Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 244
LSG บทที่ :244 พ่อเจ้าบังคับข้า
กวงซินหวัง หน้าซีดลง อย่างเจ็บปวดมากพยายามรักษาตัวเอง
แต่ว่าชายคนนั้นไม่ได้หยุดมือ เขาหายตัวไปเข้าไปด้านหลังกวงซินหวัง แล้วรัดคอกวงซินหวังไว้แน่น เเจตจำนงกระบี่พรั่งพรูออกมาจากมือของเขา ครอบร่างทั้งร่างของเขา
กวงซินหวัง ตายทันทีโดยเจตจำนงกระบี่ ดวงวิญญาณของ กวงซินหวัง หลุดออกไปแต่ว่าชายคนนั้นโยนขวดสีม่วงดูดดวงวิญญาณของ กวงซินหวังเข้าไป พรึบ!
กวงซินหวัง ตายอย่างน่าเวทนา คนที่เหลือหน้าวีด ผุ้ที่มาจากลัทธิกระบี่มาร ไล่สังหารผู้คนอย่างไร้เมตรตาแม้แต่ดวงวิญญาณก็ไม่เหลือ ธารโลหิตหลั่งไหลพร้อมกับเสียงกรีดร้อง
วันนี้คือวันที่ผู้นำในเมืองราชันมารลุ่มสลาย
ชายผมขาวจ้องมองชาวมารที่เข้ามาอย่างไร้อารมณ์
“เขาเป็นใคร?
ซูหยุน สงใสในใจ ซูหยุน เคยอยู่ที่ลัทธิกระบี่มาร มากก่อนแต่เขาไม่เคยเห็นเลย ดูจากการฆ่าระดับดวงจิตวิญญาณขั้นสิบได้ในไม่กี่อึดใจ เขาน่าจะมีพลังระดับดาราวิญาณขั้นสองขึ้นไปแน่ๆ
“ท่านพ่อ”
เฉินอี้หยิน วิ่งไปหาชายผมขาวด้วยความดีใจอย่างที่สุด
ชายผมขาวหันมามองอี้หยินที่กำลังวิ่งเข้ามาอย่างอบอุ่น พร้อมกับอ้าแขนกอดไว้
ซูหยุน สับสน
มีผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากมาจากลัทธิกระบี่มารมาที่นี่แม้แต่ผู้เฒ่าคุมกฏก็มา เขาต้องรีบ แม้ว่าตอนนี้ในมือจะยังถือกระบี่โลหิตแดงอมตะลึกลับและกระบี่มรณะเขาก็ต้องหนี
“เจ้าคิดจะไปแล้วหรือ?”
ทันใดนั้นชายผมขาวก็พูดขึ้นมา เขาปล่อยมือของเฉินอี้หยินแล้วเลือนหายไปดั่งเงาดำ
“ท่านพ่อ” ไม่!” เฉินอี้หยินตะดกนออกมาแต่ก็สายเกินไป
ซูหยุน เครียดขึ้น เขาคลายด้ามจับของกระบี่ทั้งก่อนที่เงาสีดำจะไกล้เข้ามา
ตูม!!
ทั้งสองปะทะกันอำนาจของพลังทำลายแท่นบูชาทั้งกอง ชาวมารทุกคนปลิวไป ทั้งสองคนที่กำลังปะทะกันต่างถอยไปคนละก้าว
ท่าที่ ซูหยุน ใช้กระจายไป ยังมีกระแสพลังของท่าที่ กระบี่โลหิตแดงอมตะลึกลับ หลงเหลือกระจายไป ซูหยุน กัดฟันกรอด
นี่หากไม่ใช่เพราะพลังของกระบี่แดงอมตะลึกลับป่านนี้ ซูหยุน คงจะกระเด็นไปด้วยการปะทะครั้งนี้
หลังจากแลกกระบวนท่า ซูหยุน หันไปมองชายคนนั้น พอชายคนนั้นตั้งตัวได้ก็มองกลับมาที่ ซูหยุน
“ไม่เลว ไม่เลว แม้ว่าเจ้าจะใช้สมบัติเพิ่มพลัง แต่การตอบสนองของเจ้านับว่ายอดเยี่ยม สามารถต้านทานการดจมตีของข้าได้! “
ชายผมขาวพยักหน้า
ผู้คนที่มองดูต่างมึนงง
พวกเขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ซูหยุน จะสามารถรับการโจมตีของชายผมขาวได้
แต่ ซูหยุน ไม่ได้จบแค่นั้น เขายิ้มเล็กน้อย
ฟิ้ว!
ลำแสงสีดำถุกยิงออกไปที่คอของชายผมขาว
แสงนั้นรวดเร็วมากแม้แต่คนที่อยู่ด้านหลังชายผมขาวยังตอบสนองไม่ทัน
“หืม?
ชายผมขาวหันมาแต่กระบี่มรระก้มาถึงแล้ว
ชายผมขาวตกตลึงมาก
ตูม!
กระบี่มรณะเจาะทะลุร่างของเขาลงบนพื้น
เขาหลบมัน
นี่อาจจะเป็นวิชาลับ?
ซูหยุน จ้องตาไม่กระพริบ
ดูเหมือนว่าผู้เชี่ยวชาญระดับดาราวิญญาณจะจัดการไม่ใช่เรื่องง่าย
หากว่าเขาสู้ไม่ได้ก็ต้องหนี?
ซูหยุน ขยับมือ กระบี่มรณะก็บินกลับมา
เฉินอี้หยินรีบวิ่งเข้ามาหา ซูหยุน นางมองด้วยความโกรธ
“ท่านพ่อ” ท่านทำอะไร? กระบี่เทพ ช่วยข้าไว้! ท่านจะลงมือกับเขาไม่ได้? “
“กระบี่เทพ !!”
ชายผมขาวขมวดคิ้วและเปิดเผยรอยยิ้มอันขมขื่น
“แน่นอนครั้งนี้ ไอ้เจ้านี่ ช่วยชีวิตลูกสาวข้าไว้ ข้าเป็นหนี้บุญคุณเจ้ามากหรือจะพูดให้ถูกคือทั้งลัทธิกระบี่มารเป็นหนี้บุญคุณเจ้า แต่การที่เจ้าโขมยเรียนวิชาลับเพลงกระบี่มารของข้าละเจ้าจะแก้ไขยังไง?”
“แอบเรียนเพลงกระบี่มาร?”
เฉินอี้หยิน ตกใจ นางหันกลับไปมอง ซูหยุน
“เจ้าแอบเรียนวิชาของเราอย่างนั้นหรอ? เป็นไปไม่ได้?” “ทำไมท่านถึงแอบเรียนวิชาลับของเรา กระบี่เทพ?”
แล้วเชี่ยวชาญมาก? เฉินอี้หยินไม่เชื่อ เพลงกระบี่มารแอบเรียนได้ด้วยหรอ? “
“ขอโทษนะ อี้หยิน ข้าปิดบังเจ้า ข้ามีชื่อว่า กระบี่เทพ แต่ชื่อจริงของข้าคือ ซูหยุน “
“ซูหยุน?” เจ้าคือ ซูหยุน? คนที่ลัทธิต้องการตัว! “
“เจ้าต้องรีบออกไปเดี๋ยวนี้”
ซูหยุน สะสมพลังไว้ เขารู้ว่ามันอยู่ได้อีกไม่นาน
แต่ชายผมขาวยังไม่เคยโจมตี “ซูหยุน เจ้าไม่จำเป็นต้องรีบร้อน พวกเรามาที่นี่ไม่ได้มาเพื่อจับตัวเจ้า “ไม่ต้องห่วง! “
“หืม? ท่านเป็นใคร?”
ผู้อาวุโสคุมกฏอยู่ด้านหลังเขา ซูหยุน เดาได้ว่าชายคนนี้เป็นใครเพียงแต่เขายังไม่แน่ใจเท่านั้น
“ซูหยุน เจ้าโง่มาก! ท่านผู้นี้คือเจ้าลัทธิของพวกเรา! เจ้าจงรับผิดซ่ะ! “ ผู้อาวุโสคุมกฏ ตะโกนออกมาเสียงดัง
“เจ้าลัทธิ?”
“เจ้าได้ช่วยคุณหนูของลัทธิกระบี่มารโดยไม่ตั้งใจ ถ้าไม่อย่างนั้นแล้ว ข้าจะไม่ปล่อยเจ้าไป เมื่อเจ้าได้ช่วยอี้หยินไว้ เรื่องที่เกิดขึ้นที่ลัทธิข้าจะไม่เอาเรื่องเจ้า! “
“ฮะ? มีเรื่องดีๆแบบนี้ด้วยหรอ? “
“หึ ข้า เฉินเทียนเสีย จะหลอกเจ้าทำไม?”
ซูหยุน พยักหน้า ภาระใหญ่หลวง ถูกยกออกจากอกตอนนี้เขาดชคดีมาก
“ถ้าอย่างนั้นข้าขอขอบคุณท่านมาก “
“อย่าเพิ่งขอบคุณข้าเลย”
“เจ้าคิดว่าพวกเราไม่รู้หรือ? เจ้าไม่เพียงแค่แอบฝีกวิชาของพวกเราเท่านั้น แต่เจ้ายังหรอกพวกเราว่าเจ้ามาจาก ถ้ำมารทมิฬ! เจ้าไม่ใช่คนของที่นั้น เหตุใดถึงหลอกพวกเรา? “
“หากข้าไม่พูดแบบนั้น ข้าก็เข้าไปไม่ได้!”
“เจ้ากล้าเสี่ยงขนาดนั้น โชคดีที่พวกเรายังไม่ทันได้ตรวจสอบเรื่องนี้ ไม่อย่างนั้นแล้ว ถ้ำมาทมิฬคงจะไม่ปล่อยเจ้า “
………
“ซูหยุน วิชาที่เจ้าฝึกคือ เพลงกระบี่มารกระหายเลือด ใช่หรือไม่?”
“เพลงกระบี่มารกระหายเลือด? ท่านหมายถึง เพลงกระบี่จอมมาร? “
“เพลงกระบี่จอมมาร? มีชื่อแบบนั้นด้วยหรือ! เจ้าเชี่ยวชาญวิชาที่น่ากลัวขนาดนั้น! มันคงจะเป็นเพราะฟ้าลิขิต? ซูหยุน ข้าขอถามเจ้า เมื่อเจ้าได้เป็นคนของ ถ้ำมารทมิฬ เจ้ายินดีจะเข้าร่วมลัทธิมารของเราหรือไม่? และให้ข้าชี้แนะเจ้า? “
เจ้าลัทธิ เฉินเสีย มองซูหยุนด้วยความหวัง
ไม่มีใครคาดหวังว่าเขาจะพูดอะไรแบบนั้น
เฉินอี้หยินหันไปมองด้วยความหวังเช่นกัน
ซูหยุนได้ตั้งข้อสังเกต แต่เขาก็นิ่งไปพักหนึ่งก่อนที่เขาจะตอบ
“เจ้าโง่ ยังไม่รีบคุกเข่าขอบคุณท่านเจ้าลัทธิอีกหรอ? ท่านไม่เคยพูดแบบนี้กับใครง่ายๆน่ะ! “
“มีคนตายที่นี่มากมาย! เมื่อมีโอกาสเจ้ารีบๆรับมันซ่ะ “
ผู้เชี่ยวชาญจาก ลัทธิกระบี่มารสนับสนุนราวกับตัวเองเป็นผู้ถูกชักชวน
ซูหยุน ส่ายหน้าเบาๆ “ขอบคุณในความเมตรตาของท่านเจ้าลัทธิในครั้งนี้ แต่ข้าน้อยต้องกลับไปที่อาณาจักรมนุษย์จริงๆ ข้าไม่อาจอยู่ที่ลัทธิได้นานโปรดอภัยให้ข้าด้วย “
เขาเป็นเพียงมนุษย์และไม่ใช่คนจากอาณาจักรมาร เทียนเสีย อาจจะซาบซึ้งใจที่เขาช่วย อี้หยิน แต่เขาเป็นมนุษย์ นั่นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ หากต้องการพบปะกับเขา การปิดบังตัวตนจะยากขึ้น ถ้าเขาถูกพบเขาจะตายจริงๆดังนั้นจึงเป็นการดีที่สุดที่จะปฏิเสธข้อเสนอของเขา
“ซูหยุน เจ้าไม่อยากเรียนวิชาเพลงกระบี่มารหรือ? ท่านพ่อของข้าสามารถสอนเจ้าได้! ทำไมเจ้าถึงปฏิเสธ? “
“ข้าต้องขออภัย อี้หยิน ข้ามีสิ่งที่ต้องไปทำ ข้าไม่สามารถอยู่ที่ลัทธิกระบี่มารได้ “
เฉินอี้หยิน ดวงตาเศร้า นางรู้สึกผิดหวัง
แต่เทียนเสียพูดกับซูหยุน “ซูหยุน! ตอนนี้เจ้าใช้เพลงกระบี่มารแล้วเจ้าจะไม่ยอมรับได้ยังไง? มีปัญหากับการเข้าลัทธิ หรือไม่ว่ายังไงเจ้าก็ต้องไปอณาจักรมนุษย์หรือไม่? อย่าบอกนะว่าเจ้าเคยไปที่อณาจักรมนุษย์หรือว่าเจ้ามีเหตุผลอื่นที่เจ้าเข้าร่วมไม่ได้? “
“ซูหยุน” หากเจ้าไม่เข้าร่วม จะจะยังเป็นคนที่ลัทธิต้องการตัว! พวกเราจะจับเจ้าแล่เนื้อแล้วเผาเจ้า! “ผู้อาวุโสคุมกฏตะโกนออกมา
ซูหยุน ได้ยินถึงกับเสียววูบ”ไหนพวกท่านบอกจะปล่อยข้า?”
“ข้าบอกว่า วันนี้ข้าจะไม่จับเจ้า! แต่ข้าไม่ได้พูดว่าวันหน้าจะไม่ทำ! “ ชายผมขาวกอดหน้าอกหัวเราะร่า “ยิ่งกว่านั้นพลังของข้าแข็งแกร่งกว่าของเจ้ามาก ข้าสามารถกลับคำพูดของข้าได้! “
ท่านเจ้าลัทธิเทียนเสีย ท่านบอกกับข้าว่า หากข้าร่วมข้าจะกลับไปอณาจักรมนุษย์ได้หรือไม่?
“เจ้าสามารถไปได้ทุกที่ที่เจ้าต้องการ แต่เนื่องจากเจ้าได้เรียนรู้วิชาของเราแล้ว เจ้าต้องเข้าร่วมกับเรา และจะไม่ทำลายชื่อเสียงของลัทธิ! “
“ข้าน้อยได้เข้าร่วมนิกายอื่นแล้ว”
“มันคืออะไรนิกาย?”
“สำนักกระบี่ไร้สรรพสิ่ง”
“ข้าไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน สำนักเล็กๆ นี่มีอะไรให้เจ้าเข้าร่วม? เข้าร่วมกับเรา! เจ้าจะไปไหนก็ได้ที่เจ้าต้องการ ทำไม? เพลงกระบี่มารของข้ายังไม่ดีพอให้เจ้าก้าวหน้าอย่างนั้นรึ?”
“โอ้เพราะอย่าง ซูหยุน ซูหยุน ถึงจะยอมรับ”
พลังของ ผลึกสวรรค์ กำลังจะสลายไป เขาจะไม่สามารถจัดการกับผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากได้
“เจ้าเป็นคนฉลาด ข้าโยนผลประโยชน์ทั้งหมดไว้ตรงน้าเจ้า แต่เจ้ายังลังเล เจ้าเป็นคนแบบไหนกันแน่! “ หากเจ้ามาอยู่กับเรามันจะไม่มีปัญหา! ซูหยุน เจ้าทำตามจะดีกว่า!”
ซูหนุน กระโดดออกมาราวกับลูกศรสีดำบนพื้น
ชาวมารที่เฝ้าดูอยู่ก็ทำตาม
เฉินอี้หยิน มีมีความสุขมาก นางรีบสิ่งไปข้างๆ ซูหยุน”ยินดีด้วยนะพี่ซูหยุุน ท่านเป็นส่วนหนึ่งของลัทธิแล้ว! “
“พ่อของเจ้าบังคับข้า ข้าไม่ได้ตั้งใจจะเข้าร่วม “
“ท่านจะไม่เข้าร่วมโดยเฉพาะลัทธิเราหรอ”
“ข้าเข้าใจแล้ว!” แต่ฉันกำลังจะออกจากอณาจักรมาร “
“ท่านต้องไป?”
“ใช่!”
“ท่านจะกลับมามั้ย?”
“ข้าก็ไม่รู้.”
“โอ้” ความดีใจของอี้หยินหายไปทันที
“ซูหยุน?”
ผู้อาวุโสคุมกฏตะโกนขึ้น
ซูหยุนหันไปมองผู้อาวุโสคุมกฏเขาตราสัญลักษณ์
นี่คือป้ายที่เเสดงว่าเขาคือสาวกของลัทธิ
“เจ้ากำลังจะออกจากอณาจักรมาร ท่านเจ้าลัทธิเลยมอบนี่ให้เจ้าไว้เพื่อป้องกันตัว หากพเจ้าพบเจอปัญหาจงใช้มัน เราจะส่งผู้เชี่ยวชาญไปช่วยเจ้า โชคดี!”
หลังจากนั้นผู้คุมกฏก็เดินไปที่เฉินอี้หยิน “คุณหนู เราไปกันเถอะ”
ซูหยุนตกใจมาก เขามองป้ายสีดำ มันดูแปลกตา
เขาช่วยชีวิตอี้หยินโดยบังเอิญ ไม่คิดว่าเจาจะได้รับการช่วยเหลือแบบนี้?
“ซูหยุน ท่านต้องรีบกลับมาน่ะ! ข้าจะรอท่านที่ลัทธิ รับปากข้า!”
“รอข้า…….!”
ซูหยุนรู้สึกไม่ดี เห็นดวงตาของนางเต็มไปด้วยความหวัง เขาพยักหน้า”ถ้ามีโอกาสข้าจะไปเยี่ยมเจ้า”
เฉินอี้หยินได้ยินอย่างนั้นและรู้สึกดีใจอย่างทันที
“ไปเถอะ!”
เฉินอี้หยิน พยักหน้าแล้วหันไปมองซูหยุน ก่อนจะจากไป