เย่ ซีหวิน ยังคงโจมตีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ละครั้งที่มันบินขึ้นลงผู้เชี่ยวชาญปีศาจก็ถูกสังหารทันทีโดย เย่ ซีหวิน ในขณะที่เขากำลังไล่ฆ่าผู้เชี่ยวชาญปีศาจอย่างต่อเนื่องนั้น ส่งผลให้ความเร็วของ เย่ ซีหวิน ลดลง ทำให้ ลู่ หงเหว่ย ในที่สุดก็ไล่ตามเขาทัน
” มาลองดูกันว่าเจ้าจะแน่สักแค่ไหน ” ลู่ หงเหว่ย จ้องมองไปที่ เย่ ซีหวิน ในตอนนี้เขาไม่สนใจเรื่องการตายของผู้เชี่ยวชาญปีศาจ ดวงตาของยังคงจับจ้องไปที่ เย่ ซีหวิน ถ้า เย่ ซีหวิน ไม่ถูกกำจัดออกไปในทันที แผนการทั้งหมดของเขาจะต้องล้มเหลวอีกครั้ง แม้ครั้งล่าสุด เขาจะต้องหลบหนีในสภาพที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส
” วิ้งงงง! ” ลู่ หงเหว่ย เฉือนบรรยากาศออกด้วยดาบปีศาจของเขา และทันใดนั้นลำแสงอันน่าสยดสยองที่ถูกสร้างขึ้นจากปราณปีศาจที่เอ่อล้นออกมารอบๆ ตัวเขา
” ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว ” ลู่ หงเหว่ย กัดฟันพูดด้วยความโกรธ และดวงตาสีแดงของเขาเป็นประกายเหมือนสัตว์เดรัจฉาน
ดูเหมือนว่าความโกรธของ ลู่ หงเหว่ย ในตอนนี้ เขาสามารถทำลายล้างทั้งจักรวาลได้โดยไม่ลังเล
แววตาของ เย่ ซีหวิน ไม่มีความหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เขาโคจรแสงสีทองเอาไว้ในมือ ทันใดนั้นฝ่ามือมังกรม้วนสมุทรของ เย่ ซีหวิน ก็ปลดปล่อยมังกรสีทองออกมาทันทีมันดูราวกับมีชีวิต มันพร้อมที่จะกลืนกินศัตรูทั้งหมดที่อยู่ตรงหน้า
” ตูมมมมม! ” การปะทะกันอย่างน่าสะพรึงกลัวเกิดขึ้นเมื่อมังกรสีทองของ เย่ ซีหวิน กลืนกินปราณปีศาจขนาดใหญ่ แต่ทันใดนั้นปราณปีศาจก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของมัน ทำให้ร่างของมังกรสีทองถูกทำลายทันที
ลู่ หงเหว่ย อยู่ในระดับที่เหนือกว่าเมื่อเทียบกับ เย่ ซีหวิน เนื่องจากมีความแตกต่างของการฝึกฝนห่างกัน 100 ปี เกือบๆ ถึง 200 ปี ระหว่างทั้งสองคน
เย่ ซีหวิน ยังคงฉีกตัวหลบหนีออกมา ในขณะที่ ลู่ หงเหว่ย ยังคงไล่ติดตามเพื่อกำจัดเขา
” เย่ ซีหวิน ข้ากลัวว่า ลู่ หงเหว่ย ผู้นี้จะอยู่ในระดับตำนานครึ่งก้าวมาเป็นเวลาอันยาวนาน! ” เสียงของ เยโม่ ดังขึ้นในใจ เย่ ซีหวิน
หัวใจของ เย่ ซีหวิน สั่นสะท้านอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้เขาได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท และความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาก็เพิ่มขึ้นเป็นระดับตำนานของครึ่งก้าว เทียบเท่าระดับเดียวกันกับ ลู่ หงเหว่ย แต่ที่เรียกว่า ระดับตำนานครึ่งก้าวมีความแตกต่างกันมาก แม้ว่าความแข็งแกร่งของทั้ง เย่ ซีหวิน และ ฉี เฟ่ยฝาน อยู่ในระดับตำนานของครึ่งก้าว แต่ในความเป็นจริง เย่ ซีหวิน ยังไม่แข็งแกร่งเท่า ฉี เฟ่ยฝาน
นอกเหนือจากขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าวโดยปกติแล้ว นอกจากนี้ขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าวยังถูกแบ่งออกไปอีกถึง 9 ขั้น
เย่ ซีหวิน สามารถเอาชนะฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าวทั่วไปได้ แต่หากเป็นระดับที่สูงขึ้น เช่น ระดับตำนานครึ่งก้าวขั้นต้น หรือสูงกว่า ระดับความแข็งแกร่งของพลังในการต่อสู้ก็จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในแต่ละขั้นด้วย
ไม่ว่าคนทั่วไปจะฝึกฝนเท่าไหร่พวกเขาก็สามารถบรรลุได้เพียงขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าวเท่านั้น มีเพียงอัจฉริยะเท่านั้นที่สามารถทำลายห่วงโซ่พันธนาการของขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าว และสามารถบรรลุขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าวขั้นต้น หรือขั้นที่สองได้ และความแข็งแกร่งของพลังในการต่อสู้เทียบได้กับว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานขั้นต้น แต่อย่างไรก็ตามความแข็งแกร่งของพลังในการต่อสู้ของขอบเขตระดับตำนานขั้นต้นนั้นเหนือกว่ามาก เป็นเรื่องที่น่าตกใจมากที่ผู้เชี่ยวชาญในระดับตำนานครึ่งก้าวสามารถแสดงความแข็งแกร่งของขอบเขตระดับตำนานได้ กล่าวกันว่าเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ที่คนธรรมดาจะสามารถบรรลุความแข็งแกร่งของขอบเขตของตำนานครึ่งก้าวขั้นที่ 9 ได้ มีเพียงอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงขอบเขตระดับตำนาน
กล่าวอีกนัยหนึ่งอัจฉริยะผู้มีพรสวรรค์มีโอกาสมากกว่าที่จะสามารถบรรลุขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าวในระดับที่เหนือกว่า ซึ่งก็มีบางคนจะไม่สามารถก้าวข้ามต่อไปได้ เมื่อพวกเขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าวขั้นต้น พวกเขาก็จะสามารถทะลวงขอบเขตระดับตำนานขั้นต้นของขอบเขตระดับตำนานได้ในโอกาสต่อไป
บางคนสามารถทะลวงขอบเขตก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนานได้ ถ้าพวกเขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าวขั้นที่ 4 หรือขั้นที่ 5 และแน่นอนว่า หลังจากตัดสินใจที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนานแล้ว พวกเขาก็จะสามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนานได้โดยอัตโนมัติด้วยพื้นฐานและความเข้าใจที่มั่นคงมากขึ้น
ขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าวเป็นขอบเขตที่สำคัญมากสำหรับผู้ฝึกวรยุทธอย่างแท้จริง มันเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในการวางรากฐานสำหรับการก้าวสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เบื้องหลังของมันคือจุดเริ่มต้นของ ขอบเขตระดับนักปราชญ์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการก้าวข้ามวัฏจักรมนุษย์
กล่าวกันว่ายิ่งอยู่ในขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าวเป็นเวลานานมากเท่าไหร่ พวกเขาจะได้รับโอกาสกับอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด นี่คือเหตุผลที่ สถาบันยอดยุทธ ได้ทำการประเมิน และคัดเลือกเป็นพิเศษสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าว บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าวขั้นต้น หรือเหนือขึ้นไปจะได้รับโอกาสที่ดีกว่าในการได้รับเลือกจาก สถาบันยอดยุทธ
อย่างไรก็ตามการทะลวงขอบเขตในแต่ละขั้นเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก เปรียบเหมือนกับรูปทรงปิรามิด ระดับของความยากนี้ใช้เป็นเกณฑ์วัดความแข็งแกร่งในแต่ละการจัดอันดับของการประเมิน
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม ลู่ หงเหว่ย ยังคงติดอยู่ในขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าว แต่นับเป็นเวลากว่า 100 ปีที่ผ่านมา เขาได้ต่อสู้กับ ฉู จิ้งฉาย และสาวกคนอื่นๆ ของยุคนั้น ถ้าเขาเลือกที่จะก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนาน เขาคงจะทะลวงขอบเขตไปถึงขั้นที่ 3 หรือ 4 ของขอบเขตระดับตำนาน แต่การทะลวงขอบเขตของระดับตำนานครึ่งก้าวเป็นเรื่องยากลำบากมันเกือบจะยากเท่าการปีนเขาขึ้นไปในท้องฟ้า
” เย่ ซีหวิน วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า! ” ลู่ หงเหว่ย ตะโกนเสียงดัง
” กระจกเทียนหยวน! ” เย่ ซีหวิน ต้องหงายไพ่บนมือออกมา ในตอนแรกเขาไม่ได้ใส่ใจมากนัก หากเขาต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานของครึ่งก้าว แต่ตอนนี้เขาต้องให้ความสนใจมากขึ้นเพราะฝ่ายตรงข้ามของเขาอยู่ในระดับตำนานครึ่งก้าวขั้นต้น
กระจกเทียนหยวน ปรากฏขึ้นเหนือหัวของ เย่ ซีหวิน ทันใดนั้นแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัว และน่าเกรงขามถูกปลดปล่อยออกมา ราวกับว่า ราชันย์ปีศาจผู้ยิ่งใหญ่ปรากฏตัวขึ้นอยู่ตรงหน้า ทำให้พลังของทหารปีศาจทั้งหมดที่อยู่ที่นั่นถูกสะกดพลัง
ภายในรัศมีมากกว่าหนึ่งไมล์ปีศาจทุกตัวเริ่มสั่นเทาด้วยความกลัว และคุกเข่าลงบนพื้นดินไม่กล้าที่จะลุกขึ้น แม้ว่าพวกมันจะไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมถึงเกิดความรู้สึกเช่นนี้ขึ้นมา มันเป็นความรู้สึกหวาดกลัวที่เกิดขึ้นมาจากส่วนลึกของจิตใจ ซึ่งทำให้ร่างของพวกมันสั่นเทาด้วยความกลัว ปรากฏการณ์แปลกประหลาดนี้ ทำให้ทุกคนที่อยู่ในสนามรบต่างพากันตกใจ!
อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครล่วงรู้ว่าปรากฏการณ์แปลกประหลาดนี้ มาจาก เย่ ซีหวิน ซึ่งตอนนี้เขามุ่งเป้าไปที่ ลู่ หงเหว่ย โดยตรง
” นี่มันพลังความชั่วร้ายอะไรกัน เจ้าทำอะไร! ” ลู่ หงเหว่ย คำราม เขารู้สึกถึงแรงกดดันอันน่าสะพรึงกลัวเท่านั้นที่กระทบต่อจิตวิญญาณของเขา ในตอนแรกเขาต้องการให้ เย่ ซีหวิน ตาย แต่ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนว่าเขาต้องการให้ เย่ ซีหวิน มีชีวิตอยู่ ราวกับว่าเขาถูกบังคับให้คิดว่า เย่ ซีหวิน ไม่สมควรตาย และเขาไม่ควรโจมตี เย่ ซีหวิน เกิดความสับสนขึ้นภายในจิตใจของเขา
มันเป็นพลังสะกดที่น่าสะพรึงกลัว!
ความแข็งแกร่งของเขาได้รับผลกระทบอย่างมาก และพลังของเขาลดลงจากระดับตำนานครึ่งก้าวขั้นต้น ลดลงมาเหลือเพียงระดับตำนานครึ่งก้าวธรรมดา
การลดลงอย่างรวดเร็วของพลัง ทำให้ ลู่ หงเหว่ย แทบเป็นบ้า ในขณะที่เขารีบวิ่งพุ่งตรงเข้าไปหา เย่ ซีหวิน เพื่อฆ่าเขา
อย่างไรก็ตาม หลังจากความแข็งแกร่งของ ลู่ หงเหว่ย ลดลงอย่างฉับพลัน เย่ ซีหวิน ไม่ลังเลที่จะปล่อยให้โอกาสหลุดมือไป