Astral Pet Store ร้านขายอสูรดวงดาว - ตอนที่ 391
ผู้อาวุโสตระกูลหลิวหน้าซีดเหงื่อตก
ในขณะนั้นความรู้สึกกลัวตายได้เข้าครอบงำเขา ขาข้างหนึ่งของเขาก้าวเข้าไปขุมนรกแล้ว
เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของซูผิงจากหลิวเทียนจงและผู้อาวุโสคนอื่น ๆ และได้เห็นความสามารถที่ซูผิงแสดงให้เห็นในวิดีโอ แต่เขาเพิ่งตระหนักได้ในวันนี้ว่าเรื่องราวที่เขาได้ยินไม่ได้เกินจริงแต่อย่างใด ชายหนุ่มคนนี้เป็นสัตว์ประหลาด!
หนึ่งหมัดนั้นทำให้คนอื่นตกใจเช่นกัน บรรดาคนที่เหลือถึงกับผงะ พวกเขาเคยเห็นวิดีโอของซูผิงเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงเตรียมใจไว้แล้ว แต่การได้เห็นกับตานั้นก็ทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงความแข็งแกร่งของซูผิงมากขึ้น
ในใจของพวกเขาพวกเขาเริ่มปฏิบัติต่อซูผิงอย่างเท่าเทียมกัน
ไม่ใช่เพราะผู้สนับสนุนลึกลับหรืออสูรของชายหนุ่ม มันเป็นเพราะความแข็งแกร่งของเขา! เนื่องจากปรมาจารย์ดาบและถังยู่หรานนั่งอยู่ใกล้กับซูผิงมากที่สุด พวกเขาจึงรับรู้ได้ถึงพลังของเขามากสุด
พวกเขารู้จักซูผิงมาระยะหนึ่งแล้ว แต่พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะน่ากลัวขนาดนี้!
ปรมาจารย์ดาบได้พบกับคนที่มีความสามารถมามากมาย และเขาก็เป็นอัจฉริยะเช่นกัน เขาสามารถเข้าใจได้หากซูผิงใช้อสูรเพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ แต่ไม่ใช่ความแข็งแกร่งของเขาเอง…ปรมาจารย์ดาบถึงกับสงสัยว่าซูผิงปิดบังอายุหรือแกล้งปกปิดระดับของเขาหรือเปล่า
ถังยู่หรานหน้าซีด
เธอรู้ดีว่าซูผิงมีความสามารถมากกว่าเธอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ทำให้มุมมองของเธอที่มีต่อเขาแตกสลาย อีกครั้งที่เธอพยายามประเมินซูผิงสูง และปรากฎว่าเธอยังคงประเมินเขาต่ำไป !
นอกจากนี้เธอยังบอกได้ว่าเขาคนนี้ยังซ่อนความแข็งแกร่งไว้อีก!
“ คุณซู ได้โปรดอย่าโกรธพวกเราเลย”
ผู้อาวุโสอีกคนของตระกูลหลิวเหงื่อท่วมตัวเช่นกัน เขาเชื่อว่าถ้าซูผิงคิดฆ่า เขาก็คงจะเสียชีวิตที่นี่เช่นกัน
เหนือสิ่งอื่นใด ร้านค้าคืออาณาเขตของซูผิง หลายห้องสามารถหลีกหนีการรับรู้ของพวกเขาได้ มีแค่พระเจ้าถึงบอกได้ว่ามีนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ซ่อนอยู่ในนั้นกี่คน
ผู้อาวุโสตระกูลหลิวอดไม่ได้ที่จะพูดกับซูผิงด้วยความเคารพ
“ เราไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน โปรดให้โอกาสเราอีกครั้งเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดของเรา คุณซู คุณต้องการอะไร?เราจะหามาให้ทุกอย่าง” ผู้อาวุโสตระกูลหลิวยิ้มอย่างขอโทษ
ซูผิงตะคอก ทำไมเขาต้องมาเสียอารมณ์ด้วย?
ผู้อาวุโสเหล่านั้นอยู่ในระดับสูง พวกเขาควบคุมผู้คนและทรัพยากรมากมาย อย่างไรก็ตามพวกเขาจำเป็นต้องฉลาดกว่าคนที่อยู่ข้างถนนสิ
ราชวงศ์จำนวนนับไม่ถ้วนในอดีตสามารถรับฟังคำเตือนจากความผิดพลาดในประวัติศาสตร์ได้ แต่เหตุใดพวกเขาจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเดินตามหายนะเดิม ๆได้? ความไม่รู้และความโง่เขลาสร้างความแตกต่างระหว่างสถานะของผู้คนคุณลักษณะทั้งสองนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติของมนุษย์ และจะไม่มีวันหายไปเพียงเพราะผู้คนมีความรู้ เงินหรืออำนาจ!
ใครก็ตามที่สามารถเปลี่ยนแปลงธรรมชาตินั้นได้จะเป็นนักบุญ เป็น“ เทพเจ้า” ในทุกแง่มุม!
“ คุณปฏิเสธที่จะเชื่อจนกว่าคุณจะเผชิญกับความจริงแสนน่ากลัว ตระกูลหลิวของคุณแข่งขันกับร้านค้าของผมและนั่นเป็นเป็นเรื่องธุรกิจล้วนๆ ผมเข้าใจ. ไม่มีการนองเลือด อย่างไรก็ตามผมรู้ดีว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ ตระกูลหลิวของคุณคิดว่าผมหมดเวลาแล้ว ผมยังคิดว่าคุณแอบส่งข้อความถึงองค์กรดวงดาวเสียด้วยซ้ำ!”
ซูผิงพูดต่ออย่างเย็นชา“ แต่นี่คือสิ่งที่คุณควรรู้ ผมกล้าที่จะฆ่าพวกเขาเพราะผมไม่กลัวการตอบโต้! หลอกผมครั้งแรกผมจะทำให้ต้องอับอาย หลอกสองครั้ง จะต้องได้รับความอัปยศ! พวกเขาจะไม่มีโอกาสเอาชนะผมได้!”
เขาไม่ใช่คนใจดี
เขาเห็นเลือดกับเห็นความมืดมามากแค่ไหนในอาณาจักรโกลาหลแห่งอันเดธ
ตายแล้วกลับมามีชีวิตอีกกี่ครั้ง?
เมื่อเขาอยู่ที่ร้านเขาจะปกปิดความโกรธทั้งหมดไว้ในใจ เขาทำเช่นนั้นเพื่อไม่ให้ความโกรธเข้าครอบงำจิตใจเพราะเขาไม่ต้องการทำร้ายคนที่เขารัก
อย่างไรก็ตาม เขาไม่จำเป็นต้องปกปิดความโกรธนี้ต่อหน้าคนนอก!
ฉันให้เหตุผลกับพวกแกได้ แต่ถ้าพวกแกไม่ฟังเหตุผล ฉันจะทำให้พวกแกต้องคุกเข่า!
ผู้อาวุโสทั้งสองรู้สึกว่าแม้แต่หัวใจของพวกเขาก็สั่นสะท้านเมื่อได้ยินคำพูดที่น่ากลัวของซูผิง ภายในพวกเขาเริ่มเสียใจกับเรื่องทั้งหมด
พวกเขาน่าจะรู้ดีว่าไม่ควรยั่วโมโหเจ้าของร้านคนนี้อีก
พวกเขาร่ำไห้อยู่ข้างใน องค์กรดวงดาวจะมาที่นี่ตอนไหน!
“ กลับไปบอกหัวหน้าตระกูลของคุณ เนื่องจากคุณไม่ต้องการมอบของขวัญที่เหมาะสมก็ให้กลับไปและมอบทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลของคุณเพื่อเป็นการขอโทษ มิฉะนั้นตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จะไม่มีตระกูลหลิวในเมืองฐานหลงเจียงอีกต่อไป!” ซูผิงเตือนพวกเขา
ผู้อาวุโสทั้งสองจากตระกูลหลิวพูดไม่ออก
เขาต้องการทรัพย์สินของตระกูลครึ่งหนึ่ง?!
ผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ต่างหวั่นใจอย่างมากเช่นกัน ไม่มีใครคิดว่าซูผิงจะโลภขนาดนี้ สิ่งที่เขาขอสามารถทำลายตระกูลหลิวได้!
และเป็นเพียงเพราะตระกูลหลิวขี้งก?
ไม่!
ในไม่ช้าคนอื่น ๆ ก็ตระหนักว่าเป็นเพราะตระกูลหลิวได้แสดงท่าทีที่ชัดเจนอย่างสมบูรณ์แบบ พวกเขาดูหมิ่นซูผิงและเชื่อว่าเขากำลังจะพินาศในไม่ช้า ซึ่งทำให้ซูผิงโกรธ อีกเหตุผลหนึ่งคือข้อพิพาทก่อนหน้านี้ระหว่างตระกูลหลิวและซูผิง ซูผิงเพิ่งคิดบัญชีทั้งหมดในครั้งเดียว!
ผู้ชายคนนี้ ซูผิงอ้างว่ามองข้อพิพาทดังกล่าวเป็นการแข่งขันทางธุรกิจเท่านั้น อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงเขาพยายามทำลายตระกูลหลิวมาครั้งแล้วครั้งเล่า!
เขาเป็นคนเลว แต่กลับยืนอยู่บนยอดเขาแห่งศีลธรรม! เขาเป็น“ ราชา“!
ครู่หนึ่งผู้อาวุโสคนอื่น ๆ ต่างจ้องมองซูผิงด้วยความกังวลใจ พวกเขาคงตายไปแล้วถ้าซูผิงเป็นปีศาจที่ไร้สมอง แต่คนร้ายกาจอย่างเขาน่ากลัวที่สุด!
“คุณซูนั่น…”
เหงื่อไหลลงหน้าผาก ผู้อาวุโสทั้งสองรู้สึกว่าพวกเขากำลังก้าวเข้าสู่บ่อแห่งปัญหา
หากพวกเขารู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น พวกเขาคงแบกไข่มังกรมาสัก 10 ฟอง!
นอกจากนี้ซูผิงยังกล่าวคำเตือนต่อหน้าคนอื่น ๆ เขาต้องทำตามสัญญามิฉะนั้นเขาจะสูญเสียอำนาจ หากเขาบังคับให้ตระกูลหลิวสละทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลหลิว ตระกูลหลิวก็จะไม่ถูกนับเป็นหนึ่งในห้าตระกูลใหญ่อีกต่อไป และสิ่งที่เหลืออยู่จากพวกเขาในที่สุดก็จะถูกตระกูลอื่นแย่งไปอยู่ดี!
อีกทางเลือกหนึ่งคือตระกูลหลิวต้องออกจากเมืองฐานหลงเจียง และลุกขึ้นมาใหม่จากกองขี้เถ้า
แต่นั่นจะยิ่งยากขึ้นสำหรับตระกูลหลิว!
ผู้อาวุโสทั้งสองจากตระกูลหลิวรู้สึกราวกับว่ามีภาระหนักทุ่มลงมาบนหลังของพวกเขาจนไม่สามารถยืนตัวตรงได้
ในขณะนั้นเสียงที่หนักแน่นก็ดังมาจากด้านนอก“ มีอะไรสนุก ๆ เกิดขึ้นที่นี่ซินะ?”
เสียงนั้นทำให้ทุกคนประหลาดใจ
พวกเขามองข้ามไป เห็นชายที่แข็งแกร่งยืนอยู่ข้างนอก ชายคนนั้นสูงเกือบสองเมตรราวกับหอคอย เขาสวมเสื้อยืดสีดำแขนกุด สะพายค้อนเหล็กขนาดใหญ่ไว้ข้างหลัง ชายคนนั้นกำลังสร้างบรรยากาศที่ทำให้หายใจไม่ออก
เมื่อคนที่อยู่ในร้านเห็นชายคนนี้ พวกเขารู้สึกว่าแสงทั้งหมดถูกกลืนกิน
ปรมาจารย์ดาบเองก็ผงะ
เขารู้จักผู้ชายคนนี้
หนึ่งในนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเขตอนุทวีป
ราชาแห่งแขน!
ฉินชูไห่ดูเหมือนจะประหลาดใจเมื่อเห็นชายคนนี้ วินาทีถัดมาเขาก็น้าซีดและรีบหันไปมองซูผิง องค์กรดวงดาวมาแล้ว!
นี่คือวันถัดจากลีกนักรบ ราชาแห่งแขนมาที่เมืองฐานหลงเจียงและมาถึงร้านของซูผิง!
ฉินชูไห่หน้าซีด มีผู้คนมากมายนั่งอยู่ในร้านของซูผิง องค์กรดวงดาวจะคิดอย่างไรหลังจากได้เห็นพวกเขาทั้งหมดที่นี่?
การมาถึงของชายคนนั้นสร้างความประหลาดใจให้กับซูผิงเช่นกัน หลังจากมึนงงเพียงเสี้ยววินาที ซูผิงก็คาดว่าชายคนนี้อยู่ที่ระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุด
เขาได้พบกับคนระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดมามากมาย ผู้ที่เขาเคยเจอผ่านการทดสอบของบททดสอบสวรรค์นั้นล้วนอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ขั้นสูงสุดซึ่งเป็นผู้ที่สามารถสัมผัสได้ถึงเสียงเรียกของบททดสอบสวรรค์
ชายคนนี้มาจากตระกูลถัง หรือองค์กรดวงดาว?
ซูผิงหันไปมองถังยู่หราน
เห็นว่าเธอเองก็สับสน
ตอนนั้นเขาแน่ใจแล้วว่าชายคนนั้นมาจากองค์กรดวงดาว
เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ใช่ลูกค้าเพราะจิตสังหารที่เขาซ่อนเอาไว้
จิตสังหารนั้นถูกปกปิดไว้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามซูผิงไวต่อสิ่งเหล่านี้มาก แม้แต่ปรมาจารย์ดาบก็ไม่สามารถนิ่งได้อย่างที่เขาเป็น!
ซูผิงมั่นใจในสัญชาตญาณของเขา