Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 130
การได้เห็นไฮควานลูกชายตัวเองกำลังฉลองชัยชนะอันหอมหวานอยู่นั้น ฝางต้าหลูก็เริ่มสับสนในอนาคตของลูกชายตัวเอง
ในฐานะพ่อ เขาสามารถรู้สึกได้ว่าตอนนี้ลูกชายเขากำลังมีความสุขที่สุด รอยยิ้มกว้างและภาษากายของลูกชายเขาออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจจริงๆ ไฮควานไม่เพียงแต่ฉลองในชัยชนะ แต่ฉลองในความรักต่อการกระโดดไกลด้วย
ไฮควานรักการกระโดดไกลขนาดนี้เลยเหรอ!ฝางต้าหลูถอนหายใจ นี้เป็นครั้งแรกที่เขาคิดสงสัยในตัวเอง นี้เขาจะคิดถูกรึเปล่าถ้าส่งไฮควานไปเรียนต่อที่อังกฤษ
หรือว่าจะให้เขาเอาการกระโดดไกลเป็นอาชีพเลยดี? ฝางต้าหลูส่ายหัวเงียบๆ แต่พฤติกรรมทางความคิดของต้าหลูบ่งบอกว่าเขาอยากให้ลูกชายทำสิ่งที่รักให้เป็นอาชีพจริงๆ
ฝางต้าหลูอยู่ในอาการจะกลับก็ไม่ได้ จะไปต่อไปก็ไปไม่ถึง ในฐานะพ่อแม่ เขาหวังแค่ว่าลูกชายเขาจะโตขึ้นมาอย่างมีความสุข แต่ด้วยความรับผิดชอบของเขา เตือนเขาว่าการให้ไฮควานทำตามแผนเดิมที่วางไว้จะดีกว่า
เรามีเรื่องต้องคุยกันแล้วละ ฝางต้าหลูตัดสินใจ
…
นี้เป็นครั้งที่3ของหลี่ไต้ที่ได้เจอกับฝางต้าหลู ถ้าเทียบ2ครั้งก่อนแล้ว รอบนี้เขาดูเหมือนพ่อมากกว่าประธานบริหารธุรกิจของบริษัทคอนติเน็นทอล
หลังจากเห็นพ่อของเขาแล้ว ไฮควานเงียบไปซักพักใหญ่ๆ ก่อนที่จะรวมความกล้าพูดไป “พ่อ ผมชนะแล้วนะ!”
“เห็นแล้ว”ต้าหลูรักษาความเยือกเย็นไว้ ไม่ได้แสดงอาการดีใจอะไร แต่ในตาของเขาที่ประกายออกมา มันบอกให้เห็นความรู้สึกจริงๆของเขา
“พ่อครับ ผมอยากจะฝึกกระโดดไกลต่อ!”ไฮควานพูดด้วยเสียงดังขึ้น
ต้าหลูไม่ได้ตอบอะไร เขามองลูกชายเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างหรือไม่ก็กำลังกดดันเขาอยู่ ความเงียบเริ่มปกคลุมพวกเขา ไฮควานอยากจะพูดตอบ แต่เขาพูดไม่ออก
หลี่ไต้พูดเปิด “ผจก.ฝางครับ ผมรู้ว่าการได้แชมป์กีฬาเยาวชนเขตมันไม่มีความหมายอะไรเลยสำหรับคุณ หรือแม้กระทั้งแชมป์ประเทศก็อาจจะยังไม่มีค่าพอในสายตาคุณด้วย แต่ถึงอย่างนั้น สำหรับไฮควาน ชัยชนะในครั้งนี้เป็นเหมือนหลักชัยในความสามารถของเขา อีกทั้งเป็นรางวัลสำหรับการฝึกหนักของเขา บางทีคุณอาจจะไม่ได้ยิน แต่การกระโดดครั้งสุดท้ายของไฮควานทำลายสถิติไป2อย่างนะครับ อย่างแรกคือสถิติเขตในรุ่นU18 กับสถิติชาติในรุ่นU16 “
“โอ้ว?”สุดท้าย สีหน้าของต้าหลูก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เขามีความสุขขึ้นมา เขาไม่ค่อยรู้อะไรมากเกี่ยวกับการกระโดดไกลหรอก เขารู้แค่ว่าไฮควานได้แชมป์ แต่ไม่ยักรู้เลยว่าลูกชายเขาจะทำลาย2สถิติในรวดเดียว
หลี่ไต้พูดต่อ “ผจก.ฝางครับ การเป็นนักกีฬาเป็นอาชีพของคนหนุ่มครับ นักกีฬามันอยู่ได้แบบดีที่สุดแค่ไม่กี่ปีเองครับ ตอนนี้ไฮควานอายุ16ปี ความสามารถของเขาจะพุ่งถึงขีดสุดจนถึงอายุ26ปี แล้วประมาณอายุ30 เขาก็จะเกษียณอายุแล้ว สำหรับเขา เขาเหลือเวลาอีกแค่10ปีเท่านั้นในการไขว้คว้าความฝันของตัวเอง คุณให้เขาซัก10ปีในการให้เขาไปทำในสิ่งที่อยากทำไม่ได้เหรอครับ? ผมรู้ว่าคุณอยากให้เขามารับช่วงต่อแทนคุณ แต่ถ้าดูจากคุณตอนนี้แล้ว คุณก็ยังสามารถทำงานต่อได้อีก10-20เลยนี้ครับ!”
ฝางต้าหลูตอนนี้อายุ40ปลายๆ อีก20ปีเขาก็อายุยังน้อยกว่า70อยู่ดี สำหรับมหาเศรษฐีอย่างเขา มันเป็นเรื่องปรกติ ที่เกษียรงานหลังจากอายุ70
ต้าหลูไม่พูดอะไร ดูเหมือนเขาจะยอมรับได้หรือไม่ก็กำลังคิดอยู่ว่าจะให้ฝางไฮควาน10ปีหรือไม่
วินาทีต่อมา ฝางต้าหลูก็พูด “ผมลองคิดถึงข้อแนะนำของคุณแล้ว แต่เขาเป็นลูกชายคนเดียวของผม แล้วเขาจะขึ้นมาคุมบริษัทคอนติเน็นทอลต่อไป มันไม่ใช่แค่คุมบริษัทเฉยๆ แต่มันเป็นการแบกรับความรับผิดชอบทั้งหมด เขาควรจะได้มาทันทีที่ทำได้”
ผจก.ฝาง ผมมีความคิดดีๆนะ”หลี่ไต้คิดซักพัก ก่อนพูด “ทำไมไม่ฝึกให้ไฮควานกลายไปเป็นโฆษกประจำบริษัทคอนติเน็นทอลละ? ถ้าวันหนึ่งเขาได้กลายเป็นนักกระโดดไกลที่ดีที่สุดในประเทศแล้วได้ไปแข่งในรายการระดับโลก เขาต้องเป็นโฆษกที่ดีแล้วสามารถสร้างประโยชน์ให้กับบริษัทคอนติเน็นทอลได้ในแบบของเขาเองแน่ๆ”
ต้าหลู หวั่นไหวเล็กน้อย เขาไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน เขาตั้งใจแค่ว่าจะส่งฝางไฮควานไปเรียนต่อเมืองนอกแต่ไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้อื่นเลย
มันก็ไม่ง่ายนะที่จะไปสู่การแข่งระดับโลก ในวงการกีฬา มีนักกีฬาที่มากพรสวรรค์หลายๆคนในประเทศ แต่ขาดโอกาสที่จะออกไปข้างนอก โดยเฉพาะกับคนเอเชีย ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ คนที่ได้ไปมี1ในล้านได้มั่ง เพราะอย่างนี้ฝางต้าหลูเลยคิดว่าไม่น่าเป็นไปได้
แต่ตอนนี้ ต้าหลูรู้แล้วว่าไฮควานได้ทำลายสถิติประเทศในรุ่นU16ปี นั้นเป็นตัวบอกว่าเขาเป็น1ในคนที่เก่งที่สุดในประเทศการไปแข่งในระดับโลกนั้นมันก็อยู่ไม่ไกลแล้ว
เขาพัฒนาแล้ว
ถ้าฉันส่งไฮควานไปอังกฤษเขาก็จะกลายไปเป็นผู้สืบทอดที่มีคุณสมบัติเหมาะสม แต่ถ้าเขากลายเป็นโฆษกให้กับบริษัท เขาก็จะค่อยๆเรียนรู้ขั้นตอนของการปฏิบัติงานในบริษัทแล้วก็ตามรอยความสำเร็จของฉัน ฝางต้าหลูคิดเงียบๆ
ฝางต้าหลูไม่เคยคิดเลยที่จะเปลี่ยนใจ แต่พอได้เห็นว่าไฮควานรักการกระโดดไกลมาขนาดนี้ เขาเลยตัดสินใจให้เขาทำต่อไป มันไม่ใช่การตัดสินใจที่ดีนักหรอก แต่มันเป็นความรักจากพ่อสู่ลูกที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางอารมณ์มากกว่า
คำแน่นำของหลี่ไต้ที่ให้ฝางต้าหลู ก็ได้ถูกเขาตัดสินใจไปว่าเป็นสิ่งที่มีเหตุผลไปในที่สุด
…
ในขณะเดียวกันในอีกสนามการแข่งหนึ่ง มันเป็นที่ๆการแข่งทุ่มน้ำหนักรอบตัดสินจัดขึ้น
ทีมเยาวชนส่งนักกีฬามาแค่3คน เจียนกังเฉิน และบิ่นหวางได้เข้ารอบสุดท้าย ในขณะที่เหล่ยควินไม่เข้ารอบเพราะทำได้ไม่ดีพอ แต่เอาจริงๆเลยคือไม่มีใครในนั้นทำได้ดีเป็นปรกติเลยในรอบควอริฟาย
นี้เป็นบทเรียนที่นักกีฬาหนุ่มต้องได้รับ พวกเขาไม่เคยลงแข่งในการแข่งแบบเป็นทางการมาก่อน มันเลยเข้าใจได้ว่าอาจจะเกิดความตระหนกกังวลหรือความไม่เด็ดขาดระหว่างการแข่งกีฬาเยาวชน อาจนำไปสู่ความผิดพลาดในฟอร์มการเล่นได้
แต่โชคร้ายว่าในรอบตัดสินนี้ ทั้งเจียนกังเฉินและบิ่นหวางต่างก็ทำผลงานได้ไม่น่าพอใจทั้งคู่ ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะติดโผอยู่ใน8อันดับแรกก็จริง แต่พวกเขาก็ทุ่มไม่ได้เกิน18เมตรอยู่ดี
ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนจะใช้ตุ้ม5กิโลแทนตุ้มมาตรฐาน16ปอนด์ ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ถึง18เมตรด้วยตุ้มน้ำหนัก5กิโล พวกเขาก็ไม่มีโอกาศแตะเหรียญรางวัลหรอก
การทุ่มครั้งสุดท้ายของเจียนกังเฉินพื่งจบลง ตุ้มน้ำหนักของเขาลงตรงจุดเส้น18เมตรพอดี ซึ่งทำให้เขาได้ที่4
แค่18เมตรเหรอ! ได้แค่ที่4เหรอ! อีกแค่นิดเดียวจะได้เหรียญแล้วแท้ๆ! ฉวงซูฉีโค้ชทีมทุ่มน้ำหนักคนใหม่รู้สึกขายหน้า
เจียงกังเฉินเคยทุ่มได้ถึง17.11เมตรด้วยตุ้ม16ปอนด์ แล้วก็ชนะที่3ของการแข่งกีฬาเยาวชนระดับชาติ! นี้เขาเป็บ้าอะไรของเขาเนี่ยวันนี้? หน้าของฉวงซูฉีเต็มไปด้วยความประหลาดใจ สับสน และไม่พอใจ
ในสายตาของฉวง เจียนกังเฉินมีโอกาสเยอะมากที่จะได้เหรียญทอง แล้วถึงแม้เขาจะพลาด เขาก็คงน่าจะได้เหรียญเงิน ส่วนบิ่นหวาง เขามีความสามารถในการได้เหรียญเยอะมาก ก่อนการแข่งขันจะเริ่ม ฉวงซูฉีก็ฝันเห็นทั้ง2คนได้รับเหรียญบนแท่นอีกด้วย
แต่ความเป็นจริงที่โหดร้ายกระแทกหน้าเขาอย่างไร้ความปราณี แม้แต่เจียนกังเฉินที่เก่งที่สุดในทีมยังทำได้แค่ที่4 โบกลาแท่นรับรางวัลได้เลย
ฉวงซูฉีได้ชิงทีมทุ่มน้ำหนักมาจากหลี่ไต้ แล้วเล็งความสำเร็จในกีฬาเยาวชนเพื่อไต่เต้าไปสู่หน้าที่การทำงานใหญ่ๆในอนาคต แต่สิ่งที่เขาได้ คือไม่ได้อะไรเลย ถึงแม้ว่าการได้ที่4อย่างร้อยอาจจะเลื่อนตำแหน่งให้เขาสูงขึ้นได้หน่อยๆจากการช่วยเหลือของลุงของเขา แต่ ที่4 จริงๆมันช่วยได้นิดเดียวมากๆ
ทำไมมันถึงกลายเป็นแบบนี้ได้เนี่ย? นี้มันไม่ใช่สิ่งที่ฉันวางแผนไว้นี้! ฉวงพูดกับตัวเอง แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เขาคิดไว้ การพ่ายแพ้มาเยือนอย่างไม่ปราณี