Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 123
Chapter 123 กฎอัยการศึก
ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของจาวเหยา “งั้นฉันก็เปลี่ยนตัวเองให้ดูมีกล้ามเนื้อได้ด้วยสิ?” เขานึกถึงมนุษย์กล้ามที่เจอในคฤหาสน์ของเสี่ยวหมิง เขาคิดว่าเขาเองก็สามารถสร้างภาพลวงตาให้ตัวเองมีกล้ามเนื้อแบบนั้นได้เช่นกัน
จาวเหยาเริ่มทำงานกับหูของมัจฉะ เขาพับมุมบีนนี่ทั้งสองข้างและเก็บหูเข้าไป
“ฉันจะพับหูเข้าไปแบบนี้ แล้วจำไว้ด้วยล่ะว่ามันพับยังไง จะได้ระดับเท่ากันกับภาพลวงตา
“ทุกตัวในครอบครัวจอร์จก็เกิดมาเป็นพันธุ์สก็อตติชโฟลด์ ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันไหนหูฉันก็พับเป็นปกติอยู่แล้ว”
จาวเหยาไม่สนใจคำพูดไร้สาระที่ออกมาจากปากมัจฉะเลยสักนิด เขาพับหูของมัจฉะลงจนทำให้มันร้องออกมาด้วยความเจ็บ “อ๊ะ อ๊าก อ๊ากกก!! เบาๆ หน่อยสิ ขอล่ะ! อ๊าาา! เบาสิ หูจะฉีกแล้ว!”
“งั้นก็พับหูให้มันดีๆ หน่อยสิ”
จาวเหยายังคงจับหูของมัจฉะต่อไปและพยายามทำให้มันดูสั้นลง จาวเหยากวาดมือเพียงครั้งเดียว ขนสีส้มของมัจฉะก็ดูหนาและยาวขึ้น
แมววิญญามองเห็นการเปลี่ยนแปลงของมัจฉะก็รู้สึกอิจฉาขึ้นมา “พลังสะดวกสบายอะไรอย่างนี้ บอกตามตรงฉันเบื่อสีขนฉันเหลือเกิน อยากให้เขาเปลี่ยนสีขนให้ฉันบ้างจัง ขนสีเงินท่าจะดีนะ”
จาวเหยาปรับแต่งรูปร่างใหม่ของมัจฉะได้สำเร็จ “เอาล่ะ เสร็จแล้ว เปิดตาดูสิ”
มัจฉะเดินไปยังหน้ากระจกเพื่อส่องเงาตัวเอง มันกลายเป็นแมวสก็อตติชโฟลด์ตัวสีส้มน่ารัก
แต่มันก็ยังดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก “ทำไมไม่มีปีกด้วยล่ะ? กระจอกจริง…”
จาวเหยาตีหัวมัจฉะทันที “ฝันเอาแล้วกัน”
จาวเหยายังคงสร้างภาพลวงตาให้แมวตัวอื่นๆ ในร้านจนเวลาล่วงไปถึงตี 3 กว่าเขาจะเสร็จทั้งหมดมัจฉะก็นอนหลับไปแล้วพร้อมกอดโทรศัพท์ไว้ในอ้อมแขน
แมวทุกตัวในร้านถูกปรับเปลี่ยนรูปร่างหน้าตาทั้งหมด ยกเว้นอลิซาเบธเพราะมันน่ารักอยู่แล้ว แต่เขาสามารถคงสภาพไว้ได้ในระยะเวลาไม่นาน
“แย่จริง… รายละเอียดที่ฉันต้องจินตนาการในหัวมีเยอะมากและยังต้องรักษาสภาพนี้ไว้อีก ทั้งยังใช้พลังงานมากอีกด้วย” จาวเหยาคิด ตอนนี้สมองของเขาค่อนข้างเหนื่อยล้าจากการใช้จินตนาการมาเกือบตลอดคืน
จาวเหยาคิดถูก เขาไม่สามารถสร้างสภาพภาพลวงตาเป็นระยะเวลานานได้ทุกวันแน่ แค่รักษาสภาพให้ครบวันก็น่าจะถึงลิมิตของเขาแล้ว
จาวเหยาอ้าปากหาวก่อนผล็อยหลับไปบนโต๊ะ
คาเฟ่แมวยังคงเปิดทำการปกติในสองวันต่อมา หน้าร้านมีป้ายโฆษณากิจกรรม Star Cats’ Night ที่จะจัดขึ้นในวันเสาร์นี้ รวมถึงปิดทำการเวลา 2 ทุ่มเป็นกรณีพิเศษ
“นายจะเอาแมวมากมายขนาดนั้นมาจากไหน? อยากให้ฉันโทรขอความช่วยเหลือจากสารวัรโฮหรือเปล่า? เขาอาจจะช่วยเหลือเราได้ก็ได้นะ” เสี่ยวฉือยู่ถามจาวเหยาอย่างสงสัย
“ไม่มีปัญหา” จาวเหยายิ้มอย่างมีเลศนัย “จริงสิ เอาใบปลิวพวกนี้ไปให้เด็กสองคนนั้นแจกด้วยนะ”
เสี่ยวฉือยู่อ่านเนื้อหาในใบปลิวก็ต้องตกใจเมื่อเห็นรูปแร็กดอลล์ แมวดาว และแมวสยามอยู่บนนั้น เธอยิ่งสงสัยมากกว่าเดิมว่าจาวเหยาจะนำแมวพวกนี้มาจากไหน
ตั้งแต่เธอมีส่วนร่วมในเรื่องซูเปอร์แคทก็ไปสืบค้นเกี่ยวกับสายพันธุ์แมวมากขึ้น
รูปแมวที่ปรากฏอยู่ในโปสเตอร์มีแต่แมวพันธุ์สวยงาม คงจะไม่ได้มาด้วยการไปขอยืมใครง่ายๆ แน่ ยกเว้นว่าจะไปซื้อมาเท่านั้น
…
เทียนเหอรอยัลคอร์ท แมนชั่นหลัง 42
โฮห้าวชางนั่งปิดตานิ่งๆ อยู่บนโซฟา
แมวเปอร์เซียสีขาวที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของโฮห้าวชางใช้อุ้งเท้าเขี่ยไปมาบนหน้าจอโทรศัพท์ของเขา
เหมือนเขารับรู้การเคลื่อนไหวจึงเปิดเปลือกตาขึ้น เขามองไปที่แมวเปอร์เซียตัวนั้นก่อนถามออกไป “มีอะไรเหรอแอรีส?”
แอรีสพิมพ์ลงบนโทรศัพท์
‘พวกเราออกไปเดินเล่นได้ไหม? ฉันเบื่อที่ต้องอยู่แต่บ้านทั้งวัน’
โฮห้าวชางมักจะเอาใจแอรีสเสมอ เขาลูบหัวของมันพลางตอบ “มันอันตรายน่ะสิถ้าพวกเธอออกไปข้างนอก อยู่บ้านนี่แหละดีที่สุดแล้ว”
“งั้นทำไมเนโกะมาตะถึงออกไปได้?”
โฮห้าวชางทำหน้าขมึงพลางพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ “เนโกะมาตะไม่ค่อยฟังใครอยู่แล้ว ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ? อยากเป็นแบบเนโกะมาตะหรือ?”
“ถ้างั้นฉันขอแล็ปท็อปหรือโทรศัพท์มือถือบ้างได้ไหม?”
แอรีสอธิบายต่อ “ฉันได้ยินจากพวกคนใช้ว่าในอินเตอร์เน็ตมีอะไรให้ดูเยอะแยะเลย ฉันอยากลองเห็นสักครั้ง”
“อย่าไปฟังพวกเขา บนเว็ปมีแต่เรื่องน่ารังเกียจ มันส่งผลแย่กับตัวเธอนะ แอรีส เธอแค่เชื่อฟังฉันและอยู่ในบ้าน ฉันจะเป็นคนปกป้องเธอเอง”
ระหว่างที่โฮห้าวชางกับแอรีสสนทนากัน เด็กชายวัยรุ่นที่ย้อมผมเป็นสีรุ้งกับชายวัยกลางคนสวมแว่นตาสีดำปรากฏตัวขึ้นหน้าโฮห้าวชาง
ทั้งสองนับถือและเคารพโฮห้าวชางอย่างที่สุด เขาเพียงยืนรออย่างคนรับใช้ที่รอเจ้านายเป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน
พวกเขาเคยถูกโฮห้าวชางช่วยเหลือจากกลุ่มนักเลง และหลังจากที่พวกเขาเห็นความสามารถของโฮห้าวชางว่ามีความน่ากลัวและน่าประทับใจขนาดไหนก็เคารพนับถือและรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณกับเขาเรื่อยมา
โฮห้าวชางปรายตามองทั้งสองก่อนพูด “ฉันแน่ใจว่าพวกนายคงรู้เรื่องแล้ว”
อีกฝ่ายพยักหน้าและตอบด้วยรอยยิ้ม “ครับมาสเตอร์ ฮี่ๆ… พวกเราจะแสดงความแข็งแกร่งของพวกเราให้เด็กนั่นดูเอง”
“ฉันไม่ได้จะให้ไปทำร้ายเขาหรอกนะ” โฮห้าวชางคว่ำริมฝีปากและดีดนิ้ว “ถ้าฝ่ายนั้นให้ความร่วมมือก็ให้พาตัวมาที่แมนชั่นของเรา แต่ถ้าหากตอบโต้ละก็ให้จับตัวแมวมาให้หมดและกลับมาทันที เข้าใจไหม?”
ซูเปอร์แคทเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขา หากอีกฝ่ายมีซูเปอร์แคทในครอบครองก็แปลว่ามีพลังพิเศษไว้ในครอบครองเช่นกัน แม้การหาตัวอะพอสเซิ่ลจะเป็นเรื่องยากแต่ไม่ใช่กับโฮห้าวชางคนนี้
เขาอาจเสียอะพอสเซิ่ลไปแล้ว 4 คน แต่เขายังครอบครองซูเปอร์แคทที่เป็นเครื่องยืนยันว่าพลังยังอยู่กับเขา และตอนนี้เขายังมีอีกสองคนตรงหน้าที่พร้อมทำตามคำสั่งของเขาอีก
ไม่ทันที่ทั้งสองคนจะออกไป โฮห้าวชางได้รับโทรศัพท์สายหนึ่งจนทำให้เขามีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
เขาวางสายและออกคำสั่ง “ทั้งสองคนหยุดก่อน อย่าเพิ่งไป”
ครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้เกิดเหตุระเบิดบนเรือสำราญที่แล่นอยู่ทางทะเลตะวันออกของเจียงไฮ่ ซึ่งคาดว่าเป็นฝีมือของอะพอสเซิ่ลต่างประเทศ
เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดจากอะพอสเซิ่ลต่างชาติอาจนำไปสู่ข้อพิพาทระหว่างประเทศซึ่งทำให้ในประเทศเกิดความตึงเครียด สถานการณ์ถูกรายงานตรงไปยังเบื้องบน เจียงไฮ่ประกาศใช้กฎอัยการศึกให้เข้าสู่สถานะตื่นตัวและให้จัดการกับทุกเหตุการณ์ใดๆ ที่เกิดจากอะพอสเซิ่ลอย่างเข้มงวด
ครอบครัวของโฮห้าวชางโทรมาเพื่อห้ามปรามเขาไม่ให้ทำอะไรสุ่มสี่สุ่มห้า อยากให้เขาอยู่ห่างจากปัญหาให้มากที่สุด เพราะหากเขาเลือกที่จะก่อปัญหาในช่วงนี้ถือว่าเป็นเรื่องโง่และไร้ความรับผิดชอบอย่างมาก
เขาถอนหายใจพลางเอนหลังลงบนพนักพิงของโซฟา “เฮ้อ โชคดีไปนะ”
“รอปลดกฎอัยการศึกก่อนเถอะ”