Carefree Path of Dreams - ตอนที่ 239
Chapter 239: พลังแห่งอาณาจักร
พลังของชินโตนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็นลำดับขั้น และสามารถควบคุมพื้นที่ได้ในระดับหนึ่ง
ฟางหยวนรู้เรื่องนี้แล้ว
อย่างเช่นเทพแห่งขุนเขานี้ หากมันต้องการ มันก็สามารถรับรู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายในเทือกเขาโฉวปีได้ มันยังกระทั่งสามารถส่งพลังของมันและให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ของทางการที่อยู่บนเทือกเขาโฉวนได้ด้วย ดังที่เห็นทหารสร้างวงเวทย์เพิ่มพลังเมื่อครู่ก่อนนี้ หากเทพแห่งขุนเขาไม่ได้คอยช่วยเหลืออยู่ในความมืดวงเวทย์ย่อมไม่แข็งแกร่งขึ้นขนาดใช้พลังธาตุก่อกำเนิดได้
นอกจากนี้ มันยังรู้เรื่องของวิเศษทุกอย่างบนภูเขานี้ สัตว์ทั้งปวงยังฟังคำสั่งของมันและพลังของมันได้จำกัด
แต่ว่า มันก็ยังมีจุดอ่อน
อย่างไรเสีย มันเองก็นับได้ว่าเป็นพลังหยิน มันย่อมเป็นเรื่องยากที่มันจะปรากฏตัวขึ้นในอาณาจักรเป็นระยะเวลานาน แน่นอนว่า ในฐานะเทพเจ้า มันย่อมมีบางครั้งที่จะฝ่าฝืนกฎพวกนี้
แล้วมันจะยอมเปิดเผยตนเองต่อหน้าฟางหยวนหรือ?
ดังนั้นมันจึงทำได้เพียงเป็นฝ่ายสนับสนุนและดึงเอาสัตว์ป่าบนเขาออกมาโดยไม่แสดงตัวเอง
“ไม่เพียงเท่านั้น… เพื่อให้เทพเจ้าผู้หนึ่งมีตัวตนต่อไป มันยังต้องการการรับรองจากราชวงศ์ และด้วยการที่เจ้าหน้าที่ทางการมีอัตราการตายต่อปีสูงและตำแหน่งว่างที่ไม่เคยเพียงพอ การจัดการสมดุลระหว่างสองฝ่ายจึงเป็นเรื่องยาก ดังนั้น ในชินโต การแข่งขันจึงสูงมาก… นี่พบเห็นเป็นตัวอย่างได้ระหว่างเทพแห่งขุนเขาโฉวปีและเทพเฉิงหวง”
ฟางหยวนเพิ่งได้รับข้อมูลใหม่ ๆ เหล่านี้จากความทรงจำของฉินอี้ผ่านการแฝงฝัน
“เทพแห่งขุนเขาโฉวปีนั้นก่อนตายเคยเป็นเจ้าหน้าที่ขั้น 1 และยังเป็นผู้ที่ได้รับความนับถือเมื่อตอนยังมีชีวิต นอกจากนี้เหล่าศิษย์ของเขาล้วนมีความสามารถ ทำให้เขาได้รับการรับรองจากราชวงศ์… น่าสนใจตรงที่ นี่เป็นเรื่องเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนแล้ว…”
มองกองทัพสัตว์ป่าแล้ว ฟางหยวนก็พลิกปราณดาบสีแดงเลือดในมือเล่นไปมาและถอนหายใจ “น่าเสียดาย… ข้าไม่ต้องการมีชีวิตเช่นนั้นเลย!”
“ฝึบ!”
ในโลกแห่งความฝันอันแท้จริงของเขา ค่ายกลดาบแปดประตูอันพร่าเลือนสั่นไหว และดาบเพลิงก็เปล่งประกายสุกสว่าง
“ฝึบ!”
เพียงพริบตา ปราณดาบสีแดงก็ระเบิดออกรอบตัวฟางหยวนราวกับเม็ดฝน
“ซี่! ซี่!”
เลือดสาดกระจายไปทั่ว เสียงร้องของสัตว์ทั้งหลายดังอยู่ในประกายแสงสีเพลิง!
แม้ว่าฟางหยวนจะยังไม่สามารถสร้างทหารสวรรค์ธาตุไฟได้อย่างสมบูรณ์ เพียงแค่ปราณดาบก็เพียงพอให้ศัตรูที่เก่งกาจระดับอู่จงได้รับบาดเจ็บได้!
ขณะที่ภาพมายาของดาบปลิวออกไป สัตว์และต้นไม้ก็ราวกับตกอยู่ในทะเลเพลิงที่กำลังแผดเผา
เปลวไฟนี้ไม่ใช่ไฟธรรมดาแต่เป็นไฟวิญญาณ มีประกายวิบวับสะท้อนอยู่ในปราณดาบสีแดงเลือด เมื่อปราณดาบกระจายออกไป เปลวไฟก็ลุกโหมไปทั่วบริเวณ
ในทะเลเพลิง มีเสียงร้องแผ่ว ๆ ดังมา เพียงพริบตาเดียวก็ไม่ได้ยินอีก
“อ่อนแอถึงเพียงนี้เชียว?”
แม้เขาจะรู้ว่าชินโตนั้นอ่อนแอ เขาก็ยังสงสัยอยู่นิด ๆ หลังจากได้สัมผัสกับมันด้วยตัวเอง
มีดาบมายาสีแดงอยู่ในมือเขา มังกรสลักอยู่บนด้ามดาบและยังมีประกายสีเขียวแฝงอยู่ มันดูโปร่งแสงและดูคล้ายกับดาบที่เขามีอยู่ในโลกแห่งความฝันอันแท้จริงเป็นอย่างยิ่ง
“ข้าเก็บดาบนี้ไว้สำหรับเทพเจ้า ใครจะรู้ว่าเทพนั่นจะใช้การไม่ได้ถึงเพียงนี้”
ฟางหยวนส่ายหน้า หันหลังกลับแล้วหายตัวลับไปกับขอบฟ้า
หลังจากนั้นเป็นครึ่งวัน ในที่สุดเจ้าหน้าที่ทางการก็เดินทางมาถึงที่นั่นอย่างเร่งรีบ พวกเขาทั้งหมดล้วนอึ้งงันพูดไม่ออกไป
“มันเป็นไปไม่ได้ที่เฟิงซินจือกับพวกจะนำของวิเศษไปจากอาณาจักรฮุย…”
ออกจากเทือกเขาโฉวปีมาแล้ว เขาก็รีบฟื้นฟูพลังของตนกลับมาและเริ่มคิด
“กระทั่งเคล็ดวิชาเฉพาะของที่นี่ก็เพียงสามารถเรียนรู้ได้แต่ไม่สามารถนำกลับไปได้เพราะว่าทั้งสองโลกนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างมาก… นอกเสียจากของวิเศษบางชนิดที่สามารถทำให้เป็นรูปมายาและนำเข้าไปในจิตวิญญาณได้จึงจะนำกลับไปได้… ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น! พลังแห่งอาณาจักร!”
ดวงตาของฟางหยวนเป็นประกาย
สำหรับจ้าวแห่งฝันแล้ว สิ่งที่จับต้องได้ล้วนเป็นภาระ มีเพียงของวิเศษที่อยู่ในรูปมายาเท่านั้นที่ควรค่าแก่การเก็บเอาไว้
พลังแห่งอาณาจักรนั้นเติมเต็มเงื่อนไขนี้ได้พอดี!
“ตามคำอธิบายของอาณาจักรฮุยแล้ว มีพลังแห่งอาณาจักรระหว่างฟ้าและดิน นี่เป็นแหล่งกำเนิดของทุกสิ่งในประเทศหนึ่ง ก็มีพลังแห่งอาณาจักรของประเทศ ในป่า ก็มีพลังแห่งอาณาจักรของสิ่งมีชีวิตและพลังแห่งอาณาจักรของดิน! ประเทศหนึ่ง ๆ ล้วนขึ้นอยู่กับพลังแห่งอาณาจักรของประเทศนั้น ๆ เพื่อที่จะส่งถ่ายพลังสู่เจ้าหน้าที่ทางการเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของพวกเขา อย่างนั้น เทพเจ้าหวงเฉิง เทพแห่งขุนเขาและเทพแห่งสายน้ำล้วนต้องพึ่งพาพลังแห่งอาณาจักรเพื่อดำรงอยู่…”
“ที่สำคัญที่สุด หากพลังแห่งอาณาจักรสามารถดูดซับได้ เช่นนั้นมันก็สามารถนำติดไปกับจิตวิญญาณได้!”
หากเฟิงซินจือและคนอื่นที่เหลือไม่มีแรงจูงใจอื่น นี่น่าจะเป็นข้อสรุปที่เป็นไปได้ที่สุดแล้ว
เมื่อคิดเช่นนี้ ฟางหยวนก็รู้แล้วว่าเขาควรจะทำอะไรต่อไป
ผ่านไปสองวัน
บนหินสีเขียวก้อนหนึ่ง พลังมหาศาลล้อมอยู่รอบตัวฟางหยวน ชีพจรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามก่อตัวอยู่บนร่างของเขา เขาฟื้นฟูการฝึกตนทั้งหมดที่เขามีที่ต้าเฉียนได้แล้ว
“จริง ๆ นั่นแหละ… ความสามารถเฉพาะของข้าทำให้ข้าสามารถฟื้นฟูการฝึกตนของตนได้อย่างรวดเร็วไม่ว่าข้าจะอยู่ในกายเนื้อเช่นไร”
เขาลุกขึ้นยืนและมองหน้าต่างสถานะของตัวเอง
“ชื่อ: ฟางหยวน”
พลังกาย: 36.0
พลังลมปราณ: 30.0
พลังเวทย์: 21.0
สายวิชา: ผู้ป้องฝัน
การฝึกตน: (สวรรค์มายา ขั้นที่ 1), (อู่จง ชีพจรที่สาม)
วิทยายุทธ์: [อินทรียักษ์กายาเหล็ก (ระดับ 4) (1 ใน 100 ส่วน)]*, ร่างทองคำร้อยพิษ (ระดับการฝึกฝนที่ 1), [ค่ายกลดาบแปดประตู (ดาบที่ 1) (10 ใน 100 ส่วน)]**
ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)]”
ขณะที่เขากระวนกระวายอยู่ ข้อต่อหลายข้อบนร่างก็เริ่มส่งเสียงลั่น
“ในที่สุด ข้าก็ฟื้นฟูความสามารถทั้งหมดของข้าได้ ความรู้สึกเหมือนถูกมัดมือเท้าเอาไว้เป็นนานช่างทำให้คนหมดแรงนัก!”
ฟางหยวนรู้อยู่แล้วว่าความสามารถอันเฉพาะของเขานี้จะทำให้เขาไปได้ไกลในอนาคต!
“เมื่อคิดถึงความร่ำรวยของพวกเขาแล้ว เฟิงซินจือกับพวกคงไม่แค่ไล่ตามพลังแห่งอาณาจักรเล็ก ๆ เป็นแน่!”
“นี่น่าจะทำให้พวกเขามีขุนเขาสายน้ำกว้างใหญ่ที่เข้มข้นไปด้วยพลังแห่งอาณาจักรของดิน หากพวกเขาสามารถดูดซับพลังแห่งอาณาจักรเหล่านี้เข้าไปในจิตวิญญาณของพวกเขาได้ พวกเขาย่อมสามารถนำมันกลับไปที่ต้าเฉียนในรูปแบบของ… ทรัพยากรเพื่อการฝึกตน?”
ฟางหยวนเริ่มคิดให้ลึกลงไป “หากข้ารู้ก่อนหน้านี้ ข้าคงไม่สังหารเทพแห่งขุนเขาแต่จะจับมันเอาไว้แล้วทำการทดลองกับมันเสียหน่อย!”
ด้วยระดับการฝึกตนของเขา เขามีคุณสมบัติพอที่จะผนึกพลังแห่งอาณาจักรของเทพแห่งขุนเขาแต่ว่าไม่มีเคล็ดวิชาที่จะทำเช่นนั้นได้
อย่างไรเสีย นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เฟิงซินจ่อให้เขามาด้วย แล้วเหตุใดเขาจะแบ่งปันความรู้นี้ให้โดยไม่สงวนเอาไว้เล่า?
“โชคดี สามเดือนนั้นยังอีกนาน ข้ายังใช้โอกาสทั้งหมดลองดูก่อนได้”
ฟางหยวนมองขึ้นไปบนฟ้าแล้วก็ดูจมลงไปในห้วงความคิด
ทะเลสาบมังกรทอง
นี่เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเซียและทอดตัวยาวข้ามไปอีกหลายประเทศ ด้วยการใช้ประโยชน์จากทะเลสาบนี้เพื่อการเดินทาง ผู้คนจึงมีโอกาสที่ดีในการดำเนินชีวิตอยู่รอบ ๆ ทะเลสาบ
แน่นอนว่า สิ่งที่มีชื่อเสียงที่สุดเกี่ยวกับทะเลสาบก็คือเทพแห่งสายน้ำ เทพมังกรทอง!
เทพเจ้าองค์นี้นั้นมีชื่อเสียงมาเนิ่นนานแล้ว มันได้รับการรับรองจากราชวงศ์ก่อนและยังมีประสบการณ์มากมาย มันอยู่รอดจากสงครามก่อนหน้าซึ่งนำไปสู่การเติบโตขึ้นมาของประเทศเลี่ยได้จากการใช้พลังแห่งอาณาจักรของทะเลสาบกว้างใหญ่นี่
ในวันเวลาอันรุ่งโรจน์ของประเทศ ประเทศนี้ยังส่งทูตมาตรวจสอบทะเลสาบ เทพมังกรทองยังคงมีพลังและสามารถเผยตัวเองออกมาท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามกลางวันได้ ดังนั้น มันจึงยังได้รับการรับรองแต่อันที่จริงเป็นทางประเทศที่พยายามสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับมัน
“เทพเจ้านี่เป็นหนึ่งในผู้อาวุโสในชินโต!”
สำหรับฟางหยวนแล้วดเหมือนว่าเพื่อขับเคลื่อนพลังแห่งอาณาจักรของประเทศ ราชาแห่งประเทศเลียนั้นเลือกสังหารเทพเจ้าระดับต่ำอย่างเทพหวงเฉิง
แต่ว่าเทพยุคเก่าอย่างเทพมังกรทองที่สามารถใช้พลังแห่งอาณาจักรระดับกลางได้นั้นสามารถปกป้องตนเองได้ ดังนั้นมันจึงไม่คุ้มค่ากับความพยายามที่ประเทศต้องลงแรงสังหารมัน
ดันนั้น เทพมังกรทองจึงเป็นเทพเจ้าผู้แข็งแกร่งในชินโตแห่งประเทศเลี่ย มันไม่เพียงเป็นผู้อาวุโสแต่ยังเป็นผู้นำของกลุ่มเทพแห่งสายน้ำและยังมีอิทธิพลมากทีเดียว
เมื่อมีเป้าหมาย ฟางหยวนก็ร่ายวิชาตัวเบาและพุ่งผ่านถนนที่ไม่เป็นที่นิยมในหมู่คนพื้นเมือง เมื่อเขาเข้าไปใกล้เขตแดนของเทพมังกรทอง เขาก็ชะลอร่างลง
หลังจากนั้นสามวัน เขาก็ข้ามยอดเขาและไปถึงท่าเรือแห่งหนึ่ง
“ท่าเรือเฟิงโป?”
มองป้ายไม้แบบเก่าแล้ว เขาเดินตรงไปหาคนขับเรือคนหนึ่ง “ที่นี่คือแม่น้ำชางหลิงใช่ไหม? ข้าต้องการจ้างเรือพาข้าไปทะเลสาบมังกรทอง!”
เขากำลังพูดภาษาทางการของประเทศเลี่ย ภาษาซึ่งฉินอี้ใช้ เขาใช้สำเนียงได้เหมือนด้วย
ชาวประมงรอบ ๆ มองมาที่เขา “พ่อหนุ่ม เจ้าต้องการไปทะเลสาบมังกรทองรี? มันเป็นการเดินทางสองวันคิดเจ้า 20 เหรียญ!”
เหรียญในประเทศเลี่ยนั้นมีรูปร่างเหมือนมีดเล่มเล็ก และยังมีรูเล็ก ๆ ที่ปลายมีดเพื่อให้สะดวกในการร้อยเหรียญเข้าด้วยกันเป็นพวง
ฟางหยวนดึงเหรียญรูปร่างเหมือนมีดออกมา 20 เหรียญ นี่เป็นเงินที่ได้จากเหล่าทหารที่เขาสังหาร มันดูใหม่และเงาวับ
“พ่อหนุ่ม เจ้ามาจากเมืองหลวงหรือนี่! ช่างใจกว้างนัก!”
เหรียญใหม่ ๆ นั้นมีการผลิตอย่างจำกัดและมีค่าเท่ากับเหรียญเก่าสองเหรียญ เมื่อชาวประมองมองเห็นเหรียญนี้ ดวงตาของพวกเขาก็เป็นประกาย
เมื่อพวกเขาแลกเปลี่ยนสายตากัน ชาวประมงชราผู้หนึ่งก็เดินออกมา “หากเจ้าไม่ว่าอะไร ก็ใช้เรือข้าเถิด!”
“โอ้ ท่านคือ..”
ฟางหยวนมองคนผู้นั้น ชาวประมงผู้นั้นอายุราว 40 ปี แต่ว่า ด้วยการที่เขาทำงานหนัก ผมของเขาจึงเปลี่ยนเป็นสีขาว และดูชรากว่าอายุจริง นิ้วของเขาหยาบและดูแข็งแรง ทำให้เขามีท่าทางของนายท้ายเรือที่ดี
“เจ้าชื่ออะไร? เรียกข้าว่าอวต้า!”
เหล่าอวี่หัวเราะเบา ๆ กับตัวเองขณะนำฟางหยวนไปที่เรือเก่าลำหนึ่งที่ดูมั่นคง เขาดึงสมอขึ้น ออกเรือและแล่นเรือออกจากท่า เขาดูคุ้นเคยกับสิ่งที่กำลังทำอยู่มาก
“เอ๋? ท่านก็ปลุกจักรราศีของท่านหรือ?”
ฟางหยวนหรี่ตา เขามองเห็นได้ว่ามีเงาของพลังธาตุน้ำอยู่รอบตัวอวต้า ทำให้เขาดูเหมือนเป็นปลาสีดำตัวหนึ่ง
“เจ้าถูกแล้ว! จักรราศีของข้าคือปลาหลีดำ และข้ายังโชคดีพอที่จะได้ดูดซับเกล็ดปลาหลีดำตอนที่ข้ายังเด็ก มันไม่ได้ช่วยอะไรข้ามากนักเพียงแต่ทำให้ข้าว่ายน้ำได้ดีขึ้นและรู้สึกถึงน้ำได้ดีขึ้น…”
อวตาหัวเราะตัวเอง
เมื่อคิดถึงว่าเขาไม่มีพรสวรรค์และยังไม่มีผู้สนับสนุน มันก็ดียิ่งแล้วที่เขามาถึงระดับนี้ได้
ถึงอย่างนั้น เมื่อไม่มีความช่วยเหลือจากทางการ มันก็ยากมากที่เขาจะบรรลุระดับใดได้ เขาก็แค่แข็งแกร่งกว่าคนเท่าไปเล็กน้อยเท่านั้น
เรือล่องไปตามสายน้ำทำให้มันไปได้ค่อนข้างเร็ว ฟางหยวนพูดคุยกับอวต้าอย่างสบาย ๆ
“เหตุใดเจ้าจึงจะไปที่ทะเลสาบมังกรทองเล่า?”
“ไปขอพรจากเทพเจ้า!”
“เข้าใจแล้ว!”
อวต้าตบหน้าอกตนเองอย่างภาคภูมิใจ “เทพมังกรทองของพวกเรานั้นดีมาก! นั่นคือ…”
ตอนที่เขาพูดต่อ ใบหน้าดูจริงจังและเมื่อมองไปที่ผิวน้ำก็สงบปากลง
“เทพเจ้ามักจะนำปัญหามาสู่ผู้คน…”
ฟางหยวนคิดกับตัวเอง นี่ก็ใกล้อาณาเขตของทะเลสาบมังกรทองแล้ว แน่นอนว่าเจ้าย่อมไม่กล้าพูดความในใจออกมา…”
TL note:
*, ** ขออนุญาตเปลี่ยน จากคำว่า 1 ใน 10 ส่วน, 2 ใน 10 ส่วน เป็น 1 ใน 100 ส่วน, 10 ใน 100 ส่วน ถึง จะไม่เป็นที่นิยมใช้ในนิยายจีน แต่ว่าพอดีช่วงนี้ในเรื่อง มีการขยับพัฒนาการทีละ 1-2% ใช้ตัวเลขที่ละเอียดขึ้น เพื่อผู้อ่านจะได้เข้าใจมากขึ้น