Martial God Space - ตอนที่ 268
Martial god space ตอนที่ 268 ชื่อเสียงกระจายไปทั่วสิบอาณาจักรในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
จิ้น ซวน มั่นใจอย่างมาก เพราะเขาอยู่ขั้นที่ 8 ลมปราณมหาเทพ และคิดว่าตัวเองเหนือกว่า เย่ ซีหวิน ไม่เพียงแต่ระดับ แต่ยังรวมถึงความแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน เย่ ซีหวิน เป็นเพียงผู้มีพลังลมปราณมหาเทพขั้นที่ 4 ก่อนที่เขาจะเดินทางไปยังเกาะปีศาจ
” ดูเหมือนว่าข้าจะต้องสอนบทเรียนให้กับเจ้า ” เย่ ซีหวิน ยิ้มเยาะเย้ย และกางมือออก ทันใดนั้นมันก็กลายเป็นกรงเล็บของมังกร และก่อตัวขึ้นเป็นมังกรวายุ
” เปรี้ยงง! ” ทันใดนั้นการโจมตีของ จิ้น ซวน ก็ไร้ความหมายเมื่อปะทะเข้ากับมังกรวายุ มันโจมตีต่อเนื่องพุ่งเข้าไปกระแทกเข้ากับร่างของเขา เป็นผลทำให้ร่างของเขาถูกส่งปลิวกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้า
” นี่มันเป็นไปได้อย่างไร!? ” ความประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของ จิ้น ซวน ในขณะเดียวกันความเชื่อมั่นของเขาได้ถูกทำลายลงโดย เย่ ซีหวิน, จิ้น ซวน เดิมพันด้วยความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขา และคิดว่าเขาสามารถจัดการกับ เย่ ซีหวิน ได้โดยไม่ต้องเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจาก ฉู จิ้งฉาย แต่เขาไม่คาดว่าจะต้องเสียอีกครั้งด้วยน้ำมือของ เย่ ซีหวิน เขาไม่คิดเลยว่า เย่ ซีหวิน จะกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งมากหลังจากใช้เวลาไปเกือบหนึ่งปีบนเกาะปีศาจ
เขาอยู่ในขั้นที่ 8 ลมปราณมหาเทพ และมีความเชื่อมั่นในความแข็งแกร่งของตัวเองเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ยังไม่สามารถต้านการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้ ในทางตรงกันข้ามเขากับเป็นฝ่ายที่ถูกส่งปลิวกระเด็นออกมา เขารู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก เพราะสิ่งเดียวกันนี้เคยเกิดขึ้นกับเขาเมื่อครั้งสุดท้ายที่เขาต่อสู้กับ เย่ ซีหวิน ซึ่งนานมาแล้วมากกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม มันแตกต่างจากครั้งสุดท้าย คราวนี้ไม่มีใครมาช่วยเหลือเขา ตอนนี้ เย่ ซีหวิน ได้มาถึงด้านหน้าของ จิ้น ซวน ซึ่งตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บและนอนอยู่บนพื้น เย่ ซีหวิน ซัดฝ่ามือไปที่จุดตันเถียนของ จิ้น ซวน และบดขยี้มันทันที
” ม่ายยย ได้โปรด เจ้าอย่าาาา . . . .” เย่ ซีหวิน โจมตีอย่างรวดเร็ว จนเขาไม่มีเวลามากพอที่จะตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
“ปังงงง!” ในชั่วพริบตา จิ้น ซวน ต้องสูญเสียการเพาะบ่ม ชีพจรทั้งหมดของเขาถูกทำลายโดย เย่ ซีหวิน เขากระอักเลือดออกมา และหมดสติไป เนื่องจากเจ็บปวดอย่างรุนแรง และการสูญเสียเลือด
เย่ ซีหวิน มองอย่างเย็นชาไปที่ จิ้น ซวน และเริ่มคิดได้ว่าจริงๆ แล้วมันเป็นแผนของ ฉู จิ้งฉาย ที่นำตัว จิ้น ซวน กลับมาจากเหมือง?
ในกรณีนี้ จิ้น ซวน ต้องได้รับโอสถบางอย่าง ซึ่งช่วยให้เขาทะลวงขอบเขตได้สำเร็จ!
เย่ ซีหวิน ยิ้มเยาะเย้ย และจำได้ว่าระหว่างเขากับ ฉู จิ้งฉาย เริ่มต้นด้วยการเป็นปฏิปักษ์กับ ลั่ว ยี่ฟาน และตระกูลลั่ว เนื่องจากตระกูลลั่ว เป็นผู้สนับสนุน ฉู จิ้งฉาย อย่างไรก็ตาม หลังจาก เย่ ซีหวิน ได้กลายเป็นศิษย์แท้จริงคนที่ห้า และกลายเป็นคู่แข่งโดยตรงของ ฉู จิ้งฉาย ในความเป็นจริงศิษย์แท้จริงทั้งหมดต่างเป็นคู่แข่งโดยตรงของแต่ละคนอยู่แล้ว
ไม่ต้องพูดถึง ตำแหน่งของผู้นำได้รับการเสนอจากศิษย์แท้จริง และตามธรรมเนียมแล้วไม่เคยมีข้อยกเว้นมาก่อน!
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นผลมาจากการที่เขาได้กลับมา และ ฉู จิ้งฉาย และศิษย์แท้จริงคนอื่นๆ จะต้องยอมรับสถานะอันโดดเด่นของเขา! ……
ข่าวเกี่ยวกับการกลับมาของพวกเขา ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในสำนักยี่หยวน ข่าวนี้ดึงดูดความสนใจของทุกคน เพราะมีสาวกเพียงสามคนที่ถูกเรียกตัวไปยังเกาะปีศาจในครั้งนี้ และมีเพียงสองคนเท่านั้นที่กลับมาอย่างปลอดภัย
เนื่องจากพวกเขากลับมาเร็วกว่าเวลาที่กำหนดเอาไว้หนึ่งปี ทุกคนต่างอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น
และหลังจากที่ เย่ ซีหวิน และ ฮัว หมิงฮัน กลับมา เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้น ฮัว หมิงฮัน เป็นศิษย์แท้จริงคนที่หก และกลายเป็นจุดสนใจของสาธารณชนควบคู่ไปกับ เย่ ซีหวิน ทุกคนต่างพากันประหลาดใจ เพราะเธอพึ่งกลายเป็นศิษย์เอกเมื่อไม่นาน ก่อนที่จะออกเดินทางไปยังเกาะปีศาจ และทันทีที่เธอกลับมาก็กลายเป็นศิษย์แท้จริง เหตุการณ์เช่นนี้ได้รับการยกเว้นเฉพาะกรณีของ เย่ ซีหวิน แต่ขณะนี้เธอได้สร้างความรู้สึกที่คล้ายคลึงกันเมื่อครั้งตอนที่เขาได้กลายเป็นศิษย์แท้จริงคนที่ห้า
อย่างไรก็ตาม เย่ ซีหวิน เป็นคนมีชื่อเสียงถึงได้รับการยกเว้น แม้ว่าจะไม่เป็นธรรมสำหรับ ฮัว หมิงฮัน แต่หลายคนก็ต่างพากันอิจฉากับชื่อเสียงที่คาดไม่ถึงของเธอ
ทั้งสำนักยี่หยวนต่างพากันพูดคุยกันถึงเรื่องขัดแย้งกันระหว่าง เย่ ซีหวิน กับ ฉู จิ้งฉาย เนื่องจาก เย่ ซีหวิน พึ่งกลับมาจากการเดินทางไปยังเกาะปีศาจตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา ในขณะที่ ฉู จิ้งฉาย เป็นศิษย์แท้จริงเพียงคนเดียวที่สามารถก้าวเข้าสู่ขอบเขตระดับตำนาน นอกจากนี้ข่าวลือที่แพร่กระจายออกไปกล่าวกันว่า ฉู จิ้งฉาย ได้พาตัว จิ้น ซวน กลับมาจากเหมือง เพื่อจัดการกับ เย่ ซีหวิน แต่ จิ้น ซวน กลับกลายเป็นคนพิการซะเอง
สำนักยี่หยวนประทับใจกับความแข็งแกร่งของ เย่ ซีหวิน อีกครั้งหนึ่ง เพราะเขาสามารถเอาชนะ จิ้น ซวน ที่อยู่ในขั้นที่ 8 ลมปราณมหาเทพได้
จากพยานในเหตุการณ์กล่าวว่า เย่ ซีหวิน นั้นน่ากลัวมาก จิ้น ซวน ไม่สามารถหยุดการโจมตีเพียงครั้งเดียวที่มุ่งตรงมาหาเขาได้
เมื่อเวลาผ่านไปอย่างช้าๆ เรื่องราวเกี่ยวกับเกาะปีศาจค่อยๆ แพร่กระจายไปไม่เพียงแต่ในในสำนักยี่หยวน หรือ อาณาจักรหุบเขาเมฆา แต่ทั่วทั้งภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ทุกคนต่างพากันรู้ว่าองค์ชายแปดถูกสังหารโดย เย่ ซีหวิน ในการต่อสู้เขาได้ต่อสู้กับสองผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในระดับสุดยอดของลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8
นับตั้งแต่ องค์ชายแปด เป็นผู้บัญชาการทหารองครักษ์ของจักรพรรดิ เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ที่สุดของสาวกรุ่นเยาว์ของอาณาจักรหุบเขาเมฆา ก่อนที่ภารกิจบนเกาะปีศาจจะเริ่มต้นขึ้น หลังจากเขาท้าประลองกับ เย่ ซีหวิน ด้วยระดับพลังเดียวกัน
อาจกล่าวได้ว่า เย่ ซีหวิน ไม่ได้เป็นเพียงบุคคลที่แข็งแกร่งและน่าเกรงขาม แต่เขายังมีทักษะพิเศษในการต่อสู้ ถึงแม้ว่าสำนักยี่หยวน จะต้องสูญเสียอัจฉริยะที่ไร้เทียมทานเช่น เฉิน รั่วเฉิน ซึ่งตอนนี้เขาได้หายไประหว่างการเดินทางไปยังเกาะปีศาจ อาจกล่าวได้ว่าความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้นได้เพราะผู้ชายเพียงคนเดียวนั้นคือ เย่ ซีหวิน ขึ้นชื่อว่า ” เย่ ซีหวิน ” ก็เพียงพอที่จะสร้างเกียรติประวัติอันยิ่งใหญ่ให้แก่สำนักยี่หยวน ซึ่งตอนนี้นิกายของ เย่ ซีหวิน ได้กลายเป็นที่รู้จักกันดีในสิบอาณาจักรในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้
สำนักยี่หยวนเป็นนิกายที่สำคัญ แต่มีชื่อเสียงเฉพาะในอาณาจักรหุบเขาเมฆา แต่ตอนนี้กลายเป็นที่รู้จักในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้แล้ว ชื่อเสียงทั้งหมดเป็นผลงานของ เย่ ซีหวิน สำนักยี่หยวนเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นนิกายระดับกลางสำหรับมหาอำนาจต่างอาณาจักร แม้ว่าจะมีผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานมีชื่อเสียงอย่าง ฉี เฟ่ยฝาน เพิ่มเข้ามา อย่างไรก็ตามผลงานอันโดดเด่นของ เย่ ซีหวิน เมื่อเร็วๆ นี้ และประสบความสำเร็จที่ไม่ธรรมดาก็เพียงพอที่จะทำให้มหาอำนาจต่างอาณาจักรพากันตกใจ และอยากมีส่วนสำคัญต่อชื่อเสียงของสำนักยี่หยวนในต่างแดน
เย่ ซีหวิน ไม่เพียงแต่เอาชนะสองผู้เชี่ยวชาญระดับสุดยอดของลมปราณมหาเทพขั้นที่ 8 แม้ว่าระดับขอบเขตลมปราณจะต่ำกว่าพวกเขาถึงสองระดับ และเขายังฆ่าทั้งซอมบี้ะดับตำนานครึ่งก้าวอีกด้วย แม้ว่าจะตกอยู่ภายใต้สถานการณ์พิเศษบางอย่าง ซึ่งอาจทำให้สิ่งต่างๆ ง่ายขึ้นสำหรับเขา แต่ก็ยังเป็นเขาเพียงคนเดียวที่สามารถทำภารกิจดังกล่าวได้สำเร็จ ดังนั้นความสำเร็จเหล่านี้จึงเพียงพอที่จะแสดงให้ถึงความแข็งแกร่ง และความน่าเกรงขามของเขาในสายตาของทุกคน
ทันใดนั้นชื่อเสียงของ เย่ ซีหวิน ก็แพร่กระจายไปทั่วทุกแห่ง ตอนนี้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักกันดีในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับการจัดอันดับเป็นอัจฉริยะที่มีชื่อเสียงเหมือนกับคนอื่นๆ เช่นจักรพรรดิเฉิน, ฉิง ซู, เหยี่ยวสงคราม, จี่ หมิงเหย่ และหวัง จื่อเวย จากรายชื่อของอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมในสิบอาณาจักรของภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ และชื่อของ เย่ ซีหวิน อยู่อันดับต้นๆ ในรายชื่อจัดอันดับนี้
เย่ ซีหวิน ก็กลายเป็นความภาคภูมิใจของสำนักยี่หยวน และตอนนี้ทุกคนต่างพากันอยากรู้ว่า ฉู จิ้งฉาย จะมีปฏิกิริยาอย่างไร จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาพยายามที่จะกำจัด เย่ ซีหวิน? เย่ ซีหวิน คงไม่สามารถต่อกรกับผู้เชี่ยวชาญระดับตำนานได้
นอกเหนือจาก เย่ ซีหวิน ข้อมูลสำคัญที่เกี่ยวกับ ฮัว หมิงฮัน ค่อยๆ ถูกขุดคุ้ยขึ้นมา เนื่องจากหลายคนไม่เข้าใจว่าเหตุใด ฮัว หมิงฮัน จึงกลายเป็นศิษย์แท้จริงคนที่หก แต่เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับการถูกโจมตีของเธอในเกาะปีศาจถูกขุดคุ้ยขึ้น ทุกคนรู้สึกประทับใจเมื่อพบว่าเธอได้รับมรดกจากบุคคลที่ยิ่งใหญ่บนเกาะปีศาจ นี่เป็นเหตุผลว่าในเวลาเพียงครึ่งปี เธอสามารถก้าวกระโดดจากขั้นที่ 2 ของลมปราณมหาเทพ ไปยังขั้นที่ 9 ของลมปราณมหาเทพ ไม่ต้องพูดถึงการได้รับมรดกที่หายากไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย พราะสิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าอนาคตของเธอจะก้าวหน้าอย่างไร้ขีดจำกัด
เช่นเดียวกับ องค์ชายแปด ได้อ้างสิทธิ์ในการสืบทอดราชบัลลังค์ทันที หลังจากที่ได้รับมรดกจากนิกายของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสี่ และไม่ต้องพูดถึงเขากลายเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดราชบัลลังค์ที่น่าจับตามองมากที่สุดในโลกแห่งวรยุทธ มันเป็นเรื่องสำคัญมากเมื่อใดก็ตามที่สาวกได้รับมรดกของนิกายโบราณ หรืออารยธรรมที่สาปสูญไป เพราะมันมักจะหมายความว่าสาวกเหล่านั้นเป็นผู้โชคดีที่ได้รับภูมิปัญญาอันยิ่งใหญ่ และเคล็ดวิชาการต่อสู้ที่สาปสูญไปของสิ่งมีชีวิตในยุคโบราณ
และข่าวเกี่ยวกับ ฮัว หมิงฮัน ได้รับประโยชน์อย่างมากบนเกาะปีศาจ ค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วทั้งสิบอาณาจักรในภูมิภาคตะวันออกเฉียงใต้ เกาะปีศาจมีชื่อเสียงในฐานะเกาะลึกลับ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของเหล่าสัตว์ปีศาจในตำนาน แต่ในเวลานี้สาวกที่รอดตายได้เผยแพร่ข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับเกาะปีศาจแห่งนี้ ตัวอย่างเช่น การดำรงอยู่ของเผ่าพันธุ์ปีศาจ และ จักรพรรดิปีศาจ และถ้า ฮัว หมิงฮัน ได้รับมรดกจากบุคคลที่ยิ่งใหญ่บนเกาะปีศาจ ซึ่งเป็นของอารยธรรมที่สูญหายไปแล้ว ก็สามารถจินตนาการถึงความแข็งแกร่งของเธอได้ในทันที
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอได้รับการแต่งตั้งเป็นศิษย์แท้จริงคนที่หกของสำนักยี่หยวน ซึ่งเป็นการเพิ่มจำนวนของผู้เข้าชิงตำแหน่งผู้นำของนิกายเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งคน
ฉู จิ้งฉาย เป็นศิษย์แท้จริงคนแรก เขารักษาอำนาจและชื่อเสียงของเขาเอาไว้ได้ตลอด 100 ปี ที่ผ่านมา ดังนั้นจึงไม่มีใครกล้าที่จะต่อต้านเขา แต่หลายต่อหลายครั้ง เขาได้ท้าทายอย่างเปิดเผยกับ เย่ ซีหวิน และแน่นอนว่า เย่ ซีหวิน ไม่ใช่คนโง่ และมันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้เขายอมจำนน ลั่ว ยี่ฟาน เคยพยายามข่มขู่ เย่ ซีหวิน และตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าซากศพของเขาเน่าเปื่อยอยู่ที่ไหน ไม่มีใครกล้าพูดถึงเรื่องนี้อย่างเปิดเผย แต่หลาย คนสงสัยว่า เย่ ซีหวิน มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าของ ลั่ว ยี่ฟาน
หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไป เย่ ซีหวิน ได้กลับไปที่ยอดขุนเขาเฉียนหยู่ แต่ ฉู จิ้งฉาย ก็ไม่ได้ลงมือทำอะไรเพื่อแก้แค้น ในช่วงเวลาที่สำคัญนี้ วันหนึ่ง ฉี เฟ่ยฝาน ได้ไปที่ยอดขุนเขาเฉียนหยู่เพื่อพบกับ เย่ ซีหวิน
” สมาพันธ์เฉียนหยู่รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ ศิษย์พี่ ฉี ได้สละเวลามาเยี่ยมพวกเรา ” เย่ ซีหวิน กล่าวด้วยรอยยิ้ม และต้อนรับ ฉี เฟ่ยฝาน แม้ว่าพวกเขาทั้งสองคนจะเป็นศิษย์แท้จริง แต่ก็ไม่จำเป็นที่ เย่ ซีหวิน จะเรียกเขาว่า ” ศิษย์พี่ ฉี ” แต่ เย่ ซีหวิน ก็เรียกเขาเช่นนี้เสมอ แม้ว่าจะกลายเป็นศิษย์แท้จริง เพราะ ฉี เฟ่ยฝาน เคยช่วยเขาเอาไว้หลายครั้ง
” ศิษย์น้อง เย่ ข้าหวังว่าเจ้าจะให้อภัยที่ข้ามาโดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ” ฉี เฟ่ยฝาน ยิ้มให้เขา และกล่าว ” ข้าจะไม่พูดอ้อมค้อม และเรามาพูดเข้าเรื่องกันเลย วันนี้ที่ข้ามาก็เพราะเรื่องระหว่างเจ้า กับ ฉู จิ้งฉาย “
” ระหว่างพวกเรา มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น ” เย่ ซีหวิน พูดอย่างไม่แยแส
” ข้าได้รู้ว่า กฎข้อบังคับใหม่ที่เพิ่งถูกนำมาใช้ของเขา ได้สร้างปัญหาให้กับเจ้า และข้าต้องบอกว่า เขาทำไม่ถูกต้องในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้ จิ้น ซวน ไม่ได้กล่าวโทษเขา ” ฉี เฟ่ยฝาน กล่าว ” ข้ารู้สึกว่ามันถึงเวลาแล้วที่จะเปิดเผยบางสิ่งที่สำคัญให้กับศิษย์แท้จริงทุกคนต้องรู้ “