Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 131
การฝึกนักกีฬามันก็เหมือนกับการพายเรือทวนกระแสน้ำ ถ้าพวกเขาไม่ก้าวหน้า พวกเขาก็จะปลิวไปกับสายน้ำแน่ๆ
นักกีฬายิ่งเก่งเท่าไร ก็ยิ่งต้องฝึกมากขึ้นเพื่อรักษาสถานะทางร่างกายมากขึ้นเท่านั้น การฝึกความเข้มข้นต่ำนั้นจะทำให้นักกีฬเสียแล้วทำให้พวกเขาทำได้ไม่ดี เมื่อซูฮงหยีพบกับหลี่ไต้ครั้งแรก แล้วเห็นเขาฝึกหยูเฟ่ยเฟ่ยด้วยท่ากายบริหาร นั้นจึงทำให้เขาโกรธด้วยเหตุผลที่ว่ามา
ยกเอาบาสเก็ตบอลเป็นตัวอย่าง นักกีฬาบาสNBAตัวท๊อปจะไม่ลงแข่งในลีคระดับต่ำกับผู้เล่นที่อยู่ในระดับกลางๆ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเสนอค่าตัวที่สูงลิ่วกว่า แต่เหตุผลหลักๆเลยคือการฝึกความเข้มข้นต่ำของลีคระดับล่างๆนั้นจะทำให้ความสามารถของพวกเขาแค่ลงหรือไม่ก็ไม่ดีขึ้นเลย เพื่อที่จะยืดอายุอาชีพของพวกเขา นักกีฬาของNBAจึงไม่ยอมที่จะเข้าร่วมในลีคระดับต่ำหรือไปเล่นในการแข่งที่ง่ายเกินไป ช่วงเวลาเดียวที่พวกเขาจะแข่งแบบนั้นเพื่อเอาเงินคือช่วงที่อาชีพนักกีฬาของพวกเขา ใกล้จะมาถึงแล้ว
และด้วยการช่วยเหลือของระบบโค้ช นักกีฬาสามารถพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็วภายใต้การฝึกของหลี่ไต้ แต่ฉวงฉูซีไม่ได้มีข้อได้เปรียบแบบนั้น ความสามารถในการฝึกของเขาไม่ต่างอะไรกับระดับกลางๆ ถ้ามันจะเป็นไปได้ เขาจะได้เลื่อนขั้นเพราะความช่วยเหลือจากลุงเขาเท่านั้นละ
หลังจากที่ทีมทุ่มน้ำหนักถูกเอาไปเป็นของฉวงฉูซี นักกีฬาอย่างเจียนกังเฉินก็เริ่มที่จะถดถอยลงไป แต่โชคยังดีที่เขาพึ่งยึดไปได้ยังไม่นาน การถดถอยของความสามารถเลยไม่ได้ส่งผลชัดเจนมากนัก
มันเป็นช่วงเวลาที่โหดร้าย นักกีฬาเสียการช่วยเหลือจากวงแหวนระเบิดพลังด้วย
นักกีฬาทุ่มน้ำหนักเป็นประเภทกีฬาที่พึ่งพาแรงระเบิดพลังส่วนตัวเยอะมาก นักกีฬาอย่างเจียงกังเฉินมีพรสวรรค์แค่ระดับC- ถ้าไม่มีวงแหวนระเบิดพลัง เขาคงเป็นแค่นักกีฬาที่ดี แต่ไม่สามารถไปเป็นแชมป์ได้
แผนการของฉวงฉูซีได้ล้มเหลวไป เขาจ้องไปที่เจียงกังเฉินด้วยสีหน้าโกรธ แต่เจียงกังเฉินเมินเขา
ถ้าเทียบกับหลี่ไต้แล้ว ความสามารถในการฝึกของฉวงฉูซีไม่สามารถทำให้นักกีฬาประทับใจได้ โดยเฉพาะหลังจากผ่านมือดีอย่างหลี่ไต้มาแล้ว นักกีฬาพวกนี้เลยเมินเขายิ่งกว่าเก่า พวกเขารู้ว่าลุงของฉวงซูฉีเป็นคนใหญ่คนโต แล้วเขาก็ได้รับตำแหน่งนี้มาอย่างที่ไม่สมควรได้รับ
ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้หญิงประกาศขึ้นมาในเครื่องกระจายเสีย “พิธีรับรางวัลสำหรับการกระโดดไกลชายกำลังจะเริ่มขึ้นเร็วๆนี้ เราขอเชิญผู้ชนะเตรียมตัวขึ้นเวทีด้วยคะ” พอได้ยินเสียงนี้แล้ว ทุกคนก็เริ่มสนใจที่แท่นรับรางวัลทันที
“การแข่งกระโดดไกลมันจบไปแล้วเหรอ ฮงเฉิงหลงชนะรึเปล่า? ฉันไม่รู้หรอกนะว่าตอนนี้เขาเก่งขนาดไหนหรอกตอนที่ฉันฝึกเขา เขาเก่งขึ้นขนาดไหนกันนะหลังจากที่เข้าทีมกีฬาแล้ว”ฉวงหันหน้าไปทางแท่นรับรางวัล
ฮงเฉิงหลงเคยเป็นนักกีฬาในทีมเยาวชนภายใต้การนำของฉวงฉูซีช่วงนึง แต่ด้วยความที่ฉวงนั้นนั้นไม่ได้มีความสามารถฝึกที่เพียงพอทำให้เขาไม่ด้ปลดปล่อยความสามารถที่แท้จริงออกมา หลังจากนั้นไม่นาน ฮงเฉิงหลงก็ได้ถูกรับเลือกเข้าทีมกีฬาหลักแล้วจากทีมเยาวชนไป หลังจากนั้นมา เขาได้พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลายมาเป็นนักกีฬาที่เก่งที่สุดในทีมเขต
นั้นมันเหมือนกับการต่อยหน้าฉวงแรงๆทีเดียว ฮงเฉิงหลงเป็นแค่คนนอกสายตาในการฝึกกับฉวง แต่เขากลับได้รับชื่อเสียงมากมายหลังจากไปฝึกกับทีมกีฬาหลัก นี้เป็นการพิสูจน์ความอ่อนแอของการฝึกของฉวงได้เป็นอย่างดี ผลก็คือฉวงเสียทั้งลูกศิษย์เก่าแถมยังโดนตราหน้าว่าอ่อนอีกด้วย
บนโพเดี่ยมรับรางวัล ฮงเฉิงหลงยืนอยู่ทางขวา นั้นเป็นตำเเหน่งของที่3 ในขณะที่ที่2อยู่ทางซ้ายเเละเเชมป์อยู่ตรงกลาง พอฉวงเห็นตำเเหน่งที่ฮงยืนเเล้วก็รู้ว่าเขาได้ที่3
“ได้เเค่ที่3เองหรอ คิดว่าจะได้ไปเป็นเเชมป์ซะอีก”ฉวงพูดเหมือนไม่ได้เเคร์อะไร เเต่เขาอิจฉาจากก้นบึ้งของหัวใจ เขายังได้ที่3ไม่ได้เลย เเต่เขาก็ยังทำตัวเหมือนไม่เเคร์อยู่
“2คนที่เหลือต้องเป็นที่2กับที่1เเน่ๆ ดูเหมือนว่าจะเป็นนักกีฬาจากทีมเมืองนะ เเชมป์ปีนี้ดูเด็กจัง เเถมเครื่องเเบบยังเหมือนจะคล้ายๆกับทีมเยาวชนของเราอีกด้วย ทั้งสีทั้งสไตล์เลย ทีมเมืองไหนน้า? พวกเขาดูไม่ออกเหรอว่าสีเสื้อมันคล้ายๆกับของเรา? บางทีอาจจะเป็นเจ้าเดียวกันก็ได้มั้ง”
วินาทีต่อมาฉวงก็นึกขึ้นมาได้ว่า
“เห้ยไม่ดิ ไอ้นั้นมันเสื้อเเข่งทีมเรานี้ว่า เขาเป็นสมาชิกทีมเยาวชนเขต!” ฉวงประหลาดใจเขาทองไปรอบๆทันที เเล้วเขาก็เจอกับหลี่ไต้เเถวๆนั้น
ไอ้หลี่ไต้ มันอยู่นั้น! มันเป็นโค้ชหลักทีมกระโดดไกลนี้ นั้นหมายความว่าแชมป์ก็ต้องเป็นของทีมเยาวชนอะดิ ใช่ๆ จำได้แล้ว เขาบอกอยู่ในที่ประชุมว่าคนที่ได้โควต้าเข้าแข่งกระโดดไกลเป็นทายาทของบริษัทคอนติเน็นทอล แล้วก็เป็นคนเดียวที่ลงแข่งกระโดดไกลด้วย ต้องเป็นเขาแน่ๆ เขาคือทายาทคอนติเน็นทอล
ฉวงหายใจลึกๆ หัวใจเขาโดนรบกวนมากๆ
“ทายาทบริษัทดังชนะการแข่งเหรอ? เด็กรวยมันเก่งขนาดนั้นเลยเหรอ?”
ความคิดของฉวงนั้นก็เหมือนกับคนหลายๆคน เขาคิดว่าเด็กที่พ่อแม่รวยนั้นมักจะพาสาวสวยๆไปคั่วในรถสปอร์ต ผลาญเงินพ่อแม่ไปวันๆ ทำตัวเหลวแหลก ทนอะไรไม่เป็น เขาไม่เชื่อว่าฝางไฮควานจะชนะการแข่งได้
ความอิจฉาเติบโตขึ้นในใจของฉวง เขาอิจฉาทั้งความรวย ทั้งชื่อเสียง แล้วก็ตำแหน่งแชมป์ของฝางไฮควาน ไฮควานตอนนี้มีทุกอย่างที่เขาไม่มี เขาไม่เคยชนะการแข่งอะไรเลย แล้วลุงของเขาก็มีอำนาจกระจอกไปเลยถ้าเทียบกับคอนติเน็นทอล
“ซื้อมาแน่ๆ เขาต้องซื้อตำแหน่งนั้นมาแน่ๆ! มันคงไม่ยากเท่าไรหรอกสำหรับคอนติเน็นทอลที่จะทำการติดสินบนนักกีฬาทั้งหมด พวกเขาก็แค่จ่ายเงินให้นักกีฬาเล่นได้แย่กว่าปรกติเพื่อให้ลูกของเขาได้เป็นแชมป์ แย่ หน้าไม่อาย ไม่เป็นนักกีฬาเลย!” ฉวงหงุดหงิดสุดๆ ความคิดของเขามันมีแง่ลบขึ้นไปทุกทีๆ ในขณะที่เขาคิดเรื่องนี้นั้น โค้ชคนอื่นก็เริ่มคุยกันเองแล้ว
“ได้ยินรึเปล่า แชมป์กระโดดไกลปีนี้กระโดดได้ตั้ง7.84เมตร!”
“7.84เมตรเลยเหรอ นั้นมันยอดมากเลยนะ 7.84เมตรถือเป็นสถิติที่ยังดีมากอยู่สำหรับการแข่งระดับผู้ใหญ่!”
“มันทำลายสถิติทั้งU18ของเขต แล้วก็สถิติU16ของประเทศ”
เดี๋ยวก่อนนะ เดี๋ยวๆ U16หรอ นี้หมายความว่านักกีฬาคนนั้นอายุแค่16ปีเองเหรอ การกระโดด7.84เมตรได้ในอายุ16ปี นี้มันอัจฉริยะชัดๆ!”
“สถิติแบบนี้ได้เข้าทีมชาติแน่ๆ”
“มากกว่านั้นอีก เขาจะได้รับความสนใจเป็นพิเศษจากทีมชาติแน่ๆ “
ฉวงได้ยินพวกนั้นคุยกันแล้วดูเหมือนว่าเขาจะหงุดหงิดมากกว่าเก่า
ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ฉวงปลอบใจตัวเองอยู่เลยว่าตำแหน่งแชมป์ของไฮควานได้มาจากการซื้อมา แต่นาทีต่อมา ก็มีข่าวว่าไฮควานทำลาย2สถิติได้ในครั้งเดียว ทำให้ฉวงเจ็บใจมาก
“ทำไมหลี่ไต้มันถึงได้ดวงดีขนาดนี้วะ?! เขาดันมาเจอนักกีฬามีพรสววรค์ ถ้าฉันได้เจอแบบนั้นมั่งน…. เดี๋ยวก่อนนะ เด็กอัจฉริยะนั้นเคยเป็นนักกีฬาของฉันนี้หว่า! ฉันเคยเป็นโค้ชหลักทีมกระโดดไกลนี้”
ความรู้สึกผิดประดังเข้ามาในใจฉวงทันที เขาพึ่งรู้ตัวว่าเขาพึ่งแลกของขวัญเพื่อได้มาซึ่งกระดาษห่อของขวัญ มีนักกีฬาที่เป็นอัจฉริยะอยู่ในทีมกระโดดไกลอยู่แล้ว แต่เขากลับยื่นมันให้หลี่ไต้โดยแลกกับทีมทุ่มน้ำหนัก
“ไอ้หลี่ไต้ ไอ้เวรหลี่ไต้!!!” ฉวงเลือกพลาดเอง แต่เขาเป็นพวกไม่โทษตัวเอง โบ้ยนู้นโบ้ยนี้ไปทั่วแต่ไม่เคยโทษตัวเอง เขาเลยโทษหลี่ไต้ด้วยความเกลียดชัง