Limitless Sword God – ฝืนลิขิตฟ้ากระบี่ไร้สรรพสิ่ง - ตอนที่ 222
เทพกระบี่ไร้สรรพสิ่ง บทที่ 222
ภาค:จอมราชันท์กระบี่ปีศาจ
แปลไทยโดย: SwordGod
LSG บทที่ :222 พื้นที่ลับ
เมื่อเห็นซูหยุนเดินผ่านไป หลี่กวง แสดงท่าทางหงุดหงิด
เขารีบวิ่งไปหาครูฝึก “วังลับเป็นที่ต้องห้ามของลัทธิ เราท่านเห็นด้วยหรือที่จะให้คนนอกเข้าไปครับ?”
“ถ้าเป็นคนปกติแน่นอนเราจะไม่ยอมให้ แต่เป้าหมายของ ซูหยุนคือราชากระบี่ราชัน เพื่อซ่อมแซมประตูช่องว่าง มันเป็นประโยชน์ต่อ ลัทธิของเรา ท่านผู้อาวุโสรู้เรื่องนี้และข้าก็เห็นด้วยด้วย ไม่มีความลับใดในนั้นใยต้องปิดบัง? เขาสามารถไปได้ไม่เป็นผลต่อเจ้า “
ครูฝึกชื่อว่า หวังจื่อเปา กล่าวอย่างไร้อารมณ์
หลี่กวงต้องการจะพูดอีก แต่ถูก หลี่ซิน ดึงแขนเสื้อของเขาไว้ หลี่กวง หันมามอง หลี่ซิน จึงปล่อยแขน
“วังลับ ถูกสร้างโดยท่านบรร เพื่อทดสอบ เพลงกระบี่มาร ในนั้นมีวิญญาณมารมากมายและมีแต่เพลงกระบี่มารเท่านั้นที่ทำร้ายมันได้ ในนั้นมีทั้ง หญ้ามังโมวซา กับ ศิลาปราณมาร มีสองสมบัติอยู่ในนั้น ท่านผ่านมาได้และได้เป็นศิษย์อาวุโส! “
“เพราะฉะนั้น?” หลี่กวงเผยตัวเองอย่างมั่นใจกำหมัด “เรื่องง่ายๆ ท่านครูฝึก ท่านรอข้าที่นี่เถิด”
“อย่าได้ยโสนัก” ในวังลับมีอันตรายมากมาย วิญญาณมารไม่สนใจผู้ใด หากเจ้าได้พบเจ้าต้องใช้พลังเต็มที่เอาชนะมัน มีผู้คนมากมายที่เข้าไปทิ้งชีวิตไว้ในนั้น นับตั้งแต่มันเปิดออกมา! แม้แต่ผู้อาวุโสสองท่านยังตายในนั้น! “
“อะไร?”
ทุกคนตะลึง
“เป็นไปไม่ได้? ท่านผู้อาวุโสนะหรือที่ตายในนั้น? “ หลี่กวงหน้าขาวซีดด้วยความไม่เชื่อ
“ใช่ เมื่อ50ปีก่อน ตอนนั้นท่านเจ้าลัทธิได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ ในบันทึกโบราณของท่านบรรพบุรุษ ในวังลับมีดอกต้นกำเนิดประกายพฤกษา ท่านผู้อาวุโสสองคนได้เข้าไปในวังลับเพื่อไปนำมันมา แต่ท่านไม่ได้กลับออกมาอีกเลย หลังจากนั้นท่านเจ้าลัทธิจึงนำคนติดตามเข้าไปตามหาแต่ไม่พบข้อความใดๆเลย ท่านจึงมีคำสั่งห้ามเข้าไปลึกเกิน50ลี้ หลังจากนั้นก็เพิ่มกลายเป็นต้องห้าม “
“นั่นคือที่มาของกฏของวังลับ ทุกๆคนก็รู้ดี”
“เจ้าอย่าประมาท เพราะนั่นหมายถึงชีวิตของเจ้า เอาล่ะ เจ้าอย่าได้กังวลกับเรื่องนี้ รีบไป พวกเราจะรอเจ้าอยู่ที่นี่ “
ครูฝึก หวัง นำกระดูกมนุษย์วางไว้ที่กำแพง ทองมนต์บางอย่าง กระดูกเปล่งแสงสร้างรูปแบบอาคมประตูขึ้นมา อาคมสร้างประตูในกำแพงเสียงดังก้องปรากฏรอยแยกกว่า2เมตร
มันคือทางเข้าวังลับ
“วังลับกว้างใหญ่มาก สองสมบัติ จะมีร่องรอยปราณอยู่!”
ครูฝึกหวังเดินเข้าไป
ในตอนนี้ หลี่กวงเสียความมั่นใจและระมัดระวังแทน
กลุ่มผู้คนเริ่มเดินเข้าไปในประตู
“ซูหยุน เจ้าเข้าไปเถอะ ข้าหวังว่าเจ้าจะนำข่าวดีกลับมา!” หันซาน ตบไหล่ ซูหยุน เบาๆด้วยสีหน้าจริงใจ
“อืม” ซูหยุน พยักหน้าด้วยหมกมารที่ปกคลุมหน้าของเขาสีหน้าแย่ๆแล้วเดินเข้าไป
เมื่อเข้ามา มีเส้นทางที่ทอดยาว
ภายในมืดมากไม่มีแสงใดๆ แต่ในความมืดไม่ได้มีผลต่อชาวมาร ซูหยุน เองก็มี เนตรศักดิ์สิทธิ์เกล็ดสวรรค์ จึงไม่เป็นอุปสรรคใด
ทุกคนถืออาวุธเดินอย่างระมัดระวัง ด้านหน้าที่นำมาคือ หลี่กวงและหลี่ซินทั้งสองเชี่ยวชาญเพลงกระบี่มารากที่ภายในสาวกรุ่นน้องและยังแข็งแกร่งที่สุดกว่าพวกที่ตามมา
“ทุกคนระวังตัวด้วย!”
หลี่ซินตะโกนเตือน
“ครับศิษย์พี่”
ทุกคนเดินหน้าต่อไป
หลังจากเดินมาครึ่งชั่วยาม เส้นทางได้เปลี่ยนไป แต่ไม่มีร่องรอยของวิญญาณมาร ทุกคนจึงผ่อนคลายและลดการป้องกันลง
“ศิษย์พี่ ข้ารู้สึกว่าที่นี่แปลกๆ? พวกเขาไม่ได้บอกว่า ที่วังลับมีแต่วิญญาณมารเต็มไปหมดหรอกหรือ? ทำไมพวกเราไม่พบมันเลยสักตัว? “
“เราเดินออกนอกเส้นทางหรือไม่”
“เส้นทางมีอยู้เส้นเดียว เราจะผิดได้อย่างไร?”
คนที่อยู่ด้านหลังมองหน้ากัน
“ศิษย์พี่ ระวัง!”
ด้านหน้ามีวิญญาณมารอยู่รอบๆ
หลี่กวงระเบิดปราณมารออกมาและกลายเป็นควันพุ่งไปข้างหน้า
เมื่อมาถึงวิญญาณมารควันกลายเป็นภาพคลื่นดาบตัดวิญญาณมารอย่างดุเดือดบ้าคลั่ง
หลี่ซินกับคนอื่นมองอย่างช่วยไม่ได้
หลังจากลงมือไม่นาน วิญญาณมารก็ถูกจัดการลงไปด้วยชาวมารกว่า20คน
“ฮ่าๆๆ วิญญาณมารพวกนี้ไม่เห็นจะเท่าไหร่เลย แต่ก็ช่วยเพิ่มพลังยุทธได้ไม่น้อย!” ชาวมารหัวเราะอย่างมีความสุข
“ข้าว่า ที่ท่านครูฝึกพูดมาเพื่อขู่เรา! เขาจงใจทำให้เรากลัว! “
“ใช่ ข้าก็คิดอย่างนั้น!”
“ฮ่า ๆ ๆ … “
กลุ่มชาวมารหัวเราะอย่างมีความสุข
ซูหยุน อยู่ด้านหลังไม่ได้พูดอะไร เขาไม่สามารถดูดซับ วิญญาณมาร ได้เช่นเดียวกับ ชาวอณาจักรมาร ถือว่าเขาเป็นคนนอกอย่างแท้จริง
หลังจากจัดการวิญญาณมารแล้วพวกเขาก็เดินทางต่อ
พวกเขาพบกับวิญญาณมารตลอดทางและถูกหลี่ซินกับหลี่กวงจัดการไปอย่างง่ายดาย
เริ่มแรกหลี่กวงและหลี่ซินระมัดระวังมาก แต่หลังจากได้ลิ้มรสในชัยชนะ พวกเขาเริ่มเพิ่มความเร็วในการเดินทางมากขึ้น
วิญญาณมารอาจจะน่ากลัว แต่ชาวอณาจักมารสามารถดูดซับวิญญาณมารเพิ่มความแข็งแกร่งได้
พวกเขาเดินทางอย่างรวดเร็วได้พบกับทางแยก
ทุกคนมอง หลี่กวงและหลี่ซิน หลี่ซินคายลูกปัดสีดำออกมา นางบีบลูกปัดแล้วโปรยไปในอากาศ
แสงสีเขียวปรากฏขึ้นท่ามกลางฝุ่นที่ละเอียด
“ทางนี้มีปราณของ หญ้ามังกรโมวซา’” หลี่ซินชี้ไปทางด้านซ้ายที่มีแสงสีเขียว
“แล้ว ศิลาปราณมาร?”
“ตอนนี้ข้าพบแต่ ปราณของหญ้าโมวซา”
“นั่นไม่ใช่ทางไป” หลี่กวงทำท่าครุ่นคิด “หลี่ซินเจ้าพาคนกลุ่มหนึ่งไปทางด้านขวา ข้าจะไปหา หญ้ามังกรโมวซา เจ้าไปหา ศิลาปราณมาร เราจะแยกกันค้นหา ว่าไง? “
ตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่า หลี่กวงหมายถึงอะไร
การค้นหาทั้งสองสมบัติไม่ได้สำคัญอีกต่อไปแล้ว พวกเขากำลังแสวงหารสชาติของวิญญาณมารมากชึ้น
ยิ่งพวกเขาอยู่รวมกันมากเท่าไหร่ส่วนแบ่งก็จะน้อยลง แล้วทำไมพวกเขาจะไม่แยกทาง?
หลี่ซินเห็นด้วย เพราะวิญญาณมารให้ประโยชน์แก่พวกเขามากกว่า
หลังจากแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่มโดยมีหลี่กวงและหลี่ซินเป็นผู้นำ
“ซูหยุน” หลี่กวงตะโกนใสคนที่ถือกระบี่สองเล่ม
ซูหยุนเงยหน้าขึ้นมอง
“ตตามหลี่ซินไป และหา ราชากระบี่ราชัน”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ….”
กลุ่มชาวมารหัวเราะเยาะ ราชากระบี่ราชัน เป็นสิ่งของในตำนาน มันจะหาพบหรือ?
ซูหยุนไม่ได้พูดใดๆ
“ไปกันเถอะ”
หลี่ซินไม่ได้พูดมากนางพากลุ่มคนเดินไปตามเส้นทางโดยมีซูหยุนตามไป
หลี่กวงมองดูคนที่เดินจากไปและนำกลุ่มคนไปทางซ้าย
หลังจากเดินมาระยะหนึ่งพวกเขาก็พบวิญญาณมารจำนวนมาก นั่นทำให้ หลี่ซิน และกลุ่มชาวมารคนอื่น ๆ มีความสุขเป็นอย่างมาก พวกเขาแข่งขันกันและใช้เพลกระบี่มารเพื่อสู้ แม้ว่าจำนวนวิญญาณมารจะเพิ่มขึ้นมากมาย แต่ก็ไม่อาจหยุดกลุ่มของชาวมารนี้ได้และถูกฆ่าตายทั้งหมด
ซูหยุนเฝ้าสังเกตุวิญญาณมารลึกลับทั้งหมดที่ถูกเพลงกระบี่มารดูดซับ
ในบันทึก ใครกันที่เป็นบรรพบุรุษลัทธิกระบี่มาร เขาสร้างวิญญาณมาเพื่อสิ่งใด? วิญญาณมารเหล่านี้ดูเหมือนจะถูกสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับสาวกแห่งลัทธิมาร หรือบางที วิญญาณมาร จะเป็นรางวัลสำหรับการชนะ
หลังจากที่ หลี่ซิน นำกลุ่มของนางเดินลึกลงไป จำนวนและพลังของ วิญญาณ ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
แม้ว่าชาวมารจะดูดซับจนเต็มอิ่ม แต่ทุกคนคือชาวมารไม่ใช่มนุษย์ พวกเขาจะรู้จักคำว่าพอหรือ?
พวกเขายังคงกินและฆ่าต่อไป ไม่มีใครคิดจะหาสมบัติเพื่อการทดสอบ
ซูหยุนเฝ้าสังเกตุอย่างระวังและไม่ได้สนใจ เขามองหาตำแหน่งของราชากระบี่ราชัน
ปัง!
เสียงดังเบาๆ
สายตาของทุกคนหันไปทางเสียง มองเห็นแสงสีเทาจางๆที่ไหลออกมาจากประตูหินที่แตกปลายทาง
หลี่วิน และทุกคนหยุดทันที
“นั่นอะไร?
“ทุกคนระวังตัวให้ดี! “
“อย่ากลัวเลยอาจมี วิญญาณมาร มากขึ้น ฮ่า ๆ ข้าต้องการกินมันมากกว่านี้ข้าจะทลวงไปขอบเขตต่อไป!”
ทุกคนในกลุ่มชาวมาร ตื่นเต้นมากและเริ่มคุยกันและหัวเราะ
หลี่ซิน ผู้ซึ่งระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งปัจจุบันยังไม่ระมัดระวัง เห็นทุกคนร่าเริงมาก นางไม่สามารถระงับข้อสงสัยของนาง นางถือกระบี่มารเดินไปทางประตูหินทรุดโทรม
ตูม ตูม ตูม ตูม !!
เสียงทุ้มต่ำดังออกมาจากด้านหลังประตูหิน หลี่ซินใช้กำลังเปิดรอยแตกที่มีแสงสีเทาส่องออกมาตามด้วยกลิ่นเหม็นเน่า
ทุกคนรีบถืออาวุธมองไปที่ประตูหิน
ด้านในประตูหินเป็นพระราชวังขนาดใหญ่เช่นเดียวกับพื้นที่มันกว้างขวางและเต็มไปด้วยอนุสรณ์มากมาย อนุสรณ์ทั้งหมดเต็มไปด้วยเส้นเลือดดำ เส้นยาวมุ่งไปยังห้องโถงกว้างรูปปั้นมากมายที่ยืนอยู่ทั้งสองด้านของทางเดิน สุดทางเดินเป็นโลงศพซ้อนทับด้วยก้อนหินสีดำ
“ที่นี่ที่ไหน?”
ทุกคนตกใจ
ซูหยุนสูดลมหายใจหนัก สายตาของเขากวาดไปรอบๆเพื่อมองหาของบางอย่าง
“ดูนั่น!”
เวลานั้น เสียงของความตื่นเต้นดังออกมา
ทุกคนมองตามไปยังคนที่ชี้ไปที่สิ่งที่ทอดยาวอยู่บนโลงศพสีดำ
มันคือกระบี่หินสีดำ
“นั่นมัน ราชากระบี่ราชัน?” หลี่ซินรู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก
“เราพบมันง่ายเกินไปหรือเปล่า?”
ซูหยุนรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก