Martial God Space - ตอนที่ 276
Martial god space ตอนที่ 276 งานชุมนุมศิษย์เอก
” เมื่อไม่นานมานี้ คนในนิกายต่างพากันพูดถึงเรื่อง สถาบันยอดยุทธ ” เย่ ฟง กล่าว ” เรื่องที่หลายๆ คนกำลังคุยกัน ข้าได้ยินมาว่าจะมีคนจาก สถาบันยอดยุทธ มาเยี่ยมชมนิกายของเรา พวกเขาวางแผนจะพาศิษย์แท้จริงบางคน และศิษย์เอกจากสำนักยี่หยวน ไปเข้าร่วมการทดสอบ “
” สถาบันยอดยุทธ ส่งคนมาคัดเลือกสาวกด้วยตัวเองเลยเหรอ?” เย่ ซีหวิน ถาม
” ใช่ , ในความเป็นจริงแล้ว สถาบันยอดยุทธ และ สำนักยี่หยวน มีความสัมพันธ์กันมาอย่างเหนียวแน่น นอกจากนี้ผู้อาวุโสของนิกายก็เคยเป็นสาวกของ สถาบันยอดยุทธ ดังนั้นพวกเขาถึงส่งคนมารับ ศิษย์พี่ ฉี และผู้เหมาะสมคนอื่น ๆ กลับไปที่ สถาบันยอดยุทธ เย่ ฟง ตอบ
นี่เป็นกรณีพิเศษ ในความเป็นจริง สถาบันยอดยุทธ เปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมการทดสอบ ไม่ใช่แค่สำนักยี่หยวนเท่านั้น อย่างไรก็ตามมีกองกำลังขนาดเล็กจำนวนมาก และพวกเขาก็ไม่ได้โชคดีได้รับสิทธิพิเศษเช่นนี้ หากพวกเขาต้องการให้พวกสาวกเข้าร่วม สถาบันยอดยุทธ พวกเขาจะต้องผ่านขั้นตอนการคัดเลือกอย่างเข้มงวด
” มีคนบอกว่า แม้แต่พวกระดับหัวหน้าก็พากันออกไปต้อนรับแขกจาก สถาบันยอดยุทธ ” เย่ ฟง กล่าว ” แต่ข้าได้ยินมาว่าเงื่อนไข และมาตรฐานของ สถาบันยอดยุทธ นั้นสูงมาก มันอาจจะเร็วเกินไป ถ้าเจ้าจะไป สถาบันยอดยุทธ ในตอนนี้ ข้าแนะนำว่า เจ้าควรจะรอในครั้งต่อไป อย่างพึ่งรีบร้อน เพื่อฝึกฝนให้เหนือกว่ามาตรฐานเหล่านั้น “
” ข้ามีเหตุผลที่จะต้องไปในครั้งนี้ ข้าไม่สามารถรอได้ในครั้งต่อไป ” เย่ ซีหวิน กล่าว
” น้องเล็ก ในเมื่อพวกเรารั้งเจ้าเอาไว้ไม่ได้! เจ้าได้คิดทบทวนดีแล้วใช่มั้ย ” เย่ หรูซิ่ว ถาม ด้วยความกังวล เพราะถ้า เย่ ซีหวิน ไป สถาบันยอดยุทธ เธอคงจะไม่ได้เจอเขาอีกนาน
“ใช่แล้ว!” เย่ ซีหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
” เดี๋ยวก่อน ข้าลืมบอกสิ่งหนึ่งกับเจ้า อีกสองสามวันนี้จะมีงานชุมนุมของศิษย์แท้จริง และศิษย์เอก ศิษย์พี่ ฉู ได้ส่งบัตรเชิญมา ถ้าเจ้าไปร่วมการประชุมครั้งนี้ บางทีเจ้าอาจจะมีโอกาสได้ร่วมการคัดเลือก ” เย่ ฟง กล่าว และมองไปที่ เย่ ซีหวิน เนื่องจากเขายังไม่บรรลุขอบเขตลมปราณมหาเทพได้ในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถไปกับน้องชายได้
เย่ ฟง กำหมัดของเขาแน่น และแอบยินดีกับความสำเร็จของน้องชายของเขา เขายังอยู่ห่างไกลจากขอบเขตลมปราณมหาเทพ และเขาก็ยังห่างไกลจากระดับของน้องชายของเขา ปัจจุบันเขาอยู่ที่ขั้นที่ 8 ของลมปราณเทวะ และการบรรลุขอบเขตลมปราณมหาเทพได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น ก่อนที่เขาจะอายุ 30 ปี การบรรลุขอบเขตลมปราณมหาเทพไม่ถือว่าช้านัก นอกจากเขาแล้ว เย่ หรูซิ่ว, จางซุน หยู่อิน และคนอื่น ๆ จากกลุ่มเดียวกันก็ไม่ได้ช้าเลย ทุกคนจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า
เพียงชั่วพริบตาเวลาสองปีได้ผ่านไปจากกลุ่มสาวกใหม่ของสำนักยี่หยวน เย่ ฟง และคนอื่นๆ ตอนนี้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว แต่อย่างไรก็ตามตอนนี้น้องชายของเขากำลังจะออกจากนิกาย
” เอาล่ะ ข้าจะต้องไปแล้ว หากข้าผ่านการคัดเลือกของ สถาบันยอดยุทธ แล้ว สมาพันธ์เฉียนหยู่ ข้าขอมอบให้ท่านเป็นผู้ดูแล ” เย่ ซีหวิน กล่าว ” ข้าได้เจรจาสงบศึกกับ ฉู จิ้งฉาย แล้ว เขาและสมาพันธ์ของเขาจะไม่คุกคามสมาพันธ์เรา ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นเจ้าสามารถขอความช่วยเหลือจากเขาได้ “
ถ้า เย่ ฟง รู้เกี่ยวกับ สถาบันยอดยุทธ เขาก็ควรรู้เกี่ยวกับ ฉู จิ้งฉาย หากเขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนาน จะส่งผลกระทบต่อสมดุลของอำนาจภายในของนิกาย
” นอกจากนี้ ข้ายังมีผู้ช่วยที่แข็งแกร่งสำหรับท่าน เขาเป็นปีศาจหนังสือ และได้บรรลุขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท เมื่อเขากลายเป็นศิษย์เอกของสำนักยี่หยวน และเข้าร่วมสมาพันธ์เฉียนหยู่แล้ว เขาจะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสมาพันธ์ของเราได้อย่างมาก ” เย่ ซีหวิน กล่าว
” น้องเล็ก ต้องขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เจ้าทำเพื่อพวกเรา ” เย่ ฟง กล่าว นอกจากนี้เขาจะมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสมาพันธ์เฉียนหยู่ในสำนักยี่หยวน เว้นเสียแต่ว่าศิษย์แท้จริงอย่าง ฉู จิ้งฉาย จะโจมตีพวกเขา นอกจากนั้นก็ไม่มีใครสามารถสร้างปัญหาให้กับสมาพันธ์เฉียนหยู่ ในกรณีที่ไม่มี เย่ ซีหวิน
” ไม่เป็นไร พี่ชาย ” เย่ ซีหวิน ตอบด้วยรอยยิ้ม
หลังจากใช้เวลาคุยกันแบบพี่น้องอยู่พักหนึ่ง เย่ ซีหวิน ก็บอกกับพวกเขาว่า เขากำลังจะปิดด่านฝึกตน และไม่อยากให้ใครรบกวนเขา เย่ ฟง ตอนนี้เป็นผู้ดูแลสมาพันธ์เฉียนหยู่อย่างเป็นทางการ และ เย่ ซีหวิน ไม่ได้วางแผนจะเข้ามาแทรกแซง
แม้ว่า เย่ ซีหวิน จะปิดด่านฝึกตน แต่เหลือเวลาอีกเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น เขาใช้เวลาสองวันนี้เพื่อพักผ่อน เขาชอบนั่งอยู่คนเดียว และ วางแผนเกี่ยวกับการสอบคัดเลือกที่กำลังจะเกิดขึ้น
วันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว และในไม่ช้า งานชุมนุมของเหล่าศิษย์เอก กำลังจะเริ่มขึ้น
เย่ ซีหวิน ไปยัง ยอดขุนเขาจันทรา และนำลูกหมาป่าไปกับเขา งานชุมนุมของเหล่าสาวก กำลังจะจัดขึ้นที่ ยอดขุนเขาจันทรา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ ฉู จิ้งฉาย แน่นอนว่าเขาเดินทางมาถึงก่อน เพื่อมาต้อนรับแขกรับเชิญในฐานะเจ้าของ ยอดขุนเขา
ฉู จิ้งฉาย ไม่ได้เป็นสาวกของ ยอดขุนเขาจันทรา ตั้งแต่แรก แต่ตอนนี้เขาได้กลายเป็นสาวกพวกเขาอย่างฉับพลัน นี่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ตำแหน่งผู้นำของสำนักยี่หยวนเป็นของ ยอดขุนเขาจันทรา มาเป็นเวลานานหลายศตวรรษ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงนี้จึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ กล่าวได้ว่า ฉู จิ้งฉาย จะเป็นผู้ครองตำแหน่งหัวหน้านิกายคนต่อไป โดยไร้คู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นการเข้าร่วมสาวกของ ยอดขุนเขาจันทรา ของเขาได้ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว
บางทีในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้า หรือหนึ่งร้อยปีต่อมา เมื่อผู้นำนิกายคนปัจจุบันก้าวลงมาจากบัลลังก์แล้ว ฉู จิ้งฉาย จะกลายเป็นผู้นำของ สำนักยี่หยวน อย่างเป็นทางการ
แต่เรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ เย่ ซีหวิน เพราะเขาไม่เคยคิดจะเป็นผู้นำของสำนักยี่หยวน ในความเป็นจริงเขาไม่ได้สนใจแม้แต่การเป็นผู้นำของสมาพันธ์เฉียนหยู่ เขาชอบอิสระเหนือกว่าสิ่งอื่นใด!
ในเวลานี้มีสาวกนับร้อยคนที่ได้รับบัตรเชิญจาก ฉู จิ้งฉาย ได้มาชุมนุมกันอยู่ที่นี่ แม้แต่ผู้ที่ปิดด่านฝึกตนมาเป็นเวลาหลายปี ก็ละทิ้งการฝึกฝน เพื่อมาเข้าร่วมในการชุมนุมครั้งนี้
ฉู จิ้งฉาย กำลังจะได้เป็นผู้นำนิกายคนต่อไป จึงไม่มีใครกล้าโต้แย้งในเรื่องนี้
” ศิษย์พี่ เย่! “
” ศิษย์พี่ เย่ เขามาที่นี่ด้วย! “
” คารวะ ศิษย์พี่ เย่! “
” เขาคงเป็น ศิษย์น้อง เย่ ผู้ที่สร้างชื่อเสียงให้กับนิกาย? เขาเป็นอัจฉริยะหนุ่ม และเขาดูสง่างามจริงๆ! “
” เขาอายุเพียง 20 ปี และยังเป็นศิษย์แท้จริง เขาทำลายสถิติทั้งหมดของสำนักยี่หยวน แม้แต่ศิษย์พี่ ฮัว ก็ยังไม่เร็วเท่าเขา “
ตอนนี้ทั้ง เย่ ซีหวิน และ ฮัว หมิงฮัน ได้รับการยกย่องในงานชุมชนของเหล่าสาวก พวกเขาเป็นศิษย์แท้จริงสองคนที่อายุน้อยที่สุดของสำนักยี่หยวน
เย่ ซีหวิน มองไปทางที่นั่งรับรองแขก สังเกตเห็น สาวกคนอื่นๆ นั่งกันอยู่หลายคน และพูดคุยกันอย่างเพลิดเพลิน
มีหญิงสาวสองคนที่ค่อนข้างโดดเด่นในกลุ่ม และทั้งสองคนดูงดงาม ดูราวกับนางฟ้าที่ลงมาจากสวรรค์ หนึ่งในสองคนนี้คือ ฮัว หมิงฮัน และหญิงสาว อีกคนก็เป็นหนึ่งในหกของ ศิษย์แท้จริง มีชื่อว่า สุ่ยเหยียน ลั่ว
แม้จะมองจากระยะไกลก็ไม่อาจปฏิเสธความงามของ ฮัว หมิงฮัน ส่วนหญิงสาวอีกคน สุ่ยเหยียน ลั่ว เธอมีบุคลิกที่เป็นผู้ใหญ่ และมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มดูเป็นมิตร
นั่งถัดจาก สุ่ยเหยียน ลั่ว และ ฮัว หมิงฮัน คือ ฉี เฟ่ยฝาน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และดวงตาสีทองอันสดใส เช่นเดียวกับผมสีบลอนด์ของเขา
ถัดจากเขา ชายคนหนึ่งในเสื้อคลุมสีเหลือง เขาก็เป็นหนึ่งในหกศิษย์แท้จริง ชื่อ หวง ลั่วเฉิน และบุคลิกของเขาตรงกันข้ามกับอารมณ์ที่แจ่มใสของ ฉี เฟ่ยฝาน เขาดูเยือกเย็นเหมือนภูเขาน้ำแข็ง
และถัดไป คือ ฉู จิ้งฉาย นั่งอยู่ข้างๆ พวกเขา เขาถูกสวมเสื้อคลุมจีนที่สง่างาม และมีออร่าอันน่าเกรงขาม การมารวมตัวของพวกเขาเป็นสิ่งที่ดีมาก เมื่อ เย่ ซีหวิน ได้เห็น
ในกลุ่มของเหล่าศิษย์แท้จริงนี้ มีชายสองคนที่เขาไม่รู้จัก ใบหน้าของพวกเขา หนึ่งในนั้นดูอายุราว ๆ 20 ปี สวมเสื้อคลุมลายปัก และดูหล่อเหลา แต่มีร่องรอยของความหยิ่งทะนงตนอยู่บนใบหน้า โดยเฉพาะเมื่อตอนที่เขากำลังมองไปทางศิษย์เอกของสำนักยี่หยวน ความเย่อหยิ่งบนใบหน้าก็ปรากฏเด่นชัด
ชายอีกคนก็ดูเย่อหยิ่งไม่ต่างกัน เขามีรูปร่างสูง และสวมเสื้อคลุมสีขาว
” น้องชาย เย่ , ในที่สุดเจ้าก็มา! ” ใบหน้าของ ฉู จิ้งฉาย ปรากฏความยินดี ในขณะที่ เย่ ซีหวิน เดินเข้ามาถึง พวกเขาก็รีบลุกขึ้นต้อนรับ เย่ ซีหวิน ด้วยรอยยิ้มที่สดใส
” คารวะ ศิษย์พี่ ฉู ” เย่ ซีหวิน ประสานมือ และกล่าวทักทายทุกคน ” คารวะศิษย์พี่ และศิษย์น้อง!”
นอกจาก ฮัว หมิงฮัน แล้ว ทุกคนที่อยู่ที่นี่อายุมากกว่าเขา เขาควรวางตัวให้สุภาพ และแสดงความเคารพ พวกเขาอย่างนอบน้อม
” น้องชาย เย่ ข้าจะแนะนำเจ้ารู้จักกับทั้งสองนี้ คนนี้ คือ ศิษย์น้อง หยาง ลี่เฟย และ หยาง กู่หยัน ” ฉู จิ้งฉาย แนะนำพวกเขาให้รู้จักกับ เย่ ซีหวิน
“จริงๆ แล้วปู่ของ หยาง ลี่เฟย เป็นสาวกของสำนักยี่หยวน มันเป็นโชคชะตาสำหรับนิกายของเรา อาจกล่าวได้ว่าบรรพบุรุษของเราเป็นส่วนหนึ่งของ สถาบันยอดยุทธ! ” ฉู จิ้งฉาย กล่าว
ทั้ง หยาง ลี่เฟย และ หยาง กู่หยัน เป็นสาวกรุ่นเยาว์ที่มีพรสวรรค์ของ สถาบันยอดยุทธ อย่างไรก็ตาม ความเย่อหยิ่งที่ปรากฏบนใบหน้าของพวกเขาทำให้ เย่ ซีหวิน ค่อนข้างอึดอัด
” พวกเราโชคดี และต้องขอบคุณท่านผู้นำของ หยาง ลี่เฟย ได้ส่ง หยาง หวง มาคัดเลือกผู้เข้าร่วม สถาบันยอดยุทธ ด้วยตนเอง ” ฉู จิ้งฉาย กล่าว และยิ้ม เพราะตอนนี้เขาไม่สามารถเข้าร่วมการทดสอบของ สถาบันยอดยุทธ ได้อีกต่อไป
หยาง ลี่เฟย พยักหน้า และเหลือบมองไปที่ เย่ ซีหวิน ด้วยแววตาที่รังเกียจ
” ข้าเหม็นหน้า ไอ้พวกหยิ่งยโสเหล่านี้! ” ลูกหมาป่า บอกกับ เย่ ซีหวิน มันไม่ชอบแววตาที่เขากำลังมองมาในเวลานี้
” ข้ารู้สึกอยากตบหน้าที่เย่อหยิ่งของพวกมันทั้งสอง! ” เสียงของ เยโม่ ดังขึ้นในจิตใจของ เย่ ซีหวิน
” ฮ่า ฮ่า ฮ่า น้องชาย เย่ , เจ้า และ หยาง ลี่เฟย เป็นคนหนุ่มรุ่นราวเดียวกัน ทั้งสองเป็นคนที่มีชื่อเสียงของสาวกรุ่นเยาว์ แต่ หยาง ลี่เฟย มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อสำนักยี่หยวน พวกเจ้าทั้งสองควรเป็นเพื่อนสนิทที่ดีต่อกันในอนาคต ” ฉู จิ้งฉาย กล่าว ด้วยรอยยิ้ม
” ข้าไม่คิดเช่นนั้น ไม่มีทางที่ผู้ชายคนนี้จะมีค่าพอ ถูกเรียกว่าเป็น สาวกที่โดดเด่นของสาวกรุ่นเยาว์! ” หยาง กู่หยัน มองมาที่ เย่ ซีหวิน ด้วยสายตาที่เหยียดหยาม และกล่าว เห็นได้ชัดเจนว่าเขาไม่อยากรู้จัก เย่ ซีหวิน และใช้โอกาสนี้พูดจาดูถูก เย่ ซีหวิน ต่อหน้าทุกคน
” บางทีความแข็งแกร่งของเจ้า อาจจะพอมีชื่อเสียงบ้างในภาคตะวันออกเฉียงใต้ แต่สำหรับสาวกของ สถาบันยอดยุทธ เจ้าไม่มีทางเทียบได้เลย ” หยาง กู่หยัน กล่าวต่อ และไม่ไว้หน้าเขา ในขณะมอง เย่ ซีหวิน อย่างดูหมิ่น
ภาคตะวันออกเฉียงใต้เป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยโดดเด่นนักทางตอนใต้ และ สถาบันยอดยุทธ ก็ได้รับความสนใจจากอัจฉริยะจากทั่วทั้งภูมิภาค ดังนั้นเห็นได้ชัดว่าชื่อเสียงของ เย่ ซีหวิน มีเฉพาะในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ นั้นคือสิ่งที่เขาคิด และเขาจึงมองอย่างรังเกียจมาที่ เย่ ซีหวิน
” ข้าไม่เคยเห็นใคร กล้าพูดจาอวดดีเช่นนี้มาก่อน? ” ลูกหมาป่า กล่าวด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ถึงมันจะเป็นหมาป่าที่เย่อหยิ่ง แต่ก็ไม่เคยเจอใครพูดจาเย่อหยิ่งมากเท่านี้มาก่อน
ทันทีที่ ฉี เฟ่ยฝาน และคนอื่นๆ ได้ยินเรื่องนี้ ใบหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนสีทันที