Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 182
Chapter 182 ชายแก่และการรักษาของเขา
ภายในพริบตาที่ไปชั่วนยืนอยู่ท่ามกลางชายชุดดํา ลูกค้าต่างเห็นสิ่งผิดปกติ เริ่มมองหน้ากันและส่งเสียงซุบซิบ
แมวธรรมดาที่อยู่ในร้านยังรู้ว่าชายพวกนี้ไม่ได้มาอย่างสันติ พวกมันรีบเข้าไปซ่อนในมุมห้องอย่างรวดเร็ว
สําหรับชายชุดดําแล้วสถานการณ์ตรงหน้าเริ่มตึงเครียด ภายใต้ภาพลวงตาของจาวเหยาร่างกายของเขาถูกปกคลุมด้วยกลุ่มก้อนก๊าซสีดํา มีไอแห่งความชั่วร้ายแผ่ออกมาพวกเขารู้สึกเรากับร่างกายสามารถถูกฟันครึ่งได้ ทุกเวลา
ความกลัวเริ่มปรากฏบนใบหน้า พวกเขามองจาวเหยาอย่างถี่ถ้วน พยายามเดาการเคลื่อนไหวของเขา
ผู้นําของกลุ่มยังมองจาวเหยานิ่ง ไม่สะทกสะท้าน เขาพูดเสียงเบาระดับที่มีแค่เขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยิน”จาวเหยา อายุ 24 ปี เคยเป็นโปรแกรมเมอร์จนได้รับซูเปอร์แคทเมื่อ 6 เดือนที่แล้วใช้พลังหาเงินล้านก่อนมาเปิดร้านกาแฟร้านนี้”
ชายคนนั้นหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของจาวเหยา “คิดว่าพวกเราไม่รู้ว่านายเป็นใครหรือไง ถ้าไม่ใช่เพราะพลังการรักษาของนายเราก็คงไม่มาที่นี่ แต่อย่าทําอวดดีไปหน่อยเลย พลังพวกนี้เป็นพลังของแมวไม่ใช่ของนายถ้าสารวัตรโฮไม่ห้ามไว้แมวของนายคงถูกพาตัวไปหมดแล้ว”
จาวเหยาหรี่ตาเมื่อได้ยิน “ผมจะทําเป็นไม่ได้ยินที่คุณพูดได้นะ”
เขาสั่งมัจฉะกับอลิซาเบธผ่านโทรจิต “มัจฉะ เอาเลย อลิซาเบธ ดูร้านไว้”
ในเสี้ยววินาทีแสงสีดําที่แทบไม่อาจมองเห็นส่องวาบผ่านดวงตาของพวกเขา ร่วมกับความสามารถของ ลูกฝุ่น เสื้อผ้าของพวกเขาถูกดูดเข้าไปในมิติกระเพาะทั้งหมด
และด้วยภาพลวงตา ทําให้ลูกค้าในร้านเห็นชายกลุ่มหนึ่งเริ่มถอดเสื้อผ้าต่อหน้า
ทันใดนั้น ผู้นําของกลุ่มรู้สึกถึงลมที่พัดผ่านผิวหนัง เขาก้มมองก่อนพบว่าทั้งสูท เสื้อเชิ้ตกางเกงและแม้แต่ชั้นในของเขาหายไป
กรี๊ดดดดดดดด!
เสียงผู้หญิงกรีดร้องดังขึ้น
กลุ่มชายชุดดําหน้าแดงด้วยความอับอายก่อนพยายามปิดส่วนลับให้มากที่สุด เรื่องเกิดขึ้นไวมากจนพวกเขาทําตัวไม่ถูก
ชายที่เป็นผู้นําจ้องจาวเหยาเขม็งก่อนถาม “นายทําอะไร คืนเสื้อผ้าเรามาเดี๋ยวนี้!”
“เฮ้ คุณเป็นโรคจิตหรือเปล่า คุณนั่นแหละที่ถอดเสื้อผ้าออกมาเอง จะมาว่าผมไม่ได้นะ” ขณะพูดจาวเหยาก็หยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า “ชิ สูงยาวมีกล้ามกันซะเปล่าทําไมเล็กจัง”
ชายคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา “เพราะอากาศหนาวต่างหาก! ไม่รู้จักการขยายตัวทางความร้อนหรือยังไง!”
จาวเหยาตอบกลับไป “ผมแค่พูดถึงขนาดเท้าของคุณ นี่คุณคิดไปถึงไหน?”
ชายตรงหน้าขบกรามแน่นก่อนกระโจนเข้าหาจาวเหยาโดยแขนทั้งสองข้างยังคงปิดส่วนสําคัญอยู่ “แล้วนายเอาโทรศัพท์ออกมาทําไม เก็บไปซะ!” อีกฝ่ายโกรธจนหน้าดําหน้าแดง
และใบหน้าของเขายิ่งแดงเข้าไปอีกเมื่อได้ยินเสียงกล้องถ่ายรูปมาพร้อมกับแสงแฟลช
“ผมก็ไม่คิดว่าจะมีโรคจิตเข้ามาในร้านของผมมาก่อน ผมก็ต้องถ่ายรูปเก็บไว้สิ!”
อีกมือที่ปิดช่วงล่างไว้ ชายชุดดํายื่นอีกมือมาหวังจะคว้าโทรศัพท์ของจาวเหยา ซึ่งจาวเหยาก็หลบได้อย่างง่ายดาย
“ไม่เอาน่า ผมว่าคุณทําอะไรผมไม่ได้หรอกสภาพนี้” จาวเหยาพูดพลางหลบเลี่ยงไปมา “ใช้สองมือสิ! คุณใช้สองมือปิดหน้าแล้วสู้ดีกว่า! จะใช้มือปิดตรงนั้นไปทําไม”
จาวเหยาหยุดเวลาเมื่อพูดจบ
เวลากลับมาเดิน เสียงดังขึ้นจากร่างกายชายชุดดําก่อนลอยละล่องขึ้นไปจนชนกับหลังคาของอาคาร
“ยิ้มหน่อย!”
จาวเหยากดถ่ายรูปจนแฟลชส่องวาบ
ร่างของเขาร่วงลงพื้น เขารีบลุกขึ้นพุ่งมาหาจาวเหยาด้วยดวงตาแดงก่ํา “ฉันจะฆ่านาย!”
“งั้นก็ใช้สองมือสิ! จิตใจดั่งเหล็กกล้าสําคัญที่สุด คุณจะทนการดูถูกเหยียดหยามได้ทุกประเภท จะยืนโป้ต่อสู้กับคนอื่นก็ได้! ผมไม่ได้ให้คุณใส่กระโปรงสักหน่อย ถ้าทนความอัปยศนี้ไม่ได้คุณจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดได้ยังไง”
จาวเหยาสามารถหลบหลีกทุกท่วงท่าได้ด้วยพลังสองดีกว่าหนึ่ง
มีความคิดมากมายหลั่งไหลเข้ามาในหัวของผู้นําชายชุดดําจนไม่อาจกลั่นเป็นคําไหนได้เลยนอกจาก
“ฉิบาย!”
“หัวหน้า ผมว่าเราควรถอย!” เพื่อนร่วมทีมของเขาเตือน
“พวกตํารวจกําลังมา!”
เขาหันไปว่า “แล้วทําไมเราต้องกลัวตํารวจ?”
“หัวหน้า ถ้าเราต้องไปสถานีตํารวจสภาพนี้ ภาพลักษณ์เราคงดิ่งลงเหว!”
“แถมยังมีคนถ่ายรูปเราอยู่ด้วย!”
แสงแฟลชถ่ายรูปจากกลุ่มลูกค้ายังคงส่องวาบในร้านอย่างต่อเนื่อง
“ถ่ายอะไรกัน? เป็นบ้าเหรอ?” สีหน้าชายชุดดําแสดงความขุ่นเคืองจนร่างกายของเขาแผ่รังสีร้อนออกมา “ปิดหน้าไว้อย่าให้พวกนั้นถ่ายรูปติดหน้าพวกนายไปได้!” เขาออกคําสั่ง
เด็กสาวส่วนใหญ่หันหน้าหนีอย่างเขินอาย แต่ก็มีอีกหลายคนที่มองด้วยความตื่นเต้น
“นี่ฉันมาผิดที่หรือเปล่า” รอยยิ้มปรากฏบนหน้าชายวัยกลางคนคนหนึ่ง “อย่าบอกนะว่านี่เป็นบาร์เกย์น่ากลัว!”
หญิงวัยกลางคนอีกคนกระโดดอย่างตื่นเต้น “ดูร่างกายกํายํานั่นสิ!”
หญิงวัยกลางคนอีกคนส่ายหน้าไปมาก่อนมองไปที่ผู้นําของเขา “น่าสงสารที่ตรงนั้นคนละไซส์กับกล้ามเนื้อของเขาเลย”
ชายชุดดําต่างปิดหน้าปิดตาวิ่งหนีออกไปจากร้านทันที “จาวเหยา! ฉันจะต้องมาเอาคืน!”
ชายที่มีรอยยิ้มปริศนาเลียริมฝีปากก่อนวิ่งไล่ตามชายกลุ่มเปลือยไป
ลูกฝุ่นมองตามทางที่ชายกลุ่มนั้นวิ่งออกไปอย่างตื่นเต้น ก่อนมันจะหันมาสนใจลูกค้าในร้าน “จาวเหยาให้ฉันดูดเสื้อผ้าพวกลูกค้าเข้าไปด้วยไหม?” มันถามจาวเหยาผ่านทางโทรจิต
“จะบ้าเหรอ!” จาวเหยาว่า “ห้ามใช้พลังจนกว่าฉันจะอนุญาตเด็ดขาด!” จาวเหยามองไปที่ประตูก่อนเห็นคนที่วิ่งตามเจ้าพวกนั้นไปกลับมาในสภาพหมดแรง ท่าทางคงตามไปไม่ทัน
จาวเหยาสังเกตอย่างระมัดระวัง อย่าตัดสินหนังสือจากหน้าปก มีสิ่งที่น่าสนใจในกลุ่มลูกค้าของฉันด้วย”
ความจอแจในร้านหายไปอย่างรวดเร็ว สิบนาทีต่อมา สารวัตรโฮและชายอาวุโสผมขาวราวกับหิมะคนหนึ่งเข้ามาในร้าน
ชายสูงวัยดูผอมแห้งแต่ก็ระแวดระวังกับทุกสิ่งรอบตัว
ก่อนเข้ามาในร้านเขาดูหม่นหมองแต่เมื่อขาก้าวเข้ามามุมปากของเขาก็ยกยิ้มขึ้น
เขามองไปที่สารวัตรโฮก่อนชม “เยี่ยมไปเลย อาโฮ เหมือนกับที่นายพูดทุกอย่าง ฉันรู้สึกสบายทั้งกายทั้งใจตั้งแต่ที่เป็นความดันกับโรคหัวใจและตับมากมายก็ไม่เคยรู้สึกอย่างนี้มาก่อนเลย”
สารวัตรโฮหัวเราะก่อนว่า “ดีแล้วครับ”
จาวเหยาเดินไปหาเขาทั้งสองคนก่อนเอ่ยถาม “ทําอะไรน่ะครับ? มีอะไรกันงั้นเหรอ” จากที่ดูแล้วชายคนนี้ดูท่าทางจะเป็นหัวหน้าที่กลุ่มชายชุดดําพูดถึง
ชายสูงวัยตรงหน้าดูคุ้นตา แต่จาวเหยาไม่อาจบอกได้ว่าเคยเจอเขาที่ไหน
สารวัตรโฮรีบตอบ “นี่คือผู้อาวุโสจวง หัวหน้าเก่าของฉัน นายช่วยแสดงความเคารพเขาหน่อยได้ไหม” สารวัตรโฮหันไปหาผู้อาวุโสจวง “นี่เป็นเด็กหนุ่มที่ผมเคยพูดถึงให้ฟังครับ”
ผู้อาวุโสจวงมองสีหน้าฉงนของจาวเหยาก็หัวเราะ “เธอคือจาวเหยาสินะ เธอคงเห็นว่าฉันเป็นชายที่แก่มากๆคนหนึ่ง มีแต่โรคภัยไข้เจ็บ ฉันได้ยินจากสารวัตรโฮว่าเธอมีพลังช่วยอาการเจ็บป่วยของฉันเลยคิดว่าถ้าว่างก็อยากลองมาที่นี่ดู ต้องขอโทษที่มาแบบไม่ได้บอกกล่าวนะ”
“โอ๋?” จาวเหยาหรี่ตาจนเป็นเส้นตรงก่อนยื่นเมนูให้เขา “ต้องการเครื่องดื่มอะไรไหมครับ”
จาวเหยาเห็นสารวัตรโฮกระพริบตาอย่างสงสัญญาณว่าชายอาวุโสคนนี้ไม่ใช่คนทั่วไป จนจาวเหยายิ่งสงสัยขึ้นไปอีกว่าเขาเป็นใครกันแน่ เขาเดาว่าชายคนนี้คงเป็นหนึ่งในห้าคนของเจียงไฮ้ที่รู้ตัวตนของเขา
จากที่เห็นการวางตัวของชายแก่ แปลว่าเขารู้และเข้าใจพลังของจาวเหยาทั้งหมด
หลังจากที่เขาได้มุมนั่งแล้ว กลุ่มชายชุดดําก็กลับมาในสภาพเสื้อผ้าครบถ้วน แต่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรเหมือนเจ้านายของเขาเท่าไรนัก