Martial God Space - ตอนที่ 277
Martial god space ตอนที่ 277 เจ้าก็เป็นสุนัข
คำพูดเหล่านี้ไม่เพียงจงใจที่จะดูถูกและเหยียดหยาม เย่ ซีหวิน เท่านั้น แต่มันรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญของภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมด
หยาง ลี่เฟย ไม่ได้พูดอะไร ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาสนับสนุนคำพูดของสหายของเขา แม้ว่าบรรพบุรุษของเขาเคยเป็นสาวกของสำนักยี่หยวน แต่นั้นไม่ได้หมายความว่า เขาจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษต่อสำนักยี่หยวน หรือคนของเขา
แม้ว่าสำนักยี่หยวนจะเป็นหนึ่งในสิบอาณาจักรในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ แต่ก็เป็นเพียงนิกายระดับปานกลางเท่านั้น ในความเป็นจริง ถึงแม้สำนักยี่หยวนจะเป็นนิกายที่มีอิทธิพลอย่างมากในอาณาจักรหุบเขา แต่ผู้คนอีกจำนวนมากยังไม่เคยได้ยินชื่อของมันมาก่อน
แม้ หยาง กู่หยัน จะพูดโดยไม่ตั้งใจ แต่เหล่าสาวกของสำนักยี่หยวนก็เข้าใจถึงความหมายของมัน ตอนนี้มันไม่สำคัญว่าคำพูดนั้นเป็นความจริงหรือไม่ พวกเขากำลังโกรธมาก เพราะนิกายของพวกเขาถูกดูหมิ่นต่อหน้าต่อตาของพวกเขา ไม่ใช่แค่ เย่ ซีหวิน เพราะความภาคภูมิใจของพวกเขาได้ถูกทำลายโดยคนนอก
” บัดซบ ไอ้คนอวดดี! ถ้าข้าได้ต่อสู้กับมัน ข้าจะฉีกร่างของเจ้าออกเป็นชิ้นๆ ด้วยกรงเล็บของข้า! ” ลูกหมาป่า กำลังสื่อสารโดยการใช้ทักษะการค้นหาจิตวิญญาณ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามันไม่สามารถทนต่อพฤติกรรมที่หยิ่งยโสของ หยาง กู่หยัน ได้
เย่ ซีหวิน ดูสงบนิ่งมาก หากมองเพียงภายนอก แต่ในตอนนี้สมองของเขากำลังคิดกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่อยู่เหนือการควบคุม
เย่ ซีหวิน เฝ้าสังเกตชายหนุ่มทั้งสองคนอย่างรอบคอบ และเห็นได้ชัดว่าอายุของ หยาง กู่หยัน ยังไม่ถึง 50 ปี แต่อยู่ในระดับสูงสุดของขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท เท่าที่ เย่ ซีหวิน รู้มีเพียงจักรพรรดิเฉิน และคนที่มีพรสวรรค์มากพอ ถึงจะก้าวสู่ระดับที่สูงได้ตั้งแต่อายุยังน้อย
ความแข็งแกร่งของ สถาบันยอดยุทธ ไม่ใช่เรื่องตลก
หยาง ลี่เฟย นั้นตรงกันข้ามกัน เขาอยู่ในขอบเขตระดับตำนานครึ่งก้าว และไม่เหมือนผู้เชี่ยวชาญทั่วไป ไม่น่าแปลกใจที่เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง
ด้วยอายุของเขา แต่สามารถบรรลุระดับการเพาะบ่มที่สูงได้ในยุคนี้ แน่นอนว่าเขาจะต้องได้รับมรดกอันล้ำค่าบางอย่าง
ฉี เฟ่ยฝาน กำลังยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง สีใบหน้าของเขามีสีแดงเล็กน้อย แต่มีรอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังโกรธ หรือไม่โกรธ ไม่อาจคาดเดาได้
” น้องชาย กู่ นี่ไม่ใช่คำพูดที่เหมาะสมในการพูดกับเพื่อนของเจ้า โลกใบนี้กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยคนที่มีพรสวรรค์นับไม่ถ้วน บางที น้องชาย เย่ อาจเป็นอัจฉริยะแท้จริงตามที่ พี่ชาย ฉู กล่าว ” หยาง ลี่เฟย พยายามพูดไกล่เกลี่ย แต่ยังมีความเย่อหยิ่งในน้ำเสียงของเขา
เย่ ซีหวิน ไม่ได้ใส่ใจคำพูดของพวกเขา เขานั่งลงบนเก้าอี้หิน ดูราวกับว่าเรื่องทั้งหมดนี้ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อเขาเลย
ฉู จิ้งฉาย ทำได้แค่เพียงยิ้มอย่างขมขื่น และไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องราวใหญ่โตถึงเพียงนี้ มันยากที่คาดเดาว่าเรื่องทั้งหมดจะจบอย่างไร
นิสัยของ เย่ ซีหวิน เป็นที่รู้กันดีในบรรดาศิษย์แท้จริงทั้งสี่ ก่อนที่ ฉี เฟ่ยฝาน จะมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ เย่ ซีหวิน เขาจะทำอย่างไรหากตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ฉี เฟ่ยฝาน ติดต่อพูดคุยกับ เย่ ซีหวิน อยู่เสมอ และในบรรดาสาวกรุ่นก่อนๆ มีเพียงเขาเท่านั้นที่พอจะเป็นคู่แข่งที่สูสีกับ เย่ ซีหวิน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของสำนักยี่หยวนการต่อสู้ระหว่าง เย่ ซีหวิน และ ฉี เฟ่ยฝาน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะพวกเขาทั้งสองเป็นสาวกระดับตำนานของ สำนักยี่หยวน
เย่ ซีหวิน เป็นเหมือนกับ ตัวเม่น และไม่มีใครกล้าสัมผัสเขา แต่เมื่อใดที่สัมผัสเขาแล้ว มักจบไม่สวยทุกราย! เย่ ซีหวิน เป็นคนที่ไม่ชอบถูกควบคุม เขาหยิ่งในศักดิ์ศรี
ตอนนี้ ฉู จิ้งฉาย เป็นเจ้าภาพที่จัดงานนี้ขึ้นมา แต่พวกเขาทั้งสองตอนนี้กำลังจะปะทะกัน ในสถานการณ์เช่นนี้ เขาควรทำอย่างไรดี?
แน่นอน ทุกคนเห็นว่า เย่ ซีหวิน ไม่ยอมไว้หน้าเขา และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำสีหน้าของ หยาง ลี่เฟย เต็มไปด้วยความไม่พอใจ
” ทุกคนโปรดนั่งลงก่อน และพักผ่อนให้สบายใจ วันนี้ข้าได้จัดเตรียมอาหารมาต้อนรับ หยาง ลี่เฟย และ หยาง กู่หยัน ข้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ทั้งสองท่านได้เดินทางยังสำนักยี่หยวนของเรา ” ฉู จิ้งฉาย กล่าว
ฉู จิ้งฉาย เป็นคนที่มีไหวพริบ เขาพยายามสงบสติอารมณ์ของทุกฝ่ายลง เพราะไม่เพียงแค่กังวลเกี่ยวกับ เย่ ซีหวิน เท่านั้น เหล่าศิษย์เอกที่โดนดูถูกด้วยคำพูดหยาบคายของ หยาง กู่หยัน และ ฉู จิ้งฉาย ต้องพยายามเบนความใจทั้ง เย่ ซีหวิน และเหล่าศิษย์เอกไม่ให้ทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
เย่ ซีหวิน ไม่ได้ตอบโต้ตามที่ทุกคนกำลังคาดไว้ ในขณะที่ ฉู จิ้งฉาย กำลังยุ่งอยู่กับการรับมือสถานการณ์ ส่วน เย่ ซีหวิน กำลังยุ่งอยู่กับการคุยกับ เยโม่
” สถาบันยอดยุทธนี้ ดูเหมือนจะเป็น สถาบันชั้นนำของทางตอนใต้ เจ้าคิดว่าอย่างไร? ” เย่ ซีหวิน กล่าว
” บางที อาจมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้สาวกของพวกมันแข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ข้ารู้สึกเกลียดพวกมันทั้งสองคน ” เยโม่ กล่าว
เย่ ซีหวิน ไม่ได้ใส่ใจท่าทางที่เย่อหยิ่งของพวกเลย เพราะเขามัวแต่คิดว่า สถาบันยอดยุทธ จะต้องเป็นสถานที่ที่เต็มไปผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังมากมาย ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นในการแข่งขัน และกระตุ้นให้อยากเอาชนะพวกเขาทั้งหมด นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวใจของเขา
สำนักยี่หยวน ไม่ได้มีสัตว์ประหลาดหลายคน อย่างไรก็ตาม แค่คิดว่าจะได้เผชิญหน้ากับเหล่าอัจฉริยะมากมายใน สถาบันยอดยุทธ นั้นเป็นสิ่งที่ท้าทาย และน่าตื่นเต้นสำหรับเขา
มือทั้งสองข้างพริ้วไหว ฉู จิ้งฉาย กำลังเล่นกู่เจิง ทำให้เกิดเสียงดนตรีอันนุ่มนวลราบรื่นดุจเมฆาเคลื่อนคล้อย และเสียงอันสดใสของมันราวกับสายน้ำที่ไหลริน ฉู จิ้งฉาย บรรเลงเพลงได้ไพเราะจนดึงดูดนกบินลงมาเกาะอยู่ข้างๆ และเขาเริ่มร้องเพลงเชยชมธรรมชาติได้น่ารื่นรมย์ยิ่งนัก
ทุกคน กำลังเพลิดเพลินกับเสียงเพลงอันไพเราะ ในระหว่างทานอาหาร มีเพียงลูกหมาป่าเท่านั้นที่ไม่ได้เพลิดเพลินกับเสียงเพลง และยังคงหงุดหงิด มันเคี้ยวอาหารเสียงดัง และกินอย่างตะกรุมตะกราม
” เจ้าหยุด ทำเสียงน่ารำคาญเสียที! ” ทันใดนั้น หยาง กู่หยัน ก็ตะโกนเสียงดังขึ้นมา พร้อมกับยิงลำแสงพลังอันร้ายกาจไปยังลูกหมาป่า
ลูกหมาป่า กำลังเพลิดเพลินอยู่กับการกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย แต่ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาก็ไม่ได้ช้าลง มันรีบกระโดดไปด้านข้าง เพื่อหลบการโจมตี แล้วตะโกนว่า ” ไอ้สารเลว เจ้ากล้าดียังไงถึงกล้าลงมือทำร้ายข้า? “
เห็นได้ชัดว่า เย่ ซีหวิน ไม่ชอบใจสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น และจ้องมองไปที่ หยาง กู่หยัน การโจมตีครั้งนี้ของเขาหมายเอาชีวิตลูกหมาป่า และ เย่ ซีหวิน จะไม่ยอมปล่อยให้มันเกิดขึ้น
” สุนัขตัวนี้ฉลาดแถมมีภูมิปัญญา? ” หยาง กู่หยัน ไม่เคยเจอสัตว์เลี้ยงปีศาจที่มีภูมิปัญญา และเขาไม่คิดว่ามันจะสามารถพูดได้
ลูกหมาป่าโกรธจัด และตะโกนไปที่ หยาง กู่หยัน ” เจ้าก็เป็นสุนัข ทั้งตระกูลของเจ้าก็เป็นสุนัข!”
สีหน้าของ หยาง กู่หยัน เปลี่ยนไปทันที เขามองไปทาง เย่ ซีหวิน และกล่าวว่า ” น้องชาย เย่ เจ้าเป็นคนฝึกสุนัขตัวนี้หรือไม่? เจ้าไม่ได้สอนมารยาทให้มันด้วยเหรอ หากเจ้าไม่สามารถแม้แต่จะสอนสุนัข ทำไมเจ้าไม่ให้ข้าเป็นคนสอนมันแทนเจ้า? “
” สอนปู่ของเจ้าน่ะสิ ไม่มีใครฝึกองค์ชายคนนี้ได้ ข้าจะฝึกปู่ของเจ้าให้เอง! ” ลูกหมาป่า ทนไม่ได้ที่โดนดูถูกเป็นสัตว์ชั้นต่ำ มันไม่ใช่สัตว์เลี้ยง และไม่เคยถูกฝึกอย่างสัตว์เลี้ยง
” ย่าส์! ” หยาง กู่หยัน คำราม และยิงลำแสงขนาดใหญ่ไปทางมันอีกครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ลูกหมาป่าจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เย่ ซีหวิน ก็ปรากฏตัวต่อหน้าของมันในชั่วพริบตา และจับลำแสงนั้นเอาไว้ในมือ
” เจ้าจะทำอะไร ? อย่าบอกนะว่า เจ้าต้องการปกป้องสุนัขตัวนี้? ” หยาง กู่หยัน มองอย่างโกรธแค้น เห็นได้ชัดว่าเขาไม่พอใจที่ เย่ ซีหวิน เข้ามาแทรกแซง
” ไอ้ลูกหมา ไอ้สารเลว!” ลูกหมาป่า ตะโกนขึ้นอีกครั้ง
ถ้า เย่ ซีหวิน ไม่เข้ามาแทรกแซงเขา เขาคงฉีกร่างลูกหมาป่าตัวนี้ออกเป็นชิ้นๆ ไปแล้ว
เย่ ซีหวิน หัวเราะเยาะเย้ย และกล่าวว่า “ปกป้อง? เจ้าเข้าใจผิดแล้ว! ข้าไม่จำเป็นต้องปกป้องเขา แต่ข้าเห็นว่าเจ้า จงใจจะฉีกร่างของเขา ออกเป็นชิ้นๆ และข้าต้องการคำอธิบายว่า ทำไมเจ้าถึงทำร้ายเขา? “
หยาง กู่หยัน ทำสีหน้าจริงจัง และพูดว่า ” เขาทำเสียงดังเกินไป นั่นคือเหตุผล “
” เพราะเจ้าเห็นว่าเขาทำเสียงดัง งั้นก็ดี เพราะข้าก็เห็นว่าเจ้าส่งเสียงดังเกินไปเช่นกัน ” เย่ ซีหวิน ยิ้มอย่างเย้ยหยันแล้วพุ่งตรงไปหา หยาง กู่หยัน ด้วยความเร็วราวกับกระสุนปืน ผิวของ เย่ ซีหวิน เปลี่ยนเป็นสีทอง และเขายิงลำแสงสีทองออกจากฝ่ามือไปยัง หยาง กู่หยัน ทันที
” เฮ้ พวกเจ้าทั้งสอง. . . . ฉู จิ้งฉาย ยืนขึ้น และพยายามจะเข้าไปไกล่เกลี่ยพวกเขาทั้งสอง แต่รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันรุนแรงของออร่าที่ออกมาจาก หยาง ลี่เฟย
หยาง ลี่เฟย ยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า ” พี่ชาย ฉู ทำไมท่านดูกังวลนัก? ท่านควรผ่อนคลาย และชมการแสดงจะดีกว่า ข้าก็อยากเห็นฝีมืออันดับหนึ่งของผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดของภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ “
ฉู จิ้งฉาย กำลังจะเข้าไปเพื่อแทรงแซงการต่อสู้ แต่ ฉี เฟ่ยฝาน สื่อสารผ่านการค้นหาจิตวิญญาณ และกล่าวว่า ” อย่ากังวลเลย มันเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าใครจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ “
ในบรรดาผู้คนทั้งหมดที่นี่ มีเพียง ฉี เฟ่ยฝาน ที่เข้าใจ เย่ ซีหวิน มากที่สุดและรู้ว่าเขาจะทำอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ เขารู้ว่า เย่ ซีหวิน จะไม่ต่อสู้กับศัตรูที่เขาไม่สามารถเอาชนะได้ ไม่ต้องเอ่ยถึงการต่อสู้ของ เย่ ซีหวิน ค่อนข้างท้าทาย เพราะเขาเคยเอาชนะคู่ต่อสู้ในระดับที่สูงกว่า!
ฉู จิ้งฉาย นั่งลง และเริ่มเฝ้าดูการต่อสู้ อย่างไรก็ตามเขาเตรียมจะเข้าแทรกแซงทันที หากชีวิตของใครบางคนตกอยู่ในอันตราย เพราะเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญในระดับตำนาน และเป็นหน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าภาพเช่นกัน
เหล่าศิษย์เอกกำลังเฝ้าดูการต่อสู้ และพวกเขาต่างรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง พวกเขามั่นใจว่า เย่ ซีหวิน กำลังจะสอนบทเรียนให้กับคนที่เย่อหยิ่งเช่น หยาง กู่หยัน
แม้ว่ามีผู้คนจำนวนมากที่ไม่เคยเห็นการต่อสู้ของ เย่ ซีหวิน แต่พวกเขาก็สัมผัสถึงความแข็งแกร่ง และทักษะที่ยิ่งใหญ่ของเขาได้
นอกจากนี้ เย่ ซีหวิน ยังเป็นตัวแทนของสำนักยี่หยวนในการต่อสู้ครั้งนี้ หรือบางทีอาจจะเป็นทั้งสิบอาณาจักรในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
หยาง กู่หยัน เป็นศิษย์ของ สถาบันยอดยุทธ!
ชื่อเสียงของภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ทั้งหมดถูกวางเป็นเดิมพัน!
” ย่าส์! ” หยาง กู่หยัน ยิงลำแสงเข้าปะทะกับลำแสงสีทองกลางอากาศ และทำให้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ ในขณะนั้น หมัดของ หยาง กู่หยัน ก็ตรงเข้ามาถึงหน้า เย่ ซีหวิน
นี่เป็นครั้งแรกที่การโจมตีของ เย่ ซีหวิน ถูกทำลายได้อย่างง่ายดาย ลูกศิษย์ของ สถาบันยอดยุทธ แข็งแกร่งสมคําร่ำลือ
กงเล็บมังกรของ เย่ ซีหวิน ปะทะกับการโจมตีของ หยาง กู่หยัน และทำให้เกิดการระเบิดอีกครั้ง
“ตูมมมมม!” แรงระเบิดครั้งนี้น่าสะพรึงกลัวมาก พลังทำลายล้างจากแรงระเบิดกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง
ฉู จิ้งฉาย ใช้กฎแห่งโลกเพื่อสร้างม่านพลังป้องกันเหล่าศิษย์เอกจากแรงระเบิด พลังทำลายล้างจากแรงระเบิดในครั้งนี้ของพวกเขาทั้งสองน่าสะพรึงกลัวมาก
แม้ว่า เย่ ซีหวิน และ หยาง กู่หยัน จะอยู่ในขอบเขตลมปราณเดียวกัน แต่ความแตกต่างระหว่างพวกเขานั้นใหญ่มาก เปรียบเทียบเหมือนกับสาวกระดับ ศิษย์เอก และผู้เชี่ยวชาญที่ขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท
” เปรี้ยงงงงง! ” การปะทะกันครั้งต่อมาทำให้เกิดคลื่นกระแทกอย่างรุนแรง จนทำให้ม่านพลังป้องกันสั่นสะเทือน และคลื่นแรงกระแทกบางส่วนทะลุเข้ามาถึงข้างใน
ส่วนบนสุดของยอดขุนเขาจันทรา และบริเวณโดยรอบถูกทำลายล้างจนกลายเป็นพื้นที่ราบรกร้าง