Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 181
Chapter 181 คำขอและผู้นำ
“ไม่ต้องห่วงไป ขอฉันคิดก่อน” แอรีสและซูเปอร์แคทอีกสามตัวกำลังระดมความคิดเรื่องการขอพรที่ดีที่สุด
ความคิดหนึ่งแว้บเข้ามาในหัวของมัน “ขอพรให้เรามีเงินเยอะๆ เป็นไง”
“ก่อนหน้านี้พระผู้เป็นเจ้าบอกว่าไม่ให้เราออกจากมิตินี้นี่นา ถ้าเกิดเราออกไปไม่ได้ หาอะไรที่ยังพอให้เราได้เชื่อมต่อกับข้างนอกดีกว่าไหม” ลูซิเฟอร์เสนอ
อเมริกันชอร์ตแฮร์สีดำที่เงียบมาตลอดอ้าปากพึมพำบางสิ่ง อินเตอร์เน็ต
ทันใดดวงตาแอร์สส่องประกาย มันยกยิ้มมุมปาก “ไม่เลว! อินเตอร์เน็ตเหมือนเป็นหน้าต่างให้เราเห็นโลกข้างนอกว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แถมเรายังใช้ติดต่อคนข้างนอกได้ด้วย หรืออาจจะโฮห้าวชาง!”
ทันใดแมวสยามอ้าปากคว้าคอของแอรีสไว้
“ทำอะไรน่ะ? ไม่เห็นหรอว่าเรากำลังคุยเรื่องจริงจังกันอยู่”
“ตะ…แต่อาหารแมวเปลี่ยนไปแล้ว!” แมวสยามพูดตะกุกตะกัก
ทันใดพวกแมวที่เหลือหันไปมองพร้อมกันก็พบว่าอาหารแมวที่พวกมันเห็นในตอนแรกโดนเปลี่ยนถุงเป็นแบรนด์อื่นไปซะแล้ว
“ไอ้บ้าเอ๊ย!” แอรีสตะโกน มันโกรธจนหน้าแดง “ฉันก็หยดไกอาตอนขอพรไว้แล้วไม่ใช่หรือไง? ไกอายังไม่ทันจะขอจบเลย พวกเขาเปลี่ยนอาหารเราทำไม?”
แสงออร่าที่แข็งแกร่งและมีพลังแผ่พุ่งออกมา “ขอร้องล่ะ ก็ฉันมันพระเจ้า แค่คำแรกฉันก็รู้แล้วว่าจะขออะไร
“อะไรกันวะ” แอรีสโกรธหน้าดำหน้าแดงกว่าเดิม “งั้นคุณก็รู้หมดทั้งโลกเลยสิว่าใครจะพูดอะไรบ้าง?”
“ถูกต้อง! เธอเป็นแมวฉลาดนะที่รู้เรื่องนั้น” จาวเหยาพูดเสียงขรึม “ฉันเป็นพระเจ้า หากฉันต้องการแล้วอะไรก็ย่อมทำได้”
“อ๊ากกกก!!” แอรีสตะโกนระเบิดโทสะเมื่อได้ฟังคำหยิ่งยโสจากจาวเหยา มันกัดฟันขู่แยกเขี้ยวที่มุมปาก
ลูซิเฟอร์กับฟูจินรีบปลอบแอรีสก่อนที่จะไปกันใหญ่
“แอรีส อย่าเพิ่งทำอะไรโง่ๆ นะ!”
“พี่ใหญ่ คุมสติไว้ เขาเป็นพระเจ้า!”
“ทำไมฉันต้องควบคุมความโกรธด้วย? นี่มันธรรมชาติของแมว! จะแมวที่ไหนก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้นแหละ!” แอรีสกางกรงเล็บที่คมราวกับใบมีด “ฉันจะทำลายแกเดี๋ยวนี้ แล้วหลังจากนั้น…”
“โอ้?” ทันใดนั้นเสียงของจาวเหยาดังมาจากในมิติ ท่ามกลางความมืดมิด ดวงตากลมโตเหมือนพระจันทร์ส่องประกาย
“แอรีส ไม่!”
“พี่ใหญ่!”
พวกมันกระเด็นออกไปจากการอาละวาดของแอรีส ทั้งที่พยายามจะห้ามไม่ให้มันโจมตีพระเจ้า
เมื่อพวกมันพุ่งตัวออกไปหวังหยุดแอรีสก็พบว่าแอรีสเปลี่ยนเส้นทาง มันหมุนตัวกลับมาก่อนพุ่งไปทางไกอา
“ฉันจะฉีกแกให้เป็นชิ้นๆ!” มันพุ่งกำปั้นไปที่ตัวของไกอา ก่อนทุบตีที่หัวของมันต่อเนื่อง ทั้งฉีกทิ้งจนขนไกอาหลุดออกมา
“ทำไมแกขอพรไม่ปรึกษาเราก่อนฮะ”
“ทำไมปากแกต้องพ่นอะไรไร้สาระออกมาตลอดเลย”
จาวเหยาหลบออกมาจากมิติพิเศษ ก็พบว่ากลับมาที่ห้องน้ำแมวของร้าน
เขาตกใจแทบกรีดร้องเมื่อออกมา มองไปรอบๆ ตัวพบลูกฝนกำลังกายอ๊ออกมาจากปากของมันอยู่ ลูกฝุ่นเองก็ทั้งช็อคทั้งกลัวที่เห็นจาวเหยาอยู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น
“นายช่วยให้สัญญาณก่อนจะออกมาหน่อยได้มั้ย ฉันนึกว่าแมวในร้านเข้ามาเสียอีก” มันสะอื้น
“ขอโทษที” เขาเกาหัวแกรกอย่างช่วยไม่ได้ที่มาเห็นภาพพิเศษเข้า “ขอบคุณที่ช่วยกำจัด ของพวกนั้นออกจากในมิตินะ”
จาวเหยากลับไปนั่งที่ประจำในร้านหลังจากจัดการเรื่องในมิติพิเศษจบ เช่นทุกที เขาเพียงเล่นอินเตอร์เน็ตแต่คราวนี้มีรอยยิ้มกว้างปรากฏบนหน้า
ฟูจินยอมรับเขาเป็นผู้นำและได้รับค่าประสบการณ์ 200 คะแนน
“ฮ่าๆ สงสัยติดใจชอตสุดท้าย!” จาวเหยารู้ว่าภาพลวงตาที่เขาใช้ในตอนสุดท้ายทำให้พวกมันหวาดหวั่นจนยอมรับเขาเป็นผู้นำ
เขาเอนหัวพิงข้างหลังเนื่องจากอาการปวดหัว ที่จริงเขาตั้งใจวางแผนภารกิจให้ยากและซับซ้อนกว่านี้ แต่เพราะมันส่งผลกระทบกับเขาด้วยจนต้องย่อมันให้สั้นลง
ด้วยการยอมรับจากแมวสยามและการ์ดค่าประสบการ X2 ทำให้จาวเหยาได้รับคะแนนทั้งหมด 400 คะแนน สถานะหนังสือของเขาอยู่ที่ Lv3 (758/2000)
จาวเหยาเปิดหนังสือไปอีกหน้าเพื่อดูค่าประสบการณ์ของแมวทั้งสาม
มัจฉะ Lv4 (970/2000)
อลิซาเบธ Lv4 (210/2000)
ลูกฝุ่น Lv5 (100/5000)
“ถ้าได้โบนัสจากภารกิจรายเดือนเราคงอัพเลเวลแมวได้อีกตัว”
หลังจากฝันกลางวันสักพักเขาก็ปิดหนังสือก่อนหันมาสนใจคอมพิวเตอร์เตรียมตัวเริ่มวันใหม่ ในร้านช่วงพักกลางวันมีลูกค้าเนืองแน่นอย่างรวดเร็ว
และจาวเหยาก็ได้ต้อนรับกลุ่มที่เขาไม่คาดฝัน
เขารู้สึกแปลกๆ จึงเงยหน้าขึ้นมองว่าใครอยู่ที่ประตู เป็นกลุ่มชายที่อยู่ในชุดสูทสีดำจำนวน 7-8 คน เขาหยุดยืนอยู่ชั่วครู่หลังจากก้าวขาเข้ามาในร้านอย่างปกติ ก่อนที่สายตาพวกเขาจะสอดส่องไปรอบๆ ร้าน
ผู้นำของหลุ่มก้าวตรงมาทางจาวเหยาและพิจารณาใบหน้าของเขาอย่างถี่ถ้วน เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าจอก่อนทัก “คุณคือจาวเหยาที่เป็นเจ้าของร้านนี้ใช่ไหม”
“ใช่ครับ ผมเอง มีอะไรหรือเปล่าครับ” จาวเหยาตอบกลับไปอย่างสุภาพ
“หัวหน้าของเรากำลังมาที่นี่ พวกเราได้รับมอบหมายมาให้คุ้มกันที่นี่ชั่วคราว” ชายคนนั้นตอบนิ่งๆ น้ำเสียงไม่แสดงอารมณ์ใด แต่จาวเหยารู้ว่าไม่อาจโต้เถียงอีกฝ่ายได้เลย
“คุณจะให้ลูกค้าของคุณกลับไปก็ได้ เราส่งคนแฝงตัวเข้ามาเป็นลูกค้าที่นี่เหมือนกัน”
จาวเหยางงงันที่อีกฝ่ายจู่ๆ ก็เข้ามาพูดแปลกๆ ในร้านของเขา “คุณเป็นใคร?”
คิ้วของชายตรงหน้าขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เขาหยิบการ์ดจากกระเป๋าที่อกออกมาโบกไปมาตรงหน้าจาวเหยา บนการ์ดมีข้อมูลหน่วยงานและแผนกเขียนเอาไว้ แต่จาวเหยาก็ยังไม่เข้าใจเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่ดี
ชายตรงหน้าเห็นสีหน้าจาวเหยาที่ดูเหมือนยังไม่เข้าใจอธิบาย “คุณแค่ต้องทำตามคำสั่ง ผมพูดได้แค่คนที่กำลังมาที่นี่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูง ได้โปรดอย่าทำให้เรื่องมันยุ่ง” ชายตรงหน้าพูดหวังจะให้จาวเหยากลัว จากประสบการณ์ของเขาเมื่อพูดแบบนี้กับประชาชนทั่วไปพวกเขาจะให้ความร่วมมืออย่างดี
ทันใดเขาปรบมือก่อนประกาศ “ขอโทษทีครับ แต่วันนี้ร้านปิดทำการแล้ว ขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยครับ”
“เสี่ยวเจียง เสี่ยวหยาง หาทางเก็บแมวพวกนี้ให้ห่างจากหัวหน้า”
ชายที่เหลือปฏิบัติตามสั่ง สีหน้าไม่แสดงอารมณ์ใด ทั้งยังเปล่งออร่าดูน่ากลัว พวกเขาเริ่มต้อนลูกค้าออกจากร้านและแยกแมวออกไปตามคำสั่ง
จาวเหยามุมปากบิดเบี้ยวเมื่อเห็นฉากตรงหน้า ลูกค้าที่อยู่ในร้านจะส่งผลต่อภารกิจรายเดือนของเขาโดยตรง ซึ่งจะกระทบต่อค่าประสบการณ์ที่เขาจะได้รับอีกที เขาจะไม่ยอมให้ค่าประสบการณ์ที่เขาต้องได้รับเกิดการสันคลอนเด็ดขาด
จาวเหยาจ้องไปที่ชายชุดดำก่อนแผ่รังสีอำมหิตออกมา แสงสีแดงส่องวาบในดวงตา เขาพูดเสียงเย็น “เฮ้ ผมจะให้โอกาสคุณ หยุดการกระทำนั่นหรือจะให้ผมหยุดคุณ”
ชายชุดดำไม่ได้สนใจคำพูดของจาวเหยา เพียงส่งยิ้มเยาะกลับมาให้เท่านั้น
ชายที่จาวเหยาพูดด้วยเป็นทหารมือดีขณะที่ปฏิบัติการอยู่แนวหน้า ทั้งทักษะการต่อสู้ ลาดตระเวน ป้องกันและจู่โจมต่างเหนือกว่ามนุษย์ทั่วไป
หลังจากถูกเลือกให้เป็นอะพอสเซิลซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐก็ได้รับการฝึกเข้มข้นที่รวมทั้งพลังและความสามารถของเขาให้เข้ากันได้อย่างราบรื่น เขาเป็นดั่ง “กัปตันอเมริกา” แห่งเมืองจีนเลยทีเดียว
ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจอะพอสเซิลธรรมดาเดินดินอย่างจาวเหยา ในสายตาเขาแล้วมือสมัครเล่นอย่างจาวเหยาไม่น่าถือเทียนเองได้ด้วยซ้ำ