Martial God Space - ตอนที่ 275
Martial god space ตอนที่ 275 หมาป่าจอมตระกละ
หลังจากฆ่า ชิโม่ แล้ว เย่ ซีหวิน ก็ไม่ได้เดินต่อเข้าไปในส่วนลึกของห้องสมุด แม้ว่าเขาต้องการอ่านหนังสือทั้งหมด แต่ก็มีหนังสือที่แข็งแกร่งมากมายหลายเล่มอยู่ในระดับตำนานครึ่งก้าว หรือเหนือกว่า ปัจจุบันเขาไม่ได้เป็นศัตรูของเหล่าปีศาจหนังสือเหล่านี้ แต่เขาก็ได้รับประโยชน์อย่างมากจากห้องสมุดนี้
เขาเดินตรงเข้าไปยังส่วนที่เก็บหนังสือ และบันทึกเกี่ยวกับ สถาบันยอดยุทธ ของห้องสมุด
สถาบันยอดยุทธ ได่ก่อนตั้งขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว นับตั้งแต่บรรพบุรุษของมนุษย์มาถึง โลกแห่งวรยุทธ เพื่อปกป้องการรุกรานจากสัตว์ปีศาจ พวกเขาได้สร้างสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมาเพื่อเก็บรักษา และสืบทอดมรดกเคล็ดวิชาการต่อสู้ตั้งแต่ยุคโบราณ
ประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนานของมนุษยชาติ และไม่มีใครรู้ว่าเมื่อมันเริ่มต้นเมื่อไหร่ เนื่องจากสงครามก่อนหน้านี้ และเหตุผลอื่นๆ ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติได้ล่มสลาย และผ่านยุคมืดมากมาย หลายสิ่งถูกฝังกลบไปตามกาลเวลา
อาจกล่าวได้ว่าทางตอนใต้ และโลกแห่งวรยุทธทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพลขนาดใหญ่ หรือเล็ก ในบริเวณใกล้เคียง ไม่มากก็น้อย ต่างมีต้นกำเนิดมาจาก สถาบันยอดยุทธ ในความเป็นจริง นิกายทั้งหมด และกลุ่มที่มีอิทธิพลส่วนใหญ่ ต่างก็เริ่มต้นมาจากเหล่าสาวกของ สถาบันยอดยุทธ ในอดีต
อาจกล่าวได้ว่า หนังสือเหล่านี้มีเพียงข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ สถาบันยอดยุทธ เท่านั้น ซึ่งทำให้เขารู้สึกผิดหวัง แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ และยังดีกว่าที่เขาไม่รู้อะไรเลย
ในที่สุด เย่ ซีหวิน ก็ตัดใจ มันถึงเวลาแล้วที่เขาควรจะกลับออกไป เขาพา เย่ ซู กลับออกมาจากห้องสมุดด้วย
ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะพา หนังสือปีศาจ ออกจากห้องสมุด เว้นแต่จะมีคุณสมบัติเพียงพอ หรือได้รับการรับรองจากมีผู้มีอำนาจ เย่ ซีหวิน มีคุณสมบัติผ่านตามข้อบังคับ และมีสถานะเป็นศิษย์แท้จริง เขาเป็นหนึ่งในผู้ที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำนิกายในอนาคต
การพาตัว เย่ ซู ออกไปไม่ใช่ปัญหา สามารถทำได้โดยใช้แต้มชื่อเสียงในการแลกเปลี่ยน แต่เนื่องจาก เย่ ซีหวิน เคยได้รับแต้มชื่อเสียงเป็นจำนวนมากในเหตุการณ์บน เกาะเหล็กไหล และไม่เคยนำออกมาใช้เลย ดังนั้นตอนนี้เขาสามารถยืม หนังสือปีศาจ ออกไปได้
” เจ้าจะพาเขาไปด้วยเหรอ? ” ชายชราผู้ดูแลห้องสมุด มองไปที่ เย่ ซีหวิน ด้วยแววตาที่คาดไม่ถึง และสิ่งที่น่าแปลกใจที่สุด คือ การยกระดับการเพาะบ่มของ เย่ ซู ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เย่ ซู เป็นหนึ่งในปีศาจหนังสือที่คอยช่วยงานของ ชายชราผู้ดูแลห้องสมุดแห่งนี้ ดังนั้นเขาสามารถจำระดับความแข็งแกร่งของ เย่ ซู ก่อนที่มันจะไปกับ เย่ ซีหวิน
“ใช่ ” เย่ ซีหวิน กล่าว
” อืม มองจากระดับการเพาะบ่มในปัจจุบันของเจ้า แน่นอนคุณสมบัติของเจ้าผ่านข้อกำหนด ” ชายชรา มอง และยิ้มอย่างมีความสุขไปที่ เย่ ซู และ กล่าวว่า ” ดูเหมือนว่าเจ้าจะได้รับโชคอย่างมากในครั้งนี้? อนาคตของเจ้าในวันข้างหน้าจะไร้ขีดจำกัด! “
” ขอบคุณ ท่านผู้อาวุโส! ” ดวงตาของ เย่ ซู เต็มไปด้วยน้ำตา ถ้าไม่ใช่เพราะชายชราคนนี้ หนังสือปีศาจเล่มหนึ่งที่มีระดับต่ำกว่าปีศาจไม่มีทางเอาชีวิตรอดได้ เขาอาจถูกจับไปเป็นทาสของ ปีศาจหนังสือที่ทรงพลัง หรือถูกกิน
ภายในโลกของหนังสือ ยึดกฎของป่าเป็นที่ตั้ง และเขาคงไม่อาจเอาชีวิตรอดมาได้เป็นเวลาอันยาวนาน หากไม่ได้ชายชราคนนี้ยื่นมือเข้ามาช่วยเอาไว้
” เย่ ซีหวิน ชายชราคนนี้เป็นปีศาจหนังสือ เขาเป็นสัตว์ประหลาดที่น่าเกรงขามมาก ” ในเวลานี้เสียงของ เยโม่ ดังขึ้นในใจของ เย่ ซีหวิน และในที่สุดก็ยืนยันตัวตนที่แท้จริงของเขาได้ ชายชราคนนี้เป็นปีศาจหนังสือที่มีระดับการเพาะบ่มที่ลึกซึ้งมาก เขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลห้องสมุดแห่งนี้ และเขาเพียงคนเดียวก็สามารถทำหน้าที่เป็นผู้ปราบปรามปีศาจหนังสือนับไม่ถ้วน
หลังจากกล่าวอำลาชายชรา ทั้งสองคนก็เดินออกมาจากห้องสมุด นี่เป็นครั้งแรกที่ เย่ ซู ก้าวเข้ามาสู่โลกใบนี้ สามารถมองเห็นความตื่นเต้นดีใจปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา
หลังจากใช้เวลาไม่กี่เดือนในโลกของหนังสือ ระดับการเพาะบ่มของ เย่ ซีหวิน ได้ยกระดับขึ้นอย่างมาก
เย่ ซีหวิน กลับมาถึงยอดขุนเขาเฉียนหยู่ ก็พบว่าสถานที่ทั้งหมดได้ถูกทำลายโดยลูกหมาป่า ไม่ว่าจะเป็น นกกระเรียน และสัตว์เลี้ยงปีศาจที่ถูกเพาะเลี้ยงโดยสาวกของ สมาพันธ์เฉียนหยู่ มานานกว่าหนึ่งปีได้ถูกกินโดยลูกหมาป่า และไม่ต้องพูดถึง แม้แต่โอสถทิพย์ และ โอสถหลอมจิตวิญญาณ ก็เผชิญชะตากรรมที่คล้ายๆ กัน ในช่วงเวลาสั้นๆ สามเดือน ทรัพยากรที่สำคัญทั้งหมดถูกเขมือบหมดโดยลูกหมาป่าตัวนี้
หลังจากกลับมาสิ่งแรกที่ เย่ ซีหวิน ได้เห็นก็คือ ลูกหมาป่า กำลังย่างลูกกระต่าย เหมือนเมื่อตอนที่ เย่ ซีหวิน เคยทำบนเกาะปีศาจ เย่ ซีหวิน โกรธมาก เมื่อเขาเห็นสิ่งนี้ เขาเดินเข้าไปตบหน้าของมัน และส่งมันกระเด็นปลิวขึ้นไปบนท้องฟ้า
เจ้านำสัตว์เลี้ยงทั้งหมด และนกกระเรียนที่มีค่าเหล่านี้มาย่างกินได้อย่างไร?
เย่ ซีหวิน ไม่อยากเชื่อว่า ลูกหมาป่า จะทำสิ่งเหล่านี้ ในช่วงที่เขาไม่อยู่
นับตั้งแต่วันที่ เย่ ซีหวิน ออกจากยอดขุนเขาเฉียนหยู่ ลูกหมาป่า ก็ได้กินนกกระเรียน และสัตว์เลี้ยงที่มีค่าของสมาพันธ์เฉียนหยู่ อย่างต่อเนื่อง ไม่มีใครกล้าหยุดลูกหมาป่าตัวนี้ และในความเป็นจริงไม่มีใครที่อยู่บนยอดขุนเขาเฉียนหยู่ สามารถหยุดมันได้
ลูกหมาป่าอยู่ในลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8 เมื่อครั้งที่มันมาถึงที่นี่ แต่ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา มันได้ก้าวเข้าสู่ขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท
เป็นไปตามการคาดเดาของ เยโม่ แม้ว่าลูกหมาป่า จะจำต้นกำเนิดของตัวเองได้ไม่มากนัก แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นสายเลือดของตระกูลราชวงศ์หมาป่า ก่อนที่อาณาจักรสวรรค์โบราณจะล่มสลาย มันอยู่ในไข่ที่ถูกฝังเอาไว้ใต้พื้นดินมาเป็นเวลานานหลายศตวรรษ ทำให้สูญเสียพลังอำนาจไปเพราะอยู่ในไข่มานานเกินไป แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่า มันเป็นลูกหมาป่าของตระกูลราชวงศ์ และมีอนาคตข้างหน้าที่ไร้ขีดจำกัด
โดยเฉพาะ ลูกหมาป่าตัวนี้ มีความแตกต่างจากลูกปีศาจตัวอื่นๆ และความทรงจำส่วนใหญ่ของมันได้ถูกลบเลือนไปตามกาลเวลา ทำให้ยากที่จะคาดเดาขอบเขตพลังอำนาจของมัน หากมันสามารถฟื้นฟูความแข็งแกร่งกลับมาได้
สิ่งนี้หมายถึงอะไร? หรือ นั่นก็หมายความว่า ลูกหมาป่าตัวนี้ มีอัตราการเติบโตด้วยความเร็วที่ไม่อาจคาดเดาได้โดยไม่ต้องเผชิญกับอุปสรรคใดๆ ในระหว่างการสะสมพลังงาน และฟื้นฟูความแข็งแกร่งที่สูญหายกลับมาได้
อย่าลืมว่ามันเป็นผู้สืบทอดเชื้อสายราชวงศ์ และมีพรสวรรค์ที่ได้รับการถ่ายทอดมาโดยธรรมชาติ ดังนั้นความก้าวหน้าในอนาคตของมันจะยิ่งรวดเร็วมาก
เป็นไปตามการคาดเดาของ เยโม่ ความก้าวหน้าทั้งของ เย่ ซีหวิน และ ลูกหมาป่า ใกล้เคียงกันมาก ในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา เย่ ซีหวิน ได้เรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่าง และประสบการณ์การต่อสู้เป็นจำนวนมากจนบรรลุขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท ในขณะที่ ลูกหมาป่าตัวนี้ เสียเวลาไปกับการกินและดื่มเท่านั้น ก็สามารถเข้าสู่ขอบเขตลมปราณปัจฉิมบท
อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน ก็นึกขึ้นมาด้วยว่าในโลกใบนี้ บางคนเกิดมาพร้อมกับขอบเขตลมปราณมหาเทพ ในขณะที่บางส่วนเกิดมาพร้อมกับขอบเขตระดับตำนาน แต่พรสวรรค์ และสายเลือดไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่กำหนดความสำเร็จตั้งแต่ต้น เหล่าอัจฉริยะมากมายที่เกิดมาในขอบเขตระดับตำนานก็เคยพ่ายแพ้ให้กับ เย่ ซีหวิน มาแล้ว ไม่มีอะไรที่จะทำให้หัวใจของเขาสั่นคลอน ซึ่งมันเต็มไปด้วยเชื่อมั่น และความทะเยอทะยาน
” จอมตระกละเช่นเจ้า กล้าทำลายทรัพย์สินส่วนตัวของคนอื่น? เจ้าไม่ละอายใจตัวเองบ้างเลยเหรอ? ” เย่ ซีหวิน กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่น่ากลัว
” เดี๋ยวก่อน เจ้าไม่เห็นต้องโกรธข้ามากขนาดนั้น ข้าไม่ได้กินพวกมันมากเกินไป และแน่ใจได้เลยว่าข้าจะกินพวกมันไม่ให้เสียของ! ” ลูกหมาป่า เดินกลับมาที่ เย่ ซีหวิน และพูดว่า ” ข้ากินพวกมันก็เพราะข้าหิว เจ้าไม่เห็นต้องขี้เหนียวกับข้าเลย! “
” เจ้า! เจ้ายังมีหน้ามาพูดแบบนี้กับข้าอีกเหรอ? ถ้าข้ากลับมาไม่ทันเจ้าคงกิน นกกระเรียน และสัตว์เลี้ยงทุกตัวของสมาพันธ์หมดเป็นแน่ เจ้าได้สร้างความเสียหายเกินกว่าจะแก้ไขได้ และในสิ่งที่เจ้าทำก็ไม่อาจอภัยได้โดยง่าย! ” เย่ ซีหวิน โกรธอย่างมาก เพราะเขาไม่คิดว่าจะเกิดความวุ่นวายขึ้นบนยอดขุนเขาเฉียนหยู่ เพราะความเห็นแก่ตัว และไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีของลูกหมาป่าตัวนี้ ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องสอนบทเรียนให้กับเจ้าหมาป่านิสัยเสีย
. . . . . . . . . . . .
เย่ ซีหวิน กลับไปถึงคฤหาสน์ของเขา และได้เชิญ เย่ ฟง และ เย่ หรูซิ่ว มานั่งคุยกัน
” น้องชายตัวเล็ก เจ้าไม่เพียงทำให้พ่อแม่ของเราภูมิใจ เจ้ายังได้สร้างชื่อเสียงให้กับสำนักยี่หยวน” เย่ หรูซิ่ว ตบที่ไหล่ของ เย่ ซีหวิน และกล่าวด้วยรอยยิ้ม
เย่ ซีหวิน ยิ้มตอบ และเห็นว่าเธอยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนไปเลยสักนิด ไม่พูดถึงเขายังคงรักครอบครัวของเขาในแบบที่เขาเคยทำเมื่อก่อนหน้านี้ การที่เขาแข็งแกร่งขึ้นไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวตนของเขา หรือความรักที่ต่อครอบครัว และเพื่อนของเขา
” ข้าได้ยินมาว่า องค์ชายแปด ถูกฆ่าตายโดยฝีมือเจ้า? ” เย่ หรูซิ่ว ถาม แม้ว่าเธอจะรู้ข่าวการตายของ องค์ชายแปด แต่เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้เพราะเธอยังรู้สึกโกรธแค้นอยู่ เธอยังจำได้ว่า องค์ชายแปด พยายามจะใช้น้องชายของเธอเป็นสะพานก้าวข้ามไป และยังใช้วิธีการรุนแรงกับเขา เธอรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ เย่ ซีหวิน กำจัดคนบ้าเช่นนั้นไปได้เสียที
แม้ว่าความแข็งแกร่งของ เย่ ซีหวิน จะไกลเกินกว่าจินตนาการของเธอ แต่ในสายตาของเธอ เขายังคงเป็นน้องชายคนเล็กของเธอ ที่เธอคอยห่วงใย และคอยปกป้องเขาอยู่เสมอมา
ตราบใดที่เธออยู่ใกล้ๆ ไม่มีใครกล้าข่มขู่น้องชายคนเล็กของเธอ และเธอก็รักเขาเช่นเดียวกัน
“ใช่ ” เย่ ซีหวิน เริ่มเล่าเหตุการณ์อย่างละเอียด ทั้งคู่ได้ฟังถึงกับตกตะลึง แม้ว่า เย่ ซีหวิน จะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบางส่วนอย่างผิวเผิน แต่ เย่ ฟง และ เย่ หรูซิ่ว ก็อดที่จะสงสัย และประหลาดใจไม่ได้ แม้ว่าเขาจะอยู่ในระดับลมปราณมหาเทพขั้นที่ 6 แต่ก็สามารถเอาชนะสองผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดของลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8 ได้ ในเวลานั้นพวกเขาสามารถรับรู้ถึงความรุนแรงของสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน และมันยากที่จะจินตนาการว่า เย่ ซีหวิน ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนใกล้ตาย แต่สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ในเวลาอันสั้น
ภายนอก เย่ ซีหวิน ดูน่าเกรงขาม ไม่ต้องพูดถึง ชื่อของเขาได้ถูกบันทึกเอาไว้เป็นประวัติการณ์ว่า เป็นสาวกที่ได้รับตำแหน่งศิษย์แท้จริงที่ใช้เวลาน้อยที่สุด ไม่มีใครสามารถจินตนาการได้ว่าเขาต้องผ่านประสบการณ์เฉียดตาย และเสี่ยงอันตรายมากมายหลายครั้งในการต่อสู้ที่ร้ายแรง จนสามารถมายืนตรงจุดนี้ได้
” ท่านพี่ทั้งสอง ข้าตัดสินใจจะเดินทางไปยัง สถาบันยอดยุทธ ” เย่ ซีหวิน บอกจุดประสงค์ที่แท้จริงในการเชิญพวกเขามาที่นี่
” เจ้าว่าอะไรนะ เจ้าเองก็จะไป สถาบันยอดยุทธ ด้วยเหรอ? ” เย่ ฟง กล่าว
” ท่านรู้จักสถานที่แห่งนี้ด้วยงั้นรึ? ” เย่ ซีหวิน ถามด้วยด้วยความประหลาดใจ แม้ว่าโลกแห่งวรยุทธจะมีผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังมากมาย แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังอยู่เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น สำหรับสาวกทั่วไป ศิษย์หลัก หรือแม้แต่ศิษย์เอก สาวกส่วนใหญ่ข่าวลือที่พวกเขาได้ยินเกี่ยวกับ สถาบันยอดยุทธ เป็นเพียงแค่เรื่องเล่าในตำนานเท่านั้น พวกเขาไม่ค่อยสนใจข่าวลือเกี่ยวกับ สถาบันยอดยุทธ และมันก็ไกลเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการถึง ซึ่งจริงๆ แล้ว เย่ ซีหวิน เองก็พึ่งรู้เมื่อไม่นานมานี้เอง เห็นได้ชัดว่าข่าวลือเกี่ยวกับ สถาบันยอดยุทธ มีชื่อเสียงเฉพาะในกลุ่มคนที่แข็งแกร่งเท่านั้น