Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 263
Chapter 263: กลายร่าง
หลังจากเขาถูกพาไป ฟางหยวนก็รู้ตัวตนของทั้งคู่จากข้อมูลที่เขาเก็บได้ระหว่างทาง
เจ้าหน้าที่ชุดเชียวนั้นแซ่ซูและมีชื่อตัวว่า เหริน เขาเป็นบัณฑิตจากเขตชิงเหอและเป็นเด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์ตอนอายุสิบสอง เขาได้รับคัดเลือกและผ่านการสอบของทางการกลายมาเป็นเจ้าหน้าที่ทางการหลังจากนั้นเขาก็พาเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาไต่เต้ามาถึงตําแหน่งนี้ส่วนหญิงสาวว่านเอ๋อร์ คือภรรยาของเขาตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว
การนั่งรถม้าในสมัยนี้นั้นกระทบกระเทือนและไม่เหมาะกับหญิงสาวตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ระบบขนส่งของอาณาจักรนี้ยังพัฒนาแล้ว ดังนั้น ซูเหรินจึงเลือกนั่งเรือ
ที่ท่าเรือ เขาเช่าเรือเล็กลําหนึ่งและลงเรือล่องไปตามกระแสน้ํา
ส่วนฟางหยวนและปลาอีกสองตัว ย่อมถูกนําไปไว้ที่ครัว
ปลาหลีสีทองก็ยังอยู่ที่นี่ ดูเหมือนว่าซูเหรินอาจจะกําลังหาที่ปล่อยมันหรือกินมันก็ได้ อย่างไรเสีย มันก็นับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตกึ่งวิเศษซึ่งมีประโยชน์ต่อทารกในครรภ์
ท้องฟ้าที่ด้านนอกมีดลง และครัวก็เริ่มวุ่นวายขึ้น ปลาหลีสีทองแกมแดงมองฟางหยวนและปลาอีกตัวด้วยสีหน้าเยาะเย้ย
“ตาย ตาย ตายแน่…”
ปลาสีเขียวตัวใหญ่นั้นกลัวจนไร้สติและทําได้เพียงพึมพําคําซ้ํา ๆ
“จริง ๆ เลยนะ… พอคิดจะพึ่งพิงภูเขา ภูเขาก็ถล่ม และพอคิดจะอาศัยในน้ํา น้ําก็แห้งเหือด สุดท้ายแล้ว ข้าก็ยังคงต้องพึ่งพาตนเอง!”
ฟางหยวนรวมพลังอยู่เงียบ ๆ และไม่เคลื่อนไหว
ผลของเคล็ดเบี้ยวมังกรของเขานั้นกําลังจะหมดลงแล้ว ดังนั้น เขาก็สามารถเผชิญหน้ากับความตายโดยไร้ความหวาดกลัวได้ นอกจากนี้ หากเขาสามารถแก้ไขภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี้ได้ด้วยแค่ร้องไห้ก็คงมีโอกาสกว่าแปดส่วนที่เขาจะทําแม้ปากจะบอกว่าไม่ยินยอมก็ตาม
“มังกรสามารถเปลี่ยนขนาดตัวของมันได้ และยังสามารถทะยานขึ้นฟ้าหรือซ่อนตัวก็ได้ เมื่อมันอยู่ในร่างขนาดใหญ่ มันก็สามารถกลืนเมฆพ่นหมอกได้ เมื่อมันอยู่ในร่างขนาดเล็ก มันก็สามารถแอบซ่อนได้มันสามารถโผทะยานสู่ห้วงนภาหรือว่าซ่อนตัวในคลื่นยักษ์…”
เคล็ดเบี้ยวมังกรนี้เป็นวิชาอันน่าอัศจรรย์ของเผ่าพันธุ์มังกรและยังจําเป็นในการรักษาชีวิต
ฟางหยวนร่ายเคล็ดวิชาอยู่เงียบ ๆ และรู้สึกถึงเส้นสายของพลังธาตุเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในร่างกายที่แห้งเหือดของเขา
“มันไม่ใช่เพียงขั้นตอนเดียวที่ปลาหลีจะเปลี่ยนไปเป็นมังกรได้ ตรงกันข้าม มันต้องกระตุ้นรัศมีมังกรภายในร่างและสร้างโอกาสที่จะแปลงกายไปเป็นมังกร!”
ดวงตาของฟางหยวนสุกสว่างขึ้นด้วยความเข้าใจขณะคิดถึงเนื้อหาวิชาเก้าขั้นมังกรกลาย
“เอาอย่างไร? พวกเราจะลงมือหรือไม่?”
ในตอนนี้เอง เสียงอวดดีของชายคนหนึ่งดังมา
“คุณชายน้อยของตระกูลร่ํารวยผู้นี้พกเงินมามากนัก เจ้าเห็นเงินที่เขามีตอนที่เขาจ่ายค่าปลาหรือไม่?นั่นน่าจะเป็นเหรียญทองหลายสิบเลย นอกจากนี้ หยกที่ข้างเอวเขาก็ไม่ใช่ของธรรมดาทั่วไป!”
เสียงนั่นฟังคุ้นเคยมาก ฟางหยวนพบว่านั่นก็คือชาวประมงก่อนหน้านี้
ถึงตอนนี้ คนผู้นั้นที่ประกอบอาชีพเสริมและผู้ที่เห็นด้วยก็เริ่มรวมตัวกัน ทั้งหมดมีราวหกหรือเจ็ดคนซึ่งทําให้ฟางหยวนต้องถอนหายใจ
ซเหรินช่างดวงตามืดบอดเลือกเอาเรือของพวกโจรเข้าแล้ว!
ผู้ที่อาศัยอยู่บนเขาย่อมหากินบนเขา ผู้ที่อาศัยในทะเลย่อมหากินในทะเล เมื่อชาวประมงผู้นี้ดํารงชีวิตยากเข็ญย่อมต้องมีความสามารถในการหาเลี้ยงตัวเองเมื่อพวกเขาเดินทางมาได้ครึ่งทางพวกเขาก็หยุดเรือและถามเจ้าหน้าที่ผู้นั้นว่าต้องการกินบะหมีพื้นบ้านหรือว่าบะหมี่เกี้ยว
พวกเขาเป็นชาวบ้านบนเขาตอนกลางวันและเป็นโจรตอนกลางคืน
ชาวประมงผู้นั้นไม่มีเวลาพูดจาสุภาพแล้ว
“รอประเดี๋ยวนะ ข้ารู้สึกว่าภูมิหลังของแม่นางผู้นี้จะไม่ธรรมดา ข้าเกรงว่านางจะมีเส้นสายใด!”
“เหล่าเจีย เจ้าก็กลัวตายตลอดน่ะแหละ อย่าลืมว่าครั้งก่อนหน้านี้ พวกเราก็สังหารเจ้าหน้าที่ระดับ 7 และยังโยนผนึกของเขาทิ้งลงน้ํา ใครจะไปหาเขาเจอกัน?”
“ไป๋หลี่หลาง อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ากําลังคิดอะไรอยู่ เจ้าคิดจะกระตุ้นให้พวกเรายอมให้เจ้าฉวยโอกาสกับแม่นางผู้นั้นใช่หรือไม่?”
กลุ่มโจรสลัดมืออาชีพพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน สุดท้ายแล้ว ข้อเสนอของไป๋หลี่หลางก็ได้รับความเห็นชอบจากเหล่าโจรละโมบ
“ลงมือกันเถอะ! พวกเราไม่ได้พบเจอแพะอ้วนอย่างนี้บ่อย ๆ !”
“ชิงสมบัติของมัน และฉุดเมียของมันมาซะ!”
“พรรคพวก รอบนี้ข้าไม่ต้องการเงินและทองพวกนั้น ข้าเพียงอยากได้ภรรยาคนงามของเขาและข้าก็หวังว่าพวกเจ้าจะไม่แย่งนางกับข้า…”
ชาวประมงที่จับฟางหยวนมา ไป๋หลี่หลาง ยกมือขึ้นประสานหมัดและยิ้มอยู่ในหน้า
“ในเมื่อเจ้าพูดขนาดนี้แล้ว พวกเราก็จะปล่อยให้เจ้าได้แม่นางผู้นั้น เงินและทองของเจ้าแพะอ้วนนั่นน่าจะเป็นสิ่งชดเชยเพียงพอ… ฮ่าฮ่า… พวกเราสามารถไปสํานักโคมเขียวและหาใครสักคนที่เทียบเท่าแม่นางผู้นั้นได้!”
“ข้าอยากได้หยกของเขา!”
“ดี เช่นนั้นก็ตกลงตามนี้ พวกเราจะไม่รั้งรอนานไป พวกเราควรจู่โจมในตอนนี้และกลับมาดื่มน้ําแกงปลาฉลองด้วยกัน!”
ไปหลหลางพูดอย่างยินดี
ยากที่จะโทษเขาได้ที่วางแผนการเช่นนี้ เรือลํานี้ตอนนี้นั้นอยู่กลางแม่น้ําซึ่งเป็นพื้นที่อันตรายสูงสุดต่อให้เรื่องนี้รั่วไหลออกไป แล้วคนคู่นั้นจะทําอะไรได้?
“นายท่านของข้ากับฮูหยินกําลังรอรับประทานปลา พวกเจ้ามายืนอยู่ตรงนี้ทําอะไรกัน?”
ในตอนนี้เอง คนรับใช้ผู้หนึ่งก็เดินเข้ามาในครัว เขาบ่นพึมพําเมื่อเห็นด้วยความสงสัยขึ้นมา
“ฉวะ!”
เพียงพริบตาเดียว ไป๋หลี่หลางก็พุ่งขึ้นหน้ามา ดึงเอามีดสั้นออกมาแทงใส่เขาอย่างเหี้ยมโหด
ดวงตาของคนรับใช้ผู้นั้นเบิกกว้าง ขณะโซเซถอยไป
“กินปลา? ฮ่าฮ่า… ไปกินดื่มในนรกแล้วกัน!”
ไปหลี่หลางหัวเราะเสียงดังขณะเลียเลือดที่ตรงมุมปาก เขานัดแนะกับโจรคนอื่น ๆ ก่อนที่จะรีบร้อนออกจากครัวไปเสียงร้องแผ่วเบาดังก้องอยู่ในห้องครัวเงียบ ๆ
“ฮ่าฮ่า… นี่คือกรรมสนองแล้ว!”
ฟางหยวนมองปลาหลีสีทองแกมแดงที่เริ่มวิตกและก็รู้สึกยินดี “โจรนั่นไม่ได้สนใจว่าเจ้าจะมีการรับรู้ทางวิญญาณเจ้าได้กลายเป็นน้ําแกงให้พวกเขาแน่ ๆ!”
ปลาหลีสีทองมองมาทางเขาแต่ไม่พูด
“ตาย ตาย ตายแน่!”
ที่ด้านข้าง ปลาสีเขียวว่ายน้ําเป็นวงกลม ทําให้ฟางหยวนรู้สึกมึนงงขึ้นมา
“นี่น่าเบื่อนัก!”
ในใจเขา เขาส่ายหน้า เกล็ดสีดําเงาปรากฏขึ้นบนร่างของเขา
ท่ามกลางประกายแสงสีดํา ร่างของฟางหยวนเริ่มยาวขึ้น หนวดของเขาหายไปและเขาก็เปลี่ยนไปเป็นงูสีดํายาวสามสื่อ
ถึงตอนนี้ หน้าต่างสถานะของเขาก็ปรากฏขึ้นและแสดงค่าสถานะใหม่
“ชื่อ: ฟางหยวน
เผ่าพันธุ์: งูดํา (10 ปี)
พลังกาย: 18.0
พลังลมปราณ: 18.0
พลังเวทย์: 18.0
สายวิชา: ???
การฝึกตน: ???
วิทยายุทธ์: [เก้าขั้นมังกรกลาย (เปลี่ยนรูปขั้นที่ 4)], [วิชาควบคุมวารี (ระดับ 3)]
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)]”
ฟางหยวนจดจําเอาไว้เงียบ ๆ และปรับตัวเข้ากับร่างกายใหม่
“โครม!”
เขาพลิกตัวอย่างคล่องแคล่วและเลื้อยออกไปจากถังสู่พื้น
“การเปลี่ยนร่างขั้นที่สี่ในเก้าขั้นมังกรกลายนั้นคือการกลายร่างงูดํา รังสีมังกรถูกกระตุ้นและย่อมไม่ถูกจํากัดให้อยู่แต่ในน้ําเพียงอย่างเดียวแล้ว!”
เลือดเนื้อของสิ่งมีชีวิตธรรมดาที่เกิดอยู่ในน้ํากลับหนักราวกับหินเมื่อขึ้นฝั่ง
แต่ว่า หลังจากถึงขั้นกลายร่างงูดํา สถานการณ์ก็ต่างไปแล้ว
สีดําคือสีของธาตุน้ํา งูดํานั้นย่อมต้องเป็นงูน้ํา ดังนั้น มันจึงสามารถว่ายน้ําและเลื้อยไปบนพื้นดิน หากปลาห ลีธรรมดาสักตัวสามารถบรรลุระดับการฝึกตนเช่นนี้ เส้นทางเต๋ของมันย่อมขยายกว้าง
“ตาย ตาย ตายแน่…”
ปลาสีเขียวยังคงหวาดกลัวอย่างไร้สติหลังจากเห็นการกลายร่างของปลาสีดําเป็นงูดําแทน มันดูราวกับว่ามันกลัวแทบตายเมื่อฟางหยวนเผยตัวตนออกมา
กระทั่งปลาหลีสีทองยังตะลึงงันไป ดวงตากลมโตของมันเผยความตกใจและหวาดกลัวออกมา
“กระตุ้นรังสีมังกร กลายร่างเป็นงูดํา นอกจากเคล็ดควบคุมวารี ยังมีอย่างอื่น… แต่ว่า ข้าค่อยตรวจดูเรื่องนี้ด้วยตนเองที่หลัง!”
ฟางหยวนเลื้อยไปข้าง ๆ ถึงอย่างเกียจคร้าน ดันเจ้าปลาตัวใหญ่สีเขียวขึ้นและโยนมันออกนอกหน้าต่างไป
“ซ่า!”
แม่น้ําที่ด้านนอกหน้าต่างมีเสียงดังทึบขึ้น ปลาสีเขียวถูกโยนลงไปในน้ําและว่ายหนีไปอย่างรวดเร็ว
ที่บนเรือ เสียงร้องไห้ยังดังมา ท่ามกลางความโหดร้าย ไม่มีใครสังเกตเห็นห้องครัวที่ว่างเปล่าและทิศทางที่ปลาหนีไป
“ดี เขาหนีไปแล้ว ได้เวลาข้าหนีแล้วเช่นกัน”
ฟางหยวนพูดเสียงดังอย่างจงใจและเริ่มเลื้อยไปทางประตู
“สหายผู้ฝึกตน รอก่อน!”
และก็จริง ปลาหลีสีทองแกมแดงอดรนทนไม่ไหวอีกต่อไปและยอมพูดออกมาเอง
เสียงของนางเบาและนุ่มเป็นเด็กหญิง… ไม่สิ ผู้หญิง
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะรู้วิธีการพูดด้วย…”
ฟางหยวนยังไม่ได้จากไป ตรงกันข้าม เขานอนอยู่ข้าง ๆ ถึงแล้วมองเข้าไป “ข้าเริ่มคิดว่าเจ้าเป็นใบ้เสียแล้
ปลาหลีสีทองแกมแดงอึ้งไป แต่ว่า ฟางหยวนก็คิดเอาไว้แล้วว่านางคงต้องทําใจก่อน
“ข้าทําเช่นนั้นก่อนหน้านี้เพราะมีความจําเป็น ข้าแบกรับภาระใหญ่หลวงเอาไว้… ได้โปรดอภัยให้และช่วยข้าด้วยเถิด!”
ปลาหลีสีทองแกมแดงเริ่มขอร้อง
นางตระหนักดีถึงสถานการณ์ตอนนี้ หากยังเป็นการตัดสินใจของแม่นางน้อยหว่านเอ๋อร์ นางย่อมมีโอกาสที่จะรอดไปได้หากเป็นซูเหรินตัดสินใจ ก็ยังมีโอกาสกึ่งหนึ่งที่นางจะถูกเอาไปทําอาหารตอนนี้ผู้ที่ตัดสินใจคือกลุ่มโจรสลัดนั่นย่อมไม่มีทางที่นางจะรอดไปได้ดังนั้นนางจึงไม่สามารถนิ่งเฉยและจําต้องร้องขอความช่วยเหลือจากงดําที่ลึกลับตัวนี้
“เจ้ายังไม่บอกชื่อเจ้าเลยแม้กําลังขอความช่วยเหลือไม่จริงใจเอาเสียเลย!”
ฟางหยวนพูด
“ข้าชื่อ… หลี่หลวน…”
“เจ้าทําอะไรมา? เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่?”
ฟางหยวนสังเกตว่าปลาหลีไม่ยอมตอบ
“ไม่เป็นไร…ข้าจะช่วยเจ้าก็ได้ในเมื่อพวกเราก็ล้วนเป็นสัตว์น้ํา!”
ฟางหยวนยกปลาหลีสีทองแกมแดงขึ้นและเตรียมโยนนางออกไปทางหน้าต่าง
อย่างไรเขาก็ได้ค่าสถานะกลับมาถึงกึ่งหนึ่งแล้ว แม้ว่าจะเป็นงูดํายาวเพียงสามอ เขาก็สามารถจัดการกับคู่จงคนหนึ่งได้หากต้องสู้กัน
“เดี๋ยวก่อน!”
ปลาหลีสีทองแกมแดงพูดต่อ “ข้า… ข้านับเป็นผู้ร้ายหลบหนีของพื้นที่แม่น้ําอัน ข้าเกรงว่าข้าจะไม่สามารถเผยตัวตนได้ในแม่น้ํา!นอกจากนี้.. ข้ายังติดหนี้คนคู่นั้น…”
“เจ้าหนี้ของเจ้า.. ซูเหรินผู้นั้นจะต้มข้ากิน!”
ฟางหยวนกลอกตา
ปลาหลีสีทองแกมแดงนั้นพอจะเข้าใจนิสัยของฟางหยวนโดยคร่าวและพูดทันที “หากเจ้าช่วยข้า ข้าจะมอบประโยชน์บางอย่างให้เจ้า!”
“บอกมาให้ชัดเจนก่อน!”
ถึงตอนนี้ เสียงตะโกนบนเรือเริ่มเงียบลง ชัดเจนว่าสถานการณ์กําลังวิกฤติ
หลี่หลวนไม่มีทางเลือกและทําได้เผยสิ่งที่นางคิดเอาไว้“ข้ารู้จักเคหาสน์ใต้น้ําที่มีมุกยี่สิบเม็ดหยกงามอีกสามสิบชิ้นและยังยาวิเศษอีกขวดหนึ่งซึ่งเป็นประโยชน์ต่อปลาเช่นพวกเราอย่างยิ่ง!”
“เหอเหอ…เจ้าไม่ใช่ปลาหลีธรรมดาถึงได้รู้เรื่องพวกนี้!”
ฟางหยวนหัวเราะเสียงเย็นแต่ไม่ดึงดันซักถามเรื่องนี้ต่อ กลับกัน เขากลายเป็นสายฟ้าสีดําสายหนึ่งมุ่งหน้าไปทางดาดฟ้าเรือ
“แม้ว่าข้าจะไม่ได้ติดหนี้อะไรซูเหริน แต่ข้ามีความแค้นกับไป๋หลี่หลางและข้าจะแก้แค้น!”
บนพื้น มีรอยเลือดอยู่ทุกหนแห่ง สาวใช้และคนรับใช้ล้วนนอนจมกองเลือด ในห้องนอนใหญ่ ชั้นวางของล้มคว่ําและมีเสียงดังออกมา
“เจ้า… เจ้ากล้าดีอย่างไร ข้าเป็นคนของราชสํานัก!”
เสียงของซูเหรินดังมา และยังมีเสียงร้องไห้ด้วยความตกใจของฮูหยินของเขา
“เหอเหอ! เป็นเจ้าหน้าที่ทางการแล้วอย่างไร ก็ใช่ว่าข้าจะไม่เคยสังหารเจ้าหน้าที่ทางการมาก่อน…”
ไป๋หลี่หลางหัวเราะน่ารังเกียจ เขาปรารถนาในตัวแม่นางงดงามผู้นั้นและแทบรอสังหารซูเหรินเพื่อแย่งชิงภรรยาของเขาไม่ได้