Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 180
Chapter 180 ความจงรักและพระเจ้า
หลายวันต่อมา จาวเหยายังคงอยู่ ณ มุมเดิมในร้าน
อีกมุมหนึ่งห่างออกไป มัจฉะกำลังใช้เวลาที่เหลือก่อนร้านเปิดไปกับการท่องอินเตอร์เน็ต
อุ้งเท้าที่ว่องไวของมันคลิกเข้าแอพวีแชทและเปิดหน้าเจ้าหญิงเฉียนอย่างรวดเร็ว มันมองรูปโปรไฟล์อย่างเคร่งขรึมพลางคิดในใจ “ฉันคงไม่มีทางลืมความสัมพันธ์ในครั้งนี้ ถ้าความจงรักภักดีเป็นอาชญากรรมแล้วละก็ฉันก็คงเป็นอาชญากรตัวร้าย”
โรโพลี่ที่อยู่ด้านหลังมองตามพฤติกรรมมัจฉะอย่างถี่ถ้วน ก่อนที่มันจะมองอีกฝ่ายอย่างดูถูก “เจ้านี่มันแมวโง่ที่ใช้แต่ส่วนล่างคิดแทนสมอง” มันมองอย่างเจ็บปวดเมื่อเห็นเจ้าหญิงเฉียนเพิ่งอัพรูปเซลฟี่รูปใหม่บนวีแชท “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าปีศาจทำให้เราต้องเลิกรา ฉันคงเป็นคนที่อยู่ในรูปนั้นกับเธอ” มันคร่ำครวญ
จาวเหยาลุกขึ้นยืดเส้นยืดสาย “ผ่านไปอีกอาทิตย์แล้วสินะ ถึงเวลาไปฝึกเจ้าห้าตัวนั้นแล้ว” เขาคิด
เมื่อคิดดังนั้นจาวเหยาก็หลบไปเข้าห้องน้ำก่อนใช้พลังมิติพิเศษดูดตัวเองเข้าไปข้างใน
ด้านในมิติพิเศษ ไกอายังคงโดนมัดและมีเทปปิดปาก มันนอนอยู่บนพื้นนิ่งเหมือนปลาเค็มที่ขายตามตลาด
แต่นี่ก็ไม่สามารถปิดกั้นการสนทนาของพวกมันได้ ด้วยโทรจิต เสียงของไกอาดังก้องอยู่ในหัวซูเปอร์แคททุกตัว “ไม่ใช่ฉันนะ! ฉันไม่ได้เป็นคนขอพรข้อสุดท้าย! พวกเธอไม่มีสิทธิ์มามัดฉันแบบนี้ ฉันยังต้องกินนะ! ฉันอยากดูผ่าพิภพไททัน! ฉันไม่อยากพลาดตอนต่อไป!”
“ฉันไม่สนว่าเธอจะเป็นคนรับผิดชอบต่อเรื่องนี้หรือไม่ แต่พระเจ้าอาจกำลังมาเร็วๆ นี้ และฉันอยากให้เธอเงียบปากไว้” แอรีสสั่ง
ทันใดภาพตรงหน้าของมันก็มืดลง พอพวกมันลืมตาขึ้นก็พบว่าตัวเองกำลังอยู่ในขบวนรถไฟ และไม่รู้ว่าข้างหน้ากำลังจะมีอะไรเกิดขึ้น
“ไม่เลว เธอเป็นแมวตัวแรกที่ตื่น เธอมีศักยภาพที่เดียว” แมวดำหัวเราะพลางโบกปืนพกไปมาด้วยอุ้งเท้าของมัน จากที่ดู เจ้าแมวดำตรงหน้านี้น่าจะเป็นแมวตำรวจ
“แกเป็นใคร? แล้วที่นี่ที่ไหน?” แอรีสยังคงงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้า “แล้วทำไมแมวอย่างแกถึงต้องใส่เสื้อผ้าเหมือนมนุษย์ด้วย? แกไม่เหมือนกับพวกเรา!”
ในตอนนั้น แมวอีกสี่ตัวก็รู้สึกตัวขึ้นมาพอดี
“เกิดอะไรขึ้น?”
“ภารกิจใหม่เหรอ?”
“เหมือนคราวก่อนไหม?”
“แมวดำนี่เป็นศัตรูของเราเหรอ?”
“เลิกมองไปทั่วได้แล้ว!” แมวดำตะโกน พลางชี้ไปที่หัวของตัวเอง “เขาต้องบอกอะไรพวกเธอมาแล้วสิ นึกให้ออกว่าตอนนี้ต้องทำอะไร”
หนึ่งนาทีที่เงียบงันผ่านไป…
แอรีสตะโกนออกมา “เขาไม่ได้บอกอะไรพวกเราเลย! ฉันนึกอะไรไม่ออกทั้งนั้น!”
“โลกที่พวกเธออยู่นี่เป็นอาณาจักรของพระเจ้า ถ้าอยากมีชีวิตรอดก็ให้ทำภารกิจที่พระผู้เป็นเจ้ามอบให้ให้สำเร็จ นี่ไม่ใช่เกมหรือว่าเรื่องล้อเล่น ในโลกนี้ทุกอย่างคือเรื่องจริง ถ้าอยากมีชีวิตรอด ก็ทำภารกิจให้เสร็จซะ…”
“แต่นายต้องอธิบายทุกอย่างกับเรา! เราไม่ได้โดนฝังความทรงจำอะไรทั้งนั้น!” แอรีสยังคงตะโกนจนเส้นเลือดปูดโปน
ลูซิเฟอร์กำลังวิเคราะห์สถานการณ์ตรงหน้า “นี่เป็นฉากที่พระเจ้าสร้างขึ้นมาเพื่อเรา มันต้องเกี่ยวข้องกับภารกิจครั้งต่อไปแน่ พอเราทำภารกิจได้สำเร็จจึงจะได้กลับไป”
ฟูจินพยักหน้าอย่างเห็นด้วย “ฮีม งั้นเราควรคุยกับเจ้าแมวดำนี่ให้รู้เรื่อง จะได้เข้าใจภารกิจต่อไปมากขึ้นพระผู้เป็นเจ้าต้องมีเหตุผลที่พาเรามาที่นี่แน่”
แมวบริทิชชอร์ตแฮร์ รักษสา พยักหน้าอย่างเห็นด้วยเช่นเดียวกัน “บางทีเป้าหมายของภารกิจอาจให้เราโค่นศัตรูเพื่อกลับไปให้ได้!”
เมื่อพวกมันตกลงกันได้แล้ว เสียงบางอย่างก็ดังขึ้น
ฮ่า
ไกอาปล่อยหมัดไปที่แมวดำก่อนทุ่มมันลงพื้น มันขึ้นไปนั่งบนท้องของแมวดำก่อนตะปบหัวอีกฝ่ายไปมา
“อาณาจักรพระเจ้า?”
“สำเร็จภารกิจ?”
“ฉันว่าแกนี่แหละที่เป็นศัตรูของเรา และฉันจะจัดการแกให้น่วมเอง!”
ซูเปอร์แคทอีกสี่ตัวที่เหลือมองตาค้าง สีหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อเห็นเหตุการณ์สยองตรงหน้า ก่อนที่พวกมันจะทำความเข้าใจอะไร พวกมันก็รีบปรี่เข้าไปคว้าตัวไกอาให้ออกจากแมวดำก่อนเป็นอย่างแรก
“ปล่อยฉันนะ! ฉันจะจัดการเจ้าแมวดำนั่น! ฉันจะต้องทำภารกิจให้เสร็จ!”
แอรีสกระอักกระอ่วนแทบไม่กล้าสบตากับแมวดำ มันโค้งหัวให้อีกฝ่าย “ฉันขอโทษ แต่แมวตัวนี้ไม่ค่อยปกตินัก” เมื่อมันพูดจบก็หยิบหมวกตำรวจที่ร่วงลงพื้นขึ้นมาให้แมวดำตรงหน้า
“โชคดีที่คุณไม่ได้รับบาดเจ็บ”
“ก็เห็นอยู่ว่าฉันไม่ได้บาดเจ็บ! ฉันเป็นแมวที่อาวุโสที่สุดในอาณาจักรของพระเจ้านี้!” แมวดำว่าพลางเช็ดเลือดออกจากมุมปาก “ถ้าฉันไม่ใจดีให้โอกาสเจ้าแมวอวดดีนั่นละก็ ฉันคงระเบิดมันเป็นชิ้นตั้งแต่ที่เห็นมันพุ่งเข้ามาแล้ว!” แมวดำพูดพลางหยิบปืนพกขึ้น
“ใช่ค่ะ ใช่เลย! พวกเราทราบซึ้งใจกับความเมตตาของคุณอย่างมาก”
แมวดำเล็กคิ้วพลางแตะที่จมูกของตัวเอง “ทำไมฉันรู้สึกแปลกๆ ที่หน้ากันนะ”
แอรีสพยายามไม่แสดงสีหน้าพิรุธที่สุด มันส่ายหน้าไปมา “ไม่เลย! หน้าคุณไม่มีอะไรผิดปกติเลย! ดูดีเหมือนเดิม! ที่หน้าของคุณ ไม่มีปัญหาอะไรเลยสักนิด!”
“เอาล่ะ พวกเด็กใหม่ ไม่มีเวลามาทำเรื่องไร้สาระกันแล้ว เตรียมตัวให้พร้อม ฉันได้ยินว่าภารกิจครั้งนี้ไม่ง่ายเลย”
แอรีสอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเมื่อแมวดำหันหลังไป
ตัวอักษรตัวใหญ่พิมพ์อยู่บนหลังของมัน ศัตรู
“อะไรกันเนี่ย”
แอรีสยกอุ้งเท้าขึ้นก่อนยื่นกรงเล็บแหลมคมออกมา รังสีชั่วร้ายแผ่ออกมาจากตัวของแอรีส
ถัดมา ซูเปอร์แคททั้งห้ารวมตัวกันก่อนเข้าโจมตีแมวดำ ในที่สุดพวกมันก็ถอนหายใจโล่งเมื่อเห็นร่างกายของอีกฝ่ายสลายหายไปเป็นไอแสงสีขาว
“นี่ ที่ฉันโจมตีเจ้านั่นก็เพราะฉันเห็นคำที่หลังของมันไง!” ไกอาบ่น “แล้วพวกเธอจะมาห้ามฉันทำไม พวกเธอตาบอดเหรอ?”
แมวทั้งสี่มองหน้ากันไปมา แต่พวกมันก็ได้รู้ว่าภารกิจนี้ไม่มีอะไรอยู่เบื้องหลัง
และก็เป็นอีกครั้ง ภาพตรงหน้าพวกมันดำมืด รู้ตัวอีกที่พวกมันก็กลับเข้ามาอยู่ในคอนเทนเนอร์แล้ว เสียงของจาวเหยาดังขึ้น
“พวกเธอทำได้ดีมาก! ทั้งความวุ่นวายและอุปสรรคต่างๆ ที่พบเจอ ในที่สุดพวกเธอก็เอาชนะมันอย่างทรงพลังและกลับมาหาฉันได้”
“ทรงพลังบ้าบออะไร!” แอรีสแทบอดไม่ไหวคำพูดพล่อยๆ ของจาวเหยา “มันยากตรงไหนกัน ใช้เวลาไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ นี่เป็นภารกิจประจำสัปดาห์แน่เหรอ?”
ลูซิเฟอร์ลอยตัวไปมาในอากาศก่อนเสริม “ขนาดของตู้รถไฟเมื่อกี้ก็พอๆ กับคอนเทนเตอร์ตู้นี้เลยนะเนี่ย”
จาวเหยากระแอมขัดจังหวะ ก่อนส่งอาหารแมวถุงใหญ่และพาวเวอร์แบงค์ให้ “นี่คือรางวัลของพวกเธอ!”
ไกอาเริ่มไม่สบอารมณ์ “ทำไมเป็นยี่ห้อนี้อีกแล้วล่ะ!? ฉันเบื่อยี่ห้อนี่เต็มที่แล้ว พระผู้เป็นเจ้า ถ้าฉัน”
แว้บ!
โครม!
เสียงโครมครามที่ตามมาเป็นเสียงไกอาโดนจับหมุนรอบ 360 องศาก่อนถูกโยนไปที่ผนังคอนเทนเนอร์ ซึ่งทำให้ส่งเสียงดังก้องไปทั่ว
แอรีสกลับมายืนอย่างปกติอีกครั้ง อนุภาคในอากาศยังคงบิดเบี้ยวอยู่บ้างเนื่องจากมันใช้กำแพงบาเรียใส่ไกอา
เมื่อแอร์สเห็นไกอานอนตาเหลือกไปเรียบร้อยแล้วก็หันกลับมาอีกครั้ง
มันพยักหน้าก่อนว่า “ดีมาก ทีนี้พวกเราก็ปลอดภัย จะได้มาคุยกันเรื่องพรที่เหมาะสมเสียที”
ลูซิเฟอร์เดินไปหาไกอาก่อนเริ่มดมฟุดฟิด “เจ้านี่จะตายหรือเปล่าเนี่ย” มันถามอย่างไม่แน่ใจ
“เจ้านั่นไม่ตายหรอก” แอรีสตอบอย่างไม่ใส่ใจ “พวกเราเป็นแมวนะ กระดูกสันหลังบาดเจ็บยังรักษาตัวเองได้เลย”
“เอาล่ะ ทีนี้ก็ถึงเวลาขอพรของฉันสักที”