Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 221
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 221
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :221 กระบี่โลหิตแดงอมตะลึกลับ
แกร่ก!ชิ้ง!
มีเสียงดังมาจากตำหนักกระบี่ ไม่นานเจตจำนงกระบี่ได้แผ่ขยายออกมาจากด้านในครอบคลุมท้องฟ้าเกิดเสียงสายลมฉีกกระชากบรรยากาศออกเป็นชิ้นๆ กระบี่เล่มหนึ่งบินออกไปดั่งดาวตก
มันถูกหยุดไว้โดยกระบี่มรณะ
มันบินหมุนควงรอบตัว ซูหยุน พูดอีกอบ่างก็คือ ปราณมารมากมายมหาศาลได้หมุนวนรอบๆตัว ซูหยุน
“กระบี่คู่ไม่ได้แค่ทรงพลังเท่านั้น แต่มันยังควบคุมกระบี่อื่นได้อีกด้วย! มันยังสามารถใช้ได้ตลอดเวลา เมื่อยืนยันศรัตรูแล้ว มันจะไล่ตามจนกว่าศรัตรูจะตาย ก่อนหน้านี้ข้าได้ตรวจดูแล้ว มันสามารถควบคุมกระบี่ย่อยได้ถึง 1037 เล่น ซึ่งหมายความว่า เจ้าสามารถต้านทานคู่ต่อสู้ได้ถึง 1037 คน! “
“ก่อนหน้านี้เจ้าสามารถควบคุมกระบี่ย่อยของกระบี่มรณะได้เพียง67เล่มซึ่งเจ้าจะไม่สามารถเอาชนะกระบี่คู่ได้”
“ตอนนี้มันอยู่ที่ดวงของเจ้าแล้ว กระบี่คู่ได้บินออกมาจากตำหนัก หนึ่งเล่ม ขึ้นอยู่กับเจ้าว่าเจ้าจะสามารถกำราบมันได้มั้ย.”
หลิงฉิงหยู ยื่นมือไปแตะซูหยุนพร้อมกับใบหน้าจริงจัง “เจ้าพร้อมหรือยัง?”
ซูหยุน สูดลมหายใจลึกยื่นมือไปคว้ากระบี่มรณะที่กำลังปลดปล่องเพลิงมารอย่างบ้าคลั่ง
เมื่อมือหยาบกร้านได้คว้าด้ามกระบี่ หลิงฉิงหยู ท่องบทสวดบางอย่างพร้อมกับมีประกายแสงเจิดจ้าสีฟ้าห่อหุ้มร่างทั้งสองบินไปที่ตำหนักกระบี่
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว …
กระบี่กว่า60เล่มบินตามไปด้วย ซูหยุนเหวี่ยงกระบี่มรณะขึ้นไปในอากาศเพื่อควบคุม
กระบีมรณะคือ ปฐมกระบี่ มันมีพลังปราณแบบพิเศษ ที่กระบี่ทั้งสองสามารถควบคุมกระบี่เล่มอื่นๆได้เหมือนกัน มันจึงเป็นศรัตรูดดยธรรมชาติกัน และหากปล่อยปราณปฐมกระบี่ออกมา มันจะไปกระตุ้นกระบี่คู่ให้ออกมาต่อต้าน แต่หากค่อยๆปล่อยปราณกระบี่มรณะออกมา หากเกิดลมแม้แต่นิดมันจะไปกระตุ้นกระบี่คู่ ปัญหาใหญ่จะตามมา
ปราณกระบี่แผ่ขยายออกมาจากกระบี่มรณะ ขณะที่มันยังบินไปที่ตำหนักกระบี่ ด้วยการสนับสนุนของของหลิงฉิงหยู ซูหยุน กวาดสายตามองกระบี่ทั้งหมด
ฟึบ!
ทันใดนั้น
หลิงฉิงหยู และ ซูหยุนได้ยินเสียงแว่วเข้ามาทางด้านขวาเมื่อทั้งสองหันไปมอง มันคือกระบี่คู่ที่ปล่อยแสงสีแดงประกายอ่อนออกมา
“ไม่ผิดแน่! นั่นมัน! “
สวบ!
ตอนนั้นเอง ซูหยุน ได้ผละตัวของมันเองออกจาก หลิงฉิงหยู แล้วขี่กระบี่ของตัวเองพุ่งเข้าหา กระบี่คู่สีแดงเลือด
กึก!ชิ้ง!
ซูหยุน จับกระบี่ใช้แรงทั้งหมดดึงมันขึ้นจากในก้อนหิน เสียงดัง ปุดๆ
ในตอนที่มันกำลังดึงกระบี่อยู่นั้น กระบี่มรณะที่กำลังบินอยู่รอบตัวเองเหมือนกำลังจะบอกบางอย่างพร้อมกับบินไปกับกระบี่ย่อย
ภายใต้กระบี่ทั้ง60มันเหมือนดั่งมังกรดุร้าย
วิ้ง วิ้ง วิ้ง วิ้ง
พลังงานจิตวิญญาณแผ่ขยายออกมาพื้นดินสั่นสะเทือนเลือนลั่น เสียงสายผ่าที่ลงมาดังกึกก้อง กระบี่นับพันที่อยู่รอบๆตำหนัก แตกตื่น
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว
กระบี่นับพันอยู่ปักอยู่บนพื้นรอบๆตำหนัก ถูกดึงออกมาจากพื้นด้วยตัวของมันเอง บินขึ้นไปบนท้องฟ้ารวมตัวกันสร้างเป็กระบี่ยักษ์
ภาพกระบี่นับพันที่รวมกัน กลายเป็นภาพอันงดงาม?
“ซูหยุน เร็วเข้า !! เจ้าลังเลไม่ได้อีกแล้ว! “
หลิงฉิงหยูสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
ซูหยุน พยักหน้ากุมกระบี่สีแดงเลือดไว้แน่นไร้ความลังเลใช้พลังทั้งหมดดึงมันออกมาบังคับไปทางกระบี่มรระ
กระบี่มรณะบินวนรอบๆ กระบี่มากมายได้บินเข้ามาทาง ซูหยุน สั่นสะเทือนชั้นบรรยากาศคล้ายดั่งเสียงหัวเราะอำมหิตตรงไปยังกระบี่มรณะ
มันคือปฐมกระบี่ มันไร้ซึ่งความกลัว
เคร้ง!
ปลายกระบี่มรณะปะทะเข้ากับปลายกระบี่สีแดง พลังของมันนั้นเหลือล้น ปรารกระบี่พุ่งกระจายเข้าไปในใบมีดกระบี่คู่
กระบี่ย่อยที่ตามมาพุ่งเข้าชนกระบี่มรณะ ราวกับมันกำลังถ่ายโอนอำนาจไปยังกระบี่มรณะ
พลังกระบี่มรณะเพิ่มขึ้น
ปราณมรณะหุ่อหุ้มกระบี่มรระราวกับรังไหม
“เยี่ยม!”
ซูหยุน มีความสุขทันที
มันรู้สึกได้ว่า ความต่อต้านของกระบี่คู่ลดลง
กระบี่นับพันพร้อมกับกระบี่ย่อยกำลังร่วงลงมาจากท้องฟ้าหลังจากการปะทะของกระบี่มรณะ
พลังของกระบี่คู่ถูกกำราบ
แต่ในขณะที่ หลิงฉิงหยู กับ ซูหยุน คิดว่าทุกอย่างจบแล้ว กระบี่คู่ได้ปล่อยพลังกดดันอันมหาศาลออกมากดขี่ ปรารกระบี่มารแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
กระบี่นับพันทะยานขึ้นมาอีกครั้ง!
“อึก!”
ซูฆยุน ยังจับกระบี่ไว้ในมือทั้งสองไม่ยอมปล่อยจากมือ
มันกัดฟันใช้พลังทั้งหมดฉุดรั้งไว้
กระบี่มรณะไม่ยอมหยุดแค่นั้น ใบมีดของมันที่ราวกับจะแตก ใบมีดสีดำของมันได้ปล่อยปราณสีดำอำมหิต ไม่เพียงแค่นั้น คำว่า มรณะ ได้เปล่งแสงสีแดงออกมาทำให้ทั่วทั้งบริเวณสว่างจ้า
กระบี่มรระ มันกำลังใช้พลังของมันทั้งหมด!
“หยุดมันให้ข้า!”
ซูหยุนเปล่งเสียงคำราม คอของมันเปลี่ยนเป็นสีแดง
กระบี่มรณะระเบิดพลังออกมามายมาย คนกับกระบีรวมเป็นหนึ่ง
ในตอนนั้น กระบี่มรณะไม่ได้ปลดปล่อยปราณกระบี่ ปฐมกระบี่ แต่มันพัฒนาขึ้นไม่ได้เป็นเหมือนปฐมกระบี่ดั่งครั้งก่อนๆ
กระบี่คู่ต่อต้าน แต่ด้วยคนร่วมกับกระบี่มันจึงเพิ่มความแข็งแกร่งมากขึ้น
หลิงฉิงหยู ที่มองอยู่ด้านข้างหากว่าไม่กระบี่คู่มันจะไม่ยอมรับ
หัวใจนางสูบฉีดขึ้นลง นางเฝ้าดู ซูหยุนและกระบี่มรณะเข้าต้านทานกระบี่คู่อย่างเอาเป็นเอาตาย ในตอนนั้นได้มีแสงแวบในดวงตาของนางครั้งหนึ่ง
“ถึงจะไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่ แต่ความกล้าหาญเช่นนี้ช่างหาได้ยากจริงๆ” หลิงฉิงหยู พึมพำเบา นึกถึงตอนที่เขาช่วยชิงเอ๋อและผู้คนรอบตัวอย่างไม่คิดชีวิต เผชิญหน้ากับอันตรายและผู้ทรงพลังมากมาก
เขาเป็นคนที่อ่อนแอและโง่มาก
นั่นคือความรู่สึกที่นางมีต่อเขาและก็หัวเราะ
ปัง!!
นางได้ยินเสียงระเบิดอย่างรุนแรง กระบี่นับสิบกับหนึ่งคนลอยออกมาปะทะกับพื้น
หลิงฉิงหยู เห็นเป็น ซูหยุน แต่ในเวลาเดียวกันนั้น กระบี่สีดำและแดง ก็ตามมาด้วย
หัวใจของมีความสุขและบินไป
ซูหยุนไร้เรี่ยวแรงทั่วทั้งร่างเต็มไปด้วยแผลจากอาการบาดเจ็บอย่างหนัง แต่สิ่งที่น่าดีใจคือ กระบี่คู่หยุดตื่นตัว
หลิงฉิงหยู ถ่ายลมปราณให้กับ ซูหยุนเพื่อพยุงอาการ
“สำเร็จมั้ย?” ซูหยุนยันตัวเองลุกขึ้นมาอย่างยากลำบาก
“สำเร็จแล้ว!”
หลิงฉิงหยู่มองไปที่กระบี่สีเลือดที่ด้านหลัง ซูหยุน
เมื่อได้ยินเช่นนั้นใบหน้าซีดจากของมันก็ปลาบปลื้มทันทีและหันไปมอง กระบี่เรียวยาวที่อยู่ด้านหลังด้วยความปลื้มปิติ
อย่างน้อยก็ไม่เสียแรงเปล่า
เขาเอื้อมมือไปคว้ากระบี่ แต่หลิงฉิงหยู ตบมือ
“เจ้าอยากตายนักหรือ? “
ซูหยุนเหงื่อตก “อะไร?”
“ด้วยสภาพเจ้าตอนนี้ไม่สามารถควบคุมมันได้ แต่ถึงแม้เจ้าจะไม่ได้รับบาดเจ็บแต่การควบคุมมันยังไม่สมบูรณื ไม่งั้นสิ่งที่เจ้าทำมาจะเสียแรงเปล่า แม้ว่าเจ้าจะทำให้มันสงบลงได้ แต่ส่วนใหญ่เป็เพราะกระบี่มรณะ มันจะทำให้เจ้าบาดเจ็บและอาจทำร้ายเจ้าได้ในพริบตา! “
“น่ากลัวแฮะ?”
“ตอนนี้เจ้าทำได้แค่ใช้ปฐมกระบี่อย่าง กระบี่มรณะเท่านั้น ลืมกระบี่คู่ไปได้เลยไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีใดก็ตาม อย่าได้หุนหันพลันแล่น ไม่อย่างนั้น เจ้าจะไม่สามารถเข้าไปที่ตำหนักกระบี่ได้อีก จำไว้ “
ซูหยุนได้แต่พยักหน้า
ยังมีอาวุธที่ยังไม่สามารถใฃ้ได้ดั่งใจ
แต่ความจริงแล้วตัวเขาเองยังมีพลังยุทธแค่ ระดับดวงจิตวิญญาณขั้นแรกเท่านั้น ที่ยังไม่สามารถใช้กระบี่ได้ดั่งใจ
เขามองดาบ เมื่อเทียบกับกระบี่เล่มอื่นๆแล้ว จิตวิญญาณของมันยิ่งกล้าแช็งขึ้นเรื่อยๆมันทำให้รู้สึกแปลกประหลาด
“กระบี่โลหิตแดงอมตะลึกลับ?”
ซูหยุนจ้องมองมัน
“กระบี่ที่มีชื่อว่า”อมตะ “มันจะทำให้เจ้าสามรถฝึกเพลงกระบี่ไร้สัพสิ่งได้ดีเลย . เพลงกระบี่นั้นมีประโยชน์กับเจ้า “
“ขอบใจเจ้ามาก หลิงฉิงหยู” ซูหยุน หัวเราะเล็กน้อยแล้วเดินเข้ากระท่อมไป
“เอาล่ะ! ครั้งต่อไป ไม่ว่าจะเป็นกระบี่คู่ หรือกระบี่อะไรก็ตาม เจ้าอย่านำมันเข้าไปในฝักกระบี่ ถ้าไม่จำเป็น “
ซูหยุน นั่งลงนำกระบี่สีเลือด ออกมาจากฝักกระบี่
เมื่อมาถึงกระท่อม เขาเอากระบี่คู่วางไว้ที่ขานั่งเข้าฌาณเพื่อเรียกพลัง
การต่อสู้ทำให้กระบี่มรณะสูญเสียพลังไปมากมาย ตอนนี้ ซูหยุนต้องการฟื้นฟู
หลังจากฟื้นตัวร่างกายไม่กี่วันภายในกระท่อมขนาดเล็กและการกินยาตาลใบหลี่ทุกอย่างทำให้เขาเกือบจะหายเป็นปกติ
ไม่นานวันที่ต้องไป วังลับ ก็มาถึง
ตอนเช้า หันซาน เข้ามาแล้วเคาะประตู
ซูหยุนหยิบกระบี่มรณะ พร้อมกับกระบี่คู่เหน็บไว้ด้านหลัง เดินไปกับหันซาน
“เอ่อ กระบี่คู่ที่ข้างหลังนี่คือ?”
เห็นดังนั้น หันซาน ก็สงสัย
“อ่อ…ข้าเพิ่งได้มันมาน่ะ”
“ข้าได้ยินมาจากคนที่ชำนาญกระบี่วิเศษและควบคุมมันได้ เจ้าไปเรียนมันมาจากไหน? เจ้าจะสอนข้าได้หรือไม่? “
“ได้สิ…แต่ท่าต้องออกจากลัทธินี้ก่อนน่ะ” ซูหยุนหัวเราะ
“ข้าล้อเล่นน่า…ก่อนหน้านี้ข้าแค่หยอกเล่นๆ ข้ายังคงคิดว่าเพลงกระบี่มารนั้นสุดยอด”
เพลงกระบี่มิเสื่อมคลาย
“เฮ่ๆๆๆ ข้าจะจำความรู้สึกนี้ไว้ ถึงยังไง ลี่กวง กับ ลี่ซิน ก็ไม่ถูกกัน ข้าได้ยินมาว่า ไม่มีใครพอใจที่เจ้าจะไปในวังลับ มันเเป็นเพราะว่าเจ้าจะไปเอา ราชาราชันกระบี่ จึงไม่มีใครยอม เจ้าเข้าใจมั้ย? เมื่อเจ้าเข้าไปนวังลับ จะไม่มีใครฃ่วยเจ้าได้ิีกแล้ว “
“ข้าเข้าใจขอบพระคุณเตือน” ซูหยุนพยักหน้ารับปาก
แต่ไม่นานทุกคนก็มาถึงราชวังลับ
ตรงทางเข้าออกมามีสาวกคอยเฝ้าอยู่
ซูหยุน สะพายฝักกระบี่สิดำงเดินผ่านมองมา