Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 124
ถึงแม้ว่าต่างฝ่ายต่างไม่ได้เจอหน้ากันมา2ปีกว่า แต่เฉาเหลียงฮาวก็ยังจำหน้าหลี่ไต้ได้อย่างขึ้นใจ เขาไม่คิดว่าจะเจอหลี่ไต้ที่นี้ ใจเขาย้อนกลับเมื่อเหตุการณ์2ปีก่อน
2ปีที่แล้วเฉาเหลียงฮาวได้คุมคลาสฝึกที่จะสอบเข้าโรงเรียนม.ปลาย เฉาเหลียงฮาวจดจำช่วงเวลานั้นเป็นเหมือนตราบาปในชีวิต ตอนนั้นฉาวเป็นโค้ชอยู่ในทีมเทศบาลเมือง แต่กลับมาแพ้หลี่ไต้ที่ยังไม่จบมหาลัยด้วยซ้ำ มันทำให้ชื่อเสียงของฮาวแย่ลงมากๆ
คลาสฝึกหลายคลาสยินดีที่จะจ่ายเงินก้อนใหญ่ให้ฮาวเพราะคำว่าโค้ชจากทีมกีฬาเทศบาลของเขา แต่พอฮาวแพ้เท่านั้นละ ไม่มีคลาสฝึกหน้าไหนโง่พอที่จะเสียเงินให้กับโค้ชที่กระจอกขนาดแพ้เด็กยังไม่จบมหาลัยหรอก เงินจำนวนนั้นพวกเขาสามารถไปจ้างครูพละที่โรงเรียนได้2คนเลยทีเดียว
แต่หลี่ไต้ไม่ได้นำพาความโชคร้ายมาให้เฉาเหลียงฮาวคนเดียว พี่ชายของเขา เฉาเหล็นฮาวที่ทำงานอยู่ในโรงเรียนกีฬาในตำแหน่งผู้จัดการ ได้ไล่หลี่ไต้ออกเพื่อล้างแค้นให้กับน้องชายแต่กลายเป็นว่าพ่อไล่หลี่ไต้ออก ก็ไม่มีนักกีฬาคนไหนในโรงเรียนกีฬาที่ผ่านการสอบคุณสมบัติของนักกีฬาระดับ2เลยซักคน และเพราะอย่างนั้น เฉาเหล็นฮาวก็สูญเสียความเชื่อใจของท่านประธานไป แล้วหลังจากนั้นเฉาเหล็นฮาวก็ทำพลาดอีกหลายๆครั้งจนไม่สามารถคงตำแหน่งผู้จัดการเอาไว้ได้ เฉาเหล็นฮาวเลยโดนย้ายไปเป็นผู้จัดการแผนกความปลอดภัย มันดูเหมือนไม่ได้แย่เท่าไรนะ แต่เอาจริงๆ ผู้จัดการแผนกความปลอดภัยเนี่ยมันแทบไม่มีอำนาจเลยนะ
ถ้าจะให้บอกแบบง่ายๆคือพี่น้องตระกูลฮาวย่ำแย่แบบนี้ก็เพราะหลี่ไต้
เฉาเหลียงฮาวไม่สามารถไปฝึกสอนในคลาสได้อีกต่อไป แล้วเพราะว่าเขาหาลำไพ่พิเศษไม่ได้แล้ว เขาก็เลยไม่มีเอะไรทำอย่างอื่นนอกจากเป็นโค้ชในทีมกีฬา เฉาเหลียงฮาวตั้งใจในการฝึกมากจนสุดท้ายเขาก็ได้มีผลงาน แล้วในต้นปีนี้ เฉาเหลียงฮาวก็ได้เลื่อนตำแหน่งไปอยู่ในทีมเมืองโหยวฮาวแล้วก็คุมทีมกระโดดไกล
และในการแข่งกีฬาเยาวชนเขตนี้ เมืองโหยวฮาวก็ส่งนักกีฬาเข้าแข่งเช่นกัน เฉาเหลียงฮาว เป็นหัวหน้าของทีมกระโดดไกล นี้เป็นเหตุผลที่เขามาอยู่ที่นี้
ทำไมโลกมันกลมงี้วะ! นี้มัน2ปีมาแล้วนะ ทำไมหลี่ไต้มันยังไม่ตายอีกละ! ฉันถามเรื่องเขาก่อนหน้านี้ พวกนั้นบอกว่าเขาไปเป็นโค้ชอยู่ที่เมืองฉิงเฉิง แล้วหลังจากนั้น ก็ย้ายไปอยู่ทีมเยาวชนเขต แล้วดูเหมือนว่าเขาจะเป็นหัวหน้าโค้ชของทีมกระโดดไกลด้วย เฉาเหลียงฮาวอิจฉาในชื่อเสียงของหลี่ไต้
ฮาวรู้ว่ามีเพียงแต่หัวหน้าโค้ชเท่านั้นที่อนุญาตให้พานักกีฬาของตัวเองไปลงสนาม เพราะอย่างนี้หลี่ไต้ถึงอยู่ที่นี้ หมายความว่าเขาเป็นหัวหน้าโค้ชแล้ว
บ้าเอ้ย!!! เฉาเหลียงฮาวสบทในใจ
ฮาวใช้เวลาเกือบ12ปีกว่าที่จะกลายมาเป็นหัวหน้าโค้ชได้ ส่วนหลี่ยังอายุ20กว่าๆอยู่เลย แต่ว่าตอนนี้เขาก็คุมทีมทั้งทีมได้แล้ว จะไม่ให้ฮาวอิจฉาได้ยังไง?
แย่กว่านั้นคือเฉาเหลียงฮาวตอนนี้ยังเป็นได้แค่โค้ชของทีมเยาวชนของเมืองอยู่เลย แต่หลี่ได้ไปทำงานในทีมของเขตแล้ว หลี่ไต้ตอนนี้มีตำแหน่งที่เหนือกว่าฮาวเยอะ ซึ่งทำให้ฮาวหงุดหงิดกว่าเดิม
วินาทีต่อมา เฉาเหลียงฮาวกลับระเบิดหัวเราะออกมา เขามองไปทางนักกีฬาของเขา ตาของเขาฉายแววความเยือกเย็น
รอบนี้แกจะต้องลิ้มรสความพ่ายแพ้หลี่ไต้!! ตำแหน่งแชมป์ของวันนี้จะต้องเป็นของฉัน ไอ้กระโดด7.54เมตรของแกหน่ะกระจอกมาก เพราะว่าไพ่ตายของฉัน หยางกังทำได้ดีกว่านั้นเยอะ เตรียมหัวไว้ให้ฉันเหยียบซะดีๆ! เฉาเหลียงฮาวคิดอย่างผยอง เขาหันไปทางนักกีฬาของเขาด้วยความมั่นใจ
เฉาเหลียงฮาวพูดกับหยางกัง “กัง กลุ่มAได้คะแนนสูงสุดคือ7.54เมตร นายต้องทำให้ได้มากกว่านั้น”
“โค้ชครับ นี้มันแค่รอบควอริฟายเอง 7เมตรก็พอแล้วมั้งครับ จะไปกระโดดหนักอย่างนั้นทำไม!”
“แกจะไปรู้อะไร! ทำตามที่ฉันบอกก็พอหน่ะ ฉันมีเรื่องที่ต้องจัดการหน่อย”เฉาเหลียงฮาวสั่ง
…
หลี่ไต้ไม่ได้เห็นเฉาเหลียงฮาวเลย เขาพาฝางไฮควานออกไปจากสนามแข่งแล้วตรงดิ่งไปที่พักนักกีฬา ฝางไฮควานผ่านเข้ารอบไฟนอลแน่นอน
กีฬากระโดดไกลมันเป็นกีฬาที่แข่งกับตัวเอง ถึงแม้ว่านักกีฬาจะรู้ลูกเล่นของคู่แข่งทั้งหมดแต่นั้นก็ไม่ได้ช่วยให้เขาเก่งขึ้น มันไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องนั่งดูแข่งกลุ่มB
สำหรับนักกีฬาแล้ว การไม่รู้อะไรเกี่ยวกับคู่แข่งหมายถึงการไม่กลัวอะไรเลย หลี่ไต้หวังว่าจะพาฝางไฮควานออกจากบริเวณแข่งให้ได้มากที่สุดเพื่อให้เขามีกำลังใจแล้วก็ยังใจเย็นอยู่ได้
7.54เมตรถือเป็นคะแนนที่ดีมากแม้แต่ในการแข่งแม้แต่สำหรับทีมเยาวชนชาติ เขาอาจจะชนะการแข่งนี้ไปเลยก็ได้ สำหรับคนอื่น 7.54เมตรถือว่าเป็นคะแนนที่ยอดเยี่ยมมาก แต่สำหรับไฮควานนั้น มันถือว่าธรรมดาไปเลย เพราะว่านี้เป็นการแข่งครั้งแรกของฝางไฮควาน เขายังคงกังวลมากเกินไปหยู่ หลี่ไต้มองไปที่ฝางไฮควานด้วยความหวัง เขารู้สึกเหมือนกับว่าฝางไฮควานได้เติบโตขึ้นมาแล้ว
หลี่ไต้เอนหลังบนเก้าอี้แล้วเล่นโทรศัพท์ ไม่ไกลจากเขามาก มีโค้ชหนุ่มอายุ30กว่าๆกำลังดูลนลานอยู่
เมื่อปีที่แล้วตอนที่ฉันพาเจียงไอกั๋วไปแข่ง ฉันอาจจะเป็นสภาพเดียวกันก็ได้ กังวลไม่มีสาเหตุ ลนลานไปทั่วเหมือนไก่ไม่มีหัว แต่ตอนนี้ดูฉันซิ ใจเย็นน่าดู ฉันโตขึ้นแล้ว! พอคิดถึงเรื่องนี้แล้ว เจียงยื่นใบเกษียณอายุตอนปลายปีนี้นี่ แล้วตอนนี้มันก็สิงหาแล้ว อีกแค่4เดือนเจียงก็จะออกจากทีมแล้ว เวลามันผ่านไปไวจังเลย! หลี่ไต้นึกถึงทุกๆอย่างที่เขาเคยทำตลอด2ปีมานี้
ทันใดนั้น มีคนๆหนึ่งตะโกนจากข้างนอก “มีคนจากกรุ๊ปBทำได้7.63เมตร!”
“อะไรนะ? 7.63เมตรเลยเหรอ?!” เสียงนั้นเรียกความสนใจของทุกคน
หลี่ไต้ยืนขึ้นด้วยความตกใจ แม้แต่ในการแข่งขันกีฬาเยาวชนกระดับชาติ คะแนน7.54เมตรของฝางไฮควานก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว เผลอจะได้เหรียญเลยด้วย แต่7.63เมตรเนี่ย มันเป็นระดับนักกีฬากระโดดไกลผู้ใหญ่ตัวท๊อปเลยนะ
หลี่ไต้นึกถึงเมื่อตอนโอลิมปิคปีที่แล้ว นักกระโดดไกลที่เป็นตัวแทนของประเทศนี้ไม่ผ่านคุณสมบัติด้วยคะแนน7.71เมตร 7.63 มันเกือบๆจะถึงจุดนั้นแล้ว
ไม่ว่าคุณจะแกร่งขนาดไหนมันก็จะมีคนที่แกร่งกว่าคุณเสมอ คำนี้ในวงการกีฬามันใช้ได้เสมอจริงๆ ฉันคิดว่าฝางไฮควานจะเก่งสุดละนะ แต่สุดท้ายก็มีคนเก่งกว่า หลี่ไต้คิดแบบนี้แล้วเดินออกมาจากที่พักพร้อมคนอื่นๆ เขาอยากจะเห็นนักกระโดดไกลคนนั้น
“คนนั้นไง เขาเป็นคนที่กระโดดได้7.63เมตร! เขาชื่อหยางกัง มาจากทีมเมืองโหยวฮาว”
จากโหยวฮาวเหรอ บ้านเกิดฉันนะหรอ! หลี่ไต้มองข้ามสนามไปแล้วก็เห็นหยางกัง
เขาแก่กว่าไฮควาน เขาต้องอายุ18ปีแน่ๆ คะแนนดีอย่างนี้ เขาต้องพรสวรรค์ระดับBหรือB+แน่ๆ หลี่ไต้เดินไปหาหยางกังในระยะ20เมตรแล้วตรวจสอบเขา
“ยอดไปเลย ค่าความสามารถของเขาคือ374! แต่ทำไมค่าพรสวรรค์ของเขาแค่Cเองละ ยังไม่ถึงBเลย นักกีฬาอายุ18ปีที่มีพรสวรรค์ระดับCแต่ความสามารถ354แต้ม เขาทำได้ยังไง โค้ชเขาเป็นใครเนี่ย ต้องเก่งมากแน่ๆเลย!”