Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 243
LSG บทที่ :243 ผู้เชี่ยวชาญกระบี่มารผมขาว
ซูหยุน เดินเข้าไปดึงกระบี่มรณะออกจากซากศพ
ราชันจักรพรรดิได้ตกตายไป โดยที่มีซากศพอยู่บนพื้น ซูหยุน เก็บแหวนเก็บของที่นิ้วขึ้นมาแล้วหยิบแผ่นพิมพืมารทมิฬแขวนไว้รอบเอว
ตราประทับของแหวนเสียหาย สมบัติส่วนใหญ่ถูกทำลาย แต่ยังมีบางส่วนยังใช้ได้อยู่ ธาตุเหล็กอากาสธาตุ เป็นหนึ่งในนั้น
“เยี่ยม!!” อย่างน้อยข้ายังมี ธาตุเหล็กอากาศธาตุ ขาดอีกแค่สองอย่างเท่านั้น “
ซูหยุน เก็บแหวนไว้ในแหวนเก็บของตัวเอง
“หยิงอัน ขอคาราวะท่านราชันจักรพรรดิ!”
ขณะที่ ซูหยุน กำลังมีความสุขที่ได้ ธาตุเหล็กอากาศธาตุ อยู่นั้นได้มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
ซูหยุน แปลกใจหันไปมองเห็นมีคนๆหนึ่งกำลังป้องมือคาราวะเขาอยู่
อะไรกัน? ซูหยุน คิดในใจอย่างหงุดหงิด
อู่เซียง หันกลับมาแล้วรีบทำตามหยิงอัน “อู่เซียง คาราวะท่านราชันจักรพรรดิ!”
เมื่อทั้งสองคนทำอย่างนี้ มีหรือที่ชาวมารที่เหลือด้านหลังจะกล้าไม่ทำตาม? ทุกคนคุกเข่าลงอย่างรวดเร็วและตะโกนพร้อมกัน “พวกเรา ขอคาราวะท่านราชันจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่!”
ราชันจักรพรรดิ?
ซูหยุนตกใจมาก แต่ไม่นานเขาก็นึกขึ้นได้
ราชันจักรพรรดิคนก่อนได้พ่ายแพ้ให้แก่เขา เขาได้กลายเป็นราชันจักรพรรดิแทน คนเหล่านี้ จึงได้ให้ความเคารพ
เขาไม่เคยคิดว่าเขาจะได้รับประโยชน์นี้
“ในฐานะ ราชันจักรพรรดิ พวกมันทุกคนจะติดตามเรา ในเมืองราชันมารที่นี่เราจะมีอำนาจ บางทีเราอาจจะใช้ประโยชนืนี้หาของอีกสองอย่างได้ มันจะดีกว่าที่จะหาคนเดียว “
ซูหยุน ยกมือขึ้นมาพร้อมกับการตัดสินใจ
“ลุกขึ้นได้”
“ขอบพระคุณท่านราชัน”
เสียงดังคำรามเหมือนคลื่นทะเล
เฉินอี้หยิน ดีใจอย่างเห็นได้ชัด นางไม่คิดมาก่อนเลยว่า เทพกระบี่ ที่มาจากลัทธิกระบี่มาร ได้ครอบครองอำนาจอันยิ่งใหญ่เช่นนี้ เขาเอาชนะ ราชันจักรพรรดิ ได้อย่างง่ายดาย
“ขอแสดงความยินดีด้วยครับท่าน ท่านถูกเรียกว่า ราชันจักรพรรดิ ท่านจะโด่งดังในเมืองราชันมาร! “
หยิงอันป้องมือของเขาและเดินผ่านไปพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
แม้ ซูหยุน จะไม่เคยรู้จักเขาแต่เขาก็มองออกว่าคนผู้นี้เจ้าเล่ห์ เขายิ้มให้กับหยิงอันก่อนจะเดินไปที่ เตาหลอม
มีชาวมารคนหนึ่งยืนมอง ซูหยุน ด้วยดวงตาว่างเปล่า ทุกๆคนมอง ซูหยุน ด้วยความหวัง
ไม่มีใครคิดเลยว่า ชาวมารคนหนึ่งที่ถูกจับตัวจะกระทำการอันน่าอัจฉจรรยืเช่นนี้ได้ เขาฆ่า ราชันจักรพรรดิ จริงๆหรอ
ตอนนี้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ชาวมารในแท่นบูชาต่างหัวใจเต้นระทึกกับการเปลี่ยนแปลงของ ราชันจักรพรรดิ คนไหม่
ซูหยุน มองดูชาวมารทุกคน ซูหยุน มองเห็นผู้คนทั่วไปเป็นผู้บ่มพลังระดับแก่นแท้วิญญาณและดวงจิตวิญญาณขั้นแรก เขาคิดก่อนจะเอ่ยปาก “ปล่อยพวกเขา”
“ครับ ท่านราชัน!”
ชาวมารที่อยู่ด้านข้าง ป้องมือและปลดกุญแจมือของเชลย
ไม่นานได้มีเสียงโห่งร้องขึ้น
“ขอบพระคุณท่านราชัน! ขอบพระคุณท่านราชันผู้ยิ่งใหญ่! “
ชาวมารทุกคนทราบซึ้งในบุญคุรนี้
โดยเฉพาะ เฉินอี้หยิน น่ารู้สึกด้วยใจจริง
ความจริงแล้ว ซูหยุน ได้คำนวณทุกอย่างไว้ล่วงหน้าแล้ว เขาไม่ต้องการบ่มอาวุธมาร การเก็บชาวมารพวกนี้ไว้ก้ไร้ประโยชน์ เขาเชื่อว่าชาวมารพวกนี้จะคอยรับใช้ราชัน อย่างไรก็ตามในเมืองราชันผู้มีอำนาจจะอยู่ได้ไม่นาน
ผู้ที่ถูกปล่อยตัวกลับแสดงความสำนึกและคุกเข่าแสดงถึงความตั้งใจรับใช้ ซูหยุน
ซูหยุน ไม่มีความประหม่า เขายอมรับมันทั้งหมด เขารู้ว่าคนกลุ่มนี้จะเป็นผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ของเขา
“ซูหยุน?”
เฉินอี้หยิน วิ่งไปหา พร้อมกับน้ำตาแห่งความพิศวง เธอยิ้มและพูดว่า: “เจ้าสุดยอด และแข็งแกร่งจริงๆ “
“ข้าบอกแล้ว พวกเราจะไม่เป็นอะไร ฮ่าๆๆ “
“อืม” นางมองหน้า ซูหยุน ใต้ผ้าคลุมไม่นานหน้าของนางได้เปลี่ยนเป็นสีแดง นางไม่รุ้จะพูดอะไร
ฟิ้วๆๆ
ทันใดนั้นมีเสียงเจาะทะลุผ่านอากาศ จากนั้นชาวมารมากมายเข้ามา
ความกดดันเพิ่มขึ้น จนถึงขั้นหายใจไม่ออก
จอมมารปรากฏตัว!
ชาวมารมองผู้ที่เข้ามาโดยไม่ตื่นกลัว พวกเขาถอยกลับอย่างเป็นระเบียบ
ความกดดันเต็มไปทั้งแท่นบูชา
“ราชันจักรพรรดิ? ราชันจักรพรรดิ อะไร! พวกเราไม่ยอมรับเจ้า! เจ้ามันแค่มดปลวก จงก้มหัวให้พวกเราซ่ะ! “
ผู้เชี่ยวชาญที่เหลือวิ่งเข้าไป
“กวงซินหวัง เต้าเทียนมู่!”
ใบหน้าของ อู่เซียง ดูไม่ดี
“คนพวกคนใคร? พวกท่านแอบซ่อนตัวคอยดู ราชันจักรพรรดิถุกฆ่า แล้วยังมาเรียกร้องสิทธฺ์! หากเขาฆ่าคนพวกนี้ สมบัติทั้งหมดของ ราชันจักรพรรดิ จะเป็นของพวกเขา “
ฮืมมม
“พี่หยิงอัน เราจะทำยังไงกันดี?”
“รอดูไปก่อน พลังของเรายังอ่อนแอ พวกเราได้แค่ทำตามเท่านั้น คนพวกนี้ระดับ ดวงจิตวิญญารขั้นสิบกันทั้งนั้น หลังจากสู้กับ ราชันจักรพรรดิ เราไม่รู้ว่าพลังของพวกนั้นเพิ่มขึ้นแค่ไหนแล้ว หากไม่แล้วพวกเราก็แค่เป็นหมูที่รอเชือด จะดีกว่าที่พวกเราจะอยู่นิ่งๆไว้ ตอนนี้เราไม่ควรจะเข้าฝ่ายไหน ข้ากลัวว่าในเมืองราชันมารจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อย่าทำอะไรโดยไม่จำเป็น “
“ก็ได้งั้นเรามาคอยดูกัน”
ซูหยุน กระชับกระบี่โลหิตแดงอมตะลึกลับกับกระบี่มรณะจ้องมองคนที่เดินเข้ามา ชาวมารคนแรกมีปราณมารแข็งกล้ามาก สูงเกือบสามเมตร ตาของเขาดูคล้ายระฆังทองแดง กลิ่นอายของเขาดูน่าเกรงขามทำให้ผู้คนต้องก้มหัว
คนผู้นี้น่าจะเป็นจอมมารจากแดนอื่น !
“จะยอมก้มหัวมั้ย?”
ซูหยุนขมวดคิ้ว
“ใช่ ยอมซ่ะ!”
“ส่งกระบี่เทพมาว่ะแล้วพวกเราจะไว้ชีวิตเจ้า ไม่อย่างนั้นเราจะฆ่าเจ้า! “
“หืม?
ซูหยุน เงยหน้าขึ้นมองไป ด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟ พร้อมกับชี้กระบี่ขึ้น” หากเจ้ามีความสามารถก็เข้ามา! ข้าอาจจะฆ่าได้ทุกคน แต่ข้าสาบานได้คนแรกที่เข้ามามันจะตายด้วยกระบี่ข้า! “
พวกเขาคอยเฝ้าแอบมองจึงรู้พลังของ ซูหยุน ดี เหล่าจอมมารรู้ดีว่าพลังที่ ซูหยุน ฆ่าราชันจักรพรรดินั้นไม่ใช่พลังทั้งหมดที่ ซูหยุน มี เห็นได้ชัดว่าเขามีพลังของ ซูหยุน เทียบได้กับระดับดาราวิญญาณขั้! แม้พวกเขาจะรู้ว่า ซูหยุน เพิ่งจะต่อสู้ไปก่อนหน้านี้แต่พวกเขาก็ไม่กล้าเสี่ยง
แต่ทว่าชาวมารที่สูงเกือบสามเมตรไม่ได้เกรงกลัว ซูหยุน “หมายความว่า เจ้าไม่ยอมก้มหัวให้พวกเราสิน่ะ?”
“พูดไปก็เปลืองน้ำลาย”
ซูหยุน กระชับกระบี่ขึ้นเปิดพลังแก่นแท้วิญญาร
นี่คือการเริ่มต้นต่อสู้
“ซูหยุน”
“อี้หยิน มาหลับด้านหลัง!”
เฉินอี้หยิน ตกใจมากนางค่อยๆเปิดริมฝีปากน้อยๆของนางพูด ” ซูหยุน ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้า! ข้ามีพลังระดับดวงจิตวิญญารขั้นที่สอง ข้าไม่กลัวพวกเขาหรอก “
ดวงจิตวิญญาณ ขั้นที่สอง?
ซูหยุนได้ยินและยิ้มอย่างขมขื่น สำหรับสถานการณ์นี้ ดวงจิตวิญญาณขั้นที่สองไม่ต่างอะไรกับหมูที่รอโดนเชือด
ฟุบ!
เฉินอี้หยินขยับเข้ามาหา ซูหยุน เช่นเดียวกับมีมือหยาบๆพุ่งเข้ามาหา ซูหยุน นิ้วทั้งห้าชิดเข้าด้วยกันดั่งคมหอกที่แทงเข้ามา
เร็วมาก
นั่นเป็นการลอบโจมตี!
แต่ในดินแดนแห่งมารนี้ไม่มีคำว่า “ลอบโจมตี” ชาวมารไม่มีคำว่าเล่ห์กลหรืออุบาย การวางแผนไหวพริบเท่านั้นที่เป็นลักษณะของชาวมาร มีแต่คำว่าชัยชนะเท่านั้น!
ซูหยุน รีบหันมามองทันที ไม่มีความหวาดกลัวบนใบหน้า เขาหันกลับไปทันที
ข้ามีทั้งสองกระบี่แล้วข้าจะกลัวทำไม?
กระบี่โลหิตแดงอมตะลึกลับและกระบี่มรณะ กลิ่นอายกระบี่พวยพุ่งขึ้น
ปัง!
กระบี่ทั้งสองปะทะกับหอก ซูหยุน ใส่พลังสูงสุดไปที่หอก จนชาวมารต้องถอยกลับ
คลื่นลมปราณมารกระจาย
ทุกคนตกใจ
พลังของ ซูหยุน แข็งแกร่งมาก
หลังจากสู้กับ ราชันจักรพรรดิ เสร็จแล้วเขายังสู้กับ กวงซินหวัง ผู้ที่มีพลังและความรวดเร็วแต่ ซูหยุน ยังยืนมั่นคง
กวงซินหวัง ตกตะลึงกับการโจมตีของ ซูหยุน เขารู้สึกผิดหวัง เขาคิดว่าเขาสามารถใช้การโจมตีของเขาเพื่อลอบสังหาร ซูหยุน ได้ ไม่มีใครคาดว่า ซูหยุน จะรวดเร็วและมีพลังมากอย่างไม่น่าเชื่อ
“บัดซบ!” กวงซินหวัง บุกเข้าไป ดวงตาของเขาเย็นชา เขาไม่ได้แสดงความเมตตาอีกต่อไป “เจ้ามดปลวกเจ้าไม่มีความหมายในสายตาข้า อย่าหาว่าข้าไม่ให้โอกาสเจ้า! เมื่อเจ้าไม่ยอมก้มหัว ก็อย่ามาว่าก็แล้วกัน! พวกเราจะฆ่าเจ้า! “อ่าาาาา !!”
เมื่อจบประโยคชาวมารทุกคนที่อด้านหลัง กวงวซินหวัง ได้เรียกปราณมารและสมบัติของพวกเขาออกมา ใบหน้าของพวกเขาหน้าเกลียดจ้องมอง ซูหยุน ราวกับพวกเขาเป็นกลุ่มของพวกปีศาจ
เฉินอี้หยุนหน้าซีด นางสั่นเมื่อเห็นชาวมาพวกนั้น แค่คนเดียวในนั้นก็สามารถฆ่านางได้แล้ว นางไม่รู้ว่านางจะมีความกล้าในการเผชิญหน้านี้หรือไม่
ซูหยุน ไม่มีความกลัว เขามองไปที่กองทัพนับพันไม่มีความกลัวแม้แต่นิด
กระบี่สีแดงและกระบี่สีแดงกรีดร้อง
มันส่งเสียงร้องกัมปนาถไปทั่วท้องฟ้า
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว …
หลังจากนั้นไม่นานมี กระบี่สีดำยาวสองเมตร หล่นลงมาจากฟ้า พร้อมกับตัดหัวชาวมารไปหลายคน
ฉึก!..ฉึก!..ฉึก!..ฉึก!..ฉึก!..ฉึก!..
เจตจำนงกระบี่ที่ไม่มีที่สิ้นสุดกางออกเป็นกระบี่อันน่าหลงไหลและไม่มีใครขัดขวางปักอยู่ตรงหน้าคนนับพัน
การเคลื่อนไหวอันรวดเร็วนี้ทำให้ทุกคนตกใจ
เกิดอะไรขึ้น?
แท่นบูชากำลังสั่นสะเทือน
ทุกคนมองไปทางท้องฟ้าเห็นเมฆสีดำลอยตัวอย่างรวดเร็ว มีชาวมารบินลงมาหลายคน ชาวมารผมขาวพุ่งเข้าหา กวงซินหวัง
“บัดซบ! คุกเข่าลง!”
ชายคนนั้นแผดเสียงออกมา
“เจ้าเป็นใคร?”
แต่ชาวมารคนนั้นไม่ตอบ พร้อมกับระเบิดปราณมารออกมาราวกับว่าไมาอยากจะเสียเวลาพูด เขาชี้นิ้วไปที่ กวงซินหวัง ยิงลำแสงสังหารใส่
กวงซินหวัง ดึงสมบัติขึ้นมาป้องกันไว้
ปัง!
แต่พลังทำลายนี้รุนแรงมาก มันเจาะทะลุสมบัติแทงเข้าไปที่หัวใจของ กวงซินหวัง ทันที
“อ้าาา?
พลังอะไรกัน! “
ซูหยุน เกร็งขึ้น แน่นอนต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ ระดับดาราวิญญาณ!
เขาเหลือบไปยังผู้คนที่กำลังเดินเข้ามาใกล้มีป้ายแบบเดียวกันแขวนอยู่รอบเอวของพวกเขา ป้ายนี้เป็นของ ลัทธิกระบี่มาร
“อึก!” ผู้เชี่ยวชาญจากลัทธิกระบี่มาร อยู่ที่นี่?
ซูหยุนใจหาย
“พ่อ!”
ทันใดนั้นเฉินอี้หยินเรียกชายผมขาวคนหนึ่ง
“พ่อ?” ซูหยุน ประหลาดใจ