Almighty Coach – โค้ชอหังการ - ตอนที่ 113
ตอนที่113 ยุ่งเหยิงยับเยิน
หลี่ไต้คิดหนักระหว่างที่เขาเดินมาที่สนามฝึก สงสัยว่าพวกเด็กๆจะเป็นยังไงต่อไปถ้าไม่มีเขา พวกเขาจะไม่มีวงเเหวนระเบิดพลังอีก เเละความสามารถของพวกเขาก็จะเเย่ลงอย่างเห็นได้ชัด หลี่ไต้เคยอยู่ในนั้นเลยทำให้เขารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนักกีฬาเเต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้กับเหตุการณ์เเบบนี้เหมือนกัน เขาถึงขั้นรู้สึกผิด เขาเป็นคนสอนให้พวกเขาบินเอง เเล้วจู่ๆพวกเขาก็กลับมาอยู่กับพื้น เขาไม่อยากทำลายความฝันของพวกเขา
“เห้ย เเกอย่าคิดมากหน่า เเกเป็นเเค่โค้ชของพวกนั้นนะ!”ระบบพูด ดูเหมือนว่าระบบจะรู้ว่าหลี่ไต้กำลังวิตกอยู่ มันเปลี่ยนโทนเสียงเป็นจริงจังมากขึ้น
“อย่ารู้สึกผิดไปหน่อยเลย เเกไม่ได้ทำอะไรผิด อย่าลืมซิว่าเเกเป็นใคร เเกเป็นโค้ช เเล้วในฐานะโค้ช เเกก็ทำได้ดีที่สุดเเล้ว พวกเขาเป็นกลุ่มนักกีฬาพรสวรรค์เเค่C จำได้ไหมว่าพรสวรรค์เเค่ระดับCมันก็ทำได้เเค่นั้นละถึงนายจะนำทีมอยู่ก็เถอะ ชะตากรรมของพวกเขาได้ถูกกำหนดไว้เเล้ว” ในวงการกีฬาอาชีพ อัจฉริยะนั้นเป็นเเค่ปัจจัยภายในเเละ99%เป็นความพยายาม เเต่ปัจจัยภายใน1%นั้นกลับสำคัญกว่า เห็นพวกนักบอลต่างชาติไหม พวกเขาฝึกหนักมากๆ เเต่ทำไมอาชีพการทำงานถึงต่างกันละ บางคนเป็นเทพ บางคนเป็นซุปตาร์ บางคนเป็นคนดังเเละบางคนก็โดนลืม รู้ไหมทำไม เพราะว่าพวกเขาทุ่มเทไม่เท่ากันเหรอ? ไม่! เหตุผลเดียวคือเรื่องของพรสวรรค์ พรสวรรค์ของพวกเขาต่างกัน
“พรสวรรค์จะกำหนดว่าพวกเขาจะไปลงตำแหน่งไหน มันก็เหมือนตึกที่สูงเเตกต่างกัน บางตึกมี10ชั้น บางตึกมี20หรือ30 ถ้าเป็นตึก10ชั้น ไม่ว่านายจะพยายามหนักเเค่ไหนนายก็ขึ้นไปชั้น11ไม่ได้ พรสวรรค์ของนักกีฬาก็เป็นเเบบนั้นเหมือนกัน โค้ชเป็นเหมือนบันไดที่นักกีฬาจะปีนขึ้นไป นายที่มีระบบโค้ชจะบอกว่านายเหมือนลิฟซะมากกว่า เเต่นายไม่สามารถไต่ทะลุกำเเพงพรสวรรค์ได้อยู่ดี” ระบบเอาเเต่พูด เเต่หลี่ไต้ก็จับได้เเค่คำหลังๆ เขาพูด “อ้อ นายบอกว่าพรสวรรค์จะเป็นตัวกำหนดใช่ไหม แล้วระบบโค้ชของฉันทำได้แค่ช่วยให้ไปถึงจุดสูงสุดได้ไวจริงไหม?”
“ถูกแล้ว แกได้ช่วยพวกเขาไปแล้ว นายก็ไม่จำเป็นต้องไปเสียใจอีกแล้ว ด้วยการช่วยของนาย นักกีฬา5คนนั้นได้ไปถึงจุดสูงสุดแล้ว แต่ด้วยความที่พรสวรรค์ของพวกเขาแค่C- พวกเขาไม่มีทางได้เป็นแชมป์โลกได้ พวกเขาอาจจะเป็นได้แค่คนธรรมดาถ้าไม่มีแกด้วย ไม่ใช่เรื่องดีเหรอ? แกเป็นแค่โค้ช พวกเขาต้องเดินด้วยตัวเอง แกจะไปช่วยตลอดไม่ได้หรอก” ระบบพูด
“เดินด้วยตัวเองเหรอ? ก็จริงนะ ฉันก็มีทางของฉันเหมือนกันนี้!”หลี่ไต้จู่ๆหลี่ไต้ก็บรรลุขึ้นมา แล้ววินาทีต่อไปเขาก็หัวเราะ “ฮ่า ไม่เคยคิดเลยว่าจะบรรลุได้ด้วยคำพูดแกหน่ะ”
“เห้ย อย่าดูถูกกันนะ! ปัญญาของฉันมันอยู่เกินกว่าที่แกจินตนาการไว้เยอะ!”
…
“โค้ชหลี่ จะไปจริงๆเหรอครับ “ นักกีฬาทั้ง5คนล้อมหลี่ได้ ตลอดเวลาหลายเดือนของการฝึก พวกเขาได้พัฒนาความสำพันธ์จนสนิทกัน แล้วตอนนี้หลี่ไต้กำลังจะไป พวกเขาเลยไม่อยากให้เขาไป
“ทุกๆอย่างมันมีเริ่มก็ต้องมีจบนะ ถ้าให้บอกตามตรงถึงฉันจะยังอยู่ในทีมต่อก็จริง แต่พวกนายก็ต้องจากที่นี้ไปซักวันหนึ่ง ใช่ไหมละ นายอายุจะครบ18ปีแล้ว มันก็ใกล้ถึงเวลาที่จะออกจากทีมเยาวชนแล้ว เราก็ถึงเวลาที่ต้องแยกจากกันแล้ว”หลี่ไต้ยิ้มให้กำลังใจพวกเขาเเล้วพูด “ซักวันนึงพวกนายก็ต้องเดินไปต่อในเส้นทางของตัวเอง บางคนอาจจะไปเป็นนักกีฬาต่อ บางคนอาจจะไม่ เเต่ฉันหวังว่าในอนาคต ไม่ว่าพวกนายจะอยู่ที่ไหน ทำอะไร ขอให้พวกนายจำคำของฉันเอาไว้ พยายามให้หนัก อย่ายอมเเพ้ เเล้วก็อย่าหันหลังกลับมาเสียใจให้อะไรอีก!”
“ครับ!”ทุกคนพูดพร้อมกัน
“โอเค งั้น เดี๋ยวฉันไปคุยกับโค้ชฉวงนะ เชื่อฟังเขาด้วยละ เเละพยายามให้เต็มที่!”หลี่ไต้ตบไหล่พวกเขาเเล้วหันหลังเดินจากไป
ส่วนโค้ชฉวงนั้นไม่รอช้าที่จะเข้าทีมทุ่มน้ำหนัก เขาผ่านขั้นตอนนู้นนี้อย่างรวดเร็ว เเล้วย้ายมาไวมาก เขาดูไม่สนใจเลยว่าเขาทำอะไรลงไป เขารู้สึกเเค่ว่าทุกอย่างมันเป็นใจไปหมด
แล้วนั้นก็ทำให้หลี่ไต้รู้สึกขยะแขยง เขาหวังว่าจะเห็นฉวงซูฉีแพ้ยับในการแข่งกีฬาเยาวชนเขต
หลังจากการเปลี่ยนตัวเสร็จสิ้น หลี่ไต้ก็ตรงไปที่สนามฝึกทีมกระโดดไกล
และเมื่อหลี่ไต้ไปถึง ก็สังเกตได้ว่ามีคนน้อยกว่าที่คิด
นักกีฬาเก่าๆทั้งหมดนั้นออกไปหมดแล้วหลังจากจบการแข่งกระชับมิตรกับโรงเรียนหนานทัน หลี่ไต้ก็ไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร นอกจากทีมทุ่มน้ำหนักแล้ว นักกีฬาเก่าของทีมอื่นๆก็ออกกันหมด ถ้าไม่ใช่เพราะอายุเกินแล้วก็ไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องอยู่ต่อ เพราะว่าพวกเขาก็พัฒนาอะไรไปไหนต่อไม่ได้ ทีมทุ่มน้ำหนักได้ทำให้ทุกคนอึ้ง แม้แต่คนที่อ่อนที่สุดยังแตะคะแนนมาตรฐานของนักกีฬาชาติอันดับ1 นักกีฬาทุ่มน้ำหนักทุกคนจะได้ถูกเลือกเข้าทีมกีฬา และนั้นเป็นเหตุผลที่พวกเขายังอยู่ต่อ
นักกีฬาทุกคนในทีมกระโดดไกลเป็นพวกหน้าใหม่ทั้งหมด และมีคนทั้งหมดแค่16คน หลี่ไต้สับสนทันที
ทุกๆเดือนกรกฎาคม นักกีฬาวัยรุ่นเก่งๆของฮั่นเบจะถูกส่งมารวมกันที่ทีมกีฬาเยาวชนเขต โดยปรกติแล้วจะอยู่ราวๆ20-50คนต่อกลุ่ม ตอนที่หลี่ไต้ฝึกให้ทีมทุ่มน้ำหนัก ยังมีนักกีฬาถึง40คน
ทำไมทีมนี้มันเล็กจัง การกระโดดไกลมันค่อนข้างดังนี้ ทำไมมีคนอยู่แค่16คนเอง หลี่ไต้สับสน เขาเลยเรียกนักกีฬาทุกคนมารวมตัวกัน
“ทีมของพวกนายเล็กแบบนี้เป็นปรกติเหรอ?”หลี่ไต้ถาม
“ไม่ครับ ตอนแรกเราเคยมีคนมากกว่า50คน แต่พวกเขาถูกเลือกแล้ว ก็เหลือแค่พวกเรานี้ละครับ”
“พวกนายมีกันมากกว่า50คนแต่ตอนนี้เหลือแค่16เนี่ยนะ หายไปตั้งมากกว่า30คน? แล้วใครเอาไปละ?”หลี่ไต้ถามอย่างประหลาดใจ
“ทีมวิ่ง ทีมข้ามรั้ว ทีมกระโดดสูง แม้แต่ทีมแบทมินตั้นกับทีมเทนนิสยังเอาคนของเราไปเลยครับ”เด็กชายตอบ
นักกีฬากระโดดไกลมีการใช้เเรงระเบิดพลังจำนวนมาก ดังนั้นก็เข้าใจได้ว่าทีมวิ่งกับทีมวิ่งกระโดดข้ามรั้วจะเอานักกีฬาบางส่วนไป กีฬาพวกนี้มีอะไรบางอย่างเหมือนๆกัน เอาหลินเฟ่ยเหลียงเป็นตัวอย่างก็ได้ ตอนเเรกเขาเป็นนักกีฬากระโดดไกลก่อนที่จะถูกเลือกโดยโค้ชติ้ง เเล้วเขาก็กลายมาเป็นนักวิ่งกระโดดข้ามรั้ว กลับกัน มีนักกีฬากระโดดไกลบางส่วนที่เป็นนักวิ่งมาก่อนด้วย
เเต่ไม่ว่ากีฬาไหนๆ พวกเขาก็ยังอยู่ในทีมเยาวชนอยู่ดี การย้ายทีมเเบบนี้มันเป็นการโอนย้ายภายใน แต่ทำไมทีมแบตกับทีมเทนนิสต้องเอานักกีฬาไปด้วยละ
พอลองคิดอย่างนี้มันทำให้หลี่ไต้รู้สึกว่ามันมีอะไรผิดไป
เดี๋ยวนะ ลุงของโค้ชฉวงคือรองผอ.ของกรมการกีฬาเขต ที่มีเส้นสายหนักมาก ใครบ้าจะไปกล้าแย่งคนจากฉวงได้ละ?
YOU MAY ALSO LIKE
Tips: Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipisicing elit, sed do eiusmod tempor incididunt ut labore et dolore magna aliqua. Ut enim ad minim veniam, quis nostrud exercitation ullamco laboris nisi ut aliquip ex ea commodo consequat. Duis aulores eos qui ratione voluptatem sequi nesciunt. Neque porro quisquam est, qui dolorem ipsum quia dolor sit ame