จอมเวทอหังการ - ตอนที่ 251
บทที่ 251: การประลอง
หลังจากที่ทั้งหมดนี้เดินทางมาถึงมหาวิทยาลัยจักรพรรดิอาจารย์ที่เป็นผู้นําของกลุ่มรีบนําพานักเรียนทั้งหมดไปยังหอพักของตนเองทันที
ในตอนนี้นักเรียนทุกคนในที่นี้อยู่ในระดับมัชฌิมทั้งหมดซึ่งถ้าหากเปรียบเทียบแล้วระดับของพวกเขาถือว่าสูงกว่านักศึกษาระดับปริญญาตรีด้วยซ้ํา เช่นนี้การเป็นอยู่ของพวกเขาเหล่านี้ย่อมดีกว่านักเรียนระดับปฐมภูมิอย่างแน่นอน
หอพักของพวกเขาเหล่านี้มีห้องโถงขนาดใหญ่ไว้รองรับและมีห้องส่วนตัวให้กับนักเรียนทุกคนอย่างสะดวกสบายอีกทั้งมันยังอยู่เกือบบนสุดของตึกอีกด้วย
สําหรับโม่ฝานซึ่งเป็นบุคคลที่ชื่นชอบในการฝึกฝนตอนกลางคืนเขาต้องการที่จะอยู่ใกล้กับดาดฟ้ามากที่สุดสําหรับเขาแล้วแสงจันทร์สาดส่องมาเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอที่เขาจะใช้เวทเคลื่อนย้ายเงาขึ้นไปบนดาดฟ้าได้อย่างทันใจ!
“คุณอู่ฮั่น คุณเฉียวอวฮัวทําไมคุณถึงไม่ปล่อยให้นักเรียนเริ่มพักผ่อนกันได้แล้วล่ะ? พรุ่งนี้จะมีนักเรียนแลกเปลี่ยนอีกหกคนมาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กันสักนิด… เมื่อเวลานั้นมาถึงพวกเราคงจะได้ทําความรู้จักกันมากกว่านี้” อาจารย์ผู้รับผิดชอบเรื่องหอพักกล่าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“จําเป็นมากงั้นเหรอ?”คู่ฮั่นกล่าวอย่างตระหนก
การประลองเล็กน้อยระหว่างโรงเรียนนั้นเป็นเรื่องปกติทั่วไปในโครงการนี้อยู่แล้วแต่ทว่าการที่มันเกิดขึ้นเร็วเช่นนี้ทําให้เกิดความประหลาดใจในสายตาของทุกคน
“มีอะไรงั้นเหรอ? นี่เป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว มันคือเหตุการณ์สําคัญประจําปีเชียวนะนอกจากนี้ในปีนี้ ยังถือได้ว่าเป็นการให้นักเรียนได้พบเจอกับประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมยิ่งพวกเราเริ่มเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีกับเด็กมากเท่านั้น!” อาจารย์คนนั้นกล่าวออกมาพร้อมหัวเราะอย่างเสแสรั้ง
“อ่า ถ้าเป็นอย่างนั้นล่ะก็…ตามนั้น!”
“ฉันจะมารับพวกคุณทั้งหมดในพรุ่งนี้เช้า นักเรียนจากสถาบันเมิงจู่ทุกคน พวกคุณควรพักผ่อนให้เร็วที่สุดพวกเรา… มหาวิทยาลัยจักรพรรดินั้นได้ยินเกี่ยวกับชื่อเสียงของพวกคุณมาแล้วมากมายเราหวังอย่างยิ่งว่าจะได้แข่งขันกับพวกคุณทั้งหมดและเมื่อเวลานั้นมาถึงโปรดกรุณาพวกเราด้วย!”อาจารย์สู่กล่าวต่อรอยยิ้มของเธอแสดงถึงความสุภาพแต่ดูไม่ค่อยจะสุภาพมากเท่าไหร่นัก
อู่ฮั่นอารมณ์ไม่ค่อยดีนักในเวลาเช่นนี้ เขาต้องการที่จะเมินเฉยใส่ชายคนนั้นอย่างชัดเจน
“การเสแสร้งเหล่านี้คืออะไรกัน? ใครบ้างที่ไม่รู้ว่ามหาวิทยาลัยจักรพรรดิของแกนะเป็นอันดับหนึ่งเสมอมาแล้วยังกล้ามาพูดว่าให้พวกเราผ่อนปรนให้งั้นเหรอ? นี้
หลังจากที่อาจารย์ล่ออกไปแล้ว ใบหน้าของโม่ฝานเต็มไปด้วยคําถามมากมาย “อาจารย์อู่ฮั่นการแข่งขัน ครั้งนี้คืออะไรงั้นเหรอ?”
“อะไรกัน นายไม่รู้เรื่องเลยงั้นเหรอ?” เฉินหมิงเฉวียนรีบกล่าวตอบอย่างรวดเร็ว “แม้ว่ามันจะถูกเรียกว่าโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนแต่ความจริงก็คือมันคือการที่สถาบันถูกสั่งให้พาเด็กนักเรียนออกไปเพื่อแข่งขันกับนักเรียนในสถาบันอื่นๆด้วยเช่นกัน!”
“ไม่ต้องกดดันกับเรื่องนี้มากนักหรอกเพียงแค่ใช้หัวใจของพวกเธอเผชิญหน้ากับพวกเขาเหล่านั้นก็พอนอกจากนี้ยังมีนักเรียนจากโรงเรียนอื่นอีกมากที่กําลังจะมา…”เฉียวอวฮัวกล่าวออกมา
“มันไม่เหมือนกัน! ไม่ว่านักเรียนจากสถาบันอื่นที่กําลังจะมาถึงนั้นจะแพ้หรือชนะมันก็ไม่ได้สําคัญอะไรมากนักเพราะพวกเขานั้นรู้อยู่แล้วว่าความแข็งแกร่งของตนเองไม่อาจต่อกรกับมหาวิทยาลัยจักรพรรดิได้ แต่อย่าง ไรก็ตามสถาบันเมิงจู่ของเรานั้นแตกต่างออกไปถ้าหากพวกเราพ่ายแพ้ นั่นหมายถึงศักดิ์ศรี!”
“ไม่ต้องคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้หรอก พวกเธอทั้งหมดแยกย้ายกันไปพักผ่อนได้แล้ว จัดการตัวเองให้เรียบร้อยด้วยล่ะ” คู่ฮั่นกล่าวออกมาเรียบๆ
สําหรับโม่ฝานแล้วเขามาที่นี่โดยที่ไม่ได้รับรู้อะไรทั้งสิ้น เขาไม่รู้แม้กระทั่งวินาทีที่สองที่เขาเข้ามาอยู่ในสถานที่แห่งนี้เขาจะต้องเริ่มต่อสู้ทันที “บ้าเอ้ย ฉันเดาไว้แล้วไม่มีผิดจริงๆ!”
ลุ่ยหมิงเดินออกจากหอพักนักเรียนและตรงไปที่สนามฝึกซ้อม
มหาวิทยาลัยจักรพรรดินั้นให้ความสําคัญกับโครงการนี้อย่างมาก เพื่อที่ให้พวกเขานั้นคงอยู่ในอันดับหนึ่งต่อไป การคัดเลือกนักเรียนของพวกเขานั้นเป็นไปอย่างดุเดือด นักเรียนกว่าหลายพันคนสมัครเพื่อที่จะเข้าร่วมในโครงการนี้ นักเรียนบางคนนั้นแข็งแกร่งมากเสียยิ่งกว่าอาจารย์ก็มากมายมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นแหล่งที่รวบรวมสัตว์ประหลาดเวทมนตร์ไว้มากมายอย่างแท้จริง
พวกเขาทั้งหมดล้วนตระเตรียมมาอย่างดี การต่อสู้ครั้งนี้หมายถึงศักดิ์ศรีของมหาวิทยาลัยแน่นอนว่าพวกเขาจะทําอย่างสุดความสามารถ
ในแง่ของความแข็งแกร่งแล้วลุ่ยหมิงนั้นเชื่ออยู่เสมอว่านักเรียนจากสถาบันอื่นสามารถเอาชนะพวกเขาได้แต่ความได้เปรียบของมหาวิทยาลัยจักรพรรดิก็คือพวกเขาล้วนแต่เป็นทีมที่เคยผ่านการต่อสู้มาด้วยกันอย่างนับไม่ถ้วนความเป็นทีมของพวกเขานั้นแข็งแกร่งจนไม่มีใครสามารถเอาลงจากอันดับหนึ่งได้!
ในกลางของสนามซ้อม ชายรูปร่างใหญ่กล้ามเนื้อราวกับหินเดินมาหาลู่ยหมิงพร้อมถามว่า “นักเรียนจากสถาบันเมิงงูมาถึงแล้วงั้นเหรอ?”
การใช้คาถาธาตุอื่นของบุคคลนี้นั้นเก่งกาจอย่างมาก เพียงแค่เขาก้าวขาเพียงไม่กี่ก้าวเขาก็สามารถเดินมาถึงใจกลางสนามซ้อมได้อย่างรวดเร็วและอิสระ
“ยิ้ม” ลู่ยหมิงพยักหน้า
“ฮ่าฮ่าฮ่า เด็กน้อยจากสถาบันเมิงจู่ ไอ้พวกกระจอก! มหาวิทยาลัยจักรพรรดิของเรานั้นพยายามจะลากมันออกจากมุมทุกวัน ในที่สุดพวกมันก็ได้มาเหยียบที่นี่สักที! รอก่อนเถอะ ฉันจะทําให้พวกมันพ่ายแพ้จนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน อยากจะรู้จริงๆว่าพวกมันจะกล้าตั้งคําถามอะไรอีกไหมกับมหาวิทยาลัยจักรพรรดิ!” ชายร่างใหญ่เริ่มหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งและทุบหน้าอกของตนเองอย่างมีความสุข
ในเวลานั้นนักเรียนคนหนึ่งสวมใส่ชุดขาวที่ทําให้ยิ่งดูสง่างามเดินเข้ามาร่วมพูดคุยด้วย “นักเรียนที่มาจากสถาบันเมิงจู่นั้นทําได้เพียงฟ้าผ่าเล็กน้อยหรือไม่ก็หยาดฝนเล็กๆเท่านั้นพวกเขาได้แต่พูดจาพล่อยๆไปวันๆและไม่ยอมรับว่าความสามารถนั้นอ่อนแอกว่าพวกเราเฮอะช่างเป็นพวกขี้แพ้ซะจริง”
“ฉันครั่นเนื้อครั่นตัวอย่างจะพบเจอกับพวกมันเต็มที่แล้ว!”
ลู่ยี่หมิงยืนมองเหล่านักเรียนของเขาที่กําลังกระตือรือร้นอย่างเต็มที่แล้วอดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มมีความสุขออกมา
สถาบันเมิงจู่และมหาวิทยาลัยจักรพรรดินั้นไม่ได้พบเจอกันในโครงการนี้มากว่าสองถึงสามปีแล้วซึ่งมันเป็นขั้วอํานาจทั้งสองที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไหร่ การขัดแย้งภายในทําให้พวกเขาไม่ได้พบเจอกันเสียทีแต่ทว่าในปีนี้สถาบันเมิงงูไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกแล้วการแข่งขันนี้ทั้งหมดล้วนแต่ถูกกําหนดไว้แล้วโดยสมบูรณ์
ในอดีตที่ผ่านมามหาวิทยาลัยจักรพรรดินั้นมักจะได้แลกเปลี่ยนกับสถาบันอื่นๆอยู่เสมอชัยชนะเป็นสิ่งที่พวกเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ซึ่งปีนี้ถึงคราวของสถาบันเมิงจู่แล้วที่จะลงไปอยู่ใต้ฝ่าเท้าของพวกเขาอย่างไม่อาจเลี่ยง!
สถาบันเมิงจู่นั้นเป็นอันดับหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ ส่วนมหาวิทยาลัยจักรพรรดินั้นเป็นอันดับหนึ่งในนครจักรพรร
มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศทั้งสองได้มาพบเจอกันเช่นนี้ นับได้ว่าเป็นเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นและคู่ควรกับการติดตามอย่างยิ่ง!
ไม่ใช่ว่ามีเพียงแต่นักเรียนของมหาวิทยาลัยจักรพรรดิที่เลือดร้อนต้องการจะเริ่มการประลองนี้ให้เร็วที่สุดแต่ทว่าผู้บริหารของมหาลัยก็ยังนั่งไม่ติดเก้าอี้ด้วยเช่นกัน พวกเขาต้องการจะเขียสถาบันเมิงจ่ออกไปให้พ้นทางนี่คือหนทางเดียวที่จะได้ประกาศชัยชนะอย่างแท้จริง!
แรกเริ่มเมื่อนักเรียนจากสถาบันเมิงจู่เข้ามาในสถานที่ของพวกเขา ทางมหาวิทยาลัยไม่ได้ตกแต่งสิ่งใดเพิ่ม เติมเลยแม้แต่น้อยเห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้รู้สึกอยากจะเฉลิมฉลองในตอนนี้!
“อาจารย์ลู่ ถ้าหากว่าพวกเราสามารถกําจัดนักเรียนของสถาบันเมิงจู่ได้ทั้งหมด เช่นนี้มหาวิทยาลัยจะมอบรางวัลเพิ่มเติมให้กับพวกเราไหม?” ซื้อต้าหลงถามออกมา
นักเรียนชุดขาวที่กําลังลอยตัวอยู่ในอากาศ เหล่าหมิงฉยวนกล่าวออกมา “เรื่องรางวัลเพิ่มเติมเหล่านั้นไม่ใช่ปัญหานักหรอกฉันรู้สึกคันไม้คันมืออย่างมากในเวลานี้เฮอะในตอนนี้ฉันเป็นห่วงพวกมันซะมากกว่าว่าจะลงมืออย่างไรไม่ให้พวกมันเจ็บหนักมากจนเกินไป”
“พวกนายสองคนไม่จําเป็นต้องรีบร้อนขนาดนั้น อย่าได้เที่ยวเดินไปรอบๆมหาวิทยาลัยของตนเองและทําลายทุกอย่างลงเพียงเพราะคันไม้คันมือแล้วกัน” นักเรียนธาตุอัญเชิญอีกคนกล่าวออกมาพร้อมกับหมาป่าวิญญาณสีน้ําเงินเข้มที่มีสายตาเกรี้ยวกราดยืนอยู่ข้างกายของเขาอย่างหยิ่งทะนง!
“ลือเพิ่งเห่อ นายอย่าได้โอ้อวดมากเกินไปหน่อยเลย หมาป่าของนายไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าพวกเราฉันสามารถจัดการล้มมันลงได้เพียงแค่กระดิกนิ้วเท่านั้น!” ซื้อต้าหลงกล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงไม่สบอารมณ์นัก
“ฮ่าฮ่า! แน่นอนว่ามีใครสักคนสามารถจัดการกับหมาป่าของฉันได้ด้วยตัวเอง แต่ทว่าคนๆนั้นมันไม่ใช่นายหรอกทําไมนายไม่เอาเวลาไปฝึกฝนอีกสักปีหรือสองปีแทนการพูดโอ้อวดเช่นนี้ล่ะ?” นักเรียนธาตุอัญเชิญที่ชื่อลือเซ็งเห่อกล่าวออกมาด้วยน้ําเสียงเยาะเย้ยพร้อมกับมือที่ลูบไล้หมาป่าของตนเองอย่างภาคภูมิ
ใบหน้าของชื่อต้าหลงเปลี่ยนเป็นสีดําทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาชี้นิ้วไปที่จมูกของนักเรียนธาตุอัญเชิญพร้อมคํารามออกมา “รอก่อนเถอะ!”
“ฉันจะต้องเป็นคนที่ได้รับรางวัลที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการต่อสู้กับสถาบันอื่นๆในครั้งนี้อย่างแน่นอนฉันรู้สึกได้ว่าแม้นักเรียนจากสถาบันเมิงจู่จะร่วมมือกันได้อย่างยอดเยี่ยมแต่ทว่าพวกเขาก็ยังไม่สามารถจะจัดการกับหมาป่าของฉันได้เลยแม้แต่น้อย ฮ่าฮ่าฮ่า!” เหล่าเชิงเห่อหัวเราะร่วนออกมาอย่างบ้าคลั่ง
ลี่ยหมิงส่ายศีรษะอย่างไม่รู้จะทําอย่างไร แน่นอนว่านักเรียนจากมหาวิทยาลัยจักรพรรดินั้นเป็นปกติอยู่แล้ว
ความสามารถของพวกเขานั้นล้นเหลือมากเกินกว่าจะประมาทได้
“แล้วกัปตันทีมของพวกเธออยู่ไหน?” ลุ่ยหมิงถามออกมา
“กัปตันรู้สึกเหนื่อยๆ เธอจึงขอตัวไปพักผ่อนก่อนน่ะอาจารย์อู่ทําไมคุณจึงไม่ยอมให้พวกฉันสามถึงสี่คนนี้ต่อสู้กับคนเหล่านั้นเองไปก่อนล่ะในวันพรุ่งนี้ไม่เห็นจะต้องไปรบกวนกัปตันเลยแม้แต่น้อย”
“ใช่ ใช่ เพียงแค่พวกเราก็เพียงพอแล้วหละ!”
เมื่อกล่าวถึงกัปตันทีมของตนเอง สายตาของพวกเขาทั้งหมดล้วนแต่แสดงถึงความชื่นชมอย่างออกนอกหน้าทันที
ตําแหน่งของกลุ่มนั้นง่ายดายอย่างมาก ผู้ใดที่แข็งแกร่งมากที่สุดจะได้รับตําแหน่งกัปตันของทีมไปอย่างง่ายดาย
ในครั้งที่พวกเขาเลือกกัปตันทีมของตนเอง แม้แต่บุคคลที่หยิ่งยโสอย่างเช่นลือเชิงเห่อก็ยังไม่รู้สึกคัดค้านกับการตัดสินใจนี้
เพราะว่าต่อหน้าคนอื่น หมาป่าของลือเชิงเห่อนั้นเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราดและดุร้ายอย่างมากแต่ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ… มันกลายเป็นลูกหมาตัวน้อยเท่านั้น!