Am I a God – ฉันเป็นพระเจ้า - ตอนที่ 122
Chapter 122 ปั้นสกิน
“จาวเหยา จาวเหยา นายลืมตาของฉัน” โรลี่โพลี่ส่ายหางไปมาเบาๆ ก่อนส่งสายตาให้จาวเหยา “ทำตาฉันให้โตขึ้นหน่อย!”
“นายยังอยากให้มันโตขึ้นอีกเหรอ? ถ้าโตกว่านี้ก็ทะลุเบ้าออกมาแล้ว” แม้จะตอบอย่างนั้นก็ค่อยๆ วางมือลงบนหัวโรลี่โพลี่และทำให้ตาของมันดูโตขึ้นด้วยภาพลวงตาของเขา
โรลี่โพลี่ดูหน้าตาน่ารักขึ้นมาทันทีเมื่อแปลงโฉมไปมาอยู่หลายรอบ แมววิญญาณมองตามด้วยความกลัวและแทบจะอยากลองด้วยไม่ไหว
แมวชอร์ตแฮร์หน้าแบนพูดกับตัวเอง “ฉันเองก็อยากให้จมูกฉันโด่งกว่านี้อีกหน่อย”
จาวเหยาสร้างภาพให้โรลี่โพลี่จนสำเร็จ เขาวางโรลี่โพลี่ลงบนพื้นและตบก้นของมันเบาๆ “เอาล่ะเสร็จแล้ว นายจะต้องเป็นนักฆ่าในคืนนั้นแน่ๆ” โรลี่โพลี่มองเงาตัวเองในกระจกพลางชมไม่หยุดปาก
มัจฉะที่นั่งรออยู่รีบวิ่งมาหาจาวเหยาพร้อมส่ายหางอย่างดีใจ “จาวเหยา จาวเหยา! ฉันอยากได้สกินด้วย!”
ทันทีที่จาวเหยาเห็นกองอึวิ่งเข้ามาหา เขาก็ลบภาพลวงตาอันเก่าออกทันที แต่ก่อนที่มันจะเข้าสู่อ้อมแขนของจาวเหยา เงาสีดำก็พุ่งเข้ามาเหยียบหน้ามันก่อนจะเป็นฝ่ายกระโดดเข้าหาอ้อมแขนของจาวเหยาแทน
เป็นใครไปไม่ได้นอกจากลูกฝุ่น มัจฉะลูบจมูกด้วยความเจ็บปวดก่อนฟาดหางใส่พื้นซ้ำๆ ด้วยความโมโห
“เจ้าบ้า! จะหักจมูกฉันหรือไง? ไม่รู้หรอว่าจมูกของเจียงไฮ่โฟลด์นี่มันแพงขนาดไหน? กี่ชาติก็ชดเชยจมูกนี้ไม่ได้ เจ้าขยะสกปรก”
ลูกฝุ่นไม่สนใจมัจฉะเลยสักนิด มันเพียงส่งสายตาอ้อนวอนให้จาวเหยา “จาวเหยา จาวเหยา เปลี่ยนฉันเป็นแมวตัวใหญ่น่ากลัวหน่อยสิ ได้โปรด! ฉันอยากดูแข็งแรงและน่าเกรงขาม ฉันได้ยินว่าพวกมนุษญ์ผู้หญิงชอบแมวแบบนั้น?”
จาวเหยารีบเบ้ปากทันที “ใครบอกเธอ?”
“ฉันแอบฟังพวกลูกค้าคุยกันน่ะ”
เสียงเล็กใสดังขึ้นในหัวของจาวเหยาก่อนที่มันจะเลื่อนเม้าส์ไปกดที่วิดีโอหนึ่ง
“ดูสิ! ตัวนี้ก็ไม่เลวนะ!”
จาวเหยาดูวิดีโอนั้นและเทียบขนาดกับร่างไซส์เล็กของลูกฝุ่น “นั่นมันเสือโคร่งไซบีเรียแล้ว! ฉันจะเปลี่ยนเธอให้เป็นเสือได้ยังไง? อยากให้ฉันเอาชุดเกราะให้เธอใส่เหรอ? นี่มันเกินภาพลวงตาที่ฉันจะทำได้แล้ว อย่าหวังสูงขนาดนั้น”
ลูกฝุ่นหน้าเง้างอพลางเลื่อนเม้าส์ไปอีกทาง “แล้วนี่ล่ะ?”
“นี่มันสิงโต… ถ้าฉันเปลี่ยนเธอเป็นเจ้านี่ได้ถูกจับเข้าคุกพอดี”
“นี่ล่ะ?”
“เธอนี่ชอบอะไนแบบนี้จริงๆ สินะ? นี่มันหมี อย่างนี้ใครจะกล้าเข้ามาในร้าน?” จาวเหยาตอบน้ำเสียงเหน็บแนม
ลูกฝุ่นมีจะยิ่งเลือกสัตว์ที่ตัวใหญ่ขึ้นๆ จาวเหยาเลยเสนอแมวดาวให้แทน
“นี่เหมาะกับเธอดีนะ แมวดาว”
“ก็ได้…” ลูกฝุ่นพยักหน้ารับอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก “ถ้าฉันอยากพิมพ์ตัวอักษรจีนคำว่า ‘หวัง’ บนขนที่หัวล่ะได้ไหม?”
“ไม่ได้ มีแมวที่ไหนหน้าตาแบบนั้นกัน!”
ลูกฝุ่นตะโกนด้วยความโกรธ “นั่นก็ไม่ได้ นี่ก็ไม่ได้ แล้วทำอะไรได้บ้าง? แค่พิมพ์อักษร ‘หวัง’ บนหัวก็ไม่ได้! ฉันจะกัดนายให้ตายเลย!”
ก่อนที่ลูกฝุ่นจะกระโจนใส่เขา จาวเหยาก็แอบหยิบแคทมินต์ขึ้นมา ลูกฝุ่นเริ่มมองตามและอ่อนลงอยู่ในอ้อมแขนของจาวเหยาอย่างว่าง่ายตามคาด
จาวเหยาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจก่อนเริ่มสร้างรูปร่างใหม่ให้ลูกฝุ่น เขาค่อยๆ สร้างลายดาวตามวิดีโออย่างพิถีพิถัน มือกวาดไปมาบนหลังของลูกฝุ่นและขนบนตัวของมันจนกลายเป็นลายจุด
จาวเหยาใช้วิดีโอเป็นต้นแบบในการปรับแต่งสีและรูปร่างอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าลูกฝุ่นจะมีขนาดตัวที่เล็ก แต่รูปร่างของมันทำให้ง่ายต่อการปรับแต่ง ลายของมันคล้ายกับลูกแมวทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นแมวเด็กได้ เขาจึงเปลี่ยนให้มันเป็นลูกแมวดาวขนาดเล็ก
หลังจากนั้นไม่นาน ในอ้อมแขนของจาวเหยาก็ปรากฏแมวดาวที่มีขนาดเท่าๆ กับลูกฝุ่น ดูแล้วเหมือนลูกแมวน้อยอายุ 3 เดือนที่มีลักษณะพิเศษตรงหน้าผาก หน้าผากสีทองของมันมีขนสีดำเรียงตัวกันเป็นตัวอักษร ‘หวัง’ ของจีนอยู่ด้วย
ลูกฝุ่นพอใจกับรูปร่างใหม่ของมันมากจนพยักหน้ารัวๆ ด้วยความดีใจ “ไม่เลว ไม่เลว! ทำให้ฉันสูงขึ้นอีกได้ไหม?”
“คงจะไม่ได้แล้ว โทษตัวเองเถอะที่ตัวแค่นี้” จาวเหยาปฏิเสธเพราะเขาไม่สามารถทำให้ลูกฝุ่นตัวสูงขึ้นกว่านี้ได้เพราะสรีระเดิม
พอลูกฝุ่นเสร็จไป มัจฉะก็กระโดดขึ้นไปบนตักของจาวเหยาก่อนหลับตา “ศัลยกรรมเจ็บไหมหมอ หมอฉีดยาชาให้ผมทั้งตัวเลยได้ไหม?”
“ไปคุยกับส้วมไป” จาวเหยากรอกตา
“ผมได้ยินว่าสาวๆ ชอบลู่หานเพราะเขามีริมฝีปากสวย คุณทำปากผมให้เหมือนเขาได้ไหม?” มัจฉะขอ
“หุบปาก” จาวเหยาพูดพลางปัดหน้ามัจฉะออก
จาวเหยาลูบตัวมัจฉะไปมาและเห็นว่าขนของมัจฉะไม่ค่อยยาวเหมือนโรลี่โพลี่ อย่างมัจฉะคงเปลี่ยนได้แค่ในสายพันธุ์ขนสั้นเท่านั้น
และมัจฉะสามารถพับหูของมันได้ เขาเลยจะเปลี่ยนมันเป็นสก็อตติชโฟลด์สีส้ม
จาวเหยาลูบหน้ามัจฉะและปรับรูปร่างของมัน “แมวที่มีหน้าใหญ่ๆ น่ะน่ารักนะ” เขาพูดพลางลูบหน้าของมัจฉะไปมาจนหน้าของมันใหญ่ขึ้นและกลมขึ้น แต่แม้ว่าหน้าของมันจะดูกลมแต่เวลาสัมผัสกลับไม่ค่อยรู้สึกถึงมัน
ภาพลวงตาของอลิซาเบธยังไม่สามารถควบคุมสัมผัสได้ โชคร้ายที่หน้าดั้งเดิมของมัจฉะเหมือนสามเหลี่ยมมากกว่าวงกลม เวลาจับหน้าของมันจึงดูไม่ค่อยสมจริงนัก
มัจฉะดูไม่ค่อยพอใจกับรูปร่างใหม่ของมันเท่าไหร่นัก มันวางอุ้งเท้าบนมือจองจาวเหยา “หมอ ทำให้คางแหลมกว่านี้ได้ไหม? ได้ยินว่าแค่คางแหลมก็ได้คะแนนพิเศษ 10 แต้มแล้วนะ”
“ทำคางให้แหลมขึ้น?”
จาวเหยาลูบคางก่อนตัดสินใจ “ก็เข้าท่าดี”
จาวเหยาลุกไปที่ไหนสักที่ก่อนกลับมาพร้อมกับหมวกบีนนี่สีเขียวในมือ เขาพันหมวกไปรอบหน้าของมัจฉะทำให้หน้าของมันดูกลมขึ้น เขาซื้อหมวกนี้มาให้มัจฉะตั้งนานแล้วแต่มัจฉะไม่เคยยอมใส่เพราะไม่ชอบมัน
พอมีหมวกพันอยู่รอบหน้าแล้ว หน้าของมัจฉะดูกว้างและกลมขึ้นกว่าเดิม ทั้งสัมผัสของหมวกยังคล้ายกับขนของมัจฉะเลยทำให้เลียนแบบได้สมจริงขึ้น
จาวเหยาตั้งใจสร้างภาพลวงตาต่อไปอย่างละเอียด มัจฉะกลายเป็นแมวใบหน้ากลมโดยมีหมวกบีนนี่เป็นตัวช่วย ทีนี้มัจฉะก็มีใบหน้าอ้วนกลมทั้งด้านภาพลวงตาและทางสัมผัสมือแล้ว
มัจฉะมองตัวเองในกระจก “อืมมม… ขอโหนกแก้มชัดกว่านี้หน่อยได้ไหม เอาทิชชู่ยัดๆ เข้าไปในหมวกหน่อยก็ได้หมอ”
จาวเหยาตีหัวมัจฉะเบาๆ ก่อนตอบ “หยุดเลียนแบบลูกค้าแล้วกลับมาพูดแบบแมวได้แล้ว”
แม้จะพูดอย่างนั้นก็ไปหากระดาษทิชชู่มายัดในหมวกให้ ทำให้แก้มบนหน้าใหม่ของมัจฉะดูกลมขึ้นกว่าเดิม
“ไม่เลวเลยหมอ! ผมว่าผมน่ารักแล้วแหละตอนนี้ มาถ่ายรูปกันเถอะ! ครั้งหน้าจะแนะนำให้น้องสาวผมมาหาหมอดูนะ” มัจฉะพูดกับตัวเองในกระจก
“หุบปาก บอกว่าให้เลิกพูดแบบคนได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”