Martial God Space - ตอนที่ 283
Martial god space ตอนที่ 283 ท้าทายปีศาจขอบเขตลมปราณระดับตำนาน
ร่างของอดีตผู้นำนิกาย ถูกส่งไปกระแทกเข้ากับยอดขุนเขา และทำให้มันพังทลาย แตกออกเป็นเศษเล็กเศษน้อย
” มนุษย์ที่ต่ำต้อยเช่นเจ้า ไม่มีทางที่จะหยุดเผ่าปีศาจที่สูงส่งอย่างข้าได้ ” ร่างเงาปีศาจขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์ กล่าวอย่างเย็นชากับ อดีตผู้นำนิกาย
” ท่านอดีตผู้นำนิกาย! “
” ท่านอดีตผู้นำนิกาย! “
สาวกมากมายของสำนักยี่หยวน ร้องออกมาด้วยความตกใจ
” ม่ายยยย! แม้แต่ท่านอดีตผู้นำนิกายของเรา … ก็ยังพ่ายแพ้ “
” เขาไม่สามารถหยุด ร่างเงาปีศาจขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์ได้ พวกเราควรจะทำอย่างไรดี!”
ตอนนี้สาวกทั้งหมดต่างพากันสิ้นหวัง ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในยุคเมื่อ 1,000 ปีที่ผ่านมา แต่ท่านอดีตผู้นำนิกายของพวกเขายังคงเป็นบุคคลที่น่าเคารพนับถือ เพราะเขาเปรียบเสมือนเทพผู้พิทักษ์ที่ช่วยสำนักยี่หยวน ในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในราชวงศ์หยวน และช่วยก้อบกู้ชื่อเสียงของสำนักท่ามกลางปัญหาและความยากลำบาก แม้ว่าเขาจะเป็นเพียงคนแก่ และไม่อาจถือดาบ แต่ตราบเท่าที่เขายืนอยู่ที่นั่น เขาก็ยังคงเป็นเทพเจ้าแห่งสงครามที่สร้างความเชื่อมั่น และขวัญกำลังใจให้กับเหล่าสาวก
” อดีตผู้นำนิกาย ตอนนี้อยู่ในวัยชรา และเปราะบาง แต่ในอดีตเขาเป็นวีรบุรุษ “
” ถ้าไม่ใช่เพราะ อดีตผู้นำนิกายแก่ชรา และได้รับบาดเจ็บถึงขนาดนี้ ปีศาจที่น่ารังเกียจตนนี้ไม่มีทางได้อาละวาดเช่นนี้ต่อหน้าเขา “
ดูเหมือนมันจะได้ยินเสียงการพูดคุยระหว่างสาวกของสำนักยี่หยวน ร่างเงาปีศาจ ยิ้มอย่างเหยียดหยามบนใบหน้าของมัน และกล่าวว่า ” เผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่ไร้ค่าที่สุดในอาณาจักรทั้งหมื่นโลก และพวกเจ้าล้วนเต็มไปด้วยความโลภไม่ต่างจากดวงดาวหนึ่ง หรือ สองดวงที่ถูกทำลายโดยปีศาจเช่นพวกเรา พวกเจ้าไม่ต่างอะไรกับฝูงแกะที่รอคอยการถูกเฉือด “
” ปีศาจสามหาว เจ้าบังอาจพูดเรื่องเหลวไหลดังกล่าวกับเหล่าสาวกของข้าได้อย่างไร? ดูเหมือนว่าเจ้า และฝูงแมลงของเจ้า อยากจะลงนรกมากนัก ข้ายินดีที่จะตอบสนองความปรารถนาของเจ้า และส่งเจ้าไปลงนรกพร้อมกับแมลงเหล่านี้ “
“ใช่ แม้กระทั่งทหารม้าปีศาจของเจ้า ก็ไม่สามารถเอาชนะเราได้ “
อดีตผู้นำนิกาย ลุกขึ้นยืน ร่างผอมสูง หลังโค้งค่อมของเขา คว้าหยิบดาบอีกครั้งเพื่อฆ่าร่างเงาปีศาจขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์
” เจ้ายังกล้าหยิบดาบขึ้นมาอีก ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วจริงๆ ” ร่างเงาปีศาจ หัวเราะเยาะ ” จริงๆ ข้ามีวิธีรักษาอาการของเจ้า นับ 100 วิธี แถมยังช่วยยกระดับการเพาะบ่มของเจ้าได้อย่างก้าวกระโดด เพียงแค่เจ้าเข้าร่วมกับข้า และยอมเป็นทาสของข้า “
” แม้ว่าข้าจะแก่ชรา และใกล้ตาย แต่ข้าก็ไม่ยอมทิ้งศักดิ์ศรีของตัวเอง แค่ก แค่ก! ” อดีตผู้นำนิกาย ไออยู่หลายครั้งแล้วกล่าวว่า ” เผ่าพันธุ์มนุษย์ยืนอยู่ระหว่างสวรรค์กับโลก ผ่านความยากลำบาก และทนทุกข์ทรมานมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีสิ่งใดโค่นล้มเราได้! “
ออร่าจำนวนมหาศาลเอ่อล้นออกมาจากร่างของเขา และห่อหุ้มเขาเอาไว้อย่างสมบูรณ์
” มันผู้ใดไม่ยอมจำนนต่อข้า พวกมันจะต้องถูกสังหาร ” ร่างเงาปีศาจ กล่าวด้วยน้ำเสียงอันโหดเหี้ยม พร้อมกับปลดปล่อยออร่าอันน่าสพรึงกลัวออกมา
” เคร้งงงงง! ” อดีตผู้นำนิกาย โจมตีทันทีด้วยปราณดาบอันรุนแรงพุ่งตรงเข้าไปหาร่างเงาปีศาจ
” ตูมมมม! ” เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังขึ้น ชั้นบรรยากาศถูกฉีกออกจากกัน ปราณดาบอันรุนแรงราวกับว่ามันจะตัดโลกออกเป็นสองส่วน
การโจมตีของ อดีตผู้นำนิกาย เริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ พลังโจมตีของดาบอันน่าสะพรึงกลัวนี้ ทำให้ร่างเงาปีศาจถึงกลับต้องถอยหนีเพื่อหลบการโจมตี มันไม่กล้าเผชิญหน้ากับการโจมตีด้วยดาบของอดีตผู้นำนิกาย
แม้จะเห็นได้ชัดว่าตอนนี้ อดีตผู้นำนิกาย จะเป็นฝ่ายได้เปรียบในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่เหล่าสาวกของโรงเรียนยี่หยวนไม่ได้ตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย พวกเขาทั้งหมดรู้ดีว่า อดีตผู้นำนิกาย กำลังเผาผลาญพลังชีวิตของตัวเองโดยไม่คำนึงถึงผล หลังจบการต่อสู้ครั้งนี้ เขาน่าจะ . . . .
แม้บางคนจะกังวลว่า เขาคงไม่ได้อยู่รอดูจนสิ้นสุดสงคราม
อดีตผู้นำนิกาย ไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่น้อย เขาโจมตีอีกครั้ง ท้องฟ้าทั้งหมดเต็มไปด้วยร่องรอยการโจมตีจากดาบของเขา
อดีตผู้นำนิกาย รู้ดีว่าเขาเหลือเวลาอีกไม่มาก การต่อสู้ที่ยืดเยื้อทำให้เขาเผาพลาญพลังชีวิตไปมากกว่าที่เขาคิด แม้แต่ ร่างเงาปีศาจ ก็รู้ว่าอดีตผู้นำนิกาย กำลังเผาพลาญพลังชีวิตของเขาจนใกล้จะหมดสิ้นพลังอย่างสมบูรณ์
” เจ้าเอาแต่หลบ หรือว่าเจ้ากลัวไม่กล้าสู้กับชายชราคนนี้? ” อดีตผู้นำนิกาย กล่าวเบา ๆ แต่ดาบในมือของเขากวัดแกว่งไม่หยุด มันส่งเสียงคำราม และปล่อยปราณดาบอันน่าสะพรึงกลัวไปทั่วเส้นขอบฟ้า
” ชายชราตัวเหม็นเช่นเจ้า แค่ประคองลมหายใจของตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ข้าไม่จำเป็นต้องลงมือฆ่าเจ้า เพราะอีกไม่นานเจ้าก็ต้องตาย ” ร่างเงาปีศาจ กล่าว และหัวเราะเยาะเย้ย
” เจ้ามันต่ำช้า ไร้ยางอาย! ” สาวกคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา
” ถ้า อดีตผู้นำนิกาย ของเรา ไม่ได้รับบาดเจ็บ เจ้าไม่มีทางได้กล่าววาจาเย่อหยิ่งเช่นนี้หรอก “
” ตอนแรก ข้าอยากจะเห็นว่าเจ้าจะตายอย่างไร แต่ในเมื่อเจ้าพูดเช่นนั้น ข้าจะลงมือฆ่าเจ้าด้วยมือของข้าเอง และบดขยี้ความภาคภูมิใจของเจ้า เจ้าจะรู้ได้ว่ามีเพียงเผ่าพันธุ์ปีศาจของเราเท่านั้นที่เป็นผู้ปกครองสวรรค์และโลก และเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเจ้าก็เหมาะสำหรับการเป็นทาสเท่านั้น ” ร่างเงาปีศาจ กล่าวด้วยเสียงดุดัน ในขณะที่ร่างของมันห่อหุ้มไปด้วยปราณปีศาจอันน่าสยดสยอง
หอกปีศาจในมือของมันเริ่มสั่นไหวจากปราณปีศาจที่อัดแน่น แรงกดดันอันรุนแรงที่แผ่กระจายออกมา ราวกับจะทำลายล้างโลกใบนี้ให้แตกออกเป็นเสี่ยงๆ
อดีตผู้นำนิกาย พุ่งตรงไปข้างหน้าพร้อมกับดาบของเขา เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักยี่หยวน ตอนนี้เขาทุ่มเทพลังทั้งหมดผสานเข้ากับสุดยอดทักษะและศิลปะการต่อสู้ของสำนักยี่หยวน เผยให้เห็นเจตจำนงแห่งดาบอันน่าสะพรึงกลัวพุ่งตรงไปยัง ร่างเงาปีศาจ
” เคร้งงง! “
” เปรี้ยงงงงงงง! “
” ตูมมมมม! “
ปราณดาบปะทะเข้ากับปราณหอก ทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงเกิดขึ้นทั่วท้องฟ้า การต่อสู้ระหว่างสองผู้เชี่ยวชาญขอบเขตลมปราณระดับนักปราชญ์เริ่มทะยานสูงขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศ . . . .
” วันนี้เจ้าต้องตาย ” ลู่ หงเหวย ไม่รู้ว่า เย่ ซีหวิน ใช้ลูกไม้อะไร ถึงทำให้ความแข็งแกร่งของเขาลดลง จากขอบเขตลมปราณระดับตำนานครึ่งก้าวขั้นต้น ลดลงมาเป็นขอบเขตลมปราณระดับตำนานครึ่งก้าวธรรมดา อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน ก็ไม่เคยอยู่ในสายตาของเขาตั้งแต่แรก เพราะเขาไม่มีกลิ่นอายของขอบเขตลมปราณระดับตำนาน
” ถ้าเจ้าอยากตายมากนัก ข้าจะช่วยเจ้าเอง ” เย่ ซีหวิน หลับตา จากนั้นเขาก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น มีแสงสีทองปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา ทำให้เขาดูคล้ายกับเทพแห่งสงครามในสนามรบ
เย่ ซีหวิน ใช้กรงเล็บสีทองของเขา เพื่อหยุดการโจมตีที่เข้ามาทันที
การโจมตีปราณดาบของ ลู่ หงเหวย ถูกจับได้อย่างง่ายดาย และถูกทำลายโดยกรงเล็บสีทองของ เย่ ซีหวิน
” ครั้งก่อน เจ้าแค่โชคดีหนีรอดจากศิษย์พี่ฉีไปได้ แต่คราวนี้เจ้าจะไม่สามารถหลบหนีจากข้าได้ ” เย่ ซีหวิน ยิ้มอย่างเย็นชา และเรียกตราประทับถล่มภูผาออกมาทัน มันปรากฏขึ้นเหนือท้องฟ้า และพุ่งตรงมาที่ ลู่ หงเหวย
” เจ้ากำลังรนหาที่ตาย ” ลู่ หงเหวย ตะโกนเสียงดังด้วยความโกรธ ครั้งก่อนเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากน้ำมือของ ฉี เฟ่ยฝาน และมันเป็นเรื่องอัปยศครั้งใหญ่สำหรับเขา และในวันนี้ เย่ ซีหวิน ก็พูดถึงมันขึ้นมา มันทำลายความภาคภูมิใจ และกระตุ้นความโกรธแค้นของเขาให้ทวีเพิ่มขึ้น ดูเหมือนว่า เย่ ซีหวิน จะประสบความสำเร็จในแผนการของเขา
ดาบปีศาจในมือของ ลู่ หงเหวย ปลดปล่อยปราณปีศาจออกมา พร้อมกับส่งเสียงคำรามของมังกรปีศาจดังก้องไปทั่วบริเวณ ลำแสงสีดำขนาดใหญ่จากดาบปีศาจ ถูกยิงตัดข้ามท้องฟ้าออกมา ทำให้แผ่นดินในละแวกใกล้เคียงสั่นสะเทือนภายใต้อิทธิพลจากการโจมตีด้วยดาบนี้
” ปังงงงงงง! “
คลื่นกระแทกอันน่าสยดสยองที่เกิดขึ้นจากแรงระเบิดกระจายออกไปเป็นบริเวณกว้าง พลังทำลายล้างของมันทำให้ ปีศาจที่อยู่ในรัศมีของแรงระเบิดเสียชีวิตทันที
” เคร้งงงง! ” ลำแสงจากปราณดาบ ถูกยิงขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อตัวเป็นลำแสงของดาบจำนวนมากมายจนหนาทึบ จากนั้นมันได้เปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นลูกศรและพุ่งตรงมายัง เย่ ซีหวิน ราวกับสายฝน
เย่ ซีหวิน กดตราประทับถล่มภูผาลงมา และบดขยี้การโจมตีของปราณดาบขนาดใหญ่นี้ทันที
” มนุษย์กระจ้อยร่อย ช่างอาจหาญนัก! ” ทันใดนั้นมีเสียงหนึ่งดังก้องขึ้นมาจากท้องฟ้า พร้อมกับมือปีศาจขนาดใหญ่ยื่นลงมาจากฟากฟ้า มันจู่โจม เย่ ซีหวิน หมายจะบดขยี้เขาให้แหลกเป็นผุยผง แต่ เย่ ซีหวิน กลับพุ่งตรงเข้าไปกลางกลุ่มของทหารม้าปีศาจ และทำให้เขาตกเป็นเป้าในทันที โดยทหารม้าปีศาจที่รายล้อมอยู่
กลิ่นอายที่ปกคลุมอยู่ในมือปีศาจขนาดใหญ่นั้น มันเป็นกลิ่นอายอันน่าสยดสยอง เย่ ซีหวิน สัมผัสถึงความแข็งแกร่งของขอบเขตลมปราณระดับตำนาน
มันคือพลังโจมตีจากผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตลมปราณระดับตำนาน
ทหารปีศาจ พวกมันต่างพากันสั่นสะท้าน เมื่อได้เห็นพลังอันน่าสะพรึงกลัวจากการโจมตีครั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตลมปราณระดับตำนานครึ่งก้าวก็ไม่สามารถบรรลุพลังในระดับนี้ได้
เย่ ซีหวิน ไม่ใช่คนประเภทที่ยืนรอคอยความตาย เขายกมือทั้งสองข้างขึ้นแล้วยิงพลังฝ่ามือออกไปทันที มันกลายเป็นกรงเล็บของมังกรพุ่งตรงไปข้างหน้า เพื่อต้านการโจมตีจากมือปีศาจขนาดใหญ่ที่กำลังพุ่งเข้ามา
” เปรี้ยงง! ” มือปีศาจขนาดใหญ่ปะทะเข้ากับกรงเล็บของมังกรกลางอากาศ มันพยายามสลายพลังซึ่งกันและกัน จนก่อให้เกิดเป็นกระแสลมปราณจิตวิญญาณที่ปั่นป่วนอย่างรุนแรง
” ปีศาจขอบเขตลมปราณระดับตำนาน! ” เหล่าสาวกของสำนักยี่หยวน ต่างพากันร้องออกมาด้วยความตกใจ พวกเขาไม่คิดว่าผู้เชี่ยวชาญลมปราณระดับตำนานจะเข้าร่วมการต่อสู้ และโจมตี เย่ ซีหวิน โดยฉับพลัน
ตามความเข้าใจสำหรับเหล่าสาวกเหล่านี้ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตลมปราณระดับตำนานเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่ และเกินกว่าความเข้าใจของพวกเขา อย่างไรก็ตามแม้แต่สาวกระดับอาวุโสเช่น ฉู จิ้งฉาย เองก็เพิ่งก้าวเข้าสู่ขอบเขตลมปราณระดับตำนาน
“ บรึ้มมมมมมม! ”
คลื่นกระแทกอันรุนแรงราวกับคลื่นยักษ์สึนามิ ทหารม้าปีศาจที่อยู่ในรัศมีของแรงระเบิดถูกแรงกระแทกจนร่างแหลกละเอียด
” ปีศาจขอบเขตลมปราณระดับตำนานเช่นเจ้าไหนๆ ก็มาแล้ว ทำไมเจ้าไม่ลงมาร่วมสนุกต่อสู้กับข้าพร้อมกันลองดูละ หรือว่าเจ้าไม่กล้า? ” เย่ ซีหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงอย่างเย็นชา
ทุกคนถึงกับยืนงงอ้าปากค้าง พวกเขาไม่อยากเชื่อว่า เย่ ซีหวิน จะกล้ากล่าวท้าทายปีศาจขอบเขตลมปราณระดับตำนาน แม้ว่าเขาจะอยู่ในขอบเขตลมปราณปัจฉิมบทก็ตาม
เย่ ซีหวิน ท้าทายปีศาจขอบเขตลมปราณระดับตำนานให้ร่วมต่อสู้?
สาวกทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างพากันยืนนิ่งค้างราวกับถูกแช่แข็ง และไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน
นี่คือปีศาจขอบเขตลมปราณระดับตำนานอย่างแท้จริง
” เจ้าเด็กน้อย วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้าก่อน จากนั้นค่อยทำลายสำนักยี่หยวนของเจ้า ” ปีศาจขอบเขตลมปราณระดับตำนาน กล่าวอย่างเย็นชา และมองไปที่ เย่ ซีหวิน ด้วยดวงตาสีแดงก่ำของมัน
” หลีกไป นี่มันเป็นศัตรูของข้า มันจะต้องตายด้วยน้ำมือของข้าคนเดียว ” ลู่ หงเหวย คำราม
” ฮึ! เจ้ามันก็ไม่ต่างจากขยะ แม้แต่มนุษย์ตัวเล็กๆ ในขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท เจ้าก็ไม่สามารถจัดการได้ ” ปีศาจขอบเขตลมปราณระดับตำนาน กล่าว และมองด้วยสายตาเหยียดหยาม